ขับรถนานจนลืมว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็เกินระยะกำหนดแล้ว รถจะเป็นอะไรมั้ยนะ หากเกินกำหนดแล้วจะยังใช้งานได้ดีหรือเปล่า? ถ่ายน้ำมันเครื่องเกินได้กี่กิโล ? อย่าเพิ่งเป็นกังวล เราหาคำตอบมาให้แล้ว Show โดยปกติแล้วเราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ความจริงแล้วไม่ได้มีกฏแน่นอนตายตัว ว่าเราจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้เมื่อไหร่ ตอนไหน เพราะมีองค์ประกอบต่างๆ ในการพิจารณาควบคู่กันไปด้วย เช่น รถใช้งานหนักหรือวิ่งตลอดเวลาหรือเปล่า หรือว่ารถจอดทิ้งไว้ไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งถ้าเอาตามหลักที่ส่วนใหญ่คิดกันก็จะแบ่งระยะเปลี่ยนถ่ายออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ ตามระยะที่รถวิ่ง และตามระยะเวลา ดังนี้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะคือ ให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อเข็มไมล์วิ่งไปถึงตัวเลขที่กำหนด เช่น เลขไมล์ก่อนถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 85,000 กม. หากเปลี่ยนครั้งต่อไปอีก 5,000 กม. ก็ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 90,000 กม. เป็นต้น โดยระยะเปลี่ยนถ่ายจะอ้างอิงจากเกรดน้ำมันเครื่องที่เติม
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามเวลากรณีนี้สำหรับคนที่จอดรถมากกว่าวิ่ง เช่น บ้านที่มีรถหลายคัน จอดไว้ไม่ได้นำไปใช้งาน หรือคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถออกไปไหน ซึ่งเลขไมล์กว่าจะกระดิกถึงระยะตามกำหนด น้ำมันเครื่องก็เสื่อมสภาพกันพอดี เพราะฉะนั้นจะให้นับเป็นวันที่ว่า ควรเปลี่ยนทุกๆ กี่เดือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนประมาณ 6 เดือน หรือ 2 ครั้งต่อปี รถวิ่งเกินกำหนดจะมีผลอย่างไรรถวิ่งเกินกำหนดไม่ส่งผลดีต่อรถแน่ๆ ถ้าเกินมานิดหน่อย หรือถ้าใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีๆ ก็อาจไม่ทันได้ส่งผลเสียเท่าไหร่ แต่บางคนไม่เคยดูรถเลยว่าต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ หรือปล่อยยาวจนกินเวลานาน ขับไปทั้งๆ แบบนั้น ก็จะเป็นการใช้น้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพหมุนเวียนเข้าไปในระบบเรื่อยๆ ทั้งเศษสิ่งสกปรก โลหะ เขม่าควัน ต่างๆ รวมไปถึงประสิทธิภาพในการหล่อลื่นก็ลดลง ชิ้นส่วนภายในมีแรงเสียดทานมากขึ้น จึงเกิดการสึกหรอได้เร็ว อีกทั้งประสิทธิภาพที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ก็ลดลงไป เช่น การป้องกันสนิม เป็นต้น ปล่อยไปนานเข้าอาจทำให้เครื่องพังเร็ว ถ่ายน้ำมันเครื่องเกินได้กี่กิโลคงไม่มีใครมากำหนดว่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเกินได้กี่กิโล วิ่งเกินไปกี่กิโลแล้ว เพราะการใช้งานของรถแต่ละคันก็ไม่เหมือนกัน ต้องดูการใช้งานเป็นหลัก เช่น รถที่วิ่งใช้งานตลอดเวลา วิ่งทุกวัน หรือรถบรรทุกหนัก แบบนี้ต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ ไม่ควรเกินกำหนด หากใช้งานหนักมากๆ ควรเปลี่ยนก่อนระยะกำหนดด้วยซ้ำ จะดูว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยังก็ลองเช็คสีน้ำมันเครื่องดูจากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ว่าอยู่ในสภาพที่ต้องรีบถ่ายน้ำมันแล้วหรือยัง แต่ในกรณีที่รถใช้งานปกติ แค่วิ่งไปทำงาน หรือไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ก็อาจจะเกินได้นิดหน่อย เพราะเครื่องไม่ได้ถูกใช้งานหนัก แต่ไม่ควรจะเกินมากจนถึงหลักหมื่นหลักพันกิโลเมตร เพราะน้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพได้ แต่หากคุณไม่ได้มีเวลาเปลี่ยนถ่ายหรือมีเวลาเอารถไปทิ้งไว้ที่ศูนย์ อยากให้รถใช้งานได้ยาวๆ ไม่ต้องไปถ่ายน้ำมันบ่อยๆ ให้เลือกน้ำมันเครื่องที่เป็นสังเคราะห์แท้ จะมีระยะเปลี่ยนถ่ายที่มากกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันบ่อยๆ อีกทั้งจะมีประสิทธิภาพในการช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่า ������ ö�س��觵��. ������������٧ 100+- �Դ˹��� �ѹ�� 500 �� ���֧�� ��10,000 ��. ���� ����ѹ����ͧ�ѧ������¤�Ѻ �Ҩ�״���зҧ���ա�Դ˹��� ... 㹷ҧ��Ѻ�ѹ ��ö���㹡��. ö�Դ� �ѹ�� 50 ��. ����� �� 6 �� ���ͧ����¹������� ��Ѻ ������������ô����ѧ��������� �����ҫ��� ����ѹ����ͧ��� ����¡��Ҥ�Ѻ  ผมว่าต้องดูเกรดคุณภาพด้วยนะครับ น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ GTX PRFESSIONAL DIESEL 10W-30 กระป๋องเขียวจาก 0 เป็นเกรดแค่ CF-4 ครับ ซึ่งออกมาเป็นมาตราฐานตั้งแต่ปี 2533 แล้ว ก็ประมาณ 20 ปีมาแล้วนะครับสำหรับมาตราฐานเกรด CF-4 นี้ ซึ่งถ้ากลับไปอ่านการวางมาตราฐานเกรดน้ำมันให้ดีจะพบว่า การที่น้ำมันเครื่องจะพัฒนาเพื่อให้ได้เกรดสูงขึ้นนั้น คุณสมบัติอย่างหนึ่งก็คือ ความสามารถในการยืนระยะ หรือรักษาคุณภาพของตัวน้ำมันไว้ได้นานกว่าเดิม น้า ดิว59 ใช้งานรถหนักรึเปล่าหละครับ ถ้าใช้งานหนัก เช่นบรรทุกของ ทุกวัน วิ่งสั้นๆ ในเมืองรถติดๆ หรือใช้งานในสภาพอากาศสุดโหด หมื่นโลใช้ได้ครับ แต่เครื่องคุณจะยืนระยะได้ถึงแสนโลโดยไม่มีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เหมือนที่ถามๆ กันในอีกกระทู้รึเปล่า ผมไม่รู้จริงๆ ต้องวัดกันครับ อยากทำสถิติดูเหมือนกันครับว่า ที่หลายๆ คนบอกว่ารถเริ่มอืด เริ่มกินน้ำมันที่ประมาณแสนโลเนี่ย ประวัติการเปลี่ยนหรือใช้น้ำมันเครื่องของคุณเป็นอย่างไร คนใกล้ตัวผมมีตัวอย่างชัดเจนครับ ออก BT-50 มา 2 ปี วิ่งไปแสนกว่าๆ เดี๋ยวนี้ ควันเริ่มดำ เร่งไม่ค่อยขึ้น กินน้ำมันเยอะกว่าเดิม ทั้งๆ ที่บรรทุกเฉลี่ยวันละ 500-600 กิโลเองครับ เข้าศูนย์ตลอดตามระยะทางหมื่นโลเป๊ะๆ ครับ สรุปนะครับ ผมไม่เชื่อว่า GTX PRFESSIONAL DIESEL 10W-30 CF-4 ตัวนี้จะเพียงพอสำหรับการเปลี่ยนทุกๆ 1 หมื่นโล ต่อการใช้งานหนักปานกลาง ให้เครื่องยนต์ของเราที่มี EGR สามารถอยู่ในสภาพเกิน 95% ได้พ้นแสนโลครับ อีกตัวอย่างสำหรับการใช้น้ำมันเครื่องที่ดีและถูกต้องก็คือ รถ TOYOTA CROWN ที่บ้านผมเอง เป็นรถปี 91 วิ่งมาสองแสนโลครับ ใช้น้ำมันเกรดที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในแต่ละช่วงเวลา และเปลี่ยนถ่ายตามการใช้งาน ปัจจุบัน ใครได้ยินเสียงเครื่องตัวนี้ ก็จะไม่เชื่อหูว่ามันอายุ 20 ปีแล้ว และผมก็พามันออกวิ่งไล่เขม่าอยู่บ่อยๆ ที่เกิน 180 km/hr ก็ต้องดูจุดคุ้มทุนกันให้ดี ระหว่างค่า โอเว่อร์ฮอลเครื่อง กับ ค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ครับ ใช้ของแพงเกินไป หรือเปลี่ยนเร็วไป ก็เสียดายเงิน และเพิ่มขยะให้กับโลกไปเปล่าๆ คำถามที่ผมอยากถามศุนย์ก็คือ ทำไมจึงไม่เอาน้ำมันเครื่อง Castrol 10w-30 Semi-Syn เกรด CH-4 ที่มีขายอยู่ทั่วตลาดบ้านเรา ซึ่งน่าจะเหมาะสมที่สุดกับเครื่องที่มี EGR ตามสเป็ค มาใช้ครับ ใครตอบผมได้บ้าง |
น้ํามันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10w30 วิ่งได้กี่กิโล
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
