Show สวัสดีครับเพื่อนๆหลังจากที่เราได้ทำการแชร์ งานซ่อมในแบบทั้งงาน CM และงาน PM ในบทความที่ผ่านมา วันนี้เราจะมาเล่าถึงงานซ่อมอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญมากๆ และเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมนั้นคืองาน “PdM” หรือ Predictive Maintenance ครับ กลับไปอ่านบทความได้ที่นี้นะครับ พอจะสรุปได้ว่า งาน CM คือการที่เครื่องจักรเกิดความผิดปกติแล้วเข้าไปทำการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ปกติเหมือนเดิม และงาน PM คือการวางแผนให้เหมาะสม เพื่อที่จะกำหนดเวลาที่เหมาะสมเข้าไปทำการบำรุงรักษาก่อนที่เครื่องจักรเราจะพังครับ ซึ่งทั้งในสองงานทั้งงาน CM และงาน PM ในการกำหนดแผนกลยุทธ์ จะถือเป็นงานในแง่ของศาสตร์และศิลป์ ที่จะสร้างความสมดุลระหว่างงานทั้งสองงานในแง่ของต้นทุน และอายุของเครื่องจักรครับ – ซึ่งถ้างาน PM น้อยเกิดไปเครื่องจักรก็จะพังเสียหาย และส่งผลกระทบต่อโรงงานและการผลิต – แต่ถ้างาน PM เยอะเกินไปก็จะทำให้ต้นทุนในงานซ่อมบำรุงสูงเช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาดูงานซ่อมที่ถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะนำพาโรงงานผลิตของเรา ก้าวเข้าไปสู่ในขั้นของ Proactive Maintenance ซึ่งกุญแจดอกนั้นคืองาน PdM หรือการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ PdM คืออะไร ?การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ หรือ งาน PdM (Predictive Maintenance) คือ การที่เข้าไปตรวจสอบ และบอกได้ว่าสุขภาพของเครื่องจักร ณ เวลานั้นเป็นยังไง และสามารถทำนายได้ว่า เครื่องจักรสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่? ซึ่งหากเกิดความผิดปกติ สามารถทำนายได้ว่า จะสามารถใช้งานได้อีกกี่เดือน เพื่อที่จะวางแผนซ่อมได้ทันก่อนที่เครื่องจักรจะพังเสียหาย และส่งกระทบต่อกระบวนการผลิตในโรงงานของเราครับ ยกตัวอย่างเช่น – การวัดความสั่นสะเทือนในเครื่องจักร (Vibration Monitoring) – เทคโนโลยี IOT (Internet Of Things) ที่ทำให้เครื่องจักรส่งข้อมูลต่างๆ ณ เวลานั้นมาให้ ในระบบ Network – การทำการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำมัน (Oil analysis) – การทำถ่ายภาพความร้อน (Thermo Scan) เป็นต้นครับ ซึ่งในการเลือกกำหนดแผน เวลา และเทคนิควิธีให้เหมาะสมกับเครื่องจักรกับเครื่องจักรในแต่ละประเภทนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ในการทำแผนงาน PdM ให้ดี และมีประสิทธิภาพนะครับ ประโยชน์ในการทำ Predictive Maintenanceเมื่อเราทำการวางแผน Predictive Maintenance ได้ดีและมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้ – ลดค่าใช้จ่ายในการทำการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอย่างมีนัยสำคัญ – ลดระยะเวลาในการซ่อมเครื่องจักรในแต่ละตัว เนื่องจากการพังเสียหายจะไม่เกิดขึ้นมาก – ลดระยะเวลาการต้องหยุดการผลิตในโรงงานเพื่อทำการซ่อมบำรุงใหญ่ – เพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร หรือ MTBF จากการเก็บประวัติโดยเฉลี่ยพบว่าแผน PdM ช่วยบริษัทหรือโรงงานในแง่ของ ROI (Return Of Investment) เพิ่มขึ้น 8-10 เท่า, ค่าใช้จ่ายในงานซ่อมบำรุง (Maintenance Cost) ลดลง 25-30%, ลดการเสียหายเครื่องจักรแบบกระทันหัน (Break down) ถึง 70-75%, และลด Down Time 35-40% แต่ในการทำให้แผน PdM ที่มีประสิทธิภาพ หลายๆวิธีการต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคงานวิศวกรรม รวมถึงเครื่องมือต่างๆ ซึ่งต้องการการลงทุนและสนับสนุนที่เพียงพอจากระดับบริหารด้วยนะครับ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเงินลงทุนจะต้องถูกนำมาพิจารณาร่วมกับผลประโยชน์ที่จะได้ในด้านต่างๆ และในแต่ละบริบทของโรงงานด้วยนะครับ การวัดประสิทธิผลของงาน Predictive Maintenanceในการใช้งาน หรือการกำหนดแผน Predictive Maintenance ในด้านระบบหลังบ้าน งาน PdM ก็ต้องการระบบ CMMS (Computerized Maintenance Managemt System) ที่มีประสิทธิภาพมากๆ กลับไปอ่านบทความ ความสำคัญของระบบ CMMS ในงานซ่อมบำรุง เนื่องจากผลการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคทางวิศวกรรมที่ออกมาในรูปของรายงาน รวมถึงสภาพ และแผนงานซ่อม ก็จะต้องถูกเก็บไว้เป็นหลักฐานไว้ในระบบ CMMS กลาง เพื่อนำไปวิเคราะห์อายุการใช้งานเครื่องจักร, แผนการผลิตของโรงงาน และการกำหนดแผนในระดับองค์กรต่อไป หากเพื่อนๆกำลังมองหาระบบ CMMS ที่คุณภาพ มีมาตราฐานสากลระดับโลก ที่สำคัญใช้ฟรี ไม่ต้องโหลดโปรแกรม สามารถใช้ได้ในมือถือ ทั้งระบบ android และ iOS นายช่างมาแชร์ขอแนะนำโปรแกรม Factorium ระบบ CMMS ยุคใหม่ โปรแกรมซ่อมบำรุงบนสมาร์ทโฟน สำหรับโรงงานยุค 4.0 ครับผม ( www.factorium.tech/cmms/ ) โปรแกรม Factorium โปรแกรมบริหารและจัดการงานซ่อมบำรุงบนสมาร์ทโฟน สำหรับโรงงานยุค 4.0 ถ้าสนใจใช้งานซอฟแวร์สำหรับการบริหารและจัดการงานซ่อมบำรุงรักษาได้ฟรี สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งนี้เลยครับ >>>>> http://bit.ly/ArticleCMMS <<<<< ================================================================ แล้วพบกับสาระดีๆแบบนี้ทางด้านงานช่าง งานวิศวกรรม และอุตสาหกรรมได้ที่ Factorium แชร์ นะครับ Website: https://www.factorium.tech/ Cr. บทความจากนายช่างมาแชร์ |