แผนการ สอน คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

ครูขนิษฐา รัตนพันธ์

แผนการ สอน คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

แผนการ สอน คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

                                       http://gg.gg/253138kanittha

คำสั่งวิทยาลัยเทคนิคทุ่งสง

  • คำสั้งวิทยาลัย 2560

  • คำสั่งวิทยาลัย 2561

  • คำสั่งวิทยาลัย 2562

  • คำสั่งวิทยาลัย 2563

  • คำสั่งวิทยาลัย 2564

เว็บไซต์เพื่อนครู

  • ครูพรรณปพร คชเวช

  • ครูพงศธร บุญศรี

  • ครูรัชนีกร สังข์เลื้อน

  • ครูโมกษา รัตนบุรี

  • ครูสุภกฤตา พรหมเกิด

แผนการสอน

  • แผนการสอนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

สื่อการสอน

  • สื่อ VDO

วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ

  • คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปวส2/2

  • งาน ปวส.2/1

โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่องานวิจัย

  • เข้าเช็คชื่อเข้าสู่ชั้นเรียน ปวส2/2

วิชาองค์ประกอบศิลป์ฯ

  • สร้างฉลากสินค้า

  • การสร้างนามบัตร

  • การ์ดลวดลายดินสอสี

  • การ์ดแต่งงาน

  • สกรีนแผ่นซีดีหรือดีวีดี

  • โปสเตอร์ สถานที่ท่องเที่ยว

  • สร้างปฏิทินด้วย Illustrator

  • ออกแบบกล่องผลิตภัณฑ์

  • ส่งงานค้าง

  • เข้าเช็คชื่อเข้าสู่ชั้นเรียน

อินเทอร์เน็ตในงานธุรกิจ

  • การสร้างประวัติส่วนตัว

  • การรีวิวสินค้า

  • google site

  • การสร้างแบบทดสอบด้วย Google from

เจ้าของไซต์

  • ขนิษฐา รัตนพันธ์

ผู้เขียนหน้าเว็บ

  • ขนิษฐา รัตนพันธ์

    พฤษภาคม 6, 2019

จำนวนผู้เข้าชมเว็บ

แผนการสอนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ


คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ


ċ

คอมพิวและสารสนเทศเพื่องานอาชีพ.rar

(2388k)

ขนิษฐา รัตนพันธ์,

8 พ.ค. 2562 19:34

v.1

Comments

แผนการ สอน คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Download

  • Publications : 0
  • Followers : 0

แผนการสอน วิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ รหัส 2001 – 2001

Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!

Create your own flipbook

  • Follow

  • Upload

  • 0

  • Embed

  • Share

แผนการจัดการเรียนร้แู บบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รหสั วิชา 20001 - 2001
วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562

จดั ทาโดย
วา่ ที่ ร.ต.พงศกร พงษพ์ ันนา

ตาแหน่ง ครูพิเศษสอน

แผนก/สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ
วิทยาลัยเทคนิคสว่างแดนดนิ

สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบมงุ่ เนน้ สมรรถนะอาชีพ
และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วิชา 20001 - 2001
วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ
หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562

จัดทาโดย
ว่าท่ี ร.ต.พงศกร พงษ์พนั นา

ตาแหนง่ ครู

แผนก/สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดิน

สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบคาขออนุมัติใชแ้ ผนจดั การเรยี นรู้

ม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
และคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ของผู้สาเร็จการศึกษา

รหสั 20001-2001 วิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี

ว่าท่ี ร.ต................................................
(พงศกร พงษ์พนั นา)
ตาแหน่ง ครูพเิ ศษสอน
ผู้จดั ทา

ความเหน็ หวั หนา้ แผนกวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ ความเห็นหัวหน้างานพัฒนาหลกั สูตรฯ

ลงช่ือ............................................... ลงช่ือ...............................................
(นางสกุ ญั ญา ดนัยสวสั ด์ิ) (นายคมุ ดวง พรมอินทร์)

ตาแหน่งหัวหน้าแผนกวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ หัวหน้างานพฒั นาหลกั สูตรการเรียนการสอน

ความเห็นรองผ้อู านวยการฝ่ายวชิ าการ

ลงชอ่ื ……………………………………...
(นายทินกร พรหมอนิ ทร)์

รองผูอ้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ

 อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมตั ิ

ลงช่ือ……………………………………...
(นางวรรณภา พ่วงกลุ )

ผู้อานวยการวทิ ยาลัยการอาชีพสวา่ งแดนดนิ

คานา

เอกสารประกอบการสอนเล่มนี้ จัดทาข้ึนโดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือเป็นเอกสารประกอบการสอน วิชา
คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหสั วิชา 20001-2001 ตามหลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.)
พทุ ธศักราช 2562 สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ซ่ึงได้มกี ารวเิ คราะห์สาระการ
เรียนรใู้ หส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ าและคาอธบิ ายรายวชิ า

เนื้อหาสาระการเรียนรู้ภายในเอกสารประกอบการสอนน้ี มีทั้งหมด 10 หน่วย ได้แก่ คอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ การใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 การ
ประยุกต์ใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 การใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel
2016 การประยุกต์ใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel 2016 การใช้โปรแกรมนาเสนอข้อมูล
Microsoft PowerPoint 2016 การประยุกต์ใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft PowerPoint 2016 ความรู้
เบอ้ื งต้นเก่ยี วกับอนิ เทอร์เน็ต และ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอบุ ัตใิ หม่ในงานอาชพี ในแต่ละหนว่ ยประกอบดว้ ย
โครงการสอน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบเน้ือหา/ใบความรู้ แบบฝึกหัด ใบงาน
แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบฝึกหัด เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน บรรณานุกรม
และภาคผนวก

หวังเปน็ อยา่ งย่ิงว่าเอกสารประกอบการสอนวิชางานเครื่องมือกลเบื้องต้น ที่ผู้เรียบเรียงจัดทาข้นึ จะเป็น
ประโยชน์ต่อครูผู้สอน ในวิชาน้ี และนาไปเป็นแบบอย่างในการจัดทาวิชาอ่ืนต่อไป หากมีข้อเสนอแนะใดๆ ผู้
เรยี บเรยี งน้อมรับด้วยความยนิ ดียิง่

วา่ ที่ ร.ต.....................................
(พงศกร พงษ์พันนา)
ตาแหนง่ ครู

สารบัญ

เรอ่ื ง หนา้
คานา..........................................................................................................................................................ก
สารบัญ.......................................................................................................................................................ข
รายละเอียดของหลกั สูตรรายวชิ า...............................................................................................................ค
ตารางท่ี 1 วิเคราะหห์ ลกั สูตรและระดับความสาคัญของหนว่ ยการเรียนรู้และเวลาจัดการเรยี นรู.้ ............ง
ตารางที่ 2 วิเคราะห์หน่วยการเรียนรแู้ ละเวลาทใี่ ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้....................................................จ
ตารางที่ 3 วิเคราะห์หัวข้อการเรียนรขู้ องแต่ละหน่วยการเรียนรแู้ ละเวลาจดั การเรียนรู้….........................ฉ
ตารางที่ 4 วิเคราะห์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมกบั หัวข้อการเรยี นร้แู ละระดบั พฤตกิ รรมท่ีตอ้ งการ...........ช
โครงการสอนหน่วยที่ 1 เรื่อง คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ...............................................1
แผนการจัดการเรยี นร้หู น่วยที่ 1 เรอ่ื ง คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................2-21
แผนการจัดการเรียนรหู้ น่วยท่ี 2 เรอ่ื ง คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................22-38
แผนการจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 3 เร่ือง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................39-52
แผนการจดั การเรยี นรหู้ น่วยที่ 4 เร่อื ง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................51-65
แผนการจดั การเรยี นร้หู นว่ ยท่ี 5 เร่ือง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................66-79
แผนการจัดการเรยี นรหู้ น่วยท่ี 6 เร่ือง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................80-95
แผนการจดั การเรียนรู้หน่วยท่ี 7 เร่ือง คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................96-113
แผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 8 เร่อื ง คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................114-130
แผนการจัดการเรยี นร้หู น่วยท่ี 9 เรอื่ ง คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ.................................131-144
แผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 10 เรื่อง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ...............................145-161
แผนการจดั การเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 11 เรื่อง คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ...............................162-178
แผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 12 เรือ่ ง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ...............................179-195
แผนการจดั การเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 13 เรื่อง คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ...............................196-210
แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 14 เรื่อง คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศ...............................211-224
บรรณานกุ รม………………………………………………………………………………………………………………………………225

รายละเอียดของหลกั สตู รรายวิชา

หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ า พาณิชยกรรม
รหสั วิชา 20001 - 2001 ชื่อวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ
ทฤษฎี 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ัติ 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกติ

จดุ ประสงคร์ ายวิชา

1. เข้าใจหลักการและกระบวนการด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รูป การใช้อนิ เทอร์เน็ต และการสือ่ สารขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชีพ

2. สามารถสืบคน้ และส่ือสารข้อมลู โดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ใช้ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอรแ์ ละโปรแกรม
สาเร็จรปู ตามลักษณะงานอาชพี

3. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และความรบั ผิดชอบในการใชค้ อมพวิ เตอร์กบั ระบบสารสนเทศ

สมรรถนะรายวชิ า

1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ
ระบบปฏิบัติการ โปรแกรมสาเร็จรูปและอินเทอร์เน็ตเพื่องานอาชีพ

2. ใช้ระบบปฏิบัติการในการจัดสภาพแวดลอ้ มและจดั สรรทรพั ยากรตา่ งๆ บนเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
3. ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู ในงานอาชพี ตามลักษณะงาน
4. สบื คน้ ขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชีพโดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ การใช้
ระบบปฏิบัติการ (Window หรือ Mac OS) การใช้โปรแกรมประมวลผลคาเพื่อจัดทาเอกสารในงาน
อาชีพ การใช้โปรแกรมตารางทาการเพื่อการคานวณในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หรือ
การใช้โปรแกรมสาเร็จรูปอื่นๆ ตามลักษณะงานอาชีพ การใช้อินเตอร์เน็ตสืบค้นข้อมูลเพ่ืองานอาชีพและการ
ส่ือสารข้อมูลสารสนเทศ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้
คอมพวิ เตอร์กับระบบสารสนเทศและงานอาชีพ

ตารางท่ี 1. วิเคราะหห์ ลกั สตู รและระดบั ความสาคัญของหนว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาจดั การเรยี นรู้

รหัสวิชา 20001-2001 ชอื่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ
ทฤษฎี 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ัติ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 3 หนว่ ยกิต

พุทธิพิสัย (%) คดิ

พฤตกิ รรม ทกั ษะ จิต รวม เป็น ลาดบั จานวน
ชื่อหนว่ ย
ความจา พสิ ัย พิสัย ร้อย ความ ชัว่ โมง
ความเ ้ขาใจ
นาไปใ ้ช (%) (%) ละ สาคญั
วิเคราะห์
ัสงเคราะห์
ประเ ิมนค่า

10 10 10 10 10 10

1. คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี

สารสนเทศ 3 2 3 2 3 1 3 10 27 6.29 9 3
2. ระบบปฏบิ ตั ิการ 2 3 1 3 2 2 4 10 27 6.29 9 3
6
3. การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา
6
Microsoft Word 2016 7 7 8 3 6 7 7 10 55 12.82 2 6
4. การประยกุ ต์ใช้โปรแกรม 9
6
ประมวลผลคา Microsoft Word
2016 6 6 5 4 8 8 8 10 55 12.82 2 6
5. การใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 3
3
Microsoft Excel 2016 6 6 7 3 6 7 8 10 53 12.35 5

6. การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน

Microsoft Excel 2016 9 10 10 9 9 10 9 10 76 17.72 1

7. การใช้โปรแกรมนาเสนอขอ้ มลู

Microsoft PowerPoint 2016 8 7 8 5 7 5 4 10 54 12.59 4

8. การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมนาเสนอ

ข้อมลู Microsoft PowerPoint

2016 5 6 6 8 7 6 5 10 53 12.35 5
9. ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกับ

อินเทอรเ์ นต็ 2 3 3 3 3 3 2 10 29 6.76 8

10.การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอบุ ัตใิ หม่

ในงานอาชีพ 3 4 2 1 2 8 2 10 32 7.46 7

ลาดบั ความสาคญั 742826 4 1

กาหนดนาหนักความสาคัญของแตล่ ะพฤติกรรม ชอ่ งละ 10 คะแนนโดยมรี ะดับความสาคัญ ดังนี

สาคัญท่ีสุด 9 - 10 คะแนน

สาคัญมาก 7 - 8 คะแนน

สาคัญปานกลาง 4 - 6 คะแนน

สาคัญนอ้ ย 2 - 3 คะแนน

ไมส่ าคัญเลย/สาคัญน้อยทส่ี ุด 0 - 1 คะแนน

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร
ตารางที่ 2. การวเิ คราะหห์ น่วยการเรยี นรแู้ ละเวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรียนรู้

รหสั วชิ า 20001-2001 ชือ่ วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี
ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ

หน่วยท่ี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ สัปดาห์ ชว่ั โมงท่ี
ท่ี
1 คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ 1 1-3
4-6
2 ระบบปฏบิ ตั กิ าร 2 7-12
3 การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 3-4 13-18
4 การประยุกต์ใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016 5-6 19-24
5 การใชโ้ ปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel 2016 7-8 25-33
6 การประยกุ ต์ใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel 2016 9-11 34-39
7 การใช้โปรแกรมนาเสนอขอ้ มูล Microsoft PowerPoint 2016 12-13
8 การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมนาเสนอข้อมลู Microsoft PowerPoint
14-15 40-45
2016 16 46-48
9 ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับอินเทอรเ์ นต็ 17 49-51
10 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอุบัตใิ หม่ในงานอาชพี 18 52-54

สอบปลายภาค

รวม 18 54

ตารางที่ 3. การวเิ คราะหห์ วั ข้อการเรียนรขู้ องแตล่ ะหนว่ ยการเรียนร้แู ละเวลาจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า 20001-2001 ช่ือวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี
ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ปฏบิ ัติ 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกติ

สัปดาห์ หนว่ ย เวลาจดั การเรียนรู้
ท่ี ท่ี
ชอ่ื หน่วยการเรยี นร/ู้ หัวขอ้ การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ รวม
1 (ชม.)
2
3-4 1 คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ 12 3

5-6 2 ระบบปฏิบตั ิการ 12 3
7-8 3 การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016
9-11 24 6
12-13 การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word
14-15 24 6
4 2016 24 6
16 5 การใชโ้ ปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel 2016 36 9
17 6 การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน Microsoft Excel 2016 24 6
18 7 การใช้โปรแกรมนาเสนอข้อมลู Microsoft PowerPoint 2016
24 6
8 การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมนาเสนอขอ้ มลู Microsoft 12 3
12 3
PowerPoint 2016 12 3

9 ความรเู้ บื้องตน้ เกยี่ วกับอินเทอร์เน็ต

10 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยอี บุ ัตใิ หม่ในงานอาชพี
สอบปลายภาค

18 36 54

ตารางท่ี 4. การวิเคราะห์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติก

รหสั วชิ า 20001-2001 ช่ือวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ

หนว่ ยที่ 1. คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ

หวั ขอ้ การเรยี นรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ด้านค
1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสาร
2. ลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. บอกลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีส
3. บอกผลกระทบของการใช้เทคโนโล
3. ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ได้
4. บอกจริยธรรมและความรับผิดชอบ
4. จรยิ ธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้ คอมพวิ เตอร์กับระบบสารสนเทศได้
คอมพิวเตอร์กบั ระบบ สารสนเทศ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ดา้ น
รายการทกั ษะ (Skills) 1. อธิบายองค์ประกอบของเทคโนโลย
ได้
1. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ (ใบงานท่ี 1.1)
(ใบงานที่ 1.1)

กรรมกบั หวั ข้อการเรยี นรแู้ ละระดบั พฤติกรรมที่ต้องการ

พ ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต

ดา้ นพุทธพิ สิ ัย ดา้ นทักษะพิสยั ด้านจติ พิสยั

ม ความรู้ ความจา
ความเ ้ขาใจ
การนาไปใช้
ิวเคราะ ์ห
สังเคราะห์
ประเ ิมนค่า
การเ ีลยนแบบ
การทาตามแบบ
การทา ูถก ้ตองแ ่มนยา
การทาอ ่ยางผสมผสาน
การทาอ ่ยางอัตโน ัม ิต
การรับรู้
การตอบสนอง
การเ ็หนคุณค่า
การจัดกระบวนการคิด
การ ีมลักษณะเฉพาะตน

ความร)ู้ √
รสนเทศได้ √ √
สารสนเทศได้ √ √
ลยีสารสนเทศ √
√√
บในการใช้

นทักษะ)
ยีสารสนเทศ

ตารางที่ 4. (ต่อ) การวเิ คราะห์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤ

รหสั วิชา 20001-2001 ชื่อวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ
หน่วยท่ี 2 ระบบปฏบิ ตั กิ าร

หวั ขอ้ การเรยี นรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

ความรู้ ความจา ด้านพุทธพิ สิ ัย ฤตกิ รรมกับหวั ข้อการเรียนรู้และระดบั พฤติกรรมท่ีต้องการ
ความเข้าใจ
การนาไปใช้ ดา้ นทกั ษะพิสัย พ ทฤษฎี 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต
วเิ คราะห์
สงั เคราะห์ ด้านจิตพสิ ยั
ประเมินคา่
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถกู ต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด
การมีลักษณะเฉพาะตน

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ด้านค

1.บอกความหมายของระบบปฏบิ ตั ิการ 1.บอกความหมายของระบบปฏิบตั ิการได้

รายการทกั ษะ (Skills) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ดา้ นท

1.สามารถใชง้ านระบบปฏบิ ตั ิการ Windows 7 1.สามารถใชง้ านระบบปฏบิ ตั ิการ Windows
เบ้อื งตน้ ได้
2.สามารถใชง้ านระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows 8 2.สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows
เบอ้ื งต้น ได้

ความรู้)

√ √

ทักษะ) √√
√√
s 7 เบื้องตน้

s 8 เบอ้ื งตน้

ตารางที่ 4. (ต่อ) การวเิ คราะห์ จุดประสงค์เชิงพฤ

รหัสวชิ า 20001-2001 ชอื่ วชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ
หน่วยท่ี 3 การใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016

หวั ข้อการเรยี นรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ดา้ นค

1.บอกประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 1.บอกประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft W
2016 ได้
2.บอกสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft 2.บอกส่วนประกอบของโปรแกรม Microsof
Word 2016 2016 ได้

รายการทักษะ (Skills) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ดา้ นท

1.สร้าง การเปดิ ปดิ และบันทกึ เอกสาร 1.สรา้ ง การเปดิ ปิด และบนั ทกึ เอกสารได้

ทักษะ) ความร)ู้ ฤตกิ รรมกับหัวข้อการเรยี นรู้และระดบั พฤตกิ รรมทต่ี อ้ งการ

Word 2016 พ ทฤษฎี 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต

ft Word

√ ความรู้ ความจา ดา้ นพุทธิพิสัย

ความเขา้ ใจ
√ การนาไปใช้ ด้านทักษะพิสยั
√ วเิ คราะห์
สงั เคราะห์
√√ ประเมินคา่
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ ดา้ นจิตพิสยั
การทาถูกต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด
การมีลักษณะเฉพาะตน

ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวเิ คราะห์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤ

รหสั วิชา 20001-2001 ชื่อวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ
หน่วยที่ 4 การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2016

หัวข้อการเรียนรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

ความรู้ ความจา ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ฤติกรรมกับหวั ขอ้ การเรียนรูแ้ ละระดบั พฤติกรรมท่ีต้องการ
ความเข้าใจ
การนาไปใช้ ด้านทักษะพสิ ัย พ ทฤษฎี 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ ปฏิบัติ 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต
วเิ คราะห์
สงั เคราะห์ ดา้ นจติ พสิ ยั
ประเมนิ ค่า
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูกต้องแม่นยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอัตโนมตั ิ
การรบั รู้
การตอบสนอง
การเห็นคุณค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลกั ษณะเฉพาะตน

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ดา้ นควา

1.กาหนดขนาดเอกสาร 1.กาหนดขนาดเอกสารได้
2.ปรบั คุณลกั ษณะของขอ้ ความ 2.ปรับคณุ ลกั ษณะของข้อความได้
3.จดั รปู แบบย่อหน้าและการกนั้ ระยะ 3.จดั รูปแบบย่อหน้าและการกั้นระยะได้
4.จดั ตาแหน่งกลุ่มข้อความ 4.จดั ตาแหนง่ กลุ่มขอ้ ความได้
5.กาหนดระยะบรรทดั 5.กาหนดระยะบรรทัดได้
6.ใสส่ ญั ลกั ษณ์แสดงหัวขอ้ 6.ใส่สัญลกั ษณแ์ สดงหวั ขอ้ ได้

รายการทักษะ (Skills) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ด้านทักษ

ามร)ู้





ษะ)

ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวิเคราะห์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤ

รหสั วิชา 20001-2001 ชอ่ื วชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ
หนว่ ยที่ 5. การใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Office Excel 2016

หวั ขอ้ การเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ด้านควา

รายการทักษะ (Skills) จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ดา้ นทักษ

1.สรา้ งปกรายงาน 1.สร้างปกรายงานได้

2.จับภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสาร 2.จบั ภาพหนา้ จอมาแทรกในเอกสารได้
1.แทรกรปู ภาพ ภาพตัดปะ รูปรา่ ง SmartArt 1.แทรกรปู ภาพ ภาพตัดปะ รปู ร่าง SmartArt
แผนภูมิ ได้

2.แทรกหวั กระดาษ ท้ายกระดาษ หมายเลขหน้า 2.แทรกหวั กระดาษ ท้ายกระดาษ หมายเลขหน

ษะ) ามรู้) ฤตกิ รรมกบั หัวขอ้ การเรยี นรู้และระดบั พฤติกรรมทตี่ อ้ งการ

แผนภูมิ พ ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หน่วยกิต
น้าได้

ความรู้ ความจา ด้านพุทธพิ ิสยั
ความเขา้ ใจ
√ การนาไปใช้ ดา้ นทักษะพิสัย
√ วเิ คราะห์
√ สงั เคราะห์
ประเมินคา่
√ การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูกต้องแมน่ ยา ด้านจิตพิสัย
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน

ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวเิ คราะห์ จุดประสงค์เชงิ พฤ

รหัสวิชา 20001-2001 ชอ่ื วชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ
หนว่ ยท่ี 6.การประยุกต์ใช้โปรแกรมตารางงาน Microsoft Office Excel 2016

หวั ขอ้ การเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

ความรู้ ความจา ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ฤติกรรมกับหวั ขอ้ การเรียนรูแ้ ละระดบั พฤติกรรมท่ีต้องการ
ความเขา้ ใจ
การนาไปใช้ ด้านทักษะพสิ ัย พ ทฤษฎี 1 ช่วั โมง/สปั ดาห์ ปฏิบัติ 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกิต
วเิ คราะห์
สงั เคราะห์ ดา้ นจติ พสิ ยั
ประเมินค่า
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูกต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ด้านควา

รายการทกั ษะ (Skills) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ด้านทักษ

1. แทรกกล่องขอ้ ความ อักษรศลิ ป์ ตวั อกั ษรหนา้ 1. แทรกกล่องข้อความ อักษรศลิ ป์ ตัวอักษรหน
ข้อความขนาดใหญ่ ขอ้ ความขนาดใหญ่ได้
2. แทรกสัญลกั ษณ์พิเศษ และแทรกสัญลักษณ์ 2. แทรกสัญลกั ษณ์พเิ ศษ และแทรกสญั ลกั ษณ์
คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตรไ์ ด้

3. แทรกลายนา้ ลงในเอกสาร 3. แทรกลายนา้ ลงในเอกสารได้

4. สรา้ งขอบกระดาษเอกสาร 4. สรา้ งขอบกระดาษเอกสารได้
5. แบง่ ขอ้ ความเปน็ คอลมั น์ 5. แบง่ ข้อความเป็นคอลัมน์ได้

ามรู้)

ษะ)
น้า √




ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวิเคราะห์ จุดประสงค์เชงิ พฤ

รหัสวิชา 20001-2001 ชอ่ื วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ
หนว่ ยที่ 7.การใช้โปรแกรมนาเสนอขอ้ มลู Microsoft PowerPoint 2016

หัวข้อการเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ดา้ นควา

1. อธบิ ายส่วนประกอบของ Microsoft 1. อธบิ ายส่วนประกอบของ Microsoft Powe
PowerPoint 2016 2016 ได้

2. เปดิ ปิด โปรแกรมได้ 2. เปดิ ปิด โปรแกรมได้

รายการทักษะ (Skills) จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ดา้ นทักษ

1. สร้าง เปดิ ปดิ และบนั ทกึ แฟม้ งาน 1. สร้าง เปดิ ปิด และบนั ทึกแฟม้ งานได้

ษะ) ามรู้) ฤติกรรมกบั หวั ข้อการเรยี นรแู้ ละระดบั พฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการ
erPoint √
ความรู้ ความจา พ ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกิต
√ ความเขา้ ใจ ด้านพทุ ธิพิสยั
การนาไปใช้
√ วเิ คราะห์
สงั เคราะห์
ประเมินคา่ ดา้ นทักษะพสิ ยั
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ ด้านจติ พิสัย
การทาถูกต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน

ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวิเคราะห์ จุดประสงค์เชงิ พฤ

รหัสวิชา 20001-2001 ชื่อวิชา คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี
หน่วยท่ี 8.การประยกุ ต์ใชโ้ ปรแกรมนาเสนอข้อมูล Microsoft PowerPoint 201

หวั ขอ้ การเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

16 พ ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกิต ฤติกรรมกับหวั ข้อการเรียนรแู้ ละระดับพฤติกรรมท่ตี ้องการ

ความรู้ ความจา ด้านพทุ ธิพิสยั
ความเขา้ ใจ
การนาไปใช้ ดา้ นทักษะพิสัย
วเิ คราะห์
สงั เคราะห์ ดา้ นจติ พสิ ยั
ประเมินค่า
การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูกต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน

รายการความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ด้านควา

1. บอกชนิดของขอ้ มูล 1. บอกชนิดของข้อมลู ได้

รายการทกั ษะ (Skills) จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ดา้ นทกั ษะ)

1.จดั การขอ้ มลู ในเซลล์ 1.จัดการขอ้ มลู ในเซลล์ได้
2.จดั การแถวและคอลัมน์ 2.จัดการแถวและคอลัมนไ์ ด้
3.กาหนดรูปแบบเซลล์ 3.กาหนดรูปแบบเซลลไ์ ด้
4.การจัดการแผ่นงาน 4.การจดั การแผ่นงานได้

ามรู้)



ตารางท่ี 4. (ต่อ) การวเิ คราะห์ จุดประสงคเ์ ชิงพฤ

รหสั วชิ า 20001-2001 ช่ือวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี
หน่วยท่ี 9. ความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกบั อินเทอร์เน็ต

หัวข้อการเรยี นรู้ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ดา้ นควา
1.ความหมายของอินเทอรเ์ น็ต 1.บอกความหมายของอนิ เทอร์เนต็ ได้
2.ระบบชื่อโดเมน (DNS: Domain Name 2.อธบิ ายระบบชอื่ โดเมน (DNS: Domain
System) System)ได้
3.การบรกิ ารของอนิ เทอรเ์ น็ต 3.บอกการบรกิ ารของอินเทอรเ์ นต็ ได้
4.คาศพั ท์ทีใ่ ช้ในอินเทอร์เน็ต 4.บอกคาศพั ท์ทใ่ี ช้ในอนิ เทอรเ์ น็ตได้

ามรู)้ ความรู้ ความจา ด้านพุทธิพิสยั ฤติกรรมกบั หวั ขอ้ การเรยี นรูแ้ ละระดับพฤตกิ รรมที่ต้องการ
√√√ ความเขา้ ใจ
การนาไปใช้ พ ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ปฏิบตั ิ 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์ จานวน 2 หน่วยกติ
n Name √ √ √ วเิ คราะห์
สงั เคราะห์
√√√ ประเมินคา่
√√√ การเลียนแบบ
การทาตามแบบ
การทาถูกต้องแมน่ ยา ดา้ นทักษะพสิ ัย
การทาอยา่ งผสมผสาน
√√ การทาอย่างอตั โนมตั ิ
√ การรับรู้
การตอบสนอง
√ การเหน็ คณุ ค่า
√ การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน ดา้ นจิตพิสัย

รายการทกั ษะ (Skills) จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ดา้ นทกั ษะ)

ตารางที่ 4. (ต่อ) การวิเคราะห์ จุดประสงคเ์ ชงิ พฤ

รหสั วชิ า 20001-2001 ช่ือวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี
หน่วยที่ 10.การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอบุ ัติใหม่ในอาชพี

หวั ข้อการเรียนรู้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

รายการความรู้ (Knowledge) จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ด้านควา
1.อธิบายเทคโนโลยอี บุ ัติใหม่ได้
1.เทคโนโลยอี ุบตั ใิ หม่ 2.อธบิ ายการประยกุ ต์ใช้โปรแกรมผา่ นกา
2.การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมผา่ นการ ประมวลผลกลมุ่ เมฆได้
ประมวลผลกลุม่ เมฆ

รายการทกั ษะ (Skills) จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ดา้ นทกั ษะ)

ามรู)้ ความรู้ ความจา ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย ฤติกรรมกับหวั ข้อการเรียนร้แู ละระดบั พฤติกรรมที่ตอ้ งการ
√√√ ความเขา้ ใจ
การนาไปใช้ พ ทฤษฎี 1 ช่ัวโมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 2 หนว่ ยกติ
าร √ √ √ วเิ คราะห์
สงั เคราะห์
ประเมินคา่ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย
การเลียนแบบ
√ การทาตามแบบ
√ การทาถูกต้องแมน่ ยา
การทาอยา่ งผสมผสาน
การทาอย่างอตั โนมตั ิ ดา้ นจิตพสิ ัย
การรับรู้
การตอบสนอง
การเหน็ คณุ ค่า
การจดั กระบวนการคิด

การมีลักษณะเฉพาะตน

26

โครงการสอนรายหน่วย
รหสั วิชา 20001-2001 ชือ่ วชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี

ชือ่ หนว่ ย คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศ จานวน 3 ชว่ั โมง

รายการสอนหวั ขอ้ การเรยี นรู้

1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

2. ลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ

3. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

4. ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

5. จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอรก์ ับระบบสารสนเทศ

หัวข้อการเรยี นรู้ จุดประสงค์การสอนหรือจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม

1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

2. ลักษณะสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. บอกลักษณะสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ

3. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. บอกองคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ

4. ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 4. บอกผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ

5. จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้ 5. บอกจริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้

คอมพิวเตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ คอมพวิ เตอร์กับระบบสารสนเทศ

วธิ ีการสอน : วธิ สี อนแบบศกึ ษาดว้ ยตนเอง (Self Study Method)

สือ่ การสอน
1. หนงั สือเรียนวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ (20001-2001) ของบริษทั

สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากัด
2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น/หลังเรยี นพร้อมเฉลย
3. Google classroom
4. Kahoot

การประเมนิ : 1. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง
2. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ อ่ นเรียนไมม่ ีเกณฑ์ผา่ น เก็บคะแนนไวเ้ ปรียบเทยี บกบั คะแนนที่
ได้จากการทดสอบหลงั เรยี น
3. แบบสงั เกตคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยกู่ บั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ

39

แผนการจดั การเรยี นรู้

ชอื่ วชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี รหัสวชิ า20001-2001 สอนครังที่ 1

หน่วยท่ี 1 ชื่อหน่วย คอมพิวเตอร์และสารสนเทศ จานวน 3 ชม.

1. หวั ข้อการเรยี นรู้

1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. ลักษณะสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
3. องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
4. ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
5. จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กบั ระบบสารสนเทศ

2. สาระสาคญั

เทคโนโลยีและการส่ือสารได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในการดาเนินชีวิตประจาวันของมนุษย์ อุปกรณ์
ส่ือสารและคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทสาคัญต่อการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยความสามารถของอุปกรณ์สื่อสาร
และประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทาให้องคก์ ารตา่ งๆ นาเทคโนโลยีเหลา่ นีม้ าเข้ามาช่วยในการดาเนินงาน
ขององค์การให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ การทาธุรกิจและ
ให้บริการบนอินเทอร์เน็ต ตลอดจนการใช้เป็นเคร่ืองมือช่วยในการทางาน เพราะฉะนั้นจากการที่เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเข้ามามีบทบาทต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์ ดังน้ันการเรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์
การคน้ หาข้อมลู เพอ่ื นามาชว่ ยในการตัดสนิ ใจ การวเิ คราะห์ การจัดเก็บข้อมูลจงึ เป็นสิ่งจาเปน็ พน้ื ฐานสาหรบั ทกุ คน

3. สมรรถนะประจาหนว่ ย
แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ ลักษณะสาคัญของ

เทคโนโลยีสารสนเทศ องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรม
และความรับผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์กบั ระบบสารสนเทศได้

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. บอกความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
2. บอกลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
3. อธิบายองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
4. บอกผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้
5. บอกจรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอร์กบั ระบบสารสนเทศได้

40

4.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธิบายองคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศไดถ้ กู ตอ้ ง
2. อธบิ ายความหมายของคอมพวิ เตอร์ไดถ้ กู ต้อง
3. บอกอุปกรณ์หลกั ของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ได้ถกู ต้อง
4. บอกกระบวนการและข้ันตอนการทางานของคอมพิวเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง

5. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้
ในการเรยี นการสอนของหน่วยที่ 1 ครังที่ 1 (จานวน 3 ชว่ั โมง)
1. นักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรียนรูก้ อ่ นเรียน
2. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-6 คน
3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเนอื้ หาจากในหนังสือเรียน เร่อื ง คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ
4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรียนในหัวข้อในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี
 ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ
 ลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
 ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มคน้ ควา้ และรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเรอ่ื ง จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบใน
การใชค้ อมพิวเตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ โดยสรปุ มาเป็นขอ้ ๆ พรอ้ มกบั ใหเ้ หตผุ ล และตวั อยา่ งประกอบ แล้ว
ส่งตวั แทนนาเสนอหน้าชน้ั เรียน
6. นกั เรียนซักถามปญั หาขอ้ สงสยั วิเคราะห์เน้อื หาการเรียนการสอนและหาข้อสรปุ เปน็ ความคดิ
รวบยอดเพ่อื นาไปประยกุ ต์ใชต้ อ่ ไป
7. นักเรียนตรวจการประเมนิ ผล บันทกึ คะแนนท่ีได้ ส่งให้ครตู รวจสอบผลการประเมนิ
8. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและเกบ็ คะแนนไว้เปรียบเทยี บผลการประเมนิ หลงั เรยี น

6. สอื่ การจัดการเรียนรู้
1. หนังสือเรียนวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ (20001-2001) ของบริษัทสานักพิมพ์
เอมพันธ์ จากัด
2. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรียน/หลงั เรยี นพรอ้ มเฉลย
3. Google classroom
4. Kahoot

7. การวดั ผลและประเมินผล

วธิ วี ดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติงานกลุ่ม

41

2. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น
3. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

เคร่อื งมือวดั ผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั งิ านกลมุ่
2. แบบประเมนิ ผลการเรียนรกู้ อ่ นเรยี น/หลังเรียน 10 ขอ้
3. แบบสงั เกตคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละนักเรียนร่วมกนั
ประเมิน

8. แหลง่ การเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ
1. ห้องสมดุ วทิ ยาลยั การอาชพี สว่างแดนดิน
2. อินเทอร์เนต็

9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ ม)ี
1. นักเรียนเขา้ ไปคน้ ควา้ ข้อมลู เพมิ่ เติมจากหอ้ งสมดุ จัดทาเป็นรายงานสง่ ครู
2. ทาแบบฝึกปฏบิ ัติและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

42

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

รหสั 20001-2001 วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี

ชดุ การสอนที่ 1 เรอ่ื งระบบคอมพวิ เตอร์ จานวน 10 ข้อ เวลา 20 นาที

-------------------------------------------------------------------------

คาสงั่ ใหน้ ักเรยี นทาเครื่องหมายกากบาท (X) ในตวั เลอื กทีถ่ ูกท่สี ดุ เพยี ง 1 ตวั เลือกในแต่ละข้อ

1. คอมพิวเตอรร์ บั ข้อมูลโดยใช้สง่ิ ใด?

ก. แป้นพิมพ์และเมาส์ ข. ซพี ยี ู ค. โปรแกรม ง. ซดี ีรอม

2. ขอ้ ใดไม่ใช่ส่วนประกอบสาคญั ที่ทาให้คอมพิวเตอรท์ างานได้?

ก. ซอฟตแ์ วร์ ข. ฮารด์ แวร์ ค. พเี พลิ แวร์ ง. ไมโครซอฟตเ์ วริ ด์

3. ถ้าหากไมใ่ ช้เมาส์ เราใชส้ ิ่งใดในการสัง่ งานคอมพิวเตอรแ์ ทนได้?

ก. ซีพียู ข. แปน้ พมิ พ์ ค. จอภาพ ง. ตัวเครอื่ ง

4. ข้อใดคอื ความหมายของฮารด์ แวร์?

ก. ตัวเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ ข. ส่วนทม่ี องเหน็ และจบั ต้องได้ ค. อปุ กรณ์รอบขา้ งท่ีเชอ่ื มต่อ เชน่ เคร่อื งพิมพ์ ง. ถกู ทกุ

ข้อ

5. ข้อใดคอื หน่วยความจาหลักของเครื่องคอมพวิ เตอร์?

ก. Memory Card ข. Floppy Disk ค. RAM ง. CD-ROM

6. อุปกรณบ์ นั ทกึ ข้อมูลแบบติดต้ังอยู่ภายในเครือ่ ง ใชเ้ กบ็ โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ ารคือ?

ก. Floppy Disk ข. Handy Drive ค. Hard Disk ง. DVD-Rom Drive

7. ขอ้ ใดคอื อุปกรณ์แสดงผลขอ้ มูลแบบถาวร?

ก. จอภาพชนดิ LCD ข. จอภาพชนิด CRT ค. เครอ่ื งพิมพ์ชนดิ เลเซอร์ ง. ถูกทุกขอ้

8. อปุ กรณใ์ ดของคอมพวิ เตอร์ที่ทาหนา้ ท่ีคล้ายกับสมองของคนเรา?

ก. ซีพียู ข. จอภาพ ค. แปน้ พมิ พ์ ง. ซอฟต์แวร์

9. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ซอฟต์แวร์?

ก. Windows XP ข. Main Board ค. Microsoft Office 2007 ง. Google Chrome

10. ข้อมูลเหมือนหรอื ต่างจากสารสนเทศอยา่ งไร?

ก. เหมอื นกนั เพราะสารสนเทศก็คือขอ้ มลู ท่ัวไป

ข. เหมอื นกนั เพราะข้อมลู และสารสนเทศเป็นคาทใี่ ช้แทนกนั

ค. ต่างกนั เพราะสารสนเทศได้จากการประมวลผลขอ้ มูล

ง. ต่างกัน เพราะขอ้ มลู ไดจ้ ากการประมวลผลสารสนเทศ

43

ใบเนือหา/ใบความรู้
หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทท่ีสาคญั ยิ่งต่อสงั คมของมนุษย์เราในปัจจุบัน แทบทกุ วงการลว้ นนาคอมพิวเตอร์
เขา้ ไปเก่ียวขอ้ งกับการใช้งาน จนกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยท่ีสาคัญอย่างยงิ่ ต่อการดาเนินชีวิตและการทางาน
ในชีวิตประจาวนั ฉะน้ันการเรียนรู้เพือ่ ทาความรจู้ ักกับคอมพิวเตอร์จึงถือเป็นสิ่งท่ีมีความจาเปน็ เป็นอย่างยง่ิ เพ่ือที่จะ
ทราบว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร ทางานอย่างไร และมีความสาคัญต่อมนุษย์อย่างไร เราจึงควรทาการศึกษาในหัวข้อ
ตอ่ ไปนี้

1.1 ความหมายและลกั ษณะการทางานของคอมพิวเตอร์
1.1.1 ความหมายของคอมพวิ เตอร์
คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคานวณพจนานุกรม ฉบับ

ราชบณั ฑิตยสถานพ.ศ.2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไวว้ ่า"เครอื่ งอิเลก็ ทรอนกิ ส์ แบบอตั โนมัติ ทาหนา้ ทเี่ หมอื น
สมองกล ใชส้ าหรับแกป้ ญั หาตา่ งๆ ท่ีงา่ ยและซับซ้อนโดยวิธที างคณติ ศาสตร์ "

คอมพิวเตอรจ์ งึ เปน็ เครอ่ื งจักรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ท่ถี ูกสรา้ งข้ึนเพือ่ ใช้ทางานแทนมนษุ ย์ ในดา้ นการคดิ คานวณและ
สามารถจาข้อมูล ทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้เพ่ือการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากน้ี ยังสามารถจัดการกับ
สัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามข้ันตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีก
มาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับสง่ ขอ้ มูล การจัดเกบ็ ขอ้ มลู ในตัวเครื่องและสามารถประมวลผล
จากขอ้ มลู ต่างๆ ได้

1.1.2 ลักษณะการทางานของคอมพวิ เตอร์
คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเปน็ ประเภทใดกต็ าม จะมลี ักษณะการทางานของส่วนต่างๆ ที่มคี วามสมั พนั ธ์กนั เปน็

กระบวนการ โดยมอี งคป์ ระกอบพืน้ ฐานหลักคือ Input Process และ output ซึง่ มีข้นั ตอนการทางานดังภาพ

ภาพที่ 1 ขัน้ ตอนการทางานของคอมพวิ เตอร์
( ท่ีมา : https://images.app.goo.gl/PDxMyZ1323edfAd89 )

44

ขนั ตอนที่ 1 : รับข้อมูลเข้า (Input)
เร่ิมต้นดว้ ยการนาข้อมลู เขา้ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ซึ่งสามารถผ่านทางอุปกรณช์ นิดต่างๆ แล้วแต่ชนิดของข้อมูล
ทจ่ี ะป้อนเข้าไป เชน่ ถา้ เปน็ การพิมพข์ ้อมูลจะใชแ้ ผงแป้นพมิ พ์ (Keyboard) เพือ่ พมิ พ์ข้อความหรอื โปรแกรมเขา้
เครื่อง ถา้ เปน็ การเขยี นภาพจะใชเ้ คร่ืองอา่ นพกิ ดั ภาพกราฟิก (Graphics Tablet) โดยมีปากกาชนิดพเิ ศษสาหรบั
เขียนภาพ หรอื ถา้ เปน็ การเล่นเกมก็จะมกี า้ นควบคมุ (Joystick) สาหรบั เคลอ่ื นตาแหน่งของการเล่นบนจอภาพ เปน็
ตน้
ขันตอนท่ี 2 : ประมวลผลขอ้ มูล (Process
เมื่อนาขอ้ มลู เข้ามาแลว้ เครอื่ งจะดาเนินการกบั ข้อมูลตามคาสั่งทไ่ี ดร้ ับมาเพ่ือใหไ้ ด้ผลลพั ธ์ตามที่ตอ้ งการ การ
ประมวลผลอาจจะมไี ดห้ ลายอย่าง เชน่ นาขอ้ มูลมาหาผลรวม นาข้อมลู มาจดั กลุ่มนาขอ้ มูลมาหาค่ามากท่สี ุด หรอื นอ้ ย
ท่ีสดุ เป็นต้น
ขนั ตอนท่ี 3 : แสดงผลลพั ธ์ (Output)
เป็นการนาผลลัพธจ์ ากการประมวลผลมาแสดงให้ทราบทางอปุ กรณ์ท่กี าหนดไว้ โดยทั่วไปจะ
แสดงผา่ นทางจอภาพ หรือเรียกกนั โดยท่วั ไปว่า "จอมอนเิ ตอร์" (Monitor) หรือจะพมิ พข์ อ้ มลู ออกทางกระดาษโดยใช้
เครื่องพมิ พก์ ไ็ ด้

1.1.3 ลกั ษณะเด่นของคอมพวิ เตอร์
เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ถูกสรา้ งขนึ้ มาเพือ่ ให้มีจดุ เด่น 4 ประการ เพ่อื ทดแทนขอ้ จากัดของมนุษย์
เรยี กวา่ 4 S special ดังนี้
1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจานวนมากและเป็น เวลานาน นับเป็นจุดเด่นทาง

โครงสร้างและเป็นหวั ใจของการทางานแบบอัตโนมตั ิของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ทัง้ เปน็ ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์แต่ละเครอ่ื ง
ด้วย

2. ความเรว็ (Speed) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมลู (Processing Speed) โดยใช้เวลาน้อย เป็น

จุดเด่นทางโครงสรา้ งท่ีผู้ใชท้ ว่ั ไปมีสว่ นเกี่ยวขอ้ งนอ้ ยทส่ี ดุ เป็นตัวบง่ ชีป้ ระสทิ ธภิ าพของเคร่ืองคอมพิวเตอรท์ สี่ าคญั ส่วนหน่ึงเชน่ กัน

3. ความเปน็ อัตโนมัติ (Self Acting) หมายถงึ ความสามารถในการประมวลผลขอ้ มลู ตามลาดบั

ขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเน่ืองอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะในข้ันตอนการกาหนดโปรแกรมคาสั่งและข้อมูล
ก่อนการประมวลผลเท่าน้ัน

4. ความน่าเชื่อถือ (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกดิ ผลลัพธ์ที่ถกู ตอ้ ง ความน่าเชอ่ื ถือนับเปน็ ส่ิง

สาคัญท่ีสุดในการทางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ความสามารถนี้เก่ียวข้องกับโปรแกรมคาสั่งและข้อมูลท่ีมนุษย์กาหนดให้กับเคร่อื ง
คอมพิวเตอร์โดยตรง กลา่ วคือ หากมนุษย์ป้อนข้อมูลที่ไมถ่ กู ต้องใหก้ บั เครื่องคอมพิวเตอรก์ ็ยอ่ มไดผ้ ลลพั ธท์ ไ่ี มถ่ กู ตอ้ งด้วยเชน่ กัน

1.1.4 ประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์

จากการท่ีคอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการ ทาให้ถูกนามาใชป้ ระโยชน์ต่อการดาเนนิ ชีวติ ประจาวันในสงั คมเป็น
อย่างมาก ท่ีพบเห็นได้บ่อยท่ีสุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซึ่งเรียกว่างาน

ประมวลผล ( word processing ) นอกจากนย้ี งั มกี ารประยกุ ตใ์ ชค้ อมพวิ เตอรใ์ นดา้ นตา่ งๆ อกี หลายด้าน ดงั ต่อไปน้ี

45

1. งานธุรกจิ เช่น บรษิ ัท ร้านค้า ห้างสรรพสนิ ค้า ตลอดจนโรงงานตา่ งๆ ใชค้ อมพิวเตอร์ในการทาบญั ชี
งานประมวลคา และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ก็ใช้
คอมพิวเตอรม์ าช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบช้ินสว่ นของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์
ซง่ึ ทาใหก้ ารผลติ มีคุณภาพดขี ้ึนบรษิ ัทยังสามารถรบั หรืองานธนาคาร ท่ีให้บริการถอนเงินผ่านตฝู้ ากถอนเงินอัตโนมัติ
( ATM ) และใชค้ อมพิวเตอรค์ ิดดอกเบีย้ ใหก้ บั ผู้ฝากเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชี เชือ่ มโยงกันเป็นระบบเครอื ข่าย

2. งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในนามาใช้ในส่วน
ของการคานวณท่ีค่อนข้างซบั ซ้อน เช่น งานศึกษาโมเลกลุ สารเคมี วิถกี ารโคจรของการส่งจรวดไปสู่อวกาศ หรืองาน
ทะเบียน การเงิน สถิติ และเป็นอุปกรณ์สาหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซึ่งจะให้ผลท่ีแม่นยากว่าการตรวจด้วยวิธีเคมี
แบบเดิม และใหก้ ารรักษาได้รวดเร็วข้นึ

3. งานคมนาคมและส่ือสาร ในสว่ นท่ีเกยี่ วกับการเดินทาง จะใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการจองวันเวลา ทน่ี ่ัง ซึ่ง
มกี ารเช่ือมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได้ ทาให้สะดวกต่อผู้เดินทางที่ไม่ต้องเสียเวลารอ อีกทั้งยังใช้ในการ
ควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการส่ือสารก็ใช้ควบคุมวงโคจร
ของดาวเทยี มเพ่อื ใหอ้ ย่ใู นวงโคจร ซงึ่ จะชว่ ยส่งผลตอ่ การสง่ สญั ญาณให้ระบบการสอ่ื สารมีความชัดเจน

4. งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอรใ์ นการออกแบบ หรือ
จาลองสภาวการณ์ ต่างๆ เช่น การรับแรงสน่ั สะเทือนของอาคารเมื่อเกดิ แผ่นดินไหว โดยคอมพิวเตอร์จะคานวณและ
แสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง รวมท้ังการใช้ควบคุมและติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น
คนงาน เครอื่ งมือ ผลการทางาน

5. งานราชการ เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากท่ีสุด โดยมกี ารใช้หลายรูปแบบ ท้งั นี้ขน้ึ อยู่กับ
บทบาทและหน้าท่ีของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ ,
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพ่ือเช่ือมโยงไปยังสถาบันต่างๆ ,
กรมสรรพากร ใช้จดั ในการจดั เก็บภาษี บันทกึ การเสยี ภาษี เปน็ ต้น

6. การศึกษา ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนาคอมพิวเตอร์มาช่วยการ
สอนในลักษณะบทเรยี น CAI หรอื งานด้านทะเบียน ซึ่งทาใหส้ ะดวกต่อการค้นหาข้อมูลนกั เรียน การเก็บข้อมูลยืมและ
การส่งคืนหนงั สอื หอ้ งสมุด

1.2 ประวตั ิความเปน็ มาและยคุ ของคอมพวิ เตอร์
พัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีในชว่ ง 100 ปีท่ผี ่านมาได้พัฒนาไปอย่างรวดเรว็ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเทคโนโลยี

ทางด้าน คอมพิวเตอร์ เมื่อ 50 ปีที่แล้วมา มีคอมพิวเตอร์ข้ึนใช้งาน ต่อมาเกิดระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่
เกิดขึ้นมากมาย และมีแนวโน้มการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เราสามารถแบ่งพัฒนาการคอมพิวเตอร์จากอดีตสู่ปัจจุบัน
สามารถแบ่งเปน็ ยุคก่อนการใชไ้ ฟฟ้าอเิ ล็กทรอนิคส์ และยคุ ที่เคร่อื งคอมพวิ เตอร์เปน็ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิคส์

1.2.1 เคร่ืองคานวณในยคุ ประวัติศาสตร์ ในยุคเรมิ่ แรก ได้แก่ เครื่องจักรกลหรือสิ่งประดษิ ฐ์ขึ้นเพอื่ ช่วยใน
การ คานวณ โดยท่ียงั ไมม่ ีการ นาวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์ เขา้ มาใชป้ ระโยชนร์ ว่ มด้วย ลาดับเครอ่ื งมอื ข้ึนมามีดงั นี้

46

 ในระยะ 5,000 ปีท่ีผ่านมา มนุษย์เริ่มรู้จักการใช้นิ้วมือและน้ิวเท้าของตนเพื่อช่วยในการคานวณ
และพฒั นา มาใชอ้ ปุ กรณอ์ น่ื ๆ เชน่ ลูกหิน ใชเ้ ชอื กร้อยลกู หินคลา้ ยลูกคิด

ต่อมาประมาณ 2,600 ปกี อ่ นครสิ ตกาล ชาวจีนไดป้ ระดษิ ฐเ์ ครือ่ งมือเพอื่ ใช้ในการ คานวณขน้ึ มา
ชนิดหน่งึ เรียกวา่ ลูกคดิ ซงึ่ ถือได้วา่ เป็นอุปกรณ์ใช้ช่วยการคานวณท่ีเก่าแกท่ ี่สดุ ในโลกและคงยังใช้งานมาจนถงึ
ปจั จบุ ัน

เคร่ืองคานวณเคร่อื งแรกของโลก ได้แก่ ลูกคิด มีการใช้ลูกคิดในหมู่ชาวจีนมากกวา่ 7000 ปี และใช้
ในอียิปต์โบราณมากกว่า 2500 ปี ลูกคิดของชาวจีนประกอบด้วยลูกปัดร้อยอยู่ในราวเป็นแถวตามแนวต้ัง โดยแต่ละ
แถวแบง่ เปน็ ครึ่งบนและลา่ ง ครึง่ บนมลี ูกปดั 2 ลูก คร่งึ ล่างมลี ูกปัด 5 ลูก แต่ละแถวแทนหลักของตัวเลข

ภาพที่ 2 ลกู คดิ
( ทม่ี า : https://jazzylj.blogspot.com/2018/02/blog-post_20.html )

 พ.ศ. 2158 นกั คณติ ศาสตรช์ าวสก็อตแลนด์ชอื่ John Napier ไดป้ ระดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์ใช้ ช่วยการ
คานวณข้นึ มา เรยี กวา่ Napier's Bones เปน็ อุปกรณ์ที่ลกั ษณะคล้ายกบั ตารางสูตรคูณในปจั จบุ ัน เครือ่ งมือชนิดนี้ช่วย
ให้ สามารถ ทาการคูณและหาร ไดง้ ่ายเหมอื นกับทาการบวก หรือลบโดยตรง

 พ.ศ. 2185 นกั คณติ ศาสตรช์ าวฝร่งั เศสชื่อ Blaise Pascal ซ่งึ ในขณะนัน้ มอี ายเุ พียง 19 ปี ได้
ออกแบบ เคร่ืองมอื ในการคานวณโดย ใชห้ ลักการหมุนของฟันเฟอื งหนง่ึ อนั ถูกหมุนครบ 1 รอบ ฟันเฟอื งอกี อนั หนง่ึ ซงึ่
อยู่ ทางด้านซา้ ยจะถกู หมุนไปดว้ ยในเศษ 1 ส่วน 10 รอบ เครือ่ งมือของปาสคาลน้ถี ูกเผยแพรอ่ อกสู่สาธารณะชน เม่อื
พ.ศ. 2188 แต่ไมป่ ระสบความสาเรจ็ เทา่ ที่ควรเน่ืองจากราคาแพง และเมอื่ ใชง้ านจรงิ จะเกิดเหตกุ ารณท์ ฟ่ี ันเฟอื งติดขดั
บ่อยๆ ทาใหผ้ ลลัพธ์ทไ่ี ดไ้ ม่คอ่ ยถกู ตอ้ งตรงความเป็นจริง

 พ.ศ. 2373 Chales Babbage ถอื กาเนดิ ท่ปี ระเทศองั กฤษ เม่อื พ.ศ. 2334 จบการศึกษาทางด้าน
คณติ ศาสตร์ จากมหาวทิ ยาลัยแคมบริดจ์ และไดร้ ับตาแหน่ง Lucasian Professor ซึง่ เป็นตาแหน่งที่ Isaac Newton
เคยได้รับมาก่อน ในขณะที่กาลังศึกษาอยู่น้นั Babbage ได้สรา้ งเคร่อื ง หาผลต่าง (Difference Engine) ซงึ่ เปน็ เครื่อง
ท่ใี ช้คานวณ และพมิ พ์ตารางทางคณติ ศาสตร์อยา่ งอัตโนมัติ จนกระท่งั ปี พ.ศ. 2373 เขาได้รบั ความช่วยเหลอื จาก
รฐั บาลองั กฤษเพอ่ื สรา้ งเครื่อง Difference Engine ข้นึ มาจริงๆ

แต่ในขณะท่ี Babbage ทาการสร้างเครือ่ ง Difference Engine
อยนู่ ั้น ไดพ้ ัฒนาความคดิ ไปถงึ เคร่ืองมอื ในการคานวณที่มคี วามสามารถสงู กว่าน้ี ซง่ึ ก็คอื เครอ่ื งท่ีเรยี กวา่ เครือ่ ง
วิเคราะห์ (Analytical Engine) และได้ยกเลกิ โครงการสร้างเครื่อง Difference Engine ลงแลว้ เริ่มต้นงานใหม่ คือ
งานสรา้ งเครื่องวิเคราะห์ ในความคดิ ของเขา โดยที่เครอื่ งดงั กลา่ วประกอบไปดว้ ยช้ินส่วนทส่ี าคัญ 4 สว่ น คือ