8 เมษายน 2565 Show รวม 6 กฎหมายสำคัญ ที่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการด้านอาหาร ต้องรู้ เพื่อทราบการกำหนดนโยบาย ขั้นตอน-การขอใบอนุญาต พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลัก ควบคุมคุณภาพของอาหาร-การขออนุญาต – การตรวจสอบ – การขึ้นทะเบียน – การโฆษณาเกี่ยวกับอาหาร โทษทางอาญา-ฝ่าฝืนผลิตอาหารที่ห้ามผลิต หรือนำเข้า โทษจำคุก 6 เดือน – 2 ปี และ ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท -ฝ่าฝืนตั้งโรงงานผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ -ฝ่าฝืนผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2561กำหนดกระบวนการตรวจสอบ และเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร -พืช สัตว์ ประมง -เพื่อควบคุมและส่งเสริมสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัยแก่ประชาชน กําหนดการควบคุมกิจกรรมอื่นที่ต่อเนื่องจากการผลิตสินค้าเกษตร -การขนส่งสินค้าเกษตร -คลังสินค้าเกษตร -สะพานปลา -โรงฆ่าสัตว์ ให้อำนาจสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ -มอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐมีอำนาจออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ กำหนดให้ผู้ผลิตสินค้าเกษตรบางขนาดหรือลักษณะของกิจการ ยกเว้น -ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอรับการตรวจสอบและได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558มุ่งหมายเพื่อจัดระเบียบการประมง ในประเทศไทยและน่านน้ำ -ป้องกันการประมงผิดกฎหมาย -รักษา ทรัพยากรสัตว์น้ำ ให้เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ -รักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมตามมาตรฐานสากล -คุ้มครองสวัสดิภาพของคนประจําเรือ และป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมาย โทษ สำหรับบุคคลผู้กระทำการฝ่าฝืน เช่น การใช้เรือไร้สัญชาติทำประมง มีโทษเปรียบเทียบปรับตามขนาดของเรือ -โทษสูงสุดเป็นเรือ 150 ตันกรอส มีโทษปรับ 5 – 30 ล้านบาท หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้ ขึ้นกับจำนวนที่มากกว่า จ้างแรงงานผิดกฎหมาย มีโทษปรับไม่น้อยกว่า 4 – 8 แสนบาทต่อราย -ผู้ประกอบกิจการโรงงาน หากเกิดกรณีเดียวกัน นอกจากปรับ 2 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท หรือโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 1-5 แสนบาทตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ. 2550เพื่อควบคุมและคุ้มครองให้เกษตรกรได้ใช้พันธุ์พืชที่ดีในการเพาะปลูกอย่างเพียงพอ -กำหนดหลักเกณฑ์การนำเข้า-ส่งออก
สินค้าพืชให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล กำหนดให้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยพันธ์พืช ในการค้าเมล็ดพันธุ์ควบคุม พืชสงวน และพืชต้องห้าม กําหนดคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตรวบรวม ขาย นําเข้า หรือส่งออกเมล็ดพันธุ์ควบคุม กำหนดเกณฑ์ของขอความที่ระบุในฉลาก สําหรับภาชนะบรรจุเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคเนื้อสัตว์ -เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขอนามัย ควบคุมการชําแหละและตัดแต่งเนื้อสัตว์ และสถานที่ชําแหละตัดแต่งเนื้อสัตว์ -เพื่อให้ครอบคลุมทุกห่วงโซ่การผลิตสินค้าปศุสัตว์และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ควบคุมการขนส่งสัตว์และเนื้อสัตว์ -เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาด หลักสวัสดิ์ภาพสัตว์ -เพื่อให้เนื้อสัตว์มีคุณภาพ ตั้งแต่โรงฆ่าสัตว์ถึงผู้บริโภค กำหนดขั้นตอนขออนุญาตและออกใบอนุญาต เพื่อประกอบกิจการฆ่าสัตว์ -ต้องได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจก่อน เพื่อออกใบอนุญาตประกอบกิจการฆ่าสัตว์ กําหนดอายุของใบขออนุญาต เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ -มีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบอนุญาต พ.ร.บ.คณะกรรมการอาหารแห่งชาติกำหนดนโยบาย และกำหนดยุทธศาสตร์ด้านอาหาร -ด้านคุณภาพ -ความปลอดภัยของอาหาร -ความมั่นคงอาหาร -ศึกษาด้านอาหารโดยครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน -เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เช่น -ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพอาหาร ความปลอดภัยด้านอาหาร ความมั่นคงด้านอาหาร -จัดให้มี ส่งเสริม สนับสนุนให้มีกระบวนการในการพัฒนานโยบาย -เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย กฎหมาย (อังกฤษ: law หรือ legislation) คือ กฎอันมีที่มาจากการตราขึ้นโดยสถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐ หรือจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ ใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ ความจำเป็นในการมีกฎหมาย กฎหมายเป็นเครื่องควบคุมประพฤติการณ์ในสังคม พัฒนาขึ้นมาจากศีลธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ศาสนา และกฎเกณฑ์ข้อบังคับ ตามลำดับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อธำรงความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสมาชิกในสังคม กับทั้งเพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเป็นไปโดยราบรื่น สนองความต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ดังภาษิตละตินที่ว่า "ที่ใดมีมนุษย์ ที่นั้นมีสังคม ที่ใดมีสังคม ที่นั้นมีกฎหมาย ด้วยเหตุนั้น ที่ใดมีมนุษย์ ที่นั้นจึงมีกฎหมาย" (ละติน: Ubi homo, ibi societas. Ubi societas, ibi jus. Ergo ubi homo, ibi jus) ด้วยเหตุนี้กฎหมายจึงได้ชื่อว่าเป็น "ปทัสถานทางสังคม" (อังกฤษ: social norms) ซึ่งบางทีก็เรียก "บรรทัดฐานของสังคม" กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ รัฐบาลจึงได้มีบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยตรากฎหมายขึ้นเรียกว่า พระราชบัญญัติอาหาร ดังนั้นนักศึกษาและประชาชนทั่วไปจึงควรให้ความสนใจในสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ด้วย การควบคุมอาหาร เพื่อประโยชน์ในการควบคุมอาหารให้ถูกสุขลักษณะ หรือให้ปราศขากอันตรายแก่ผู้ริโภค พระราชบัญญัติอาหาร มาตราที่ 30 กำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีอำนาจสั่งให้งดผลิตหรืองดนำเข้าซึ่งอาหารที่ผลิตโดยไม่รับอนุญาต หรืออาหีที่ปรากฏจากผลการตรวจว่าเป็นอาหารที่ไม่ควรแก่การบริโภค นอกจากนี้ถ้ามีการตรวจพบว่าอาหารรายใดไม่บริสุทธิ์ เป็นอาหารปลอม เป็นอาหารผิดมาตรฐานหรือเป็นอาหารที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรืออนามัยของประชาชนแล้ว ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศผลการตรวจพิสูจน์อาหารนั้นให้ประชาชนทรายด้วย ความสำคัญของการควบคุมอาหาร เนื่องจากประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมขนาดย่อมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดังจะเห็นจากจำนวนโรงงานอุตสาหรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวคือในปี พ.ศ. 2493 มีโรงงานอุตสาหกรรมของเอกชนได้จดทะเบียนกับกระทรวงอุตสาหรรมเพียง 290 โรงเท่านั้น ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2506 จำนวนโรงงานได้เพิ่มขึ้นเป็น 27,336 ในปี พ.ศ. 2511 ได้เพิ่มถึง 45,317 โรง และในปี พ.ศ. 2515 ได้เพิ่มถึง 65,228 โรง ปัจจุบันนี้มีถึง 200,000 กว่าโรงงานทั่วประเทศ และนับวันแต่จะเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรงงานทำอาหารชนิดต่างๆ นับวันจะมีมากขึ้น ดังนั้นเราควรจะได้วางมาตรการในการผลิตและจำหน่ายอาหารไว้ให้แน่นอนเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน ไม่ใช่จะคอยแต่จะแก้ปัญหาเมื่อผลิตอาหารนั้นออกมาจำหน่ายแล้ว อาหารบางประเภทเราอาจจะทำการเอง ได้เพื่อทดแทนอาหารที่สั่งเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพง แต่เพราะเหตุว่าอาหารของต่างประเทศนั้นได้สร้างความเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ความสะอาด มากกว่าอาหารที่ผลิตภายในประเทศของเรา ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเรามีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ เราก็น่าจะทำได้ดีไม่ด้อยกว่าอาหารที่สั่งมาจากอาหารต่างประเทศ ประกอบกับขณะนี้ เราก็ได้ผลิตนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร (Food Science) ออกมาปีละ 100 กว่าคน ได้ออกไปทำงานกระจัดกระจายอยู่ตามโรงงานและหน่วยราชการต่างๆ เป็นจำนวนมาก ควรที่จะได้ใช้นักวิทยาศาสตร์การอาหารเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ วัตถุประสงค์ในการควบคุมอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ ได้จำแนกวัตถุประสงค์ออกได้ดังนี้ คือ 1. เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะมีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย ตลอดจนไม่ถูกหลอกองในเรื่องคุณภาพมาตรฐานและการเจือปนสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 2. เพื่อควบคุมให้อาหารที่ผลิตมีคุณภาพมาตรฐานตามกฎหมาย 3. เพื่อควบคุมโรงงานผลิตอาหารและสถานที่นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งอาหารที่ควบคุมให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ ตลอดจนมีลักษณะถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 4. เพื่อควบคุมการผลิตอาหาร การขายอาหาร การนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหาร พ.ศ. 2507 5. เพื่อแนะนำผู้ผลิตอาหารได้ปรับปรุงแก้ไขกรรมวิธีการผลิต การควบคุมคุณภาพของอาหารให้มีคุณภาพ มาตรฐานเท่ากับหรือสูงกว่ามาตรฐานอาหารสากล 6. เพื่อพัฒนาอุตสาหรรมอาหารในประเทศให้เจริญรุ่งเรือง สามารถผลิตอาหารที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และเพียงพอต่อการบริโภค ตลอดจนมีอาหารไว้ในกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังช่วยให้ประชาชนมีงานทำอีกด้วย 7. เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้วัตถุดิบในประเทศให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น สามารถเก็บหรือถนอมอาหารให้สามารถอยู่ได้นานโดยไม่เสื่อมคุณภาพ 8. เพื่อส่งเสริมให้มีการส่งอาหารไปจำหน่ายในต่างประเทศ เป็นการช่วยลดดุลการค้าและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศชาติให้ดีขึ้น ที่มา : หนังสือ กฎหมายควบคุมอาหารและมาตรฐานอาหาร Food Legislation & Standardization.รองศาสตราจารย์พัฒน์ สุจำนง |