เหงื่อออกง่าย ออกเยอะ ทําไง

เหงื่อออกง่าย ออกเยอะ ทําไง

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน
ใครที่กำลังเจอปัญหาเหงื่ออกเยอะเกินจนทำให้หมดความมั่นใจต้องมาอ่านเลยนะคะ จริงๆ แล้วการที่ให้ร่างกายมีเหงื่อออกมานี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะจะช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง แต่ถ้าเหงื่อออกเยอะเกินไปทั้งๆ ที่อากาศก็ไม่ได้ร้อน และไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเยอะแยะ แต่เหงื่อดันออกมาเหมือนกับคนที่พึ่งอาบน้ำแบบนี้
แปลว่าเพื่อนๆ กำลังเผชิญกับภาวะหลั่งเหงื่อมาก หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Hyperhidrosis ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาการแบบนี้เหงื่อมักออกบริเวณรักแร้ (หรือที่เราเรียกกันว่าจั๊กเปียก), สะโพก, เท้า และที่หน้า ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดที่สำคัญๆ และมองเห็นได้ชัดเจนทั้งนั้น คงจะทำให้เพื่อนๆ มักจะขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตกันไปเลยใช่ไหมคะ
วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะนำสิ่งดีๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ 6 วิธีลดปัญหาเหงื่อออกเยอะ โดยเราจะนำของในบ้านอย่างเช่นพวกสมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่หาง่ายมาบรรเทาเจ้าอาการเหงื่อออกเยอะกันค่ะ รับรองว่าหาไม่ยาก ราคาไม่แพง แต่ได้ผลดีสุดๆ แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มกัน เรามารู้กันก่อนดีกว่าค่ะว่าสาเหตุของการที่เหงื่อออกเยอะจนเกินไปนี่มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.การบูรในตู้เสื้อผ้า ก็ช่วยได้

วิธีการ : • ใส่การบูรบดละเอียด 10 กรัมลงในน้ำมันมะพร้าว 1 ถ้วย• ผสมให้เข้ากัน• นำมาทาบริเวณที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ• ถูหรือนวดเบาๆ ประมาณ 5 -10 นาที หรือปล่อยให้น้ำมันซึมลงผิว• ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ค้างคืน เพื่อให้การบูรช่วยควบคุมภาวะเหงื่อออกมากเกินไปในระหว่างการนอนหลับ• เพื่อให้เห็นผลที่ดีให้ทำซ้ำทุกวัน

2. ชาดอกคาโมมายล์ หอม ชื่นใจ แถมไม่มีเหงื่อ

ดอกคาโมไมล์ที่มีกลิ่นหอมมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและสามารถขจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้
วิธีการ :
• นำชาดอกคาโมไมล์ 1 ช้อนชา ลงในถ้วยน้ำแล้วต้มให้เดือด• ปล่อยให้ชาเย็นลงแล้วแช่ผ้าฝ้ายเช็ดใต้วงแขนและพื้นที่อื่น ๆ ของร่างกายที่เหงื่อชอบออก
หรือ• เติมน้ำมันหอมระเหยคาโมไมล์ในน้ำในอ่างอาบน้ำ• เจือจางน้ำมันดอกคาโมไมล์ด้วยน้ำมันมะพร้าว จากนั้นแช่ในอ่าง หรืออาบ ขัด ถูพื้นที่ที่เหงื่อออกให้สะอาด
ข้อควรระวัง:  สาวๆ ที่แพ้พวกเกสรดอกไม้  ควรหลีกเลี่ยงการใช้ดอกคาโมไมล์

3. น้ำส้มสายชูกำจัดเหงื่อที่เท้า

*วิธีการ : * • เติมน้ำสะอาด 1 ลิตรในอ่างแช่เท้า• เติมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยแล้วผสมให้เข้ากัน สามารถใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ แทนน้ำส้มสายชูธรรมดาก็ได้นะคะ• แช่เท้าในน้ำประมาณ 30 นาที• เช็ดเท้าให้แห้ง วิธีนี้จะช่วยควบคุมเหงื่อที่ออกมากเป็นพิเศษได้อย่างดี และช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกและทำให้เท้าของคุณแห้งสนิท บอกลาเหงื่อและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้เลยค่ะ

4. ใช้เกลือเป็นส่วนผสม

วิธีการ:
• ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากัน• นำไปทาบริเวณที่มีเหงื่อออกเยอะเป็นพิเศษ และทำการนวดด้วยนิ้วอย่างเบามือ
จนกระทั่งน้ำมะนาวซึมสู่ผิว • ปล่อยทิ้งไว้ 20 – 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง• ทำเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการเหงื่อออกเยอะ และชะลอการทำงานของต่อมเหงื่อ
ทำให้เหงื่อบริเวณใต้วงแขนและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายลดน้อยลง

5. ถั่วเขียว และน้ำนม พิชิตเหงื่อบริเวณหน้าและลำคอ

*วิธีการ : * • นำถั่วเขียว 1 ช้อนโต๊ะมาคั่วในกระทะ• นำมาบดให้เป็นผงละเอียด• เติมนม 1 ช้อนโต๊ะลงไป ผสมให้เข้ากัน• นำมาทาบริเวณหน้าและลำคอ• ทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น• ทำซ้ำ 2 -3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยลดปริมาณเหงื่อที่ออกบริเวณใบหน้าและลำคอได้อย่างดี

6. น้ำจากต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass Juice)

*วิธีการ : * • ดื่มน้ำจากต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี 1 ถ้วยทุกเช้าตอนท้องว่าง หากใครทานเพียวๆ ไม่ได้ ให้นำน้ำจากต้นกล้าอ่อนข้าวสาลี 1 ถ้วยมาผสมกับน้ำก่อนแล้วค่อยดื่มนะคะ• วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาเหงื่อออกมากได้อย่างดี ต้นกล้าอ่อนข้าวสาลีอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด
ซึ่งสามารถเข้าไปควบคุมกรดในร่างกาย และขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และช่วยควบคุมปริมาณเหงื่อ
ที่ออกมาเกินไปได้ด้วยค่ะ

7. น้ำแตงกวาลดเหงื่อที่หน้า

*วิธีการ : * • นำแตงกวา 1 ลูกมาคั้นน้ำแตงกวา• นำน้ำแตงกวาคั้นไปแช่ในตู้เย็น 1 – 2 ชั่วโมง หรือจะทิ้งไว้ 2 – 3 วันก็ได้• นำสำลีแผ่นมาจุ่มในน้ำแตงกวา และนำมาวางไว้ที่ใบหน้า• ทิ้งไว้ 20 นาที หรือจนกว่าจะแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด• ทำแบบนี้ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลาไม่กี่สัปดาห์แล้วเพื่อนๆ จะพบถึงความเปลี่ยนแปลงกับเหงื่อที่ออกบริเวณใบหน้าได้อย่างชัดเจน เพราะแตงกวามีฤทธิ์สมานแผลและช่วยในการควบคุมเหงื่อได้ด้วยค่ะ

คราวนี้ความเครียด หรือความอายที่มีก็จะหมดไป แถมของที่เราแนะนำก็หาได้ง่ายตามท้องตลาด เพื่อนๆลองเลือกสูตรที่คิดว่าเข้ากับเรา และลองทำเป็นประจำดูนะคะ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นจริงๆ แนะนำว่าให้ลองปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง และจะได้รักษาอย่างตรงจุดค่ะ วันนี้ไปก่อนน้า บ๊ายบาย >///<

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore