Search Engine Marketing คือ

ถึงแม้ว่าช่องทางการตลาดออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Instagram กำลังได้รับความนิยมเพราะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ได้อย่างดี แต่เจ้าของธุรกิจหรือทีมการตลาดมักลืมไปว่ายังมีกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่สำคัญหรืออาจสำคัญกว่าในบางธุรกิจ คือ Search Engine Marketing หรือ SEM เป็นการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต (Search Engine) เช่น Yahoo หรือ Baidu

แต่คลังค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่ใหญ่และได้รับนิยมมากที่สุด คือ google ซึ่งแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้กว่า 90% ดังนั้นการทำ SEM ผ่าน google เป็นคีย์ลัดที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม

SEM คืออะไร

Search Engine Marketing หรือ SEM แท้จริงแล้วเป็นการผสมของกลุ่มคำ 2 กลุ่ม จนเกิดเป็นศัพท์ใหม่แห่งวงการตลาดออนไลน์ นั้นคือคำว่า Search Engine (เครื่องมือการค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต) และ Marketing (การตลาด) ดังนั้น SEM เมื่อรวมคำแล้วจึงมีความหมายว่า การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต ฟังดูแล้วให้ความหมายที่เรียบง่ายแต่แท้จริงแล้วหากแบรนด์หันมาจับกลยุทธ์การตลาดนี้ได้ก่อนนั้นเท่ากับได้ก้าวนำคู่แข่งไปหนึ่งก้าวแล้ว

สำหรับการตลาดรูปแบบนี้มักทำผ่านเว็บไซต์เปรียบเหมือนการยกหน้าร้านของจริงเข้าสู่ระบบออนไลน์ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและสามารถพบเห็นได้บน Search Engine ยิ่ง google จัดอันดับเว็บไซต์ของเราสูงมากเท่าไรนั้นหมายถึงโอกาสต่อยอดการขายสินค้าและบริการมากขึ้นเท่านั้น

SEM มีกี่ประเภท

โดยหลักๆ แล้ว SEM เป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. PPC (Pay Per Click)

เป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณาในส่วนของ Paid Search หรือ Search Advertising ซึ่งเราจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อมีผู้คลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ที่เราโฆษณาเท่านั้น PPC ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากการแสดงผลจะให้เว็บไซต์ของผู้ที่ซื้อโฆษณาขึ้นเป็นลำดับต้นๆ ได้รวดเร็วและง่ายกว่าการทำ SEO ไม่ต้องทำการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ที่มีอยู่ เพียงนำ Keyword ที่ต้องการมา เว็บไซต์ก็สามารถติดอยู่อันดับต้นๆ ได้แล้ว

  1. Organic Search

หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ SEO (Search Engine Optimization) เป็นการปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นไปตามกฎของ Search Engine โดยวิธีการนี้เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายกับแพล็ตฟอร์มแต่อาจมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจ้างทำ SEO และ Content เพื่อสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด รวมถึงการสร้าง Backlinks คุณภาพกลับมายังเว็บไซต์ เพื่อให้ Search Engine เห็นและเชื่อมั่นในข้อมูลจนนำไปสู่การจัดอันดับที่ดีขึ้น การทำ SEO ส่วนใหญ่จะอ้างอิงกฎของ google นอกจากนี้ google ยังได้พัฒนาและปรับปรุง Algorithm อยู่เสมอ เพื่อให้การจัดอันดับมีคุณภาพและตรงกับผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด

ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้การทำ SEM ประสบความสำเร็จ

การทำ SEM ไม่ว่าจะเป็นแบบ PPC หรือ Organic Search ทั้งสองประเภทนี้ล้วนต้องอาศัยปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้

1. Keyword

ถือเป็นหัวใจหลักที่คนใช้ค้นหาบน Search Engine การเลือก Keyword ที่ถูกต้องจะช่วยให้คัดกรองและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริงซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาได้อีกด้วย สำหรับเทคนิคการเลือก Keyword ทำได้ ดังนี้

  • ก่อนเลือก Keyword ควรทำ Research ก่อนเสมอ เพื่อให้ได้คำที่มีคนใช้งานมากพอ
  • ควรเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
  • ต้องมั่นใจว่า Keyword ที่เลือกมาใช้สามารถแข่งขันได้

2. Content

Content ที่ใช้ทำ SEM ควรมีรูปแบบดังต่อไปนี้

  • เนื้อหาควรตรงตาม Keyword ที่เลือกมาใช้และต้องตรงกับแบรนด์ของเราด้วย
  • Content ที่นำมาเผยแพร่ควรมีคุณค่าและเป็นประโยชน์กับผู้เข้ามาชมเว็บไซต์มากที่สุด เพราะจะช่วยให้ Search Engine มองเห็นและอยากนำเสนอ Content ของเราเพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น

3. Website

เปรียบเสมือนหน้าร้านบนโลกออนไลน์ซึ่งควรได้รับการปรับปรุงให้สวยงาม อัพเดตข้อมูลของสินค้าและและบริการต่างๆ ให้ครบถ้วน และที่สำคัญที่สุดต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ การออกแบบควรเป็นไปตามกฎของ google ซึ่งจะผลดีต่อการทำ SEO เพื่อทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

จุดเด่นของ SEM

ทำไมแบรนด์ของคุณถึงควรทำการตลาดแบบ SEM วันนี้เราได้รวบรวมจุดเด่นที่แตกต่างจากการทำการตลาดออนไลน์แบบอื่นเพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้ ดังนี้

  1. การจัดการและการปรับเพิ่ม Keyword สามารถทำได้ตลอดเวลา
  2. ระยะเวลาเห็นผลรวดเร็ว หรือถ้าใช้เวลาจะอยู่ที่ประมาณ 1-6 เดือน
  3. มีเพียงเว็บไซต์เดียวก็สามารถทำ SEM ได้
  4. สามารถทำการวิเคราะห์ผลออกมาเป็นตัวเลขได้
  5. เมื่อทำการค้นหาเว็บไซต์จะอยู่อันดับต้นๆ เสมอ
  6. ตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง
  7. เป็นการรับรู้แบรนด์ได้ทันที่ผ่านเครื่องมือค้นหา

จุดด้อยของ SEM

ถึงแม้ว่าการทำการตลาดออนไลน์แบบ SEM จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจแต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกแบรนด์สำหรับจุดด้อยของ SEM เมื่อเทียบกับวิธีการอื่นๆ คือ

  1. เมื่อซื้อโฆษณากับแพล็ตฟอร์มคุณต้องเสียเงินทุกครั้งที่มีผู้คลิกเข้ามาชมเว็บไซต์
  2. เมื่อการแข่งขันสูงราคาการซื้อโฆษณาก็จะสูงตามไปด้วย
  3. อาจไม่เหมาะกับบางธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเกี่ยวกับการขายสินค้าหรือบริการ
  4. การคลิกเข้าชมเว็บไซต์ไม่ได้การันตีถึงยอดขายที่แท้จริง
  5. ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการและต้องคอยติดตาม Search Engine ใหม่ๆ อยู่เสมอ

สรุป

SEM ถือเป็นกลยุทธ์รูปแบบหนึ่งสำหรับการตลาดออนไลน์ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขายของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดควรให้ความสำคัญและหันมาปรับเปลี่ยนวิธีการแบบเดิมๆ และเพิ่มเติมวิธีการใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้เกิดการผสมผสานทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องไม่ลืมปรับปรุงเว็บไซต์ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหน้าตาของแบรนด์ให้สวยงาม แสดงรายละเอียดข้อมูลสินค้าอย่างครบถ้วน เพราะจะช่วยเว็บไซต์เกิดความน่าเชื่อถือจนนำไปสู่การปิดการขายในที่สุด