หลังจากการจัดประชุมเวทีชาวบ้าน กลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวกันทดลองทำกระดาษจากผักตบชวา โดยวิทยากรจากสถาบันทรัพยากรชายฝั่งสาธิตการทำ ซึ่งหลังจากได้ลองผิดลองถูกมาจนกระทั้งได้สูตรโดยใช้กระบวนการเดียว มีขั้นตอนที่ง่ายๆไม่ยุ่งยาก1.เก็บผักตบชวานำไปตัดรากและล้างเอาดินโคลนออกจนสะอาด2.นำไปตากแดด 2 - 3 วันจนแห้งเป็นสีนำตาลอ่อน3.นำผักตบที่ได้ไปใส่หม้อต้ม ใช้ไฟสม่ำเสมอ ใช้เวลาในการต้ม 2 - 3 ชั่วโมง ระหว่างต้มให้ใส่โซดาไฟ 3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ถัง เพื่อกัดผักตบชวาให้มีสีขาวและทำให้เปื่อยเร็ว4.หลังจากต้มผักตบชวาจนเปื่อยแล้วจึงนำมาล้างจนได้สีที่พอใจ นำมาทุบหรือนำลงไปปั้นในเครื่องตีให้เยื่อกระจายตัวอีกครั้ง5.หากไม่ต้องการย้อมสี ก็สามารถนำเยื้อกระดาษไปทำกระดาษได้เลย6.หากต้องการกระดาษที่เป็นสี ให้นำเยื่อผักตบไปฟอกสีด้วยสารเคมีฟอกขาว (คลอรีนผง) อีกครั้ง แล้วจึงผสมสีที่ต้องการลงไป ในการย้อมสีต้องเคลือบด้วยบงบุก จึงทำให้สีติดกระดาษได้ดี7.การทำกระดาษ ให้นำเยื่อผักตบกระจายในนำใสสะอาด ถ้าต้องการกำหนดความหนาบางของกระดาษให้นำไปชั่งน้ำหนักก่อนนำมากระจายในน้ำ จากนั้นใช้ตะแกรงหรือเฟรมช้อนเนื้อเยื่อกระดาษ8.ยกจากอ่างน้ำนำไปตากแดดให้แห้งสนิท หลังจากกระดาษแห้งสนิทดีแล้วให้กรีดออกจากเฟรม9.นำไปพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ได้ตามที่ต้องการข้อดี การนำผักตบที่สดไปตากแดดเพิ่มความเหนียวให้กับเส้นใยและคุณภาพของกระดาษดีขึ้น ไม่ฉีกขาดง่ายข้อมูลจากสถาบันทรัพยากรชายฝั่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อบรมกลุ่มอาชีพที่เน้นเศรษฐกิจพอเพียงกศน.ปากพนังในวันที่ 18 มีนาคม 2552 Show
รายงานวิชาการ เรื่อง กระดาษจากผักตบชวา จัดทำโดย นางสาว สุนีย์ พันธ์แก่น เลขที่11 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/1 นำเสนอ อาจารย์ สุทธิพงษ์ บุญมาก รายงานวิชาการเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา I 30202 การสื่อสารและการนำเสนอ ( Communication and Presentation ) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนลมศักดฺ์วิทยาคม อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ บทคัดย่อ การสื่อสารและการนำเสนอ เรื่อง กระดาษจากผักตบชวา มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาในการศึกษาค้นคว้า ดังนี้ เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับการทำกระดาษจากผักตบชวาจากเส้นใยผักตบชวา เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยผักตบชวากับเนื้อกระดาษทั่วไป จากการทดลองและประดิษฐ์กระดาษและการเปรียบเทียบเนื้อกระดาษเส้นใยจากผักตบชวากับกระดาษชนิดต่างๆเช่นกระดาษสา โดยการทำแบบสอบถามขั้นตอนการประดิษฐ์ก็มี นำผกตบชวามาบดให้ละเอียด นำมาผสมกับสารที่เตรียมไว้ แล้วนำไปต้ม ประมาณ 30 นาที ใส่สารที่เตรียมไว้แล้วนำไปฟอกเยื่อ ประมาณ 10 นาที ต่อจากนั้นนำไปตากจนแห้ง นำไปเปรียบกับกระดาษที่จะทดลองต่อไป การดำเนินงานศึกษาค้นคว้าและเรียบเรียงเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา มีขั้นตอนดังนี้ 1.กำหนดชื่อเรื่องและขอบเขตของเรื่อง 2.กำหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษาค้นคว้า 3.เขียนโครงเรื่อง 4.รวบรวมข้อมูล 5.จัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูล 6.จำทำฉบับร่าง 7.ตรวจทานและแก้ไข 8.จัดทำฉบับจริง กิตติกรรมประกาศ การเขียนรายงานเชิงวิชาการเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา ฉบับนี้สำเร็จลงด้วยดีคณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณที่ปรึกษา อาจารย์ สุทธิพงษ์ บุญมาก อาจารย์โรงเรียนและบุคลากรโรงเรียนลมศักดิ์วิทยาคม ทุกท่านที่ได้ให้คำปรึกษา แนะแนวทางในการเขียนรายงานเชิงวิชาการครั้งนี้ ขอขอบพระคุณบิดา-มารดา ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆทุกคนที่คอยให้กำลังใจและคำปรึกษาที่ดีตลอดมาหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเชิงวิชาการเรื่อง กระดาษจากผักตบชวา ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป ที่มาและความสำคัญ ผักตบชวา (Water Hyacinth) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eichhornai crassipes (Mart) เป็นพืชน้ำมีลักษณะใบประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ใบแผ่นกว้างมนโค้งก้านใบยาว อวบน้ำ ดอกลักษณะเป็นช่อ ดอกสีม่วง ลอยน้ำได้ เจริญเติบโตง่ายทั้งในน้ำตื่น น้ำขัง หรือมีการถ่ายเทได้ และมีชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน เช่นผักปอด ,สระ ,ผักโรค, ผักยะวา ,ผักอีโยก เป็นต้น จากคุณสมบัติที่เป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก เมื่อนำมาทำให้แห้งจึงได้มีการนำมาทำเป็นเครื่องหัตถกรรม เช่น กระเป๋า หมวก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงหมัก อีกด้วย ถึงแม้จะมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ แล้ว ผักตบชวาก็ยังคงเป็นปัญหาด้านมลภาวะอยู่ดี จากการที่กลุ่มของดิฉันสังเกตุผักตบชวาตามคลอง ตามบึง หลังบ้าน ผักตบชวาจะเป็นพืชที่มีเส้นใยเหนียวมาก กลุ่มของดิฉันจึงเกิดไอเดียความคิดในการนำเส้นใยของผักตบชวามาทำเป็นกระดาษ การย่อยเยื่อทำได้ 2 วิธี คือ การนำผักตบชวามาทุบและการนำไปตีเยื่อ วิธีการทุบเนื้อเยื่อจะทำให้มีเยื่อที่มีเส้นใยยาวกว่าการตีปั่นเยื่อ เมื่อนำเยื่อที่ได้มาตักเยื่อเพื่อทำเป็นแผ่นกระดาษทำการปรับปรุงคุณภาพโดยการย้อมสี และผสมน้ำแป้ง ทดสอบคุณภาพของเนื้อกระดษาของกระดาษที่ได้กับกระดาษสาที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปว่าคุณภาพจะแตกต่างมากเพียงใด จุดมุ่งหมายการศึกษา 1.เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับกระดาษจากเส้นใยผักตบชวา 2.เพื่อเปรียบเทียบเนื้อกระดาษจากเส้นใยจากผักตบชวากันเนื้อกระดาษอื่นๆ 3.ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สมมติฐาน 1.การนำเส้นใยผักตบชวามาทำเป็นกระดาษได้เหมือนเส้นใยของกล้วยที่นำมาทำกระดาษ 2.การนำกระดาษจากผักตบชวาไปใช้ประโยชน์ได้ดีอย่างกระดาษทั่วๆไป ตัวแปรที่ปรึกษา ตัวแปร คือ การนำเส้นใยผักตบชวาทำเป็นกระดาษ ตัวแปนตาม คือ คุณภาพเนื้อกระดาษที่ทำจากผักตบชวา ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาตรของสาร เอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง การศึกษาครั้งนี้ ได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเนื้อหาของเอกสารวิจัยในหัวข้อต่างๆ ดังนี้ 1.บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา 2.ศิลปหัตถกรรม 3.ขั้นตอนการทำกระดาษ บำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา การบำบัดน้ำเสียด้วยผักตบชวา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยในการปรับปรุงคุณภาพของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว เช่น บึงและหนองต่างๆ เพื่อทำเป็นแหล่งบำบัดน้ำเสีย โดยหนึ่งในจำนวนนั้นได้แก่ โครงการบึงมักกะสันอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหลักการบำบัดน้ำเสียตามแนวทฤษฎีการพัฒนาโดยการกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวา (Filtration) โครงการบึงมักกะสัน บึงมักกะสัน เป็นบึงขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร รวมพื้นที่บึงประมาณ ๙๒ ไร่ เป็นแหล่งน้ำอยู่ในเขตโรงงานรถไฟมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ขุดขึ้น ในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เพื่อใช้เป็นแหล่งระบายน้ำและรองรับน้ำเสีย รวมทั้งน้ำมันเครื่องจากโรงงานรถไฟมักกะสัน ทำให้บึงมักกะสันตื้นเขิน จากการตกตะกอนของสารแขวนลอย ศิลปหัตถกรรม คุณพิมพ์แก้ว กิติรันต์ธนโชติ เจ้าของผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดอยุธยา เท้าความที่มาของงานศิลป์ชนิดนี้ว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์หวาย ต่อมาราวปี 2540 เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ โรงงานจำต้องปิดตัวลง และผลพลอยได้จากการว่างงานครั้งนี้ คือ ได้เห็นผักตบชวาลอยเกลื่อนในแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน เลยค้นหาวิธีใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้ ขั้นตอนการทำกระดาษ การทำกระดาษด้วยมือส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นการทำกระดาษเพื่อใช้ในงานหัตถกรรม ซึ่งมีวัตถุดิบจากพืชหลายชนิด แต่ก่อนกระดาษจะทำจากเปลือกไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่นถ้าใช้เปลือกข่อยก็จะเรียกสมุดข่อย ใช้เปลือกสาก็จะเรียกสมุดปอสา พืชทั้งหลายที่เป็นผักและผลไม้เมื่อนำไปบริโภคแล้ว ยังมีส่วนที่ยังตกค้างอยู่ในแปลงปลูกที่ยังไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ นอกการจากการเผาทำลายทิ้งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ และส่งเสริมให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงขอแนะนำวิธีการทำกระดาษจากเศษเหลือทางการเกษตร ตัวอย่างเช่น ใบและกาบกล้วย ใบสับปะรด ฟางข้าว ผักตบชวา ปอสา เป็นต้น นอกจากพืชที่กล่าวมาแล้วยังมีพืชอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทำกระดาษได้ 1.การเตรียมวัตถุดิบ 2.การล้างเยื่อ 3.การฟอกเยื่อ 4.การกระจายเยื่อ (ตีเยื่อ) 5.การทำแผ่นกระดาษ วิธีการทำกระดาษ 1. เตรียมผักตบชวา 2. นำผักตบชวาไปหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 1 นิ้ว นำไปใส่ ภาชนะที่ใช้ต้ม ใส่ผักตบชวาหั่น 2 กิโลกรัม เติมน้ำประมาณ 7 ลิตร 3. ใส่โซดาไฟ 4. นำไปต้มประมาณ 2 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าผักตบชวาที่ต้ม แล้วจะยุ่ย 5. แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง 6. นำมาฟอกขาวด้วยไอโดเจนเปอร์ออกไซด์ ที่ผสมสบู่ โซเดรียมซิลิเกต ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง จึงนำมา ล้าง ออก 7. นำมาย้อมด้วยสีย้อมผ้า ต้มนานประมาณ 1/2 ชั่วโมง นำมาล้างออก 8. เตรียมอ่างที่จะใช้เตะกระดาษนำเฟรมรองไว้ใต้อ่าง ใส่น้ำให้ท่วมขอบเฟรม เทผักตบชวาที่ปั่นแล้วลงในอ่าง 9. ใช้มือตีปุยของผักตบชวาให้กระจายๆ ให้ทั่วเฟรม แล้วค่อยๆ ยกเฟรมที่อยู่ข้างล่างขึ้นทีละข้างให้ปุย ผักตบชวาไล่ ระดับให้เต็มเฟรม 10. ยกขั้นตากแดด วิธีดำเนินการศึกษา ระเบียบที่ใช้ในการศึกษา ในการศึกษาใช้รูปแบบการสำรวจ สืบค้นข้อมูล จากหนังสือ อินเตอร์เน็ต และการประดิษฐ์ ผู้ศึกษาได้ดำเนินขั้นตอนดังนี้ 1.กำหนดเรื่องที่จะศึกษาโดยสมาชิกทั้ง 2 คนประชุมร่วมกัน และร่วมกันคิดและวางแผนว่าจะศึกษาเรื่องใด 2.สำรวจประเด็จที่จะจัดทำโดยเลือกเรื่องที่สมาชิกในกลุ่มสนใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน 3.ตั้งชื่อเรื่อง 4.สมาชิกทั้ง 2 คนในกลุ่ม พบอาจารย์สอนเพื่อปรึกษา วางแผน และรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงแก้ไข 5.เขียนความสำคัญ ความเป็นมาของเรื่องที่จะทำ วัตถุประสงค์ สมมติฐาน ของเขตการวิจัยและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ รับ โดยศึกษาข้อมูลจากหนังสือ วิทยานิพนธ์และสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และจดบันทึกในโครงร่างรายงาน วิชาการ 6.สร้างเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถาม 7.นำเครื่องมือที่ปรับปรุงแล้วไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง 8.รวบรวมข้อมูล 9.วิเคราะห์ข้อมูล 10.สรุปการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือคือ แบบสอบถามความคิดเห็น 1 ฉบับ มี 2 ตัวเลือกคือ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ผลการวิเคราะห์ สรุปแบบสอบถาม ความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สรุปได้ดังนี้ -เพศชาย =50% , เพศหญิง= 50% -ช่วงอายุ13-16= 35% , อายุ 17-20=50% , อายุมากกว่า 20=15% -ระดับการศึกษาระดับมัธยมต้น= 25% , ระดับมัธยมปลาย=45% , ระดับปริญญาตรี=20% ,ระดับปริญญาตรีขึ้น ไป=10% -เคยใช้กระดาษสา= 70% , เคยใช้กระดาษกล้วย =15% , เคยใช้กระดาษหนังช้าง=15% -นำกระดาษไปใช้ประโยชน์เป็นกล่องของขวัญ=25% , ทำกรอบรูป = 35% , ทำอื่นๆ= 40% และสามารถสรุปความคิดเห็นได้ดังตาราง สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ จากการศึกษาครั้งนี้ สามารถสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ได้ดังนี้ สรุปผลการศึกษา ผลการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็นของบุคลากรและนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสา ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.5 เห็นด้วย และร้อยละ 46.5 ไม่เห็นด้วย อภิปรายผล จากการศึกษาพบว่า(ความคิดเห็น) ในการเปรียบเทียบกระดาษผักตบชวากับกระดาษสาอยู่ในระดับเห็นด้วย คิดเป็นร้อยละ 53.3 ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะจากการศึกษาครั้งนี้ 1.สามารถนำไปศึกษากับกลุ่มตัวอย่างอื่นได้ 2.ควรมีช่วงเวลาในการศึกษามากขึ้น 3.ควรมีการต่อยอดในส่วนมี่ได้ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ 4.ควรที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบเป็นอาชีพเสริม 5.ในขั้นตอนการทำกระดาษสามารถประยุกต์ใช้ เช่นการนำกระดาษเหลือ ใช้ไปผสมกันแล้วนำมารีไซเคิลกระดาษใหม่ได้ 6.ควรมีการประดิษฐ์กระดาษในรูปแบบสีสันแตกต่างกันออกไปเพื่อความหลากหลายในชิ้นงาน ผักตบชวา ในสระ นั้งตัด ผักตบชวา ไห้มีชิดเล็กเล็ก เมื่อตัดเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาบดให้ละเอียด บดเรียบร้อย นำมาไส่กาลามัง ร่วมกัน ไห้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาตะแครงตักขึ้นมา ไห้เป็นแผ่นเดียวกัน ตากเรียบร้อยเป็นแผ่น แล้วแกะออก เรียบร้อย ข้อขอบคุณ |