เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย มีอะไรบ้าง

ดูวิธีควบคุมข้อมูลที่เรารวบรวม จัดเก็บ และแชร์เมื่อคุณใช้เบราว์เซอร์ Google Chrome ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่, ChromeOS และเมื่อคุณเปิดใช้ Google Safe Browsing ใน Chrome แม้ว่านโยบายนี้จะอธิบายถึงฟีเจอร์ที่มีไว้สำหรับ Chrome เท่านั้น แต่การใช้และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ Google ได้รับหรือจัดเก็บไว้ในบัญชี Google จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ นโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของ Google จะอธิบายวิธีและเหตุผลที่ Google เก็บรักษาข้อมูล

หากใช้แอป Google Play ใน Chromebook ได้ การใช้งานและการปกป้องข้อมูลที่รวบรวมโดย Google Play หรือระบบปฏิบัติการ Android จะอยู่ในบังคับของข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Play และนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google รายละเอียดที่เจาะจงสำหรับ Chrome มีอยู่ในประกาศฉบับนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียดของประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

ในประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว เราจะใช้คำว่า "Chrome" แทนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในตระกูล Chrome ที่แสดงไว้ทางด้านบน ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีนโยบายที่แตกต่างกัน เราจะระบุข้อแตกต่างนั้นให้ทราบ เราเปลี่ยนแปลงประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว

เวอร์ชัน "เบต้า" "กำลังพัฒนา" หรือ "Canary" ของ Chrome จะช่วยให้คุณทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นใน Chrome ได้ ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะใช้กับ Chrome ทุกเวอร์ชัน แต่อาจยังไม่มีข้อมูลล่าสุดสำหรับฟีเจอร์ที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา

หากต้องการดูคำแนะนำทีละขั้นตอนในการจัดการค่ากำหนดความเป็นส่วนตัว โปรดอ่านภาพรวมการควบคุมความเป็นส่วนตัวของ Chrome

สารบัญ

โหมดต่างๆ ของเบราว์เซอร์

คุณไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้งาน Chrome แต่ Chrome มีโหมดต่างๆ ที่คุณใช้ในการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประสบการณ์การท่องเว็บได้ หลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับโหมดที่คุณใช้อยู่

โหมดพื้นฐานของเบราว์เซอร์

โหมดพื้นฐานของเบราว์เซอร์จะจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

  • ข้อมูลประวัติการท่องเว็บ เช่น Chrome จะจัดเก็บ URL ของหน้าเว็บที่คุณเข้าชม แคชของข้อความ รูปภาพ และทรัพยากรอื่นๆ จากหน้าเว็บเหล่านั้น และในกรณีที่ฟีเจอร์การคาดคะเนการทำงานของเครือข่ายเปิดอยู่ จะมีการจัดเก็บรายการที่อยู่ IP บางส่วนที่ลิงก์จากหน้าเว็บเหล่านั้นด้วย

  • ข้อมูลส่วนบุคคลและรหัสผ่าน เพื่อช่วยคุณในการกรอกฟอร์มหรือลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ที่คุณเข้าชม

  • รายการสิทธิ์ที่คุณให้แก่เว็บไซต์

  • คุกกี้หรือข้อมูลจากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม

  • ข้อมูลที่บันทึกไว้โดยส่วนเสริม

  • บันทึกรายการที่คุณดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่างๆ

คุณจัดการข้อมูลนี้ได้หลายวิธี เช่น

Chrome จะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้ไปยัง Google เว้นแต่ว่าคุณเลือกที่จะจัดเก็บข้อมูลนั้นในบัญชี Google ด้วยการเปิดการซิงค์ หรือเลือกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือบัตรสำหรับชำระเงินและข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการจัดเก็บในบัญชี Google ในกรณีของรหัสผ่าน บัตรสำหรับชำระเงิน และข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงิน ดูข้อมูลเพิ่มเติม

วิธีการที่ Chrome จัดการกับข้อมูลของคุณ

ข้อมูลสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่คุณเข้าชมโดยใช้ Chrome จะได้รับข้อมูลบันทึกมาตรฐานโดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP ของระบบและข้อมูลจากคุกกี้ อันที่จริงแล้วโดยทั่วไปการที่คุณใช้ Chrome เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google เช่น Gmail จะไม่ทำให้ Google ได้รับข้อมูลอื่นๆ ที่ระบุตัวตนของคุณได้ ทั้งนี้หาก Chrome ตรวจพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังถูกใครบางคนโจมตีอยู่ในเครือข่าย ("การโจมตีโดยบุคคลที่อยู่ระหว่างกลาง") ในเว็บไซต์ของ Google และเว็บไซต์อื่นๆ ที่เลือกใช้บริการ Chrome อาจส่งข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อไปให้ Google หรือเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเพื่อช่วยระบุขอบเขตของการโจมตีและวิธีการโจมตีเหล่านั้น Google จะให้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์แก่เจ้าของเว็บไซต์ที่เลือกเข้าร่วม

การโหลดล่วงหน้า คุณจะท่องเว็บและค้นหาได้เร็วขึ้นเมื่อ Chrome โหลดหน้าเว็บที่คิดว่าคุณอาจจะเข้าชมไว้ล่วงหน้า การโหลดล่วงหน้าอาจเริ่มทำงานโดยเว็บไซต์, แอป Android หรือ Chrome เอง (เช่น จากแถบอเนกประสงค์) คุณปิดใช้ฟีเจอร์นี้ได้ผ่านการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Chrome หากมีการขอโหลดล่วงหน้า เว็บไซต์ที่โหลดล่วงหน้าอาจได้รับอนุญาตให้ตั้งค่าและอ่านคุกกี้ของตัวเองเหมือนกับว่าคุณเพิ่งเข้าชม แม้ว่าสุดท้ายคุณจะไม่ได้ไปยังหน้าที่โหลดล่วงหน้านั้นก็ตาม ในบางกรณี การโหลดล่วงหน้าจะทำในลักษณะที่รักษาความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะไม่มีการส่งคุกกี้ตามคำขอและจะตั้งค่าคุกกี้ได้ต่อเมื่อผู้ใช้ไปยังหน้าที่โหลดล่วงหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ หน้าเว็บจะโหลดล่วงหน้าผ่านพร็อกซีเพื่อมาสก์ที่อยู่ IP ของผู้ใช้ หน้าเว็บที่โหลดผ่านพร็อกซีจะได้รับการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางระหว่าง Chrome กับเว็บไซต์ที่โหลดล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พร็อกซีเห็นเนื้อหาในหน้าเว็บ ข้อมูลที่พร็อกซีได้รับจะใช้เพื่อช่วยในการโหลดล่วงหน้าแบบรักษาความเป็นส่วนตัว และไม่ลิงก์กับข้อมูลอื่นจากบัญชี Google ของคุณ การโหลดล่วงหน้าแบบรักษาความเป็นส่วนตัวไม่ทำงานในโหมดไม่ระบุตัวตน ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตำแหน่ง หากต้องการได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามตำแหน่งที่คุณอยู่มากขึ้น Chrome มีตัวเลือกให้คุณแชร์ตำแหน่งของคุณกับเว็บไซต์ ซึ่ง Chrome จะไม่อนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงตำแหน่งของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะใช้บริการตำแหน่งของ Google เพื่อประมาณตำแหน่งของคุณ สิ่งที่ Chrome ส่งไปยังบริการตำแหน่งของ Google อาจรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้

  • เราเตอร์ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด
  • รหัสของเสาสัญญาณโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด
  • ความแรงของ Wi-Fi หรือสัญญาณมือถือ
  • ที่อยู่ IP ที่ถูกกำหนดให้กับอุปกรณ์ของคุณในปัจจุบัน

Google ควบคุมเว็บไซต์หรือหลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามไม่ได้ โปรดใช้ความระมัดระวังในการแชร์ตำแหน่งของคุณกับเว็บไซต์ใดๆ

ข้อมูลอัปเดต Chrome จะส่งข้อมูลไปยัง Google เป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบข้อมูลอัปเดต สถานะการเชื่อมต่อ เวลาปัจจุบัน และประเมินจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่

ฟีเจอร์การค้นหา หากคุณลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ของ Google และใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การค้นหาที่คุณทำโดยใช้แถบอเนกประสงค์หรือช่องค้นหาในหน้าแท็บใหม่ใน Chrome จะจัดเก็บไว้ในบัญชี Google ของคุณ

บริการคาดคะเนการค้นหา ในการช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น Chrome จะใช้บริการคาดคะเนของเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นเพื่อเติมข้อความที่น่าจะเป็นไปได้ขณะที่คุณพิมพ์ เมื่อคุณค้นหาโดยใช้แถบอเนกประสงค์หรือช่องค้นหาในหน้าแท็บใหม่ใน Chrome ระบบจะส่งอักขระที่คุณพิมพ์ (แม้ว่าจะยังไม่ได้กด "enter") ไปยังเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น หาก Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การคาดคะเนจะอิงตามประวัติการค้นหาของคุณเอง หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังพิมพ์ในแถบอเนกประสงค์หรือช่องค้นหาในหน้าแท็บใหม่ รวมถึงสิ่งที่คนอื่นๆ กำลังค้นหา ดูข้อมูลเพิ่มเติม การคาดคะเนยังอาจอิงตามประวัติการท่องเว็บของคุณด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ความช่วยเหลือในการนำทาง เมื่อเชื่อมต่อหน้าเว็บไม่ได้ คุณจะได้รับคำแนะนำให้ไปยังหน้าอื่นที่คล้ายกับหน้าที่ต้องการเปิด ในการให้คำแนะนำ Chrome จะส่ง URL ของหน้าเว็บที่คุณพยายามเข้าชมให้กับ Google

การป้อนข้อความอัตโนมัติ การจัดการรหัสผ่าน และการชำระเงิน Chrome จะส่งข้อมูลที่จำกัดและมีการลบข้อมูลระบุตัวบุคคลเกี่ยวกับแบบฟอร์มบนเว็บที่คุณพบหรือส่งขณะที่มีการเปิดใช้การป้อนข้อความอัตโนมัติหรือการจัดการรหัสผ่านให้กับ Google ซึ่งรวมถึง URL ที่ผ่านการแฮชของหน้าเว็บและรายละเอียดของโครงสร้างแบบฟอร์ม เพื่อปรับปรุงบริการป้อนข้อความอัตโนมัติและการจัดการรหัสผ่านของ Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ Chrome ด้วยบัญชี Google, Chrome อาจเสนอที่จะบันทึกรหัสผ่าน วิธีการชำระเงิน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องลงในบัญชี Google นั้น รวมถึงอาจเสนอตัวเลือกในการกรอกรหัสผ่านและวิธีการชำระเงินจากบัญชี Google ลงในแบบฟอร์มบนเว็บด้วย หากคุณบันทึกรหัสผ่านหรือวิธีการชำระเงินไว้กับเบราว์เซอร์ Chrome ในเครื่อง Chrome อาจแสดงข้อความแจ้งให้คุณบันทึกข้อมูลดังกล่าวลงในบัญชี Google หากคุณใช้วิธีการชำระเงินจากบัญชี Google หรือเลือกที่จะบันทึกวิธีการชำระเงินลงในบัญชี Google ไว้ใช้ในอนาคต Chrome จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณและแชร์กับ Google Pay เพื่อปกป้องคุณจากการฉ้อโกง และเพื่อให้บริการ และ Chrome จะอนุญาตให้คุณชำระเงินโดยใช้ Google Pay ด้วยหากผู้ขายรองรับ

ภาษา Chrome จะเก็บบันทึกข้อมูลภาษาซึ่งเป็นที่นิยมสูงสุดของเว็บไซต์ต่างๆ ที่คุณเข้าชมเพื่อปรับแต่งประสบการณ์การท่องเว็บตามภาษาที่คุณต้องการอ่าน ค่ากำหนดภาษานี้จะส่งไปยัง Google เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ของคุณใน Chrome หากคุณเปิดการซิงค์ของ Chrome โปรไฟล์ภาษานี้จะเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ และหากคุณรวมประวัติการเข้าชมใน Chrome ไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอปของ Google ก็อาจมีการใช้โปรไฟล์ภาษาดังกล่าวเพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ให้เหมาะกับคุณ ดูส่วนควบคุมกิจกรรม

เว็บแอปใน Android ในอุปกรณ์ Android หากคุณเลือก "เพิ่มไปยังหน้าจอหลัก" สำหรับเว็บไซต์ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานได้รวดเร็วและเชื่อถือได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ Chrome จะใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Google ในการสร้างแพ็กเกจ Android แบบดั้งเดิมสำหรับเว็บไซต์นั้นในอุปกรณ์ของคุณ แพ็กเกจ Android ช่วยให้คุณโต้ตอบกับเว็บแอปในลักษณะเดียวกับที่คุณทำในแอป Android ได้ เช่น เว็บแอปจะปรากฏในรายการแอปที่ติดตั้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติม

สถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้อง โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะส่งสถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้องไปยัง Google เพื่อช่วยเราปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น สถิติการใช้งานจะมีข้อมูลอย่างเช่น ค่ากำหนด การคลิกปุ่ม สถิติประสิทธิภาพ และการใช้หน่วยความจำ โดยทั่วไปแล้ว สถิติการใช้งานไม่มี URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล แต่หากคุณเปิด "ปรับปรุงการค้นหาและการท่องเว็บให้ดียิ่งขึ้น / ส่ง URL ของหน้าที่คุณเข้าชมไปยัง Google" สถิติการใช้งาน Chrome ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บที่คุณเข้าชมและการใช้งานหน้าเว็บนั้นด้วย หากคุณเปิดใช้การซิงค์ของ Chrome ไว้ Chrome อาจรวมข้อมูลอายุและเพศที่คุณแจ้งไว้ในบัญชี Google เข้ากับสถิติของเราเพื่อช่วยในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับข้อมูลประชากรทั้งหมด ตัวอย่างเช่น เราอาจเก็บสถิติเพื่อระบุหน้าเว็บที่โหลดช้า เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และเพื่อให้นักพัฒนาเว็บมีข้อมูลเชิงลึกในการปรับปรุงหน้าเว็บ ส่วนรายงานข้อขัดข้องนั้นจะประกอบด้วยข้อมูลระบบในเวลาที่เกิดข้อขัดข้อง และอาจประกอบด้วย URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่มีการเริ่มการรายงานข้อขัดข้อง เราอาจแชร์ข้อมูลโดยสรุปที่ระบุตัวบุคคลนั้นไม่ได้ต่อสาธารณะและกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่น ผู้เผยแพร่โฆษณา ผู้ลงโฆษณา หรือนักพัฒนาเว็บ คุณเปลี่ยนว่าจะให้ระบบส่งสถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้องไปยัง Google หรือไม่ได้ทุกเมื่อ ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากใช้แอปจาก Google Play ใน Chromebook ได้และมีการเปิดใช้สถิติการใช้งาน Chrome ระบบจะส่งข้อมูลการวินิจฉัยและการใช้งานของ Android ไปยัง Google ด้วย

ใบอนุญาตสื่อ เว็บไซต์บางแห่งเข้ารหัสลับสื่อเพื่อป้องกันการเข้าถึงและการคัดลอกที่ไม่ได้รับอนุญาต สำหรับเว็บไซต์ HTML5 การแลกเปลี่ยนคีย์นี้ดำเนินการโดยใช้ Encrypted Media Extensions API ในขั้นตอนการอนุญาตให้เข้าถึงสื่อนี้ ระบบอาจเก็บตัวระบุเซสชันและใบอนุญาตไว้ในเครื่อง ผู้ใช้จะล้างตัวระบุเหล่านี้ใน Chrome ได้ด้วยการล้างข้อมูลการท่องเว็บโดยเลือก "คุกกี้และข้อมูลอื่นของเว็บไซต์" สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ Adobe Flash Access เบราว์เซอร์ Chrome จะมอบตัวระบุที่ไม่ซ้ำแก่พาร์ทเนอร์เนื้อหาและเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งจะได้รับการจัดเก็บไว้ในระบบของคุณ คุณปฏิเสธการเข้าถึงนี้ได้ในการตั้งค่าในส่วนการตั้งค่าเนื้อหา เนื้อหาที่มีการป้องกัน แล้วรีเซ็ตรหัสด้วยการล้างข้อมูลการท่องเว็บโดยเลือก "คุกกี้และข้อมูลอื่นของเว็บไซต์" หากคุณเข้าถึงเนื้อหาที่มีการป้องกันใน Chrome บน Android หรือเข้าถึงเนื้อหาคุณภาพสูงขึ้นหรือเนื้อหาแบบออฟไลน์ใน ChromeOS ผู้ให้บริการเนื้อหาอาจขอใบรับรองจาก Chrome เพื่อยืนยันการมีสิทธิ์ของอุปกรณ์ อุปกรณ์จะแชร์ตัวระบุเฉพาะเว็บไซต์กับเว็บไซต์เพื่อรับรองว่าคีย์การเข้ารหัสของเว็บไซต์ได้รับการคุ้มครองโดยฮาร์ดแวร์ Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม

บริการอื่นๆ ของ Google ประกาศนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ ของ Google ที่ได้รับการเปิดใช้ใน Chrome โดยค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ Chrome ยังอาจเสนอบริการบนเว็บอื่นๆ ของ Google อีกด้วย เช่น หากคุณพบหน้าเว็บในภาษาอื่น Chrome จะเสนอการส่งข้อความให้ Google เพื่อทำการแปลภาษา คุณจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ ในการควบคุมบริการเหล่านี้เมื่อใช้งานเป็นครั้งแรก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในรายงานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของ Chrome

ตัวระบุใน Chrome

Chrome รวมตัวระบุที่ซ้ำและไม่ซ้ำกันจำนวนหนึ่งที่จำเป็นต่อการใช้ฟีเจอร์และบริการสำหรับฟังก์ชันการทำงาน เช่น หากคุณใช้การรับส่งข้อความพุช จะมีการสร้างตัวระบุขึ้นเพื่อส่งการแจ้งข้อมูลถึงคุณ เราจะใช้ตัวระบุที่ระบุตัวตนไม่ได้และนำตัวระบุออกเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไปหากสามารถทำได้ นอกจากนี้ ตัวระบุต่อไปนี้ยังช่วยเราในการพัฒนา แจกจ่าย และโปรโมต Chrome โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ของ Chrome โดยตรง

  • การติดตามการติดตั้ง เบราว์เซอร์ Chrome แต่ละสำเนาในเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ Windows จะมีหมายเลขการติดตั้งชั่วคราวที่สร้างขึ้นแบบสุ่มซึ่งจะถูกส่งมายัง Google เมื่อคุณติดตั้งและใช้ Chrome เป็นครั้งแรก ตัวระบุชั่วคราวนี้จะช่วยให้เราประเมินจำนวนเบราว์เซอร์ที่ได้รับการติดตั้ง และระบบจะลบออกเมื่อมีการอัปเดต Chrome เป็นครั้งแรก Chrome เวอร์ชันอุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้ตัวระบุอุปกรณ์รูปแบบอื่นในแบบต่อเนื่องเพื่อติดตามจำนวนการติดตั้ง Chrome

  • การติดตามโปรโมชัน เพื่อช่วยให้เราติดตามความสำเร็จของแคมเปญโปรโมชันได้ Chrome จะสร้างโทเค็นที่ไม่ซ้ำกันซึ่งจะส่งมายัง Google เมื่อคุณเปิดและใช้งานเบราว์เซอร์เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณได้รับหรือเปิดใช้งานสำเนาของเบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปอีกครั้งในฐานะส่วนหนึ่งของแคมเปญโปรโมชันและมี Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การค้นหาจากแถบอเนกประสงค์จะมีแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้อยู่ด้วย นอกจากนี้ เบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทุกเวอร์ชันยังรวมแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้ไว้ในการค้นหาจากแถบอเนกประสงค์ ChromeOS ยังอาจส่งแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้มายัง Google เป็นระยะๆ (รวมถึงระหว่างการตั้งค่าครั้งแรก) และเมื่อทำการค้นหาด้วย Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • การทดลองใช้งานจริง บางครั้งเราจะดำเนินการทดสอบแบบจำกัดกับฟีเจอร์ใหม่ๆ โดย Chrome จะรวมตัวเลขค่าข้อมูลที่ได้รับเลือกแบบสุ่มในการเรียกใช้ครั้งแรกเพื่อกำหนดเบราว์เซอร์ให้กับกลุ่มทดสอบ การทดสอบยังอาจมีข้อจำกัดตามประเทศ (ระบุโดยที่อยู่ IP), ระบบปฏิบัติการ, เวอร์ชัน Chrome และพารามิเตอร์อื่นๆ รายการการทดลองใช้งานจริงที่ดำเนินการอยู่ในการติดตั้ง Chrome จะรวมไว้ในคำขอทั้งหมดที่ส่งให้กับ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ลงชื่อเข้าใช้และซิงค์โหมดของ Chrome

นอกจากนี้ คุณยังเลือกใช้เบราว์เซอร์ Chrome ได้ขณะลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อยู่ โดยจะเปิดหรือไม่เปิดการซิงค์ก็ได้

ลงชื่อเข้าใช้ ใน Chrome รุ่นเดสก์ท็อป การลงชื่อเข้าใช้หรือออกจากระบบบริการในเว็บของ Google เช่น google.com จะเป็นการลงชื่อเข้าใช้หรือออกจากระบบ Chrome ด้วย คุณปิดการดำเนินการนี้ได้ในการตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติม ใน Chrome สำหรับ Android และ iOS เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้บริการในเว็บของ Google, Chrome อาจเสนอที่จะลงชื่อเข้าใช้ให้คุณด้วยบัญชี Google ที่ลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์นั้นอยู่แล้ว คุณปิดการดำเนินการนี้ได้ในการตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากคุณลงชื่อเข้าใช้ Chrome ด้วยบัญชี Google, Chrome อาจเสนอที่จะบันทึกรหัสผ่าน วิธีการชำระเงิน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องลงในบัญชี Google นั้น จะมีการใช้และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

การซิงค์ เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์ Chrome หรือ Chromebook และเปิดการซิงค์กับบัญชี Google ระบบจะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ในบัญชี Google ในเซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อให้คุณเข้าถึงได้เมื่อลงชื่อเข้าใช้และซิงค์กับ Chrome ในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ เราจะใช้และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google ข้อมูลประเภทนี้อาจประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้

  • ประวัติการท่องเว็บ
  • บุ๊กมาร์ก
  • แท็บ
  • ข้อมูลรหัสผ่านและการป้อนข้อความอัตโนมัติ
  • การตั้งค่าอื่นๆ ของเบราว์เซอร์ เช่น ส่วนขยายที่ติดตั้ง

ระบบจะเปิดการซิงค์หากคุณเลือกไว้เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากต้องการปรับแต่งข้อมูลบางอย่างที่คุณเปิดการซิงค์ไว้ ให้ใช้เมนู "การตั้งค่า" ดูข้อมูลเพิ่มเติม คุณดูปริมาณข้อมูล Chrome ที่จัดเก็บในบัญชี Google ได้ที่ข้อมูล Chrome จากบัญชีของคุณ ในแดชบอร์ด คุณจะปิดการซิงค์และลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้ด้วย ยกเว้นบัญชี Google ที่สร้างผ่าน Family Link ดูข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับบัญชี Google ที่สร้างใน Family Link จะต้องมีการลงชื่อเข้าใช้เพื่อให้ฟีเจอร์การจัดการของผู้ปกครอง เช่น การจำกัดเว็บไซต์ ทำงาน แต่บุตรหลานที่มีบัญชี Family Link จะยังลบข้อมูลของตนและปิดการซิงค์ข้อมูลต่างๆ ได้เกือบทุกประเภท ดูข้อมูลเพิ่มเติม ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบัญชี Google ที่สร้างใน Family Link มีผลกับข้อมูลการซิงค์ของ Chrome ที่จัดเก็บในบัญชีเหล่านั้น

วิธีการที่ Chrome จัดการข้อมูลที่คุณซิงค์

เมื่อคุณเปิดการซิงค์กับบัญชี Google เราจะใช้ข้อมูลการท่องเว็บเพื่อปรับปรุงและปรับเปลี่ยนประสบการณ์ภายใน Chrome ในแบบของคุณ และคุณยังปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ในแบบของคุณได้ด้วยโดยอนุญาตให้เรารวมประวัติการเข้าชมใน Chrome ไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอปของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม

คุณเปลี่ยนการตั้งค่านี้ในหน้าประวัติบัญชีหรือจัดการข้อมูลส่วนตัวได้ทุกเมื่อ หากคุณไม่ใช้ข้อมูล Chrome เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน Google ภายนอก Chrome ในแบบของคุณ Google จะใช้ข้อมูล Chrome ของคุณหลังจากลบข้อมูลที่ระบุตัวตนได้และนำข้อมูลไปรวมกับข้อมูลจากผู้ใช้คนอื่นๆ แล้วเท่านั้น โดยจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ หากคุณต้องการใช้ระบบคลาวด์ของ Google เพื่อจัดเก็บและซิงค์ข้อมูล Chrome แต่ไม่ต้องการให้ Google เข้าถึงข้อมูล คุณจะเข้ารหัสลับข้อมูล Chrome ที่มีการซิงค์ด้วยรหัสผ่านการซิงค์ของคุณเองได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

โหมดไม่ระบุตัวตนและโหมดผู้มาเยือน

คุณจำกัดข้อมูลที่ Chrome จัดเก็บไว้ในระบบได้โดยใช้โหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน ในโหมดเหล่านี้ Chrome จะไม่จัดเก็บข้อมูลบางอย่าง เช่น

  • ข้อมูลประวัติการท่องเว็บเบื้องต้น เช่น URL, ข้อความของหน้าที่แคชไว้ หรือที่อยู่ IP ของหน้าที่ลิงก์จากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
  • ภาพรวมของหน้าเว็บที่คุณเข้าชม
  • ข้อมูลการดาวน์โหลดแม้ว่าไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดจะยังถูกจัดเก็บไว้ที่อื่นในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์

วิธีการที่ Chrome จัดการกับข้อมูลในโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน

คุกกี้ Chrome จะไม่แชร์คุกกี้ที่มีอยู่กับเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมในโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน เว็บไซต์อาจเก็บรวบรวมคุกกี้ใหม่ไว้ในระบบของคุณขณะที่คุณอยู่ในโหมดดังกล่าว ซึ่งจะมีการจัดเก็บและส่งข้อมูลจนกว่าคุณจะปิดหน้าต่างโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือนจนหมด

การเปลี่ยนการกำหนดค่าเบราว์เซอร์ เมื่อคุณเปลี่ยนการกำหนดค่าเบราว์เซอร์ เช่น การบุ๊กมาร์กหน้าเว็บหรือเปลี่ยนการตั้งค่า ข้อมูลนี้จะได้รับการบันทึกไว้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน

สิทธิ์ ระบบจะไม่บันทึกสิทธิ์ที่คุณให้ในโหมดไม่ระบุตัวตนลงในโปรไฟล์ที่มีอยู่

ข้อมูลโปรไฟล์ ในโหมดไม่ระบุตัวตน คุณยังคงต้องได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจากโปรไฟล์ที่มีอยู่ เช่น คำแนะนำตามประวัติการท่องเว็บและรหัสผ่านที่บันทึกไว้ขณะท่องเว็บ ในโหมดผู้มาเยือน คุณจะท่องเว็บได้โดยไม่เห็นข้อมูลจากโปรไฟล์ใดๆ ที่มีอยู่

การจัดการผู้ใช้ใน Chrome

การจัดการผู้ใช้สำหรับการใช้งาน Chrome แบบส่วนบุคคล

คุณตั้งค่า Chrome ในเวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณสำหรับผู้ใช้ที่แชร์อุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์กันได้ โปรดทราบว่าผู้ใช้ที่เข้าถึงอุปกรณ์ของคุณได้จะดูข้อมูลทั้งหมดในทุกโปรไฟล์ได้ หากต้องการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเห็นข้อมูลของคุณได้อย่างแท้จริง ให้ใช้บัญชีผู้ใช้ในตัวในระบบปฏิบัติการของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

การจัดการผู้ใช้ใน Chrome สำหรับองค์กร

เบราว์เซอร์ Chrome หรือ Chromebook บางเครื่องได้รับการจัดการโดยโรงเรียนหรือบริษัท ในกรณีนี้ ผู้ดูแลระบบจะบังคับใช้นโยบายในเบราว์เซอร์หรือ Chromebook ได้ Chrome จะติดต่อ Google เพื่อตรวจสอบนโยบายเหล่านี้เมื่อผู้ใช้เริ่มท่องเว็บครั้งแรก (ยกเว้นในโหมดผู้มาเยือน) และจะตรวจสอบการปรับปรุงนโยบายเป็นระยะๆ

ผู้ดูแลระบบตั้งค่านโยบายสำหรับการรายงานสถานะและกิจกรรมให้กับ Chrome ได้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ ChromeOS และยังเข้าถึง ติดตาม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่เข้าถึงได้จากอุปกรณ์ที่มีการจัดการด้วย

แนวทางการใช้งาน Google Safe Browsing

Google Chrome และเบราว์เซอร์ของบุคคลที่สามบางส่วน เช่น Mozilla Firefox และ Safari ของ Apple บางเวอร์ชันจะมีฟีเจอร์ Google Safe Browsing อยู่ เมื่อใช้ Google Safe Browsing จะมีการรับส่งข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่น่าสงสัยระหว่างเบราว์เซอร์ที่คุณใช้กับเซิร์ฟเวอร์ของ Google

วิธีการทำงานของ Google Safe Browsing

เบราว์เซอร์ของคุณจะติดต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นระยะเพื่อดาวน์โหลดรายการ "Google Safe Browsing" ล่าสุดที่มีข้อมูลเว็บไซต์มัลแวร์และฟิชชิงที่รู้จัก สำเนาล่าสุดของรายการจะถูกจัดเก็บไว้ภายในระบบของคุณ ทั้งนี้ Google ไม่ได้รวบรวมข้อมูลบัญชีใดๆ หรือข้อมูลที่ระบุตัวตนอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการติดต่อนี้ แต่จะได้รับข้อมูลบันทึกมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP และคุกกี้

จะมีการตรวจสอบแต่ละเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมกับรายการ Google Safe Browsing ในระบบของคุณ หากมีเว็บไซต์ที่ตรงกับรายการ เบราว์เซอร์ของคุณจะส่งสำเนาบางส่วนของ URL ของเว็บไซต์ซึ่งผ่านการแฮชมายัง Google เพื่อให้ Google ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปยังเบราว์เซอร์ของคุณได้ Google จะระบุ URL ที่แท้จริงจากข้อมูลนี้ไม่ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ฟีเจอร์ Google Safe Browsing ต่อไปนี้มีเฉพาะใน Chrome

  • หากคุณเปิดโหมดการปกป้องที่ดียิ่งขึ้นของ Google Safe Browsing อยู่ Chrome จะให้การปกป้องเพิ่มเติมและส่งข้อมูลไปยัง Google ตามที่อธิบายไว้ในการตั้งค่า Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม การปกป้องบางอย่างเหล่านี้อาจใช้งานเป็นฟีเจอร์แบบสแตนด์อโลนที่มีการควบคุมแยกต่างหากได้ด้วยหากเปิดใช้การปกป้องแบบมาตรฐานอยู่

  • หากคุณเปิด "ปรับปรุงการค้นหาและการท่องเว็บให้ดียิ่งขึ้น / ส่ง URL ของหน้าที่คุณเข้าชมไปยัง Google” และเปิดใช้ Google Safe Browsing อยู่ Chrome จะส่ง URL แบบเต็มของแต่ละเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมไปยัง Google เพื่อตัดสินว่าเว็บไซต์นั้นปลอดภัยหรือไม่ นอกจากนี้ หากคุณซิงค์ประวัติการท่องเว็บโดยไม่ใช้รหัสผ่านการซิงค์ ระบบจะเชื่อมโยง URL เหล่านี้กับบัญชี Google ของคุณชั่วคราวเพื่อให้การปกป้องที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ใช้ไม่ได้ในโหมดไม่ระบุตัวตนและโหมดผู้มาเยือน

  • Chrome บางเวอร์ชันจะมีเทคโนโลยี Google Safe Browsing ที่ระบุเว็บไซต์และประเภทไฟล์ที่อาจเป็นอันตรายซึ่ง Google ยังไม่รู้จักได้ นอกจากนี้ยังอาจมีการส่ง URL แบบเต็มของเว็บไซต์หรือไฟล์ที่อาจเป็นอันตรายมายัง Google เพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์หรือไฟล์มีอันตรายหรือไม่

  • Chrome ใช้เทคโนโลยี Google Safe Browsing ในการสแกนคอมพิวเตอร์เป็นระยะๆ เพื่อตรวจหาซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไม่ได้ หรือรบกวนการรักษาความปลอดภัยและการทำงานอย่างมีเสถียรภาพของเบราว์เซอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากตรวจพบซอฟต์แวร์ประเภทนี้ Chrome อาจเสนอตัวเลือกในการดาวน์โหลดเครื่องมือทำความสะอาด Chrome เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ออก

  • คุณเลือกที่จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยปรับปรุง Google Safe Browsing ได้เมื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ดูเหมือนว่าจะมีมัลแวร์หรือเมื่อ Chrome ตรวจพบซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ในคอมพิวเตอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • หากคุณใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่านของ Chrome บริการ Google Safe Browsing จะตรวจสอบกับ Google เมื่อคุณป้อนรหัสผ่านที่บันทึกไว้ในหน้าที่เข้าชมไม่บ่อยเพื่อปกป้องคุณจากการโจมตีด้วยวิธีฟิชชิง Chrome จะไม่ส่งรหัสผ่านของคุณไปให้ Google เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องนี้ Google Safe Browsing ยังปกป้องรหัสผ่านบัญชี Google ด้วย หากคุณป้อนรหัสผ่านในเว็บไซต์ที่อาจมีการฟิชชิง Chrome จะเตือนให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชี Google Chrome จะแจ้งด้วยว่าบัญชี Google ของคุณอาจถูกโจมตีด้วยวิธีฟิชชิงหากคุณซิงค์ประวัติการท่องเว็บ หรือลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และเลือกที่จะแจ้ง Google

  • Chrome จะเตือนคุณด้วยหากลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google โดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่อาจถูกเปิดเผยในการละเมิดข้อมูล เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ Chrome จะทำการตรวจสอบโดยส่งแฮชบางส่วนของชื่อผู้ใช้และข้อมูลอื่นเกี่ยวกับรหัสผ่านซึ่งเข้ารหัสไว้ไปยัง Google จากนั้น Google จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการละเมิดที่ทราบ Chrome ใช้รายการนี้ในการตัดสินว่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านนั้นถูกเปิดเผยหรือไม่ ขั้นตอนนี้ไม่ได้ทำให้ Google ทราบชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านของคุณ หรือทราบว่าทั้งสองอย่างนี้ถูกเปิดเผยหรือไม่ คุณปิดฟีเจอร์นี้ได้ในการตั้งค่า Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ใน Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปและ Android คุณเลือกที่จะปิดใช้ฟีเจอร์ Google Safe Browsing ในการตั้งค่า Chrome ได้เสมอ ส่วนใน Chrome เวอร์ชัน iOS นั้น Apple จะเป็นผู้ควบคุมเทคโนโลยี Safe Browsing ที่อุปกรณ์ของคุณใช้ และอาจส่งข้อมูลไปยังผู้ให้บริการ Safe Browsing ที่ไม่ใช่ Google

หลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป ส่วนขยาย ธีม บริการ และส่วนเสริมอื่นๆ

คุณใช้แอป ส่วนขยาย ธีม บริการ และส่วนเสริมอื่นๆ กับ Chrome รวมถึงรายการที่อาจได้รับการติดตั้งไว้ล่วงหน้าหรือรวมอยู่ใน Chrome ได้ ส่วนเสริมที่ได้รับการพัฒนาและให้บริการโดย Google จะสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้ และอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ส่วนเสริมที่พัฒนาและให้บริการโดยผู้อื่นเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างส่วนเสริมนั้น ซึ่งอาจมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แตกต่างกัน

การจัดการส่วนเสริม

ก่อนติดตั้งส่วนเสริม คุณควรตรวจสอบสิทธิ์ที่ขอ เนื่องจากส่วนเสริมอาจมีสิทธิ์ในการทำสิ่งต่างๆ เช่น

  • จัดเก็บ เข้าถึง และแชร์ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเครื่องหรือในบัญชี Google ไดรฟ์ของคุณ
  • ดูและเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
  • ใช้การแจ้งเตือนที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ Google

Chrome โต้ตอบกับส่วนเสริมได้หลายรูปแบบ

  • ตรวจหาอัปเดต
  • ดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดต
  • ส่งสัญญาณบอกสถานะการใช้งานส่วนเสริมไปยัง Google

ส่วนเสริมบางรายการอาจต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับการจัดการสิทธิ์ดิจิทัลหรือสำหรับการส่งข้อความพุช คุณปิดใช้ตัวระบุได้โดยการนำส่วนเสริมออกจาก Chrome

ในบางครั้ง Google อาจพบส่วนเสริมที่มีภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ละเมิดข้อกำหนดสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Chrome เว็บสโตร์ หรือข้อตกลงทางกฎหมาย กฎหมาย ข้อบังคับ ตลอดจนนโยบายอื่นๆ Chrome จะดาวน์โหลดรายการส่วนเสริมที่เป็นอันตรายเหล่านี้เป็นระยะๆ เพื่อปิดใช้หรือนำออกจากระบบของคุณจากระยะไกล

ข้อมูลส่วนบุคคลในบันทึกของเซิร์ฟเวอร์

เช่นเดียวกับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ของเราจะบันทึกคำขอหน้าเว็บของผู้ใช้ในขณะเยี่ยมชมเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปแล้ว "บันทึกของเซิร์ฟเวอร์" จะมีข้อมูลคำขอเว็บไซต์, ที่อยู่ Internet Protocol, ประเภทเบราว์เซอร์, ภาษาของเบราว์เซอร์, วันที่และเวลาของคำขอ รวมถึงคุกกี้อย่างน้อย 1 รายการที่อาจระบุเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ได้

นี่คือตัวอย่างรายการบันทึกทั่วไปสำหรับข้อความค้นหาคำว่า "cars" ซึ่งจะมีลักษณะแบบนี้ โดยมีส่วนประกอบอื่นๆ ตามมาด้วยดังนี้

123.45.67.89 - 25/Mar/2003 10:15:32 - https://www.google.com/search?q=cars - Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 - 740674ce2123e969

  • 123.45.67.89 คือที่อยู่ Internet Protocol ที่ ISP กำหนดให้กับผู้ใช้ ผู้ให้บริการอาจกำหนดที่อยู่ที่แตกต่างกันให้กับผู้ใช้ทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริการของผู้ใช้
  • 25/Mar/2003 10:15:32 คือวันที่และเวลาที่ส่งคำค้นหา
  • https://www.google.com/search?q=cars คือ URL ที่ขอ พร้อมด้วยคำค้นหา
  • Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 คือเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการที่ใช้
  • 740674ce2123a969 คือรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำซึ่งกำหนดให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้โดยเฉพาะเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ Google เป็นครั้งแรก (ผู้ใช้จะลบคุกกี้ออกได้ หากลบคุกกี้ออกจากคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เข้าชม Google ครั้งล่าสุด นี่จะเป็นรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำซึ่งกำหนดให้กับอุปกรณ์ของผู้ใช้ในครั้งต่อไปที่เข้าชม Google จากคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าว)

ข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลที่ Google ได้รับเมื่อคุณใช้ Chrome จะนำไปใช้และปกป้องภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google ข้อมูลที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์อื่นและนักพัฒนาส่วนเสริมได้รับ ซึ่งรวมถึงคุกกี้จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์เหล่านั้น

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยบางประเทศให้การคุ้มครองข้อมูลมากกว่าประเทศอื่นๆ ไม่ว่าข้อมูลของคุณจะได้รับการประมวลผลที่ใด เราจะใช้การคุ้มครองเดียวกันตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google รวมถึงปฏิบัติตามกรอบกฎหมายด้านการโอนข้อมูล เช่น กรอบกฎหมายของยุโรปที่อธิบายไว้ในหน้ากรอบการโอนข้อมูล ดูข้อมูลเพิ่มเติม

คำสำคัญ

คุกกี้

คุกกี้คือไฟล์ขนาดเล็กที่มีสตริงอักขระที่ส่งไปยังคอมพิวเตอร์เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ เมื่อกลับไปที่เว็บไซต์เดิมอีกครั้ง คุกกี้จะยอมให้เว็บไซต์นั้นจดจำเบราว์เซอร์ของคุณไว้ คุกกี้อาจจัดเก็บค่ากำหนดของผู้ใช้และข้อมูลอื่นๆ ไว้ คุณกำหนดค่าเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมดหรือแจ้งเมื่อมีการส่งคุกกี้ได้ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างของเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ อาจทำงานผิดปกติหากไม่มีคุกกี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้และวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงคุกกี้เมื่อคุณใช้เว็บไซต์หรือแอปของพาร์ทเนอร์ของเรา

บัญชี Google

คุณเข้าถึงบริการบางอย่างของเราได้โดยลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google และให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างกับเรา (โดยทั่วไปคือชื่อ ที่อยู่อีเมล และรหัสผ่าน) เราจะใช้ข้อมูลบัญชีนี้เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของคุณเวลาที่เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงบัญชีดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจะแก้ไขหรือลบบัญชีได้ทุกเมื่อโดยไปที่การตั้งค่าบัญชี Google