ด้านเกษตรกรรม งานในด้านนี้ที่ประสบความสำเร็จมากคือ การวิจัยด้านการฉายรังสีอาหาร โดยใช้รังสีแกมมาช่วยยืดอายุการเก็บของอาหารทั้งพืชผัก ผลไม้ Show ด้านการแพทย์ ปัจจุบันมีการนำเทคนิคด้านนิวเคลียร์มาใช้ในทางการแพทย์หลายด้าน ด้านอุตสาหกรรม ปัจจัยหลักที่จะทำให้อุตสาหกรรมก้าวหน้าไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจ ด้านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เช่น การวิเคราะห์ธาตุปริมาณน้อย ข้อมูลจาก: http://std.kku.ac.th/4830410330/assignment2_Neuclear_powerplant/payosteechai/payosteechai.html ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ หมายถึง การดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขการเดินเครื่อง(ปฏิกรณ์ปรมาณู/นิวเคลียร์) อย่างเหมาะสม โดยมีมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือ การบรรเทาผลของอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชน และสิ่งแวดล้อม ได้รับผลกระทบที่เป็นอันตรายจากรังสี วัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย
2.วัตถุประสงค์ด้านการป้องกันรังสี
3.วัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยทางเทคนิค
นโยบายการจัดการกากกัมมันตรังสี 2. วัฎจักรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แบบเปิด คือ การใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ภายในเครื่องปฏิกรณ์เพียงครั้งเดียวแล้วไม่ได้นำมาผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เชื้อเพลิงที่ใช้แล้วจะถูกรวมรวบแล้วนำไปฝังเก็บทั้งแท่ง ประเทศที่เลือกใช้วิธีนี้คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เกาหลีใต้ ฟินแลนด์ สเปน สวีเดน ที่มา ::: โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ NT TAM Camp 2008 วราภรณ์ วัชรสุรกุล สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ slide ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และการกำกับดูแล Akkaluk Chaiwatบทความ29 มิถุนายน 2559จำนวนผู้อ่าน: 5127ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA)
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) ได้ริเริ่มให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1955 โดยประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติร่วมใจกันสนับสนุน ตามแผนการปรมาณูเพื่อสันติของประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ ซึ่งทบวงการฯ ได้รับการรับรองและเห็นชอบเกี่ยวกับธรรมนูญของทบวงการฯ ในที่ประชุมสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่26 ตุลาคม ค.ศ. 1956 และจัดตั้งทบวงการฯ ขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1957 มีสำนักงานอยู่ที่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยแผนการปรมาณูเพื่อสันติ ได้เสนอแนะให้ตั้งขึ้นอยู่ภายใต้ความอุปถัมภ์ขององค์การสหประชาชาติ จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อเป็นการลดวัสดุแปรธาตุได้ (Fissionable Materials) ของแต่ละประเทศ โดยการบริจาคจากคลังสะสมของแต่ละประเทศรวมเป็นกองทุนให้ประเทศสมาชิกของทบวง การฯ ได้มีโอกาสแบ่งปันไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางสันติทั่วโลก ในปี ค.ศ. 1960 ทบวงการฯ มีสมาชิกรวม 70 ประเทศ หน้าที่อันสำคัญยิ่งตามแผนการเดิม ก็คือ ทบวงการฯ นี้เปรียบเสมือนธนาคารกองทุนของ Fissionable Materials (ยูเรเนียม 235) ถ้าหากประเทศที่มีวัตถุประเภทนี้เข้าสมทบทุนอย่างจริงใจแล้ว โดยทางอ้อมก็เท่ากับเป็นการลดปริมาณของวัตถุระเบิดปรมาณูของแต่ละประเทศที่ มีไว้เพื่อการสงครามให้น้อยลง จากกองทุนนี้จะได้แบ่งตามข้อตกลง และสัญญาให้แก่ประเทศที่ไม่มี นำไปใช้ในทางสันติ ทั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทบวงการฯ ว่าประเทศที่ได้รับส่วนแบ่งไป จะไม่นำไปใช้ในกิจการทหาร โดยมีประเทศ ที่แสดงความจำนงจะมอบยูเรเนียม-235 ในสภาพที่มีความเข้มข้นไม่เกินร้อยละ 20 ถ้าทบวงการฯ ต้องการ เมื่อคิดเป็นยูเรเนียม-235 ล้วน ๆ แล้วมีปริมาณ ดังนี้ : สหรัฐอเมริกา จะมอบยูเรเนียม ประมาณ 5,000 กิโลกรัม สหภาพโซเวียต จะมอบยูเรเนียมประมาณ 50 กิโลกรัม สหราชอาณาจักร จะมอบยูเรเนียมประมาณ 20 กิโลกรัม นอกจากนี้ ทบวงการฯ ยังดำเนินการช่วยเหลือในด้านให้อุปกรณ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ แก่ประเทศที่ต้องการ จัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปช่วยแนะนำและสำรวจ ในการจัดขอความช่วยเหลือของประเทศต่าง ๆ ให้ทุนการศึกษาแก่นักวิทยาศาสตร์จากประเทศสมาชิกเพื่อไปศึกษา อบรม ณ สถาบันของประเทศที่ก้าวหน้าในด้านพลังงานปรมาณู ในขณะเดียว กัน ทบวงการฯ ได้ดำเนินกิจการโดยวางข้อกำหนดการใช้วัตถุกัมมันตภาพรังสีให้ประเทศสมาชิก ปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยร่วมกัน พิจารณาวิธีจัดการของเสียที่ไม่ต้องการ แต่ยังแสดงคุณสมบัติกัมมันตภาพรังสี (Waste disposal) เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นส่วนรวม ทบวงการฯ ได้จัดสร้างห้องปฏิบัติการระหว่างประเทศขึ้นที่ ไซเบอร์ซดอร์ฟ (Seibersdorf) ใกล้กรุงเวียนนา เพื่อเป็นที่ทำการทดลองค้นคว้าวางมาตรฐานเกี่ยวกับวัตถุกัมมันตภาพรังสี และเป็นที่ศึกษาทดลองของนักวิทยาศาสตร์จากประเทศสมาชิก ก่อนจะเป็น ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ : IAEA (www.iaea.org) Akkaluk Chaiwatบทความ29 มิถุนายน 2559จำนวนผู้อ่าน: 6849 กำเนิดนิวเคลียร์
คอลัมน์ : นิวเคลียร์น่ารู้กับปรมาณูเพื่อสันติ ชื่อเรื่อง : กำเนิดนิวเคลียร์
ความรู้เกี่ยวกับนิวเคลียร์
อะตอม อะตอม (Atom) หมายถึง อนุภาคที่เล็กที่สุดของสสารที่ยังคงมีคุณสมบัติทางเคมีของธาตุนั้นๆอยู่ โครงสร้างของอะตอมประกอบด้วยนิวเคลียสซึ่งอยู่ตรงกลางและมีอิเล็กตรอนโคจรอยู่รอบๆนิวเคลียส ภายในนิวเคลียสประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอนซึ่งในสภาวะปกติโครงสร้างของอะตอมจะมีจำนวน อิเล็กตรอนเท่ากับจำนวนโปรตอน โปรตอน (Proton;p) หมายถึง อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเป็นบวกหนึ่งหน่วย มีมวลประมาณ 1,837 เท่า ของอิเล็กตรอนซึ่งโปรตอนเป็นองค์ประกอบในนิวเคลียสของธาตุทุกชนิด นิวตรอน (Neutron;n) หมายถึง อนุภาคที่ไม่มีประจุไฟฟ้า มีมวลมากกว่าโปรตอนเล็กน้อย อิเล็กตรอน (Electron) หมายถึง อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเป็นลบ โดยแต่ละอะตอมจะมีอิเล็กตรอน จำนวนหนึ่งอยู่ล้อมรอบนิวเคลียสของอะตอมนั้น นิวตรอนและโปรตอนภายในนิวเคลียสถูกยึดให้อยู่ด้วยกันได้ด้วยแรงนิวเคลียร์ ซึ่งในสภาวะปกติภาย ในนิวเคลียสจะมีความเสถียร (Stable) จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียส หากภายในนิวเคลียส มีจำนวนโปรตอนหรือนิวตรอนที่มากหรือน้อยเกินไป เรียกสถานะเช่นนี้ว่าเกิดความไม่เสถียร (Unstable) นิวเคลียสจะปรับตัวเองเพื่อให้อยู่ในสภาวะเสถียรและมีการปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็น ที่มาของคำว่าพลังงานปรมาณู พลังงานปรมาณู คือ พลังงานที่ถูกปล่อยมาจากนิวเคลียสของอะตอมซึ่งเกิดขึ้นจาก 3 กรณี 1. เกิดจากการสลายตัวของนิวเคลียส (Decay) 2. เกิดจากการแตกตัวของนิวเคลียสออกเป็นส่วน (Fission) 3. เกิดจากการรวมตัวกันของนิวเคลียส (Fusion) นิวไคลด์ นิวไคลด์ (Nuclide) หมายถึง คำที่ใช้เรียกแทนนิวเคลียสของอะตอมของธาตุใดๆ โดยการใช้ สัญลักษณ์แทนเพื่อทำให้ทราบคุณสมบัติของธาตุนั้นๆได้โดยง่าย เลขเชิงอะตอม (Atomic number;Z) หมายถึง จำนวนของโปรตอนภายในนิวเคลียสของอะตอมใดๆ เลขมวล (Mass number;A) หมายถึง ผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนภายในนิวเคลียส พลังงานปรมาณู พลังงานปรมาณูเป็นพลังงานที่ได้มาจากพฤติกรรมของนิวเคลียสภายในอะตอม ดังนั้นหลักการ ที่แท้จริงของพลังงานปรมาณูก็จะอยู่ที่การนำเอาพลังงานที่เกิดจากนิวเคลียสมาใช้งาน โดยเกิดขึ้นจาก กรณีใดกรณีหนึ่งจากทั้ง 3 กรณีตามที่กล่าวไปแล้ว ในปัจจุบันมักพบการใช้งานส่วนใหญ่อยู่ 2 กรณี คือ การสลายตัวของนิวเคลียสซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม เป็นต้น อีกแบบหนึ่งคือการแตกตัวของนิวเคลียสในอะตอมของธาตุหนักซึ่งนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับ ผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือการใช้งานเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย เป็นต้น สำหรับการรวมตัวกันของนิวเคลียส นั้นอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย กระบวนการที่นิวเคลียสของอะตอมธาตุหนักเกิดการแตกตัวนั้นเรียกว่า ปฏิกิริยาฟิชชันซึ่งจะได้กล่าวต่อไป ปฏิกิริยานิวเคลียร์ ปฏิกิริยาที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โดยทั่วไปนั้นเป็นปฏิกิริยาฟิชชัน คือเมื่อยิงอนุภาคนิวตรอน เข้าไปชนนิวเคลียสของธาตุหนักเช่นยูเรเนียมแล้วเกิดการแตกตัวของธาตุหนักนั้นซึ่งการแตกตัวนี้จะทำ ให้มีการปลดปล่อยความร้อนพร้อมทั้งอนุภาคนิวตรอนเกิดขึ้นมาใหม่จำนวนหนึ่ง ( 2-3 ตัว) โดยการแตก ตัวนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain reaction) อย่างไรก็ตามวัสดุที่สามารถนำมา เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้นั้นเรียกว่าวัสดุฟิสไซล์ (Fissile material) ซึ่งการเลือกใช้วัสดุ ฟิสไซล์ใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เช่นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบ PWR หรือ BWR ใช้ยูเรเนียม-235 ความเข้มข้น 2-4 % ส่วนแบบ CANDU นั้นใช้ยูเรเนียมที่มีอยู่ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเงื่อนไขในการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่นั้นนิวตรอนที่ทำให้เกิดการแตกตัวต่อไปได้นั้นต้องเป็น นิวตรอนพลังงานต่ำหรือนิวตรอนช้าแต่ว่านิวตรอนที่เกิดขึ้นใหม่จากการแตกตัวนั้นเป็นนิวตรอนเร็ว หรือ Fast neutron ซึ่งข้อจำกัดนี้เกิดจากเหตุผลทางฟิสิกส์ของปฏิกิริยาฟิชชัน ดังนั้นภายในเครื่องปฏิกรณ์จึง ต้องมีสารหน่วงนิวตรอนเพื่อลดความเร็วของนิวตรอนให้อยู่ในย่าน Thermal energy เพื่อให้เกิดปฏิกิริยา ต่อไปได้ ซึ่งสารหน่วงนิวตรอนโดยทั่วไปมักใช้น้ำธรรมดาหรือน้ำมวลหนักแล้วแต่ประเภทของโรงไฟฟ้า อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่าปฏิกิริยาฟิชชันนี้สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติเพียงแต่ว่าโอกาส ที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่นั้นมีโอกาสน้อยมาก |