10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ำมัน

Chevrolet Captiva 2.0 LTZ เชฟโรเลต 2016 แคปติวา รุ่น 2.0 Chevrolet Captiva สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้ความดันคอมมอนเรลที่ 1,800 บาร์ พร้อมเทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า (PS) แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร ทำงานเงียบ และประหยัดน้ำมันกว่า ให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้มากยิ่งกว่าที่เคย เครื่องเสียงพร้อมระบบ 3DSS (3D Sound Staging), MP3, CD, จอภาพ Touch Screen (7"), USB, ช่องต่อ Aux, Bluetooth, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ (รองรับระบบ Apple CarPlay), อุปกรณ์อื่นๆ (ระบบ Chevrolet MyLink) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ DSC (Driver Shift Control) ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ควบคู่กับความประหยัดเชื้อเพลิงอย่างลงตัวราคาเพียง 1,689,000 บาทเท่านั้น

Toyota Corolla Cross Hybrid รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-C ร่วมกับ Corolla Altis โฉมปัจจุบัน รวมถึง C-HR ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร โดยเป็นระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ถูกพัฒนาในส่วนแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทาน มีความประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ที่สำคัญยังใช้เครื่องยนต์เบนซินผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า และยังมีจุดเด่นของพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ถึง 487 ลิตร ทำให้จุสัมภาะระได้มากขึ้นด้วย

 

7. Mazda2 Hatchback 1.3 XDL Sports 

10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ำมัน

สำหรับ Mazda 2 Hatchback 1.3 XDL Sports รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่เรียบแต่ยังคงความหรูหรา มีความโดดเด่นในเรื่องเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ  4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร เสริมเทอร์โบ 77 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร โดยให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งให้การประหยัดที่เหนือกว่ารถ Eco Car เครื่องยนต์เบนซิน แถมมีให้เลือกทั้งตัวถังซีดาน และแฮทช์แบ็ก ที่สำคัญยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกันด้วย

 

8. Haval Jolion Hybrid

10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ำมัน

Haval Jolion Hybrid เป็นรถยนต์รุ่นที่ 3 จากเครือ GWM Thailand มาพร้อมกับยนตกรรมน้องใหม่จากประเทศจีน ซึ่งยังเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กพิกัด B-SUV ที่พ่วงด้วยขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแบบเดียวกับตัว Haval H6  ในด้านขุมพลังเป็นแบบไฮบริด ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ไปยังคู่ล้อหน้า โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีระบบขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Standard, Sport, ECO และ Rain ที่สำคัญยังมีระบบอัจฉริย (Intelligent Application) สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน โดยสามารถควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตู, เปิด-ปิดระบบปรับอากาศ, ตรวจสอบสถานะหน้าต่างและหลังคาซันรูฟ, ตรวจสอบแรงดันลมยาง, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, ค้นหาตำแหน่งรถยนต์ รวมถึงระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการใช้งานรถได้จากมือถือได้อีกด้วย

 

9. Volvo XC60 T8

10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ำมัน

สำหรับรถ SUV สุดหรูจากยุโรปฉบับสแกนดิเนเวียนที่ขึ้นชื่อในเรื่องพละกำลังและประหยัดน้ำมัน อย่าง Volvo XC60 T8 รถยนต์ขนาดกลาง ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Geartronic แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 10.4 kWh รวมพละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร มีสมรรถนะที่สูง อัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำเพียง 43.5 กิโลเมตร/ลิตร และสามารถขับขี่ด้วย Pure Mode ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ระยะทางไกลถึง 40 กม. ที่สำคัญยังมีการเพิ่มระบบกันสะเทือนและใช้ช็อกอัพ Ohlins แบบ Dual Flow Valve (DFV) ที่มีวาล์ว 2 ชุดแยกกัน ระหว่างช่วง Bump และ Rebound ช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองของช็อกอัพ และป้องกันการถ่ายเทความร้อนที่ส่งผลต่อแรงดันน้ำมันเมื่อมีการยืดยุบติดต่อกันเป็นเวลานาน

 

10. BMW 330e M Sport

10 อันดับ รถ suv ประหยัดน้ำมัน

รถคอมแพกต์ซีดานสุดหรูจากค่าย BMW อย่างรุ่น BMW 330e M Sport ที่มากับเส้นสายคมชัด เสริมด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของตัวรถ ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo ที่ให้กำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร  ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร โดยให้กำลังสูงสุดถึง 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร มากับฟังก์ชั่น Electric Boost ”XtraBoost ” ช่วยเค้นกำลังสูงสุดเป็น 292 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 41 กิโลเมตร/ลิตร ในด้านแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออนความจุ 12 kW และวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 60 กม. เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันสุดหรูที่มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ 

 

สำหรับรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 10 รุ่นที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเห็นได้ว่ามีราคาให้เลือกตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนราคาแบบพรีเมียม ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะที่ต่างกันออกไป ทำให้รถยนต์ประหยัดน้ำมันหลาย ๆ รุ่นที่เป็นแบบไฮบริดต่างก็มีราคาเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการช่วยประหยัดน้ำมัน ซึ่งหากใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ ควรวางแผนเรื่องงบประมาณให้รอบคอบ อย่าลืมว่ายังต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าประกันต่าง ๆ ด้วยนั่นเองค่ะ