ใบงาน การอยู่ร่วมกันในสังคม พหุ วัฒนธรรม

รายวิชา พ32101 สุขศึกษาและพลศึกษา 3   ชั้น  ม.5     (0.5 นก.)

ปฐมนิเทศ
(แนะนำตัว /โครงสร้างวิชา/วิธีเรียน/การวัดผล/ข้อตกลง ครูกับนักเรียน)

คลิปการบรรยาย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง การวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว (3 ชม.)

ก.แบบทดสอบก่อนเรียน  (หรือ ใช้ Google Form)

pdf

ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง การดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว

ใบความรู้ที่ 1.2 เรื่องประโยชน์ของการวางแผนและดูแลสุขภาพ

ใบงานที่ 1.2
เรื่อง ประโยชน์การวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว

ใบความรู้ที่ 1.3 เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพของตนเองในโรงเรียน

ใบงานที่ 1.3 เรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพของตนเองในโรงเรียน

ข.แบบทดสอบหลังเรียน  (หรือ ใช้ Google Form)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ค่านิยมเรื่องเพศตามวัฒนธรรม

แบบทดสอบก่อนเรียน  (หรือ ใช้ Google Form)

Word

ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง สังคมพหุวัฒนธรรม

Word

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ข้อดี ข้อเสียของสังคมพหุวัฒนธรรม 

Word

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ 1.2 เรื่อง ค่านิยมในเรื่องเพศพร้อมตอบคำถาม

Word

 ใบงานที่ 1.3 เรื่องการอยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรมและตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์
ของนักเรียนในการอยู่ร่วมกัน

Word

 แบบทดสอบหลังเรียน 

(Google Form) 

ในขณะที่กลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐ เพื่อแยกตัวเป็นอิสระในการปกครองกันเองในพื้นที่ปลาย ด้ามขวานที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม BRN นั้น ใช้ต่อสู้กับรัฐในระดับยุทธศาสตร์เป็นสำคัญ โดยแกนนำนักคิดของขบวนการยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เดินสองขาอย่างเข้มแข็งด้วยการส่งต่อแนวคิด แปลกแยกแตกต่างกับรัฐในทุกรูปแบบให้เกิดกับคนรุ่นใหม่ในทุกเวทีที่เป็นไปได้ พร้อมทั้งการคงหล่อเลี้ยงความคิดต่างจนถึงขั้นเกลียดชังรัฐอย่างสุดโต่งต่อไปทั้งในชุมชนและขยายวงกว้างออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ของรัฐอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการต่อสู้ในขาที่หนึ่งนั่นคือการต่อสู้ทางการเมือง หรือการต่อสู้ทางความคิดที่จำเป็นต้องสร้างกลุ่มคนให้เป็นแนวร่วมการต่อสู้ทางความคิดในทุกรูปแบบกับรัฐ อย่างเข้มข้น ในขณะที่ยุทธศาสตร์การต่อสู้ด้วยอาวุธและความรุนแรงก็ยังคงเข้มข้นในทุกโอกาสที่อำนวยอันเป็นขาอีกข้างหนึ่งที่ยังคงเดินคู่ขนานกับการสั่งสมบ่มเพาะหล่อเลี้ยงความคิดต่างจากรัฐอยู่อย่างประสานสอดรับกันระหว่างการบ่มเพาะและหล่อเลี้ยงความเห็นต่างกับการต่อสู้ด้วยความรุนแรงอย่างลงตัว

ในขณะที่กลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐในพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้กำลังให้ความสำคัญไปกับการขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าวอย่างเข้มข้นทั้งการต่อเติมและหล่อหลอมความคิดแปลกแยกจากรัฐควบคู่กับการใช้การต่อสู้ด้วยอาวุธ สร้างสถานการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบตามแต่โอกาสจะอำนวย ด้วยการใช้สิ่งของเครื่องใช้ที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันที่รัฐป้องกันได้ยาก อาทิ ถังแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ยานพาหนะ หรือสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ ในการประกอบอาวุธทำลายล้างเป้าหมายของรัฐได้ หรือแม้กระทั่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ลอบโจมตีและช่วงชิงไปจากเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายต่างๆ และนำมาใช้ ก่อเหตุร้ายต่อเป้าหมายที่เลือกแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า เหล่านี้คือยุทธศาสตร์การต่อสู้ด้วยอาวุธที่นักคิดแกนนำขบวนการสามารถฉกฉวยมาใช้ในการต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายของขบวนการแห่งนี้ นั่นคืออิสระการปกครองกันเองของคนในพื้นที่ในรูปแบบหรือวิถีที่กลุ่มตนต้องการ โดยแกนนำขบวนการระดับนักคิดได้ผลิตชุดความรู้หรือชุดความคิดเพื่อต่อสู้ทางความคิดในทุกเวทีที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวทีพูดคุยสันติสุขหรือเจรจาสันติภาพในระดับตัวแทนของรัฐ หรือจะเป็นเวทีสาธารณะทั่วไป ทั้งในระดับพื้นที่และระดับนานาชาติอย่างเป็นระบบ โดยที่ชุดความรู้หรือชุดความคิดเหล่านั้นของขบวนการแห่งนี้ได้ถูกสรรค์สร้างมาจากนักคิดระดับนำของขบวนการเพื่อสร้างวาทะกรรมผ่านความคิดความเชื่อ ทางศาสนาที่ถูกเสริมแต่งให้เกิดความศรัทธา อันจะส่งผลให้ชุดความคิดความเชื่อเหล่านั้นมีน้ำหนักและเต็มไปด้วยตรรกะน่าเชื่อถือต่อกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

วาทะกรรมชุดความคิดข้างต้นถูกส่งผ่านสู่สาธารณะครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการเสริมแต่งคำสอนทางศาสนาอย่างแนบเนียน อาทิที่อ้างในอัลกุรอาน กล่าวไว้ว่า จงร่วมกันสนับสนุนเถิดในสิ่งที่เป็นความดีงามทั้งหลาย ซึ่งวาทะกรรมข้างต้นนี้ ได้ชี้ชัดถึงความดีงามที่ขบวนการกำลังเรียกร้องการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ในที่นี้ว่าคือการต่อสู้เพื่อเอกราช วาทะกรรมดังกล่าวก็ได้สร้างความเห็นต่างจากรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านชุมชนเป็นวงกว้าง อันเป็นการสร้างสภาวะแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับการบ่มเพาะชุดความเห็นต่างให้กับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาทุกระดับ และแน่นอนว่า ขบวนการร้ายแห่งนี้ได้ดำเนินยุทธศาสตร์การต่อสู้ด้วยอาวุธ ด้วยอาวุธของรัฐละสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่รัฐไม่สามารถป้องกันได้โดยง่าย พร้อมๆ กับการต่อสู้ระดับยุทธศาสตร์ทางการเมืองระดับชาติทั้งการมุ่งให้มีการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่และการตัดลดงบประมาณในหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นอุปสรรคของเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ขบวนการนี้ไปพร้อมๆ กัน อันเป็นยุทธศาสตร์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนแห่งนี้ที่ทรงพลังยิ่ง

ดังนั้น รัฐไทยควรตระหนักรู้ในการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ของขบวนการแห่งนี้ และเร่งสู้กลับเชิงยุทธศาสตร์ต่อขบวนการแห่งนี้มากกว่าการต่อสู้ระดับยุทธวิธีหรือระดับปฏิบัติการซึ่งไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ได้ ด้วยการเร่งสกัดกั้นการบ่มเพาะแนวคิดแปลกแยกในสถานศึกษาทุกประเภทและทุกระดับอย่างจริงจังเชิงยุทธศาสตร์ สลายโครงสร้างการหล่อเลี้ยงแนวคิดสุดโต่งในชุมชนและพื้นที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการเร่งผลิตชุดความรู้ความคิดของฝ่ายรัฐให้เข้มแข็งควบคู่กับการจัดนักต่อสู้ทางความคิดกับขบวนการที่เป็นมืออาชีพ ทัดเทียมกับนักต่อสู้ทางความคิดของขบวนการแห่งนี้โดยเร็ว รวมทั้งใช้การต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาของรัฐเพื่อนำสังคมพหุวัฒนธรรมมาใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยจะคืนสภาพการมาเรียนรู้ร่วมกันของเด็กและเยาวชนต่างศาสนามาใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่ในวัยเด็กให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง

ควบคู่กับการต่อสู้ด้วยอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐ ด้วยการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันเชิงรุกอย่างจริงจัง อาทิ การควบคุมการจำหน่ายแก๊สหุงต้มและการให้ใช้ถังแก๊สหุงต้มแบบพลาสติกเท่านั้น  การควบคุมสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันทุกประเภทที่สามารถนำไปใช้ประกอบเป็นอาวุธในการ ก่อเหตุร้ายได้อย่างเข้มงวด รวมทั้งการใช้มาตรการพิเศษเฉพาะพื้นที่ด้วยกฎหมายพิเศษเพื่อคงความคล่องตัวในการต่อสู้ด้วยอาวุธกับขบวนการในระดับยุทธศาสตร์ และมุ่งเอาชนะกองกำลังติดอาวุธของขบวนการนี้ด้วยยุทธศาสตร์เอาชนะที่หมู่บ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การต่อสู้กับขบวนการแห่งนี้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทัดเทียมกับฝ่ายขบวนการ ที่ใช้การต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์กับรัฐอย่างเข้มข้น เพราะการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ต้องใช้การสู้กลับเชิงยุทธศาสตร์ จึงจะสามารถต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแท้จริง