����Ԫҡ�����������й��ʹ� �����Ԫ� I20202 �ӹǹ 10 ��� �� �ç���¹�աѹ(�Ѳ�ҹѹ���ػ�����) ����� ��س����͡�ӵͺ���١��ͧ����ش ��ͷ�� 1) �������������¢ͧ������ç�ҹ��١��ͧ �Ըա�÷���֡�����ҧ���к������鹵 ��кǹ����駺����ҳ �Ըա�ô��Թ�ҹẺ������ҧẺἹ ��кǹ������Ѿ�ҡ÷�ͧ��� ��ͷ�� 2) ����ҧἹ������¹�ç�ҹ���������ҡ���� ������Ǣ���ç�ҹ ���ͤ�ٷ���֡���ç�ҹ �������Ф����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ �ѵ�ػ��ʧ��ͧ����֡�Ҥ鹤��� ��ͷ�� 3) �����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ�������١��ͧ ��û�Ժѵԧҹ�Ѵਹ ���ҧͤ�Ե�ͺؤ������˹��§ҹ ��û�Ժѵ�������ҧ�ջ���Է���Ҿ Ŵ�����Ѵ�����Ф�����ӫ��˹�ҷ�� ��ͷ�� 4) ���㴡���Ƕ֧��ǹ��Сͺ�ͧ�ç��١��ͧ ��ǹ�� ��ǹ���� ��ػ ��ǹ�� ��ǹ��ҧ ��ǹ���� ��ǹ�� ��ǹ���ͤ��� ��ǹ��� ��ǹ���ͤ��� ��ǹ���� ��ǹ���� ��ͷ�� 5) ��鹵��÷��ç�ҹ�������§�ӴѺ�١��ͧ ��äԴ��С�����͡�������ͧ ����ҧἹ ��ô��Թ�ҹ �����¹��§ҹ ��ù��ʹ� ��äԴ��С�����͡�������ͧ ����ҧἹ �����¹��§ҹ ��ô��Թ�ҹ ��ù��ʹ� ����ҧἹ ��äԴ��С�����͡�������ͧ ��ô��Թ�ҹ �����¹��§ҹ ��ù��ʹ� ����ҧἹ ��äԴ��С�����͡�������ͧ �����¹��§ҹ ��ô��Թ�ҹ ��ù��ʹ� ��ͷ�� 6) ��������͡�������ͧ���������������Ǣ�鹵���令�÷ӵ������ ��ä鹤�������Ǻ��������� ������º���§��÷���§ҹ ��˹��ش���������Тͺࢵ�ͧ����ͧ ��¹�������Ф����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ ��ͷ�� 7) ����ʹͼŧҹ���������ٻẺ�������Ѻ�������������ͻ������ç�ҹ�������١��ͧ ����ʴ����ҷ���ص� ����駺����ҳ��ҧ˹��§ҹ��ҧ�� ��èѴ�Է��ȡ������ǡѺ�ŧҹ ��èѴ�ʴ���С��Ժ�´��¤Ӿٴ ��ͷ�� 8) ����ҧἹ��÷��ç�ҹ�������١��ͧ ����ҧἹ��������ô��Թ���������ҧ�ͺ�ͺ ����ҧἹ������ö������觤鹤��������駺����ҳ�������� ����ҧἹ����ö��Һ�֧�ش���ʧ������ͧ������з�Һ�֧�ͺࢵ�� ���ҧἹ�з��ç�ҹ��������������������ͧ���ʹ�����÷�Һ�ҹ�� ��ͷ�� 9) �����¹��§ҹ�ç�ҹ�����������¹Ẻ� �����¹�ç�ҹ��������ҷ����ҹ���㨧�����еç����� �����¹�ç�ҹ���������Ẻ�繡ѹ�ͧ����������㨢ͧ���Ѵ�� �����¹�ç�ҹ��������Ѩ����������Ѩ����������繷ҧ���͡�������ҹ�Դ��� �����¹�ç�ҹ��������ٻ�Ҿ�����ʴب�ԧ������ǹ��Сͺ�ͧ�����¹��§ҹ ��ͷ�� 10) ���㴡�������١��ͧ����ǡѺ������º���§��§ҹ ���º���§�����ŵ������ʹ������ҡ�����ӵ����觷���ҧ��� �Ӥѭ����ش��͵�ͧ�Ѵ�͡�ŧҹ�����������§�繼ŧҹ�ͧ����ͧ��ͧ�ͺ�س�Ҵ��� ����ͨ��繵�ͧ�Ѵ�͡��ͤ������Ӣ����Ţͧ����������ҧ�ԧ��ͧ�͡���Ѵਹ���Ҩҡ�˹ ������º���§��¹��§ҹ������ӹǹ���Ңͧ���ͧ����ҡ����ش��Ф���ռ���Ǩ�ͺ��������� ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ประกาศสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภา โดยพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ที่มา มาตรา ๒๕๘ ข. ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (๔) ให้มีการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารงานบุคคลภาครัฐเพื่อจูงใจให้ผู้มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงเข้ามาทำงานในหน่วยงานของรัฐ และสามารถเจริญก้าวหน้าได้ตามความสามารถ และผลสัมฤทธิ์ของงานของแต่ละบุคคล มีความซื่อสัตย์สุจริต กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว มีความคิดสร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆเพื่อให้การปฏิบัติราชการและการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรการคุ้มครองป้องกันบุคลากรภาครัฐจากการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมของผู้บังคับบัญชา ๒. คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๙ ได้มีมติมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับดูแลหน่วยงานผู้รับผิดชอบการดำเนินการเตรียมการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการจัดทำมาตรฐานทางคุณธรรมจริยธรรมบุคคลของหน่วยงานของรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๖ วรรคสาม และมาตรา ๒๕๘ ข.(๔) ให้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ รับผิดชอบดำเนินการ ๓. สำนักงาน ก.พ. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้แทนองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรม จำนวน ๔ ครั้ง (ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๐
ครั้งที่ ๓ ๔. ก.พ. ในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๐ มีมติรับทราบข้อเสนอแนวทางการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... ที่สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับผู้แทนองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่าง ๆ เป็นผู้จัดทำขึ้น และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๕. สำนักงาน ก.พ. จัดทำเอกสารตามหลักเกณฑ์การร่างกฎหมายและการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ พร้อมจัดประชุมชี้แจงหน่วยงานที่มีข้อสังเกตต่อร่างพระราชบัญญัติจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ และจัดส่งเอกสารพร้อมข้อยุติหน่วยงานที่มีข้อสังเกตให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ๖. คณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม และกำหนดให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๗. คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานได้พิจารณาตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... จำนวน ๔ ครั้ง (ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ และครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) และเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีหนังสือ ที่ นร ๐๙๐๔/๔๙๖
แจ้งผลการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... ดังนี้ ๘. สำนักงาน ก.พ. จัดทำเอกสารตามหลักเกณฑ์การร่างกฎหมายและการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายของหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ .... และรับฟังความคิดเห็นสาธารณะผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. (www.ocsc.go.th) และเว็บไซต์การรับฟังความคิดเห็นกฎหมายไทย (www.lawamendment.go.th) ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ โดยสรุปผลการรับฟังความเห็นพร้อมแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง และแจ้งยืนยันร่างพระราชบัญญัติฯ ไปยังสำนักเลขาธิกาคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๙. คณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ....ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๘๙/๒๕๖๑ เป็นพิเศษ วันพุธที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซึ่งที่ประชุมฯ มีมติรับหลักการและตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณา โดยมีกำหนดการแปรญัตติภายใน ๑๕ วัน และกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานภายใน ๔๕ วัน ๑๐. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติฯ เป็นรายมาตรา จำนวน ๗ ครั้ง พร้อมจัดทำรายงานและนำเสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ เป็นพิเศษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ โดยที่ประชุมฯ เห็นสมควรประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. .... เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย ๑๗๐ เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง ๓ เสียง ไม่ลงคะแนน ๒ เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ๒. การกำหนดผู้รับผิดชอบในการจัดทำประมวลจริยธรรม ๓. การกำหนดให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม (ก.ม.จ.) ๔ หน้าที่และอำนาจของ
ก.ม.จ. มาตรา ๑๔ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำประมวลจริยธรรมและข้อกำหนดจริยธรรมตามมาตรา ๖ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมและเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามมาตรา ๑๓ ให้ ก.ม.จ.
มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์เป็นระเบียบ คู่มือ หรือแนวทางปฏิบัติเพื่อให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคล องค์กรตามมาตรา ๖ วรรคสอง และหน่วยงานของรัฐ ใช้เป็นหลักเกณฑ์สำหรับการจัดทำประมวลจริยธรรมและข้อกำหนดจริยธรรม รวมทั้งการกำหนดกระบวนการรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการนี้ ให้ ก.ม.จ. มีหน้าที่ให้คำแนะนำแก่องค์กรกลางบริหารงานบุคคล องค์กรตามมาตรา ๖ วรรคสอง และหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ๕.
การรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐและนำจริยธรรมไปใช้ในกระบวนการบริหารงานบุคคล ๖. การกำหนดระยะเวลาการจัดทำประมวลจริยธรรมและการรับรองผลใช้บังคับประมวลจริยธรรมเดิม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง - การจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 - สรุปผลการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ - พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 |