แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาสังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม นางสาวจตุพร สวุ รรณประเสริฐ ครผู ้สู อน โรงเรียนวดั นราภิรมย์ สํานักงานเขตพนื ทีการศกึ ษานครปฐม เขต 2 คำนำ ผู้สอนสามารถนาแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ไปเป็นคู่มือวางแผนกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการใช้ 1. หลกั การจดั การเรยี นรอู้ ิงมาตรฐาน หน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วย จะกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดไว้เป็นเป้าหมายใน มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด ผเู้ รยี นร้อู ะไร สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 2. หลักการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั เมอ่ื ผ้สู อนวิเคราะห์รายละเอียดของมาตรฐานตัวช้ีวัดและได้กาหนดเป้าหมายการจัดการเรียน มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั เป้ำหมำย หลักการจัดการเรียนรู้ 3. หลกั การบูรณาการกระบวนการเรยี นรู้สมู่ าตรฐานตวั ช้วี ัด เมื่อผู้สอนกาหนดขอบข่ายสาระการเรียนรู้ และแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไว้ 4. หลักการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยผู้สอนต้องกาหนด 1) การเรียนรู้ เป็นกระบวนการทางสติปัญญาท่ีผู้เรียนทุกคนต้องใช้สมองคิดและทาความ 2) การสอน เป็นการเลือกวิธีการหรือกิจกรรมท่ีเหมาะสมกับการเรียนรู้ในหน่วยน้ันๆ และที่ 3) รูปแบบการสอน ควรเป็นวิธีการและข้ันตอนฝึกปฏิบัติท่ีส่งเสริมหรือกระตุ้นให้ผู้เรียน 4) วิธีการสอน ควรเลือกใช้วิธีการสอนที่สอดคล้องกับเนื้อหาของบทเรียน ความถนัด ความ 5) เทคนคิ การสอน
ควรเลือกใช้เทคนิคการสอนที่สอดคล้องกับวิธีการสอน และช่วยให้ผู้เรียน 6) ส่ือการเรียนการสอน ควรเลือกใช้สื่อหลากหลายกระตุ้นความสนใจ และทาความกระจ่าง สไลด์ คอมพิวเตอร์ VCD LCD Visualizer เป็นต้น ควรเตรียมส่ือให้ครอบคลุมท้ังสื่อการ 5. หลักการจัดกจิ กรรมการเรียนร้แู บบย้อนกลับตรวจสอบ เรียบร้อยแล้วจึงนาเทคนิควิธีการสอน
วิธีจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และส่ือการเรียนรู้ไปลงมือจัดการเรียน จำกเป้ำหมำยและหลกั ฐำน เปำ้ หมำยกำรเรยี นรู้ของหน่วย หลักฐานชิ้นงาน/ภาระงาน 4. กจิ กรรม คาถามชวนคดิ 3. กจิ กรรม คาถามชวนคดิ 2. กจิ กรรม คาถามชวนคดิ จำกกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพ นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ท้ังนี้การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละหน่วยจะครอบคลุมกิจกรรมการเรียนรู้ บรษิ ัท อกั ษรเจริญทศั น์ อจท.จากดั สำรบัญ สรุปหลักสูตรฯ ภมู ิศำสตร์ Geography
หน้า หน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี 1 ศำสนำนำ่ รู้ หน่วยยอ่ ยที่ 3 (บทที่ 3) แบบอยำ่ งที่ดี 128 หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 2 พลเมอื งดีของชำติ หน่วยย่อยที่ 1 (บทท่ี 1) กระบวนกำรประชำธปิ ไตย 208 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 พลเมอื งดีของชำติ หนว่ ยย่อยที่ 2 (บทท่ี 2) กำรดำเนินชีวติ 268 หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 เศรษฐศำสตรใ์ กล้ตวั หนว่ ยยอ่ ยที่ 1 (บทท่ี 1) สนิ คำ้ และบรกิ ำร 336 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐศำสตรใ์ กล้ตวั หน่วยยอ่ ยท่ี 2 (บทที่ 2) กำรวำงแผน 376 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 4 รรู้ อบภมู ิศำสตร์ หน่วยย่อยท่ี 3 (บทที่ 3) สง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน สรุปหลกั สูตร ปัจจุบันประเทศไทย และพ้ืนที่ต่าง
ๆ ของโลกเกิดภาวะวิกฤตด้านกายภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และมีผลกระทบ สาระภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ระดับประถมศกึ ษา ผู้เรยี นจะได้เรยี นรู้จากสิง่ ใกล้ตัวไปไกลตัว สาระภูมิศาสตร์ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมท่ี * สรุปและลดทอนจาก สานักวชิ
าการและมาตรฐานการศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร, ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้ พเิ ศษ 1 พเิ ศษ 2 พเิ ศษ 3 กำรเปรยี บเทียบมำตรฐำนกำรเรยี นรภู้ มู ศิ ำสตร์ ชั้น ป.3 มำตรฐำน 5.1 พ.ศ. 2560 3. อธบิ ายเกย่ี วกับมลพษิ และการกอ่ ให้เกิดมลพษิ โดยมนษุ ย์ พิเศษ 4 ตวั ชีว้ ดั และสำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง กลุ่มสำระก สำระท่ี 1 ศำสนำ ศลี ธรรม จรยิ ธรรม และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกันอยา่ งสนั ติสขุ ชัน้ ตัวช้ีวดั ป.3 1. อธบิ ายความสาคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี
นนับถือใน 2. สรุปพทุ ธประวัตติ ง้ั แตก่ ารบาเพ็ญเพียรจนถึงปรนิ ิพพานหรือประวตั ิ 3. ช่ืนชมและบอกแบบอยา่ งการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวตั ิ พเิ ศษ กำรเรยี นรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่นื มศี รัทธาที่ถูกต้อง ยดึ มน่ั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ความสัมพนั ธข์ องพระพทุ ธศาสนากบั การดาเนนิ ชีวิตประจาวัน เชน่ การสวดมนต์ การทาบุญใส่บาตร การแสดงความเคารพ การใช้ภาษา พระพทุ ธศาสนามอี ิทธิพลต่อการสร้างสรรคผ์ ลงานทางวัฒนธรรมไทยอนั เกิด จากความศรัทธา เช่น วัด ภาพวาด พระพทุ ธรูป วรรณคดี สถาปตั ยกรรมไทย สรุปพทุ ธประวัติ (ทบทวน) การบาเพ็ญเพียร ผจญมาร ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า สามเณรสงั กิจจะ ชาดก อารามทูสกชาดก มหาวาณิชชาดก ษ5 ชนั้ ตวั ชวี้ ดั 4. บอกความหมาย ความสาคญั ของพระไตรปฎิ ก หรือคมั ภรี ์ของ 5. แสดงความเคารพพระรตั นตรัย และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามท่ี กาหนด พเิ ศษ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ศาสนกิ ชนตัวอย่าง ความสาคญั ของพระไตรปิฎก เช่น เป็นแหล่งอ้างอิงของหลักธรรมคาสอน พระรตั
นตรยั โอวาท 3 ษ6 ช้นั ตัวชวี้ ัด 6. เหน็ คณุ คา่ และสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสตทิ เ่ี ปน็ พืน้ ฐานของสมาธใิ น 7. บอกชอ่ื ความสาคัญ และปฏิบัตติ นได้อยา่
งเหมาะสมต่อศาสนวตั ถุ พเิ ศษ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - มงคล 38 รู้จักให้ พูดไพเราะ อยู่ในส่งิ แวดลอ้ มทดี่ ี ทาจติ ให้บริสทุ ธ์ิ (บริหารจิตและเจริญปญั ญา) พุทธศาสนสุภาษติ ฝึกสวดมนต์ ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คุณพระรัตนตรยั และแผ่เมตตา ช่ือและความสาคัญของศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคลใน การปฏบิ ตั ิตนทเ่ี หมาะสมต่อศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคลในศาสนา ษ7 สำระที่ 1 ศำสนำ ศีลธรรม จรยิ ธรรม ชน้ั ตวั ชว้ี ดั ป.3 1. ปฏิบตั ติ นอยา่ งเหมาะสมต่อสาวก ศาสนสถาน ศาสนวัตถุของศาสนาท 2. เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ติ นในศาสนพิธี พธิ กี รรม และวันสาคัญทางศาสน 3. แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนิกชนของศาสนาทต่ี นน พิเศษ ระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ท่ี ฝกึ ปฏิบตั ิมรรยาทชาวพุทธ นา การปฏบิ ัติตนในศาสนพิธี นบั ความเปน็ มาของการแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ ษ8 สำระท่ี 2 หนำ้ ที่พลเมือง วัฒนธรรม
และกำรดำเนินชวี ิตในสังคม และสังคมโลกอย่างสันติสขุ ชั้น ตัวชี้วัด ป 3. อธิบายความสาคัญของวนั หยุดราชการทส่ี าคัญ พ ส ว พเิ ศษ งามและธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อย่รู ว่ มกนั ในสังคมไทย สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ประเพณีและวฒั นธรรมในครอบครวั เชน่ การแสดงความเคารพและการเชื่อฟัง วันหยดุ ราชการที่สาคญั เช่น วนั ฉตั รมงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา วนั อาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ษ9 สำระที่ 2 หนำ้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และกำรดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม ทรงเปน็ ประมขุ ชั้น ตัวชีว้ ดั 2. วิเคราะหค์ วามแตกตา่ งของกระบวนการการตัดสนิ ใจในชัน้ เรียน/ โรงเรยี นและชุมชน โดยวธิ ีการออกเสยี งโดยตรงและการเลือก ตัวแทนออกเสยี ง 3. ยกตัวอยา่ งการเปลี่ยนแปลงในช้นั เรียน โรงเรียน และชุมชนท่เี ป็น พเิ ศษ และธารงรักษาไวซ้ ่ึงการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในชุมชน การตัดสนิ ใจของบุคคลและกลุ่มทีม่ ผี ลตอ่
การเปลีย่ นแปลงในชน้ั เรยี น โรงเรียน การเปลีย่ นแปลงในช้นั เรยี น เช่น การเลือกหวั หนา้ ห้อง การเลอื กคณะกรรมการ การเปล่ียนแปลงในโรงเรยี น เช่น เลือกประธานนกั เรยี น เลือกคณะกรรมการ การเปลีย่ นแปลงในชุมชน เชน่ การเลอื กผ้ใู หญ่บา้ น กานนั สมาชิก อบต. อบจ. 10 สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ หลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งเพื่อการดารงชวี ิตอย่างมีดุลยภาพ ชัน้ ตวั ชีว้ ดั ป.3 1. จาแนกความต้องการและความจาเปน็ ในการใชส้ ินคา้ และบรกิ ารใน การดารงชีวิต 2. วิเคราะห์การใชจ้ ่ายของตนเอง พิเศษ ริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยจู่ ากัดได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและคมุ้ คา่ รวมทัง้ เข้าใจ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สินคา้ ทจี่ าเปน็ ในการดารงชีวิตที่เรยี กวา่ ปจั จยั 4 การดารงชวี ติ ตอ้ งการของมนุษย์ทม่ี ีไม่จากัด 11 สำระท่ี 3 เศรษฐศำสตร์ ชั้น ตวั ชวี้ ดั ป.3 1. บอกสินค้าและบริการท่รี ัฐจัดหาและให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน 2. บอกความสาคัญของภาษแี ละบทบาทของประชาชนในการเสยี ภาษี 3. อธบิ ายเหตุผลการแข่งขันทางการค้าที่มีผลทาใหร้ าคาสินคา้ ลดลง พเิ ศษ ษฐกจิ และความจาเป็นของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สนิ คา้ และบรกิ ารทภ่ี าครฐั ทุกระดับจดั หาและให้บรกิ ารแก่ประชาชน เชน่ ถนน ความหมายและความสาคัญของภาษีที่รัฐนามาสร้างความเจริญและให้บรกิ าร ตัวอย่างของภาษี เช่น ภาษกี ารขายทวั่ ไทย บทบาทหนา้ ท่ีของประชาชนในการเสยี ภาษี ลดลง 12 ตัวช้วี ดั สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง และกำ สำระท่ี 5 ภูมศิ ำสตร์ และสรปุ ข้อมลู ตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมสิ ารสนเทศอยา่ งมีประ ชัน้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.3 1. สารวจข้อมลู ทางภูมิศาสตร์ใน ข้อมูลทางภมู
ศิ าสตร์ในชมุ ชน 2. วาดแผนผงั เพ่ือแสดงตาแหน่ง ตาแหนง่ ทต่ี ง้ั ของสถานที่ พิเศษ ำรรู้เร่อื งภูมศิ ำสตร์ (Geo - Literacy) งมีผลต่อกัน ใชแ้
ผนท่ีและเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ geo-literacy ความสามารถ กระบวนการ ทักษะ ความเข้าใจระบบ 1. การตงั้ คาถามเชิง 1. การสงั เกต 5. การสรุปเพ่ือตอบ 1. การสังเกต ทางภูมิศาสตร์ 3. การใชเ้ ทคนิคและ เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ 13 สำระที่ 5 ภูมศิ ำสตร์ ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมเพื่อการพฒั นาทย่ี งั่ ยืน ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.3 1. เปรยี บเทยี บการเปลีย่ นแปลง สง่ิ แวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กบั สิ่งแวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จบุ ัน ปัจจบุ ัน - ส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติ - สิง่ แวดลอ้ มทีม่ นุษยส์ ร้างขน้ึ 2. อธิบายการใชป้ ระโยชนจ์ าก การใชป้ ระโยชนจ์ ากสงิ่ แวดล้อม 3. อธบิ ายสาเหตทุ ที่ าให้เกดิ มลพิษ ความหมายและประเภทของมล โดยมนุษย์ โดยมนุษย์ สาเหตขุ องการเกิดมลพิษท่ีเกิดจ พเิ ศษ หเ้ กิดการสร้างสรรค์วิถีการดาเนินชีวิต มีจติ สานกึ และมีส่วนรว่ มในการจัดการ geo-literacy ความสามารถ กระบวนการ ทกั ษะ บ 1. ความเขา้ ใจระบบ 1. การต้งั คาถามเชิง 1. การสังเกต 2. การให้เหตผุ ลทาง 2. การรวบรวมขอ้ มลู ข้อมลู ทาง จาก 1. การสงั เกต ลพิษ 1. ความเข้าใจระบบ ข้อมลู ทาง จาก 2. การให้เหตุผลทาง 14 ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 4. อธิบายความแตกต่างของ การกระทาของมนุษย์ สง่ิ ปลกู สรา้ ง การใช้ท่ดี นิ การ 5. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่าง ภมู ิประเทศและภูมิอากาศที่มีผล 6. มสี ว่ นรว่ มในการจัดการ ผลกระทบของการเปลีย่ นแปลง พเิ ศษ ความสามารถ geo-literacy ทกั ษะ ช่น 1. ความเข้าใจระบบ 1. การสงั เกต ง 1. ความเข้าใจระบบ ขอ้ มลู ทาง 2. การใหเ้ หตุผลทาง 15 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวชิ ำพ้ืนฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม เวลำ 80 ช่วั โมง ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย เรื่อง ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นรากฐานสาคัญของวัฒนธรรมไทย
ประวัติ โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีความสามารถทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทาง ตวั ชว้ี ดั พิเศษ 16 โครงสร้ำงรำยวิชำ สงั คมศกึ ษำฯ ป.3 ลาดบั ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก 1 ศาสนาน่ารู้ ส 1.1 ป.3/1 พระพทุ ธศาสนาความสาคญั ตอ่ การสรา้ งสรรค์ 3 หน่วยย่อยที่ 1 ป.3/2 วฒั นธรรมอนั เกดิ จากความศรัทธา การศกึ ษาพุทธ 11 (บทที่ 1) ประวัติ และย่อมทาใหไ้ ดค้ ณุ ธรรมอันเป็นแบบอย่าง 3 พระพทุ ธศาสนานา่ รู้ ไปประยกุ ต์ปฏบิ ัติ 2 ศาสนานา่ รู้ ส 1.1 ป.3/4 การแสดงความเคารพพระรตั นตรยั และการปฏิบตั ิ หนว่ ยย่อยท่ี 2 ป.3/5 ตนตามหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนาย่อม (บทที่ 2) เครือ่ งยึด ป.3/7 ทาให้การดาเนินชวี ิตไปในทางท่ีถูกต้อง ศาสนิกชน เหน่ียวจิตใจ ทุกคนพึงปฏบิ ัตติ นตอ่ ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบคุ คลของศาสนาอ่ืนอยา่ งเหมาะสม 3 ศาสนาน่ารู้ ส 1.1 ป.3/3 การศกึ ษาประวตั ิสาวก ชาดก และศาสนกิ ชน 6 พลเมืองดขี องชาติ ป.3/2 เปน็
ผลจากการตัดสินใจของบุคคลและกลมุ่ คน โดย พิเศษ 17 ลาดับ ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก 7 เศรษฐศาสตร์ใกลต้ วั ส 3.1 ป.3/1 สินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของ 5 หน่วยยอ่ ยท่ี 1 มนษุ ย์มีอยูห่ ลายประเภท ซ่งึ จะตอ้ งรหู้ ลกั การเลือก (บทที่ 1) สนิ คา้ และ ซื้อสินค้าและบริการที่จาเป็นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ บริการกบั การ สินคา้ ดารงชวี ติ 8 เศรษฐศาสตร์ใกล้ตวั ส 3.1 ป.3/2 ประชาชนทกุ คนตอ้ งรูจ้ ักวางแผนการใช้จ่ายเงินของ 8 หน่วยย่อยที่ 2 ส 3.2 ป.3/1 ตน และมีหน้าที่เสียภาษีให้แก่รัฐทั้งทางตรงและ (บทท่ี 2) การวางแผน ป.3/2 ทางอ้อม เพื่อรัฐจะได้นามาเป็นค่าใช้จ่ายในการ การใชจ้ า่ ยเงินของ พฒั นาประเทศ ตนเอง 9 เศรษฐศาสตรใ์ กล้ตวั ส 3.1 ป.3/3 ทรัพยากรท่เี รานามาใชใ้ นการผลติ สนิ คา้ และบริการ 6 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 3 ส 3.2 ป.3/3 มีอยู่อย่างจากัด การแข่งขันทางการค้ามีผลทาให้ (บทที่ 3) การผลิตและ ราคาสินคา้ ลดลง การแขง่ ขนั ทางการค้า 10 รู้รอบภมู ศิ าสตร์ ส 5.1 ป.3/1 แผนท่ี แผนผัง และรูปถ่ายมีความสาคัญในการใช้ 6 หนว่ ยย่อยท่ี 1 ป.3/2 หาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในชุมชน แสดงท่ีตั้งของ (บทที่ 1) เครอ่ื งมือ สถานที่สาคญั ในบรเิ วณโรงเรียนและชุมชน ทางภูมศิ าสตร์ 11 รรู้ อบภมู ิศาสตร์ ส 5.2 ป.3/1 สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถงึ ปัจจุบนั มีการ 10 หน่วยยอ่ ยท่ี 2 ป.3/2 เปล่ยี นแปลง ความสมั พันธ์ของลักษณะทางกายภาพ (บทที่ 2) ชุมชน ป.3/4 กบั ลักษณะทางสงั คมของชมุ ชน มกี ารพึง่ พาส่ิงแวดลอ้ ม ของเรา ป.3/5 และทรพั ยากรธรรมชาตใิ นการสนองความต้องการ พื้นฐานของมนษุ ยแ์ ละการประกอบอาชีพ แล้วยังมี ความแตกตา่ งกันของเมอื งและชนบท 12 รู้รอบภมู ิศาสตร์ ส 5.2 ป.3/3 กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์สง่ ผลใหเ้ กดิ มลพิษ ดังน้ัน หนว่ ยยอ่ ยที่ 3 ป.3/6 ทกุ คนจงึ ควรมีสว่ นร่วมในการจดั การสิ่งแวดล้อม (บทท่ี 3) ส่งิ แวดล้อม ในชมุ ชน หมำยเหตุ : หากสถานศึกษาใดเลอื กใชห้ นงั สือเรียน วิชาพระพุทธศาสนา (สาระท่ี
1) ฉบบั แยกเล่ม ใหผ้ ้สู อนลดจานวน พเิ ศษ 18 พเิ ศษ 19 โครงสร้ำงแผนฯ สงั คมศกึ ษำฯ ป.3 หน่วยการ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีสอน/กระบวนการ ทักษะการคดิ เวลา หนว่ ยการ พระพุทธศาสนา - วธิ ีสอนโดยเนน้ 1. ทกั ษะการเชื่อมโยง 1 - วธิ สี อนโดยเน้น 1. ทกั ษะการวิเคราะห์ กระบวนการ : 2. ทักษะการจาแนก กระบวนการสร้าง 3. ทักษะการสังเกต ความตระหนัก 4. ทกั ษะการสรุป ความเห็น 5. ทกั ษะการแสวงหา ความรู้ - วธิ ีสอนโดยเนน้ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ กระบวนการ : 2. ทักษะปฏบิ ตั ิ กระบวนการสรา้ ง 3. ทกั ษะการสรปุ ความเหน็ ความตระหนัก 4. ทักษะการนาความรูไ้ ปใช้ - วิธสี อนโดยเนน้ 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ กระบวนการ : 2. ทกั ษะการสังเกต กระบวนการสร้าง 3. ทักษะการสรุป ความตระหนัก ความเห็น 4. ทักษะการนาความรู้ไปใช้ พิเศษ 20 หนว่ ยการ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธสี อน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา หน่วยการ 4. โอวาท 3 : - วธิ สี อนแบบธรรม 1. ทกั ษะการวิเคราะห์ 4 5. โอวาท 3 : ทา - วิธีสอนโดยเน้น 1. ทักษะการปฏบิ ัติ จิตให้ผอ่ งใส กระบวนการ : 2. ทักษะการนาความรู้ไปใช้ บรสิ ทุ ธิ์ กระบวนการสร้าง ความตระหนัก 6. พุทธศาสน - วธิ ีสอนโดยเน้น 1. ทักษะการวเิ คราะห์ สุภาษิต กระบวนการ : 2. ทกั ษะการแสวงหา กระบวนการสรา้ ง ความรู้ ความตระหนัก 3. ทักษะการสรปุ ลง ความเห็น 4. ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 7. การปฏบิ ตั ติ นอยา่ ง - วิธีสอนแบบสบื 1. ทกั ษะการวเิ คราะห์ เหมาะสมต่อศาสน เสาะหาความรู้ (5Es 2. ทักษะการสรปุ ลง บุคคล ศาสนวตั ถุ Instructional Model) ความเหน็ ศาสนสถาน 3. ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ 1. ประวัติพุทธสาวก - วิธสี อนโดยการจัดการ 1. ทักษะการวิเคราะห์ เรยี นร้แู บบร่วมมือ : 2. ทกั ษะการสรุปลง เทคนิคคู่คิด ความเห็น 3. ทักษะการนาความรูไ้ ปใช้ 2. ชาดก - วธิ สี อนโดยการจดั การ 1. ทักษะการวิเคราะห์ เรียนรูแ้ บบร่วมมือ : 2. ทกั ษะการสรปุ ลง เทคนคิ คคู่ ิดส่ีสหาย ความเห็น 3. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ พิเศษ 21 หน่วยการ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ ีสอน/กระบวนการ ทักษะการคิด เวลา หน่วยการ 3. ชาวพุทธตัวอย่าง - วิธสี อนโดยการจัดการ 1. ทกั ษะการสารวจค้นหา 1 3. ทักษะการวิเคราะห์ 4. ทักษะการสรปุ ความเห็น 5. ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ 2. ศาสนพธิ แี ละการ - วิธีสอนโดยเน้น 1. ทักษะการแสวงหา แสดงตนเป็นพุทธ กระบวนการ : ความรู้ มามกะ กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการปฏบิ ัติ 3. ทกั ษะการวิเคราะห์ 4. ทกั ษะการสรปุ ความเห็น 5. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 3. การพัฒนาจติ - วิธีสอนโดยเน้น 1. ทักษะการแสวงหา ตามแนวทางของ กระบวนการ : ความรู้ พระพทุ ธศาสนา กระบวนการปฏบิ ตั ิ 2. ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. ทกั ษะการปฏิบัติ 4. ทักษะการสรปุ ความเหน็ 5. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 1. บทบาทหนา้ ที่ - วธิ ีสอนแบบสืบ 1. ทักษะการตีความ ของสมาชิกใน เสาะหาความรู้ (5Es 2. ทกั ษะการแปลความ ชุมชน Instructional Model) 3. ทักษะการให้เหตุผล 2. การมสี ว่ นร่วมใน - วิธีสอนโดยใช้ทักษะ 1. ทกั ษะการตีความ กระบวนการ กระบวนการเผชิญ 2. ทักษะการแปลความ ประชาธปิ ไตย สถานการณ์ 3. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล พิเศษ 22 หนว่ ยการ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา พิเศษ 23 หนว่ ยการ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน/กระบวนการ ทักษะการคิด เวลา สนิ คา้ และ 2. หลกั การเลอื กซอ้ื - วิธสี อนแบบ 1. ทกั ษะการแสวงหาความรู้ หนว่
ยการ การดารงชวี ิต ความรู้ความเข้าใจ ความเหน็ หนว่ ยการ 3. การใช้จา่ ยของ - วธิ ีสอนโดยเนน้ 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู กระบวนการปฏิบตั ิ 3. ทักษะการใหเ้ หตุผล 3 ความเหน็ 5. ทกั ษะการนาความรูไ้ ปใช้ 4. สนิ คา้ และบริการ - วิธสี อนแบบสืบ 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล ท่ีภาครฐั จัดหา เสาะหาความรู้ (5Es 2. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล และใหบ้ ริการแก่ Instructional Model) 3. ทักษะการสรปุ ลง 2 4. ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 5. ทกั ษะการจาแนก 5. ภาษีท่ีเกย่ี วข้อง - วธิ ีสอนแบบสบื 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล กบั ชวี ติ ประจาวัน เสาะหาความรู้ (5Es 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล Instructional Model) 3. ทกั ษะการสรปุ ลง 3 ความเหน็ 4. ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 6. การผลติ และการ - วิธสี อนโดยการจัดการ 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล บริโภคสินค้าและ เรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : 2. ทักษะการวเิ คราะห์ 2 ความเห็น พิเศษ 24 หนว่ ยการ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน/กระบวนการ ทกั ษะการคดิ เวลา ใกล้ตัว 7. ปัญหาพน้ื ฐาน - วธิ ีสอนแบบสบื 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู หนว่ ยยอ่ ยที่ 3 ทางเศรษฐกิจกับ
เสาะหาความรู้ (5Es 2. ทักษะการวเิ คราะห์ 2 การผลติ และ ที่มอี ยู่อย่างจากดั ความเห็น การแขง่ ขนั ทาง 8. การแขง่ ขันทาง - วิธสี อนแบบแสดง 1. ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู การคา้ การคา้ บทบาทสมมติ 2. ทักษะการวิเคราะห์ 2 ความเห็น พเิ ศษ 25 หนว่ ยการ แผนการจัดการ วิธสี อน/วธิ กี าร การรเู้ รือ่ งภมู ิศาสตร์ (Geo-Literacy) เวลา หนว่ ยการ การเรยี นรู้ 1 Process) รวบรวม ขอ้ มูล 3. การวาด - กระบวนการ 1. ความ ขอ้ มลู 3. ทักษะการ แผนผังแสดง ทางภูมศิ าสตร์ เข้าใจ 3. การจัดการ ใชเ้ ทคนิค ภูมิศาสตร์ 5. การสรปุ คาถาม 4. ลักษณะทาง - กระบวนการ 1. ความ 1. การต้ัง 1. ทกั ษะการ กายภาพกับ ทางภูมศิ าสตร์ เข้าใจ คาถามเชงิ สังเกต การดาเนนิ (Geographic ระบบ ภูมศิ าสตร์ 2. ทักษะการ ชวี ิตใน Inquiry ธรรมชาติ 2. การ แปลความ ชุมชน Process) และมนุษย์ รวบรวม ขอ้ มลู 5. ส่ิงแวดล้อม - กระบวนการ 2. การให้ ข้อมลู และทรัพยา ทางภมู ศิ าสตร์ เหตุผลทาง 3. การจัดการ พิเศษ 26 หนว่
ยการ แผนการจัดการ วธิ สี อน/วธิ ีการ การร้เู รื่องภูมิศาสตร์ (Geo-Literacy) เวลา การเรียนรู้ 2 ของเรา ดาเนินชวี ิต Process) 4. การ 2 7. สงิ่ แวดล้อม - กระบวนการ ของชมุ ชน ทางภมู ิศาสตร์ ในอดีตกับ (Geographic ปจั จบุ นั Inquiry Process) หน่วยการ 8. มลพิษและ - กระบวนการ 1. ความ 1. การตงั้ 1. ทักษะการ เรยี นรู้ที่ 4 ผลกระทบ ทางภูมิศาสตร์ เขา้ ใจ คาถามเชิง สังเกต รอบรู้ ของ เปล่ียน (Geographic ระบบ ภมู ศิ าสตร์ 2. ทกั ษะการ ภูมิศาสตร์รู้ แปลง Inquiry ธรรมชาติ 2. การ แปลความ (บทที่ 3) 9. การจดั การ - กระบวนการ เหตผุ ลทาง 3. การจดั การ 5. การสรปุ เพอ่ื ตอบ คาถาม พิเศษ 27 องค์ประกอบของหน่วยกำรเรยี นรู้ / แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ช่ัวโมง องค์ประกอบของหน่วยกำรเรียนรู้ องิ มำตรฐำน หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 3. สาระการเรียนรู้ 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ (ถ้ามี) 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 7. การวดั และการประเมนิ ผล 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ พเิ ศษ 28 องคป์ ระกอบของแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ี่ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ช้นั ชัว่ โมง 1. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด 2. ตัวชี้วดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ (ถา้ ม)ี คำถำมกระตุ้นควำมคดิ วิธสี อนและขนั้ ตอนกำรจัดกจิ กรรม 8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ พิเศษ 29 |