เฉลย แบบฝึกหัด องค์การและการจัดการ

We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.

You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.

Thank you!

View updated privacy policy

We've encountered a problem, please try again.

  • [หน้าหลัก]
  • แบบทดสอบความรู้ ชุดที่ 15 ความรู้เรื่องระบบการจัดการองค์กร แนวข้อสอบออนไลน์

แนวข้อสอบออนไลน์ เรื่องระบบการจัดการองค์กร

ตัวอย่างแบบทดสอบ



กระบวนการจัดการความรู้ที่เป็นการปรับปรุงความรู้ในองค์กรให้เป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสมบูรณ์และเข้าใจได้นั้น หมายถึง กระบวนการจัดการความรู้ในขั้นตอนใด *

  • การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้
  • การเรียนรู้
  • การประมวลและกลั่นกรองความรู้
  • การเข้าถึงความรู้


หลักการประสานงานที่จัดให้มีการประสานงานในรูปแบบของการบริหารที่ครบวงจร ( Input Process Output )เป็นหลักการประสานงานที่มีลักษณะของรูปแบบเพื่ออะไร *

  • เพื่อเอกภาพในการบริหาร
  • เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกภายในองค์กรมีความเต็มใจที่จะร่วมมือในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
  • เพื่อให้การสื่อสารระหว่างคนภายในองค์กรมีระบบการติดต่อสื่อสารที่ดี
  • เพื่อทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบได้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไร เพื่อสะดวกแก่ทุกฝ่ายในการประสานงาน


รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐมีความเกี่ยวข้องกับรางวัลใด *

  • รางวัลคุณภาพแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริก
  • รางวัลคุณภาพแห่งชาติประเทศอังกฤษ
  • รางวัลคุณภาพแห่งชาติประเทศไทย


ข้อใด คือ วัตถุประสงค์ของการประสานงาน *

  • เพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
  • เพื่อให้งานมีมาตรฐานตามที่กำหนดไว้
  • เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและทรัพยากรในการปฏิบัติงาน


ข้อใด คือ เป้าหมายและจุดประสงค์ของการจัดการความรู้ที่ถูกต้อง *

  • สามารถพัฒนากระบวนการทำงานได้
  • สามารถพัฒนาองค์การได้
  • สามารถพัฒนาคนได้


รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นรางวัลที่มอบให้กับหน่วยงานใดที่ได้มีการดำเนินการพัฒนาองค์การอย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินการปรับปรุงองค์การตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐอย่างโดดเด่น *

  • หน่วยงานภาคประชาชน
  • หน่วยงานภาครัฐบาล
  • หน่วยงานภาคเอกชน
  • หน่วยงานภาครัฐ


ในการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เป็นเกณฑ์คุณภาพอย่างหนึ่งของการบริหารจัดการภาครัฐที่จะต้องมี ซึ่งการวางแผนยุทธศาสตร์นั้นเป็นการวางแผนยุทธศาสตร์อย่างไรในการบริหารจัดการภาครัฐ *

  • เป็นการตรวจประเมินวิธีการกำหนดเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์และแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการ
  • สร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสีย
  • การถ่ายทอดเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ รวมถึงแผนปฏิบัติราชการที่เลือกไว้ไปปฏิบัติและการวัดผลความก้าวหน้า


ข้อใดที่กล่าวถึงหลักเกณฑ์คุณภาพในการบริหารจัดการภาครัฐที่เกี่ยวกับการมุ่งเน้นทรัพยากรได้อย่างถูกต้อง *

  • การวิเครำะห์ Competency
  • การปรับกระบวนทัศน์ I am Ready
  • แผนแม่บททรัพยากรบุคคล 3-5 ปี

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

แผนการจดั การเรยี นรู้
บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี พุทธศักราช 2562
ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม สาขาวิชาโลหะการ

รายวิชาองค์การและการจดั การสมัยใหม่
รหัสวิชา 30001-1002

จดั ทาโดย
นางสาวอันธกิ า แกว้ บุญธรรม

แผนกวชิ าโลหะการ วิทยาลัยการอาชีพบ้านตาก
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

การตรวจสอบแผนการเรยี นรู้

รายวิชาองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001-1002

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 ครูอนั ธกิ า แก้วบญุ ธรรม

การตรวจสอบ

1. ลกั ษณะรายวิชา  มี  ไม่มี

2. ลกั ษณะรายวชิ า (พัฒนา)  มี  ไมม่ ี

3. การวเิ คราะห์หลักสตู รรายวิชา  มี  ไมม่ ี

4. โครงการจดั การเรยี นรู้  มี  ไมม่ ี

5. ขอ้ ตกลงเก่ยี วกับผูเ้ รยี น  มี  ไม่มี

6. ผังมโนทศั นเ์ น้อื หารายวิชา  มี  ไม่มี

7. หน่วยการเรยี นรูแ้ ต่ละหนว่ ยประกอบดว้ ย  มี  ไม่มี

7.1 ผงั มโนทศั น์ รายหน่วย  มี  ไม่มี

7.2 สาระสาคัญ  มี  ไม่มี

7.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้ (ทว่ั ไป/พฤตกิ รรม)  มี  ไม่มี

7.4 สมรรถนะรายหน่วย  มี  ไม่มี

7.5 หวั ข้อการเรียนรู้  มี  ไม่มี

7.6 กจิ กรรมการเรยี นรู้  มี  ไมม่ ี

7.7 การบูรณาการปรัญชาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  มี  ไมม่ ี

7.8 กิจกรรมแสนอแนะ/งานมอบหมาย  มี  ไมม่ ี

7.9 การวดั และประเมนิ ผล  มี  ไมม่ ี

7.10 ส่อื การเรียนรู้  มี  ไม่มี

7.11 ใบงานหรือแบบฝกึ หดั  มี  ไม่มี

7.12 แบบทดสอบก่อน/หลังเรยี น  มี  ไมม่ ี

8. แบบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน

สิง่ ที่ควรแก้ไข้

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .......................................
(นายวัชรพงศ์ ฝ้นั พยอม)

หวั หน้าแผนกวิชาชา่ งเชอ่ื มโลหะ

สารบัญ ก

เรื่อง หน้า

สารบญั ก
ลกั ษณะรายวิชา ข
ลกั ษณะรายวชิ าปรบั ปรงุ ค
การวเิ คราะห์การจัดการเรยี นรู้ ง
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตรรายวิชา จ
โครงการจัดการเรยี นรู้ ฌ
ข้อตกลงเกย่ี วกบั ผู้เรยี น ถ
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 1
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 6
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 11
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 17
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 22
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 27
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 32
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 37
ข้อสอบปลายภาค 42

ครอู นั ธิกา แก้วบญุ ธรรม

ลักษณะรายวิชา

รายวิชาองคก์ ารและการจดั การสมัยใหม่ รหสั วชิ า 30001 1002 ท-ป-น (3-0-3)

หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562

ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวิชาโลหะการ สาขางานเทคนคิ พื้นฐาน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพื่อให้

1. เข้าใจการจัดองค์การ เทคนิคการจัดการสมัยใหม่ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการ การเพิ่ม

ประสิทธิภาพขององค์การ การบริการงานคณุ ภาพ การจัดการความเสย่ี ง จรยิ ธรรมในองคก์ าร

2. มีสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การสมัยใหม่

3. สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักการเพิม่ ประสทิ ธิภาพและการบรหิ ารงานคุณภาพเพอ่ื พฒั นาองคก์ าร

4. มีเจตคติและกจิ นสิ ยั ท่ดี ใี นการเสรมิ สร้างจรยิ ธรรมในองคก์ ารสาหรับการจัดการ

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกี่ยวการจัดองค์การ เทคนคิ การจัดการสมยั ใหม่ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการ

การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพขององคก์ าร การบรหิ ารงานคุณภาพ การจดั การความเสี่ยง จริยธรรมในองค์การ
2. ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสรเทศเพือ่ การจัดการสมัยใหม่
3. ประยกุ ตใ์ ช้หลักการเพอ่ื การเพิม่ ประสิทธภิ าพและการบริหารงานคณุ ภาพเพ่ือพฒั นาองคก์ าร
4. เสริมสร้างจริยธรรมในองคก์ ารสาหรับการจดั การ

คาอธิบายรายวิชา
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการองค์การ แนวคิดและเทคนิคการจัดการสมัยใหม่ การนา

เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ การเปล่ียนแปลงและพัฒนา
องค์การ ตามหลักการบริหารงานคุณภาพ แนวทางการเพิม่ ผลผลิตภาพในองค์การและการพฒั นาการจดั การ
ความเส่ยี ง

การใช้กรณีศึกษาและเหตุการณ์จริงวิเคราะห์ตัดสินใจเพ่ือการจัดการ การเสริมสร้างจริยธรรมใน
องคก์ ารและความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม

ลักษณะรายวชิ า (ปรับปรุง)

รายวิชาองค์การและการจัดการสมยั ใหม่ รหัสวชิ า 30001 1002 ท-ป-น (3-0-3)

หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช 2562

ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวิชาโลหะการ สาขางานเ ทคนิคพ้ืนฐา น

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพือ่ ให้

1. เข้าใจการจัดองค์การ เทคนิคการจัดการสมัยใหม่ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการ การเพิ่ม

ประสทิ ธภิ าพขององค์การ การบรกิ ารงานคณุ ภาพ การจัดการความเส่ียง จรยิ ธรรมในองค์การ

2. มสี ามารถประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการสมัยใหม่

3. สามารถประยุกตใ์ ช้หลักการเพม่ิ ประสิทธภิ าพและการบริหารงานคุณภาพเพอื่ พัฒนาองคก์ าร

4. มีเจตคติและกิจนสิ ยั ท่ดี ีในการเสริมสรา้ งจริยธรรมในองคก์ ารสาหรับการจัดการ

5. ความตะหนักในเร่ือง 3D คือ ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข

(Democracy) มีจิตสานึกและรังเกียจการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม (Decency)

ห่างไกลยาเสพติด (Drug)

6. บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง คือ หลักความพอประมาณ หลักความมีเหตุผล

หลักภูมิคุ้มกัน 2 เง่ือนไข คือ เง่ือนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม เชื่อมโยงสู่ 4 มิติ คือ มิติสังคม มิติเศรษฐกิจ

มิติวฒั นธรรม มิติสิ่งแวดลอ้ ม

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเ้ ก่ียวการจัดองค์การ เทคนิคการจัดการสมยั ใหม่ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการ

การเพ่ิมประสิทธิภาพขององคก์ าร การบรหิ ารงานคุณภาพ การจัดการความเสย่ี ง จรยิ ธรรมในองคก์ าร
2. ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสรเทศเพือ่ การจดั การสมัยใหม่
3. ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การเพือ่ การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพและการบรหิ ารงานคุณภาพเพือ่ พัฒนาองคก์ าร
4. เสริมสรา้ งจริยธรรมในองค์การสาหรบั การจัดการ

คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับการจัดการองค์การ แนวคิดและเทคนิคการจัดการสมัยใหม่ การนา

เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการ การเพ่ิมประสิทธิภาพขององค์การ การเปล่ียนแปลงและพัฒนา
องค์การ ตามหลักการบรหิ ารงานคุณภาพ แนวทางการเพิ่มผลผลิตภาพในองคก์ ารและการพัฒนาการจดั การ
ความเสย่ี ง

การใช้กรณีศึกษาและเหตุการณ์จริงวิเคราะห์ตัดสินใจเพ่ือการจัดการ การเสริมสร้างจริยธรรมใน
องคก์ ารและความรบั ผิดชอบต่อสงั คม

การวเิ คราะหห์ นว่ ยการเรยี นรแู้ ละสมรรถนะรายวิชา

ชอื่ วชิ าองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหสั วิชา 30001-1002

หนว่ ยท่ี ชื่อเรื่อง สมรรถนะรายวิชา

1 ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับการจัดการ 1. แสดงความรู้เกี่ยวการจัดองค์การ เทคนิคการ

องค์การ จัดการสมัยใหม่ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการ

2 ความรู้เบื้องต้นของวฒั นธรรมองคก์ าร การเพ่ิมประสิทธิภาพขององค์การ การบริหารงาน

3 การบริหารงานคุณภาพและการเพ่ิม คณุ ภาพ การจดั การความเส่ยี ง จริยธรรมในองคก์ าร

ผลผลติ ในองค์การ 2. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสรเทศเพ่ือการจัดการ

4 การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพในองค์การ สมัยใหม่

5 แรงจูงใจในองคก์ าร 3. ประยุกต์ใช้หลักการเพอ่ื การเพ่ิมประสิทธิภาพและ

6 ความรู้เกยี่ วกับบริหารความเสีย่ ง การบรหิ ารงานคณุ ภาพเพอ่ื พฒั นาองค์การ

7 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการ 4. เสริมสร้างจรยิ ธรรมในองคก์ ารสาหรบั การจดั การ

จดั การ

8 ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคมขององค์การ

การวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวิชา
ชื่อวชิ าองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหสั วิชา 30001-1002

จดุ มุง่ หมาย
ความ ู้ร
ช่อื หน่วย ความเข้าใจ
นาไปใ ้ช
ิวเคราะห์
สังเคราะห์
ประเมิน ่คา
รวม
ลาดับความสา ัคญ
จานวน ้ขอสอบ

นาหนัก(คะแนนเตม็ ) 10 10 10 10 10 10 40
5
1. ความรู้เบอ้ื งต้นเกยี่ วกบั การจดั การองคก์ าร 5 5 5
5
2. ความรู้เบ้ืองต้นของวฒั นธรรมองค์การ 5 5
5 5
3. การบริหารงานคุณภาพและการเพ่ิมผลผลิต 5 5
5 5
ในองค์การ 5 5 5
5 5
4. การเพิ่มประสิทธิภาพในองคก์ าร 5 5
40
5. แรงจูงใจในองค์การ 5

6. ความรูเ้ กี่ยวกบั บริหารความเส่ียง 5

7. ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ 5

8. ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมขององคก์ าร 5

รวม 40
ลาดับความสาคญั
321
หมายเหตุ นา้ หนกั คะแนนความสาคัญ
มากท่ีสุด 9 – 10 คะแนน
มาก 7 - 8 คะแนน
ปานกลาง 4 – 6 คะแนน
นอ้ ย 2 – 3 คะแนน
สาคัญนอ้ ย 0 – 1 คะแนน

การวิเคราะห์หนว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดการเรยี นรู้

หน่วยที่ ช่อื เร่ือง/รายการสอน สปั ดาห์ที่ ชวั่ โมงท่ี
1 ความรู้เบื้องตน้ เกยี่ วกบั การจัดการองค์การ 1-2 1-8
2 1.1 ความหมายขององคก์ าร 3-4 9-16
1.2 ความหมายของการจดั องค์การ
3 1.3 ทฤษฎอี งค์การ 5-6 17-24
1.4 ประเภทขององคก์ าร
1.5 องคป์ ระกอบขององคก์ าร
1.6 การจัดโครงสร้างขององคก์ าร
1.7 อานาจหนา้ ทีแ่ ละความรบั ผิดชอบ
1.8 การมอบหมายงาน
ความรู้เบอ้ื งตน้ ของวฒั นธรรมองค์การ
2.1 ความหมายของวฒั นธรรมองคก์ าร
2.2 ความสาคัญของวัฒนธรรมองคก์ าร
2.3 ประโยชน์ของวัฒนธรรมองคก์ าร
2.4 องค์ประกอบสาคญั ของวฒั นธรรมองคก์ าร
2.5 การพัฒนาวัฒนธรรมองค์การ
2.6 การพัฒนาวฒั นธรรมองคก์ ารใหเ้ ข้มแขง็
2.7 การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมองคก์ าร
2.8 ลักษณะของวัฒนธรรมที่ทาใหอ้ งค์การเกิดประสิทธผิ ล
2.9 วัฒนธรรมองค์การกับการบรหิ ารองค์การ
2.10 วัฒนธรรมทเ่ี ปน็ ตัวบง่ ชค้ี วามสาเร็จและความลม้ เหลวของ
องคก์ าร
การบริหารงานคณุ ภาพและการเพ่ิมผลผลิตในองค์การ
3.1 การบริหารงานคุณภาพในองค์การ
3.2 แนวคดิ การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
3.3 หลักการบริหารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
3.4 กระบวนการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
3.5 ประโยชน์ของการบริหารงานคณุ ภาพในองค์การ
3.6 ความหมายของการเพม่ิ ผลติ ภาพในองค์การ
3.7 วัตถุประสงค์ของการเพ่มิ ผลผลติ ในองคก์ าร
3.8 องคป์ ระกอบของการเพ่มิ ผลผลิตในองคก์ าร
3.9 หลกั การบรหิ ารในการเพิ่มผลผลติ ในองค์การ
3.10 ความสาคญั ของการเพิ่มผลผลติ ในองค์การ

3.11 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเพม่ิ ผลผลติ ในองคก์ าร

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

การวเิ คราะหห์ นว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาที่ใช้ในการจัดการเรยี นรู้ (ต่อ)

หนว่ ยที่ ชอ่ื เรื่อง/รายการสอน สัปดาหท์ ่ี ช่ัวโมงที่
4 การเพิ่มประสทิ ธิภาพในองคก์ าร 7-8 25-32
5 4.1 ความหมายของประสิทธภิ าพในองคก์ าร 9-10 33-40
4.2 ประเภทของประสิทธภิ าพ
6 4.3 องคป์ ระกอบของการพฒั นาประสทิ ธภิ าพในการทางาน 11-12 41-48
4.4 ปัจจยั ท่ีสง่ ผลต่อประสิทธิภาพในการทางาน
4.5 ประโยชน์ของการพฒั นาประสทิ ธิภาพในการทางาน
4.6 ลกั ษณะบคุ คลทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ
4.7 เทคนคิ การประเมินผลการทางาน
4.8 ปัจจยั ท่ชี ว่ ยทาใหบ้ ุคคลกรทางานดแี ละมปี ระสทิ ธภิ าพ
4.9 การมปี ระสทิ ธิภาพในการทางาน
แรงจงู ใจในองค์การ
5.1 ความหมายในแรงจงู ใจและการจูงใจ
5.2 ลักษณะของแรงจงู ใจ
5.3 ทมี่ าของแรงจูงใจ
5.4 ความสาคญั ของการจูงใจ
5.5 ทฤษฎีจูงใจ
5.6 รปู แบบของแรงจงู ใจ
5.7 วธิ ีการสร้างแรงจูงใจภายนอกและแรงจงู ใจภายใน
5.8 แนวทางการสร้างแรงจูงใจในองค์การ
5.9 เคร่ืองมอื จงู ใจในองค์การ
ความรเู้ กีย่ วกับการบรหิ ารความเส่ียง
6.1 ความหมายของความเส่ียง
6.2 แนวคดิ การบรกิ ารความเสย่ี ง
6.3 ประเภทของความเส่ยี ง
6.4 ขัน้ ตอนการบรหิ ารความเสยี่ ง
6.5 การบริหารความเสีย่ งขององค์การ
6.6 การบรหิ ารความเสยี่ งตามหลกั ธรรมาภิบาล
6.7 กรอบการบริหารความเสย่ี ง
6.8 แนวทางการบรหิ ารความเส่ยี ง
6.9 หลกั การบรหิ ารความเสี่ยง
6.10 ประโยชน์ของการบรหิ ารความเส่ียง
6.11 ขอ้ จากัดของการบริหารความเสย่ี ง
6.12 แนวปฏบิ ตั สิ ู่ความเปน็ เลิศในการบรหิ ารความเสยี่ งของ
องค์การทว่ั ไป

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

การวเิ คราะหห์ นว่ ยการเรียนรแู้ ละเวลาที่ใช้ในการจดั การเรยี นรู้ (ตอ่ )

หนว่ ยที่ ชอ่ื เรือ่ ง/รายการสอน สัปดาห์ท่ี ช่ัวโมงท่ี
7 6.13 การบรหิ ารความเสย่ี งแบบยัง่ ยืน 13-15 49-60
ระแบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการ
8 7.1 ความรู้เบอ้ื งตน้ ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ 16-17 61-68
7.2 ความหมายของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ
7.3 หน้าท่หี ลักของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ
7.4 สว่ นประกอบของระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ
7.5 ระบบยอ่ ยของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
7.6 คุณสมบตั ิของประโยชน์ของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ
ที่มปี ระสิทธภิ าพ
7.7 ประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
7.8 ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาองค์การ
7.9 การนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ าร
7.10 การพฒั นาองคก์ ารโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
7.11 การจัดการปัญหาการพัฒนาองค์การด้วยเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ความรบั ผิดชอบผิดต่อสงั คมขององค์การ
8.1 แนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ
8.2 ความหมายของ CSR
8.3 ระดับความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมขององค์การ
8.4 ความสาคญั ของการดาเนนิ การ CSR
8.5 ประเภทของกิจกรรม CSR
8.6 เปา้ หมายของภาครฐั ในการสง่ เสรมิ ภาคเอกชนร่วมกนั ทา
กิจกรรม CSR
8.7 ประเดน็ หัวขอ้ การทากิจกรรมความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม
8.8 หลักการพน้ื ฐานของความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมขององค์การ
8.9 ผู้มสี ่วนไดเ้ สียในระดับต่างๆ ขององค์การท่เี กี่ยวขอ้ งกบั CSR
8.10 กิจกรรมของ CSR
8.11 ประโยชน์ท่ีเป็นนามธรรมของ CSR

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

รหสั 30001-1002
ราวิชาองคก์ ารและการจัดการสมยั ใหม่

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน
รายวชิ าองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหสั วิชา 30001-1002

สัปดาหท์ ี่ ชือ่ หน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท่)ี
หน่วยที่ 1 ความรเู้ บือ้ งต้นเกีย่ วกับการจัดการองคก์ าร
1-2
(1-8) จดุ ประสงคท์ ั่วไป

มีความร้คู วามเขา้ ใจเก่ยี วกับความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั การจดั การองค์การ

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายความหมายขององคก์ ารสมัยใหม่ได้
2. อธบิ ายความหมายของการจัดองค์การได้
3. บอกทฤษฎอี งคก์ ารได้
4. บอกประเภทขององคก์ ารได้
5. บอกองค์ประกอบขององคก์ ารได้
6. จดั ทาโครงสรา้ งขององคก์ ารได้
7. อธิบายอานาจหนา้ ท่แี ละความรับผดิ ชอบได้
8. จดั การมอบหมายงานได้
กิจกรรมการเรยี นการสอน
นาเข้าสบู่ ทเรียน
บรรยายเนื้อหา/ถามตอบ
แบบฝกึ หัด
สื่อการเรียนการสอน
สอ่ื Power Point
วธิ กี ารและคะแนนการวดั ผล
สังเกตการณ์ทางาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ต่อ)
รายวิชาองคก์ ารและการจดั การสมัยใหม่ รหัสวชิ า 30001-1002

สัปดาหท์ ่ี ชอ่ื หน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)่ี
หนว่ ยท่ี 2 ความรเู้ บื้องตน้ ของวัฒนธรรมองคก์ าร
3-4
(9-16) จุดประสงค์ทั่วไป

มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับความรเู้ บอ้ื งตน้ ของวัฒนธรรมองค์การ

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธิบายความหมายของวฒั นธรรมองคก์ ารได้
2. อธิบายความสาคัญของวัฒนธรรมองค์การได้
3. บอกประโยชนข์ องวัฒนธรรมองคก์ ารได้
4. อธิบายองคป์ ระกอบสาคัญของวฒั นธรรมองคก์ ารได้
5. พฒั นาวัฒนธรรมองคก์ ารได้
6. พัฒนาวัฒนธรรมองคก์ ารให้เข้มแขง็ ได้
7. สร้างสรรคว์ ัฒนธรรมองค์การได้
8. บอกลกั ษณะของวฒั นธรรมที่ทาได้องคก์ ารเกิดประสทิ ธพิ ล
9. อธิบายวัฒนธรรมองคก์ ารกบั การบรหิ ารองค์การได้
10. อธิบายวัฒนธรรมท่ีเป็นตัวบ่งชี้ความสาเร็จและความล้มเหลวของ
องคก์ ารได้
กจิ กรรมการเรยี นการสอน
นาเขา้ สู่บทเรียน
บรรยายเน้ือหา/ถามตอบ
แบบฝกึ หดั
สอื่ การเรียนการสอน
สือ่ Power Point
วิธกี ารและคะแนนการวัดผล
สงั เกตการณท์ างาน

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ตอ่ )
รายวิชาองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001-1002

สปั ดาห์ท่ี ชือ่ หน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)่ี
หนว่ ยที่ 3 การบรกิ ารงานคุณภาพและการเพิม่ ผลผลติ ในองค์การ
5-6
(17-24) จุดประสงค์ท่ัวไป

มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรกิ ารงานคณุ ภาพและการเพิ่มผลผลิต

ในองค์การ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธิบายการบริหารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
2. อธบิ ายความสาคญั ของวัฒนธรรมองค์การได้
3. อธิบายหลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
4. บอกกระบวนการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
5. บอกประโยชนข์ องการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
6. อธบิ ายความหมายของการเพิ่มผลผลิตภาพในองคก์ ารได้
7. วัตถุประสงคข์ องการเพม่ิ ผลผลติ ในองคก์ ารได้
8. องค์ประกอบของการเพิม่ ผลผลติ ในองค์การได้
9. อธิบายหลกั การบริหารในการเพ่ิมผลผลติ ในองค์การได้
10. อธบิ ายความสาคัญของการเพ่มิ ผลผลิตในองค์การได้
11. บอกประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจากการเพม่ิ ผลผลติ ในองค์การได้
กจิ กรรมการเรียนการสอน
นาเข้าสู่บทเรยี น
บรรยายเน้อื หา/ถามตอบ
แบบฝกึ หดั
สือ่ การเรยี นการสอน
ส่ือ Power Point
วิธีการและคะแนนการวดั ผล
สงั เกตการณท์ างาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ตอ่ )
รายวิชาองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001-1002

สปั ดาห์ท่ี ชือ่ หน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)่ี
หนว่ ยที่ 3 การบรกิ ารงานคุณภาพและการเพิม่ ผลผลติ ในองค์การ
5-6
(17-24) จุดประสงค์ท่ัวไป

มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรกิ ารงานคณุ ภาพและการเพิ่มผลผลิต

ในองค์การ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธิบายการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
2. อธบิ ายความสาคญั ของวัฒนธรรมองค์การได้
3. อธิบายหลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
4. บอกกระบวนการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
5. บอกประโยชน์ของการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ ารได้
6. อธบิ ายความหมายของการเพิ่มผลผลิตภาพในองคก์ ารได้
7. วัตถุประสงคข์ องการเพม่ิ ผลผลติ ในองคก์ ารได้
8. องค์ประกอบของการเพิม่ ผลผลติ ในองค์การได้
9. อธิบายหลกั การบริหารในการเพ่ิมผลผลติ ในองค์การได้
10. อธบิ ายความสาคัญของการเพ่มิ ผลผลิตในองค์การได้
11. บอกประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจากการเพม่ิ ผลผลติ ในองค์การได้
กจิ กรรมการเรียนการสอน
นาเข้าสู่บทเรยี น
บรรยายเน้อื หา/ถามตอบ
แบบฝกึ หดั
สือ่ การเรยี นการสอน
ส่ือ Power Point
วิธีการและคะแนนการวดั ผล
สงั เกตการณท์ างาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ตอ่ )
รายวชิ าองคก์ ารและการจัดการสมัยใหม่ รหัสวชิ า 30001-1002

สปั ดาหท์ ี่ ช่ือหน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ที่)
หนว่ ยท่ี 4 การเพ่มิ ประสิทธิภาพในองคก์ าร
7-8
(25-32) จุดประสงคท์ ่ัวไป

มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับการเพิม่ ประสิทธภิ าพในองค์การ

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายความหมายของประสทิ ธภิ าพในองค์การได้
2. บอกประเภทของประสิทธิภาพได้
3. อธิบายองค์ประกอบของการพัฒนาประสทิ ธิภาพในการทางานได้
4. บอกปัจจยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ประสิทธภิ าพในการทางานได้
5. บอกประโยชนข์ องการพัฒนาประสิทธภิ าพในการทางานได้
6. อธบิ ายลักษณะบคุ คลท่มี ีประสิทธภิ าพได้
7. อธบิ ายเทคนคิ การประเมินผลการทางานได้
8. บอกปัจจัยทช่ี ว่ ยทาใหบ้ คุ ลากรทางานดแี ละมปี ระสิทธภิ าพได้
9. พฒั นาประสิทธภิ าพในการทางานได้
กิจกรรมการเรียนการสอน
นาเขา้ ส่บู ทเรียน
บรรยายเนอ้ื หา/ถามตอบ
แบบฝกึ หัด
สื่อการเรียนการสอน
ส่ือ Power Point
วธิ ีการและคะแนนการวัดผล
สังเกตการณ์ทางาน

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ตอ่ )
รายวชิ าองค์การและการจัดการสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001-1002

สปั ดาห์ท่ี ชอื่ หน่วยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)ี่
หน่วยที่ 5 แรงจงู ใจในองค์การ
9-10
(33-40) จุดประสงค์ทั่วไป

มคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแรงจูงใจในองคก์ าร

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายความหมายของแรงจงู ใจและการจูงใจได้
2. อธิบายลกั ษณะของแรงจูงใจได้
3. อธบิ ายท่ีมาของแรงจูงใจได้
4. อธบิ ายความสาคัญของแรงจูงใจได้
5. อธิบายทฤษฎีแรงจงู ใจได้
6. บอกรูปแบบของแรงจูงใจได้
7. บอกวธิ กี ารสรา้ งแรงจงู ใจภายนอกและแรงจูงใจภายในได้
8. บอกแนวทางการสรา้ งแรงจงู ใจในองค์การได้
9. วิเคราะห์การใช้เคร่ืองมอื จงู ใจในองคก์ ารได้
กิจกรรมการเรยี นการสอน
นาเข้าสบู่ ทเรียน
บรรยายเนอ้ื หา/ถามตอบ
แบบฝึกหัด
สอ่ื การเรยี นการสอน
สอื่ Power Point
วิธกี ารและคะแนนการวดั ผล
สังเกตการณท์ างาน

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ต่อ)
รายวิชาองคก์ ารและการจดั การสมัยใหม่ รหัสวชิ า 30001-1002

สปั ดาหท์ ี่ ชอ่ื หนว่ ยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท่)ี
หน่วยท่ี 6 ความรู้เกีย่ วกับการบริหารความเส่ียง
11-12
(41-48) จดุ ประสงคท์ ั่วไป

มคี วามรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการบริหารความเสยี่ ง

จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายความหมายของความเสี่ยงได้
2. อธิบายแนวคิดการบริหารความเสีย่ งได้
3. บอกประเภทของความเสี่ยงได้
4. บอกขน้ั ตอนการบรหิ ารความเสย่ี งได้
5. อธิบายการบรหิ ารความเส่ียงได้ขององคก์ ารได้
6. อธบิ ายการบริหารความเส่ยี งตามหลักธรรมาภิบาลได้
7. กาหนดการบริหารความเสย่ี งได้
8. อธิบายแนวทางการบริหารความเส่ยี งได้
9. อธบิ ายหลักการบรหิ ารความเส่ียงได้
10. บอกประโยชนข์ องการบริหารความเส่ยี งได้
11. บอกข้อจากดั ของการบริหารความเสี่ยงได้
12. อธิบายแนวปฏิบัติสู่ความเป็นเลิศในการบริหารความเส่ียงของ
องค์การทั่วไป
13. อธบิ ายการบรหิ ารความเสี่ยงแบบยั่งยนื ได้
กิจกรรมการเรยี นการสอน
นาเขา้ สู่บทเรียน
บรรยายเนือ้ หา/ถามตอบ
แบบฝึกหดั
สื่อการเรียนการสอน
สอ่ื Power Point
วธิ ีการและคะแนนการวดั ผล
สงั เกตการณท์ างาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ต่อ)
รายวิชาองคก์ ารและการจดั การสมยั ใหม่ รหัสวชิ า 30001-1002

สปั ดาห์ท่ี ช่ือหนว่ ยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)่ี
หน่วยที่ 7 ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การ
13-15
(49-60) จุดประสงคท์ ั่วไป

มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธิบายความรู้เบอ้ื งต้นระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการได้
2. อธบิ ายความหมายของระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการได้
3. อธิบายหน้าท่หี ลักของระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การได้
4. อธิบายส่วนประกอบของระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการได้
5. อธิบายระบบย่อยของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการได้
6. อธิบายคุณสมบัติของระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการที่มี
ประสทิ ธภิ าพได้
7. บอกประโยชนข์ องระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการได้
8. อธิบายระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาองค์การได้
9. นาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ารได้
10. วเิ คราะหก์ ารพัฒนาองคก์ ารโดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้
11. จดั การปัญหาการพัฒนาองคก์ ารด้วยเทคโนโลยสี ารสนเทศได้
กิจกรรมการเรียนการสอน
นาเขา้ สู่บทเรยี น
บรรยายเน้ือหา/ถามตอบ
แบบฝึกหดั
สือ่ การเรยี นการสอน
สื่อ Power Point
วิธีการและคะแนนการวดั ผล
สังเกตการณ์ทางาน

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

โครงการสอน (ตอ่ )
รายวชิ าองค์การและการจดั การสมยั ใหม่ รหสั วิชา 30001-1002

สัปดาหท์ ี่ ชือ่ หนว่ ยและรายการสอน หมายเหตุ
(ชม.ท)ี่
16-17 หนว่ ยที่ 8 ความรับผิดชอบต่อสงั คมขององค์การ
(61-68)
จุดประสงค์ท่ัวไป
18
มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมขององค์การ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายแนวคดิ ความรบั ผิดชอบต่อสังคมขององค์การได้
2. อธิบายความหมายของ CSR ได้
3. วเิ คราะห์ระดับความรับผิดชอบตอ่ สงั คมขององค์การได้
4. อธบิ ายความสาคญั ของการดาเนนิ การ CSR ได้
5. อธิบายประเภทของกจิ กรรม CSR ได้
6. ระบุเป้าหมายของภาครัฐในการส่งเสริมภาคเอกชนร่วมกันทา
กิจกรรม CSR ได้
7. วเิ คราะหป์ ระเดน็ หวั ข้อการทากจิ กรรมความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
8. อธบิ ายหลกั การพื้นฐานของความรับผดิ ชอบต่อสังคมขององค์การได้
9. จัดลาดบั ชนั้ ของผู้มสี ว่ นไดเ้ สียในระดับต่างๆ ขององคก์ ารทีเ่ กย่ี วข้อง
กับ CSR ได้
10. จัดกจิ กรรมของ CSR ได้
11. บอกr ได้
กจิ กรรมการเรียนการสอน
นาเข้าสบู่ ทเรียน
บรรยายเน้ือหา/ถามตอบ
แบบฝึกหัด
ส่อื การเรียนการสอน
สอื่ Power Point
วิธกี ารและคะแนนการวัดผล
สังเกตการณท์ างาน
สอบปลายภาค 2/2563

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

ข้อตกลงเกีย่ วกับนักเรยี น

รายวชิ าองค์การและการจดั การสมัยใหม่ รหัสวชิ า 30001-1002

1. มหี นงั สอื /ใบงานภาคปฏิบตั ทิ กุ ครงั้ ที่เข้าเรยี น

2. เชค็ ชอ่ื ทกุ ครงั้ ทเี่ ข้าเรียน

3. แตง่ กายเรียบร้อยถกู ตอ้ งตามระเบียบของสถานศึกษา

4. เขา้ เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ80ของเวลาเรียนที่กาหนด

5. คะแนนวัดผลประเมินผล

- การนาเสนองาน 20 %
- แบบทดสอบรายหนว่ ย 20 %
- จติ พสิ ยั 20 %
- สอบปลายภาคเรียน 40 %

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

ผังมโนทศั น์ เนอ้ื หารายวิชา
รายวิชาองคก์ ารและการจดั การสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001-1002

โดยบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

คณุ ธรรม/จรยิ ธรรม

ความมีวินัยใน ทกั ษะการปฏิบตั งิ าน
ตนเอง
มีลกั ษณะของ ทากจิ กรรมกลมุ่ สมุด/แบบฝึกหัด
ผู้ปฏบิ ัติงานที่ มคี วาม ร่วมกับเพือ่ น ทดสอบย่อย
รับผิดชอบ ประเมินตามสภาพจรงิ
ดี มีมนุษยสัมพันธ์
ดี
มี มคี วามสขุ
ผลสมั ฤทธ์ิ ผเู้ รียน

เกง่

วิธีการ

30001-1002
องค์การและการจดั การสมยั ใหม่

1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวการจัดการ 5. แรงจงู ใจในองคก์ าร
องคก์ าร
6. ความรูเ้ ก่ยี วกบั การ
2. ความร้เู บอื้ งต้นของวัฒนธรรม สาระ บริหารความเสี่ยง
องคก์ าร
7. ระบบเทคโนโลยี
3. การบรหิ ารงานคุณภาพใน สารสนเทศเพอื่ การจัดการ
องคก์ าร
8. ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม
4. การเพิ่มประสทิ ธภิ าพใน ขององค์การ
องคก์ าร
ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

1

ผังมโนทศั น์หน่วยท่ี 1

มีลักษณะของ ความมวี ินัยใน ทากจิ กรรมกลมุ่ คุณธรรม/จริยธรรม
ผู้ปฏิบัติงานที่ดี ตนเอง ร่วมกับเพ่อื น ทักษะการปฏบิ ัตงิ าน

มผี ลสัมฤทธ์ิ มีความ มมี นษุ ยสัมพันธ์ สมุด/แบบฝกึ หัด
รับผิดชอบ ทดสอบย่อย
เกง่ มีความสขุ
ดี ประเมินตามสภาพจรงิ

ผูเ้ รยี น วิธีการ

ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ียวกับการจดั การ
องคก์ าร

1. ความหมายขององค์การ สาระ 5. องค์ประกอบขององค์การ
2. ความหมายของการจดั องค์การ 6. การจัดโครงสร้างขององค์การ
3. ทฤษฎอี งค์การ
4. ประเภทขององคก์ าร 7. อานาจหน้าทีแ่ ละความรับผดิ ชอบ

8. การมอบหมายงาน

สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ส่งิ แวดลอ้ ม

1,6 2-3 5 4

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

2

แผนการจดั การเรียนรู้

ชือ่ วิชา องค์การและการจัดการสมยั ใหม่ รหสั วิชา 30001 1002
หนว่ ยที่ 1ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั การจัดการสมัยใหม่
สอนคร้งั ที่ 1-2 ช่ัวโมงท่ี 1-8 เวลา 8 ชว่ั โมง

สาระสาคัญ
องค์การเป็นศูนย์รวมของกลุ่มบุคคลที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นองค์การประเภทใดล้วน

ตอ้ งอาศัยทรัพยากรบุคคลทุกระดับท่ีมีความรู้ความสามารถและมีความเข้าใจในองค์การน้ันอย่างชัดเจนท่ีสุด
ทั้งการจดั องค์การ กระบวนการจัดองคก์ าร เข้าใจในโครงสร้าง การจดั แผนกงาน และสิ่งสาคญั ทสี่ ุดทจี่ ะทาให้
องคก์ ารบรรลุวัตถุประสงค์ คอื การรูจ้ ักและเข้าใจในอานาจหน้าท่ีความรบั ผิดชอบ ปฏบิ ัตงิ านอย่างเตม็ กาลังที่
ไดร้ ับมอบหมายงาน ผู้บรหิ ารก็ตอ้ งมคี วามสามารถและความเข้าใจในการมอบหมายงานเป็นอย่างดี
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั ความร้เู บ้ืองตน้ เก่ยี วกบั การจัดการองค์การ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
หลงั จากศกึ ษาหน่วยนแ้ี ลว้ ผู้เรียนสามารถ
1. อธบิ ายความหมายขององค์การได้
2. อธิบายความหมายของการจดั องค์การได้
3. อธบิ ายทฤษฎอี งคก์ ารได้
4. บอกประเภทขององคก์ ารได้
5. บอกองค์ประกอบขององคก์ ารได้
6. จัดโครงสร้างขององคก์ ารได้
7. อธิบายอานาจหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบได้
8. จัดการมอบหมายงาน
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ ก่ียวกับความรเู้ บื้องต้นเก่ยี วกับการจัดการองคก์ าร
หัวขอ้ การเรยี นรู้
1.1 ความหมายขององคก์ าร
1.2 ความหมายของการจดั องคก์ าร
1.3 ทฤษฎอี งค์การ
1.4 ประเภทขององค์การ
1.5 องค์ประกอบขององคก์ าร
1.7 อานาจหนา้ ทีแ่ ละความรับผิดชอบ
1.8 การมอบหมายงาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

3

กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 1-2) กจิ กรรมผู้เรียน
กจิ กรรมผ้สู อน

1. ช้ีแจงกฎระเบียบ ข้อบังคับในการเข้าช้ันเรียน 1. ผู้เรียนรับฟังกฎระเบียบ ข้อบังคับในการเข้า

การปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น อบรมคุณธรรม ช้ันเรียน การปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น การอบรม

จริยธรรม และการวดั ผลประเมินผล คณุ ธรรม จริยธรรม และการวัดผลประเมินผล

2. แจ้งจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐานรายวิชา 2. ผู้เรียนรับฟังจุดประสงค์รายวิชา มาตรฐาน

คาอธิบายรายวิชา หน่วยการสอนรายวิชา และ รายวิชา คาอธิบายรายวิชา หน่วยการสอน

จุดประสงค์การเรียนรู้ รายวชิ า และจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3. ครูใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1

4. ครูนาเขา้ บทเรียน ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกบั การจัดการองคก์ าร

5. ครูผสู้ อนอธบิ ายเนื้อหาสาระ 4. ผู้เรียนฟังคาบรรยาย ดูการสาธิต และศึกษา

หน่วยท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการ ตามใบเนื้อหา เรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนใจ

องค์การ สามารถแสดงความคิดเห็น (ถาม-ตอบ) และ

6. ครูใหผ้ ูเ้ รียนทาแบบฝึกหัด เพอื่ ตรวจสอบ ปฏบิ ัตงิ านตามใบงาน

กระบวนการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ของผู้เรยี น 5. ผเู้ รียนทาแบบฝึกหดั

7. ครูเฉลยแบบฝึกหัดโดยให้ผู้เรียนตรวจ 6. ผู้เรียนตรวจแบบฝึกหัดของตนเองและบันทึก

แบบฝึกหดั ของตนเอง ผลด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์

8. ครูให้ผเู้ รียนทาแบบทดสอบหลังเรียน 7. ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น

9. ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโดยให้ผู้เรียน 8. ผู้เรียนตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนของ

ตรวจของตนเองและบันทึกผลผู้เรียนด้าน ตนเองและบันทึกผลด้านคุณลักษณะท่ีพึง

คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ประสงค์

9. ดแู ลสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้เป็นระเบยี บ

เรียบรอ้ ย

การบรู ณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ ประหยัด ใฝ่รู้ และปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายโดยยึดหลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพยี ง
กิจกรรมเสนอแนะ/ งานทม่ี อบหมาย

1. ศึกษาค้นควา้ เพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับความรูเ้ บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั การจัดการองค์การ
2. ศกึ ษาค้นควา้ เพิ่มเติมเกย่ี วกับการจัดการองคก์ ารสมยั ใหม่
การวัดและประเมินผล
วิธีการวดั และประเมินผล

- สงั เกตการทางาน
- ทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

4

เครือ่ งมือวดั และประเมินผล
- แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น

เกณฑ์การวัดผล และประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 80 ของแบบประเมินแต่ละประเภท

ดา้ นความรู้
- ประเมินจาก การสนทนา ตอบ ข้อซักถาม
- ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหดั แบบทดสอบ

ด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
- ประเมินด้วยแบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เน้นความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประณีต รอบคอบ

ประหยัดและมคี วามอดทน
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
- กระบวนการทางาน
วิธกี ารแกป้ ัญหาในกรณที ีผ่ ู้เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงคท์ ่ีกาหนด
1. สอนซอ่ มเสริมใหก้ บั ผูเ้ รยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑใ์ นแต่ละจดุ ประสงค์ โดยใชว้ ิธกี ารดงั นี้
- แนะนา/สอนเสริมในส่วนที่ยังไมเ่ ขา้ ใจ
- มอบหมายใหเ้ พ่อื นที่ผา่ นเกณฑ์สอนเพ่ือน
- มอบหมายให้งานเพ่มิ เตมิ นอกเวลา
2. ทดสอบเพ่ือประเมินผล

ส่อื การเรยี นการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน วิชางานเขยี นแบบเทคนิคเบือ้ งต้น รหัสวชิ า 30001 1002
2. ส่อื Power Point หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การจดั การองคก์ าร
3. วัสด-ุ อุปกรณอ์ น่ื ๆ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

5

แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรียนหน่วยท่ี 1

ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั การจดั การองคก์ าร

คาส่ัง : จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหน้าขอ้ ที่ถูกต้องทส่ี ดุ

1. ข้อใดมใิ ช่ลักษณะการจดั องค์การแบบราชการ

ก. จะตอ้ งมกี ารแบง่ งานกันทา

ข. มงุ่ เน้นเร่อื งมนุษยสมั พนั ธ์

ค. สายการบังคับบัญชาตอ้ งชดั เจน

ง. บคุ คลในองค์การต้องไมค่ านึงถึงความสัมพันธส์ ่วนบุคคล

2. องคก์ ารแบบใดทีจ่ ัดตงั้ ขึ้นโดยไม่มุง่ หวังกาไร

ก. โรงพยาบาล ข. สถานตี ารวจ ค. บรษิ ัทเอกชน ง. สมาคมการค้า

3. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะโครงสร้างองคก์ ารแบบ “ไม่เป็นทางการ”

ก. วงแชร์ ข. บริษัท ค. โรงพยาบาล ง. สถานศกึ ษา

4. ประเภทองคก์ ารข้อใดมิใชล่ ักษณะองค์การท่เี นน้ การใหค้ า่ ตอบแทนเพอ่ื ให้คนทาตาม

ก. มลู นิธิ ข. ห้างรา้ น ค. พรรคการเมอื ง ง. สถานศกึ ษา

5. หน่วยงานใดมไิ ดม้ เี ปา้ หมายมุง่ เนน้ การให้บริการ

ก. โรงพยาบาล ข. ห้างสรรพสนิ ค้า ค. บรษิ ทั ขนสง่ มวลชน ง. การไฟฟ้าฝา่ ยผลติ

6. ขอ้ ใดเปน็ องคก์ ารธรุ กิจ

ก. ทบวง ข. ธนาคาร ค. สมาคม ง. กระทรวง

7. ผูใ้ ดทาหน้าที่โครงสรา้ งองค์การแบบคณะท่ปี รกึ ษาในธนาคาร

ก. นติ กิ ร ข. ผู้จัดการ ค. ผู้ช่วยผ้จู ดั การ ง. หัวหนา้ แผนก

8. องค์ประกอบขององคก์ ารขอ้ ใดเป็นจุดเร่ิมต้นขององคก์ าร

ก. คน (Man) ข. เป้าหมาย ค. โครงสร้าง ง. เทคโนโลยี

9. ขอ้ ใดเปน็ สภาวะแวดลอ้ มภายนอกทอี่ งคก์ ารไม่สามารถควบคุมได้ในระดับมหภาค

ก. ลกู คา้ ข. ผูข้ าย ง. การเมือง ง. การเมือง

10. ในสถานศึกษาสงั กัดสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา บคุ คลใดเปน็ ผู้บังคับบญั ชาสงู สุด

ก. ผอู้ านวยการ

ข. ประธานอาชีวศึกษาภาค

ค. ประธานอาชีวศกึ ษาจังหวัดตาย

ง. ประธานกรรมการบริหารสถานศึกษา

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

6

ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยที่ 2

มลี กั ษณะของ ความมวี ินยั ใน ทากจิ กรรมกลมุ่ คณุ ธรรม/จรยิ ธรรม
ผปู้ ฏบิ ตั ิงานทดี่ ี ตนเอง รว่ มกบั เพอ่ื น ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน

มผี ลสมั ฤทธ์ิ มคี วาม มมี นษุ ยสมั พนั ธ์ สมุด/แบบฝึกหดั
รบั ผิดชอบ ทดสอบย่อย
เกง่ มีความสขุ
ดี ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

ผผ้เู รูเ้ รียยี นน วธิ กี าร

ความรเู้ บ้อื งตน้ ของวัฒนธรรม
องคก์ าร

1. ความหมายวฒั นธรรมองคก์ าร 6. การพฒั นาวัฒนธรรมองค์การให้
เขม้ แข็ง
2. ความสาคัญของวัฒนธรรม สาระ
องค์การ
7. ก าร สร้าง สร ร ค์วั ฒ น ธ ร ร ม
3. ประโยชน์ของวัฒนธรรม องค์การ
องค์การ
8. ลักษณะของวัฒนธรรมท่ีทาให้
4. องค์ประ กอบสาคัญ ของ องค์การเกดิ ประสิทธผิ ล
วัฒนธรรมองค์การ
9. วัฒนธรรมองค์การกับการ
5. การพัฒนาวัฒนธรรมองคก์ าร บริหารองคก์ าร

สงั คม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม 10. วั ฒ น ธ ร ร ม ท่ี เ ป็ น ตั ว บ่ ง ช้ี
1,6 2-3 5 ความสาเร็จและความลม้ เหลวของ
องคก์ าร

สิง่ แวดลอ้ ม
4

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

7

แผนการจัดการเรียนรู้
ช่อื วชิ า องค์การและการจดั การสมัยใหม่ รหัสวิชา 30001 1002

หนว่ ยท่ี 2 ความรู้เบอ้ื งตน้ ของวัฒนธรรมองค์การ
สอนคร้งั ที่ 3-4 ช่วั โมงที่ 9-16 เวลา 8 ชั่วโมง

สาระสาคญั
การปฏบิ ัตงิ านในแตล่ ะองค์การ มอี งคป์ ระกอบหลายประการทนี่ าพาใหอ้ งค์การประสบความสาเร็จ

ซ่ึงส่ิงที่สาคัญท่ีเราทุกคนต้องทาความเข้าใจและเรียนรู้คือ วัฒนธรรมองค์การเป็นรากฐานที่กาหนดทัศนคติ
แนวคิด พฤติกรรมในการทางาน เป็นแบบแผนท่ีเป็นเอกภาพและเป็นเอกลักษณ์ขององค์การ เป็นเสมือน
แกนกลางของทกุ สิ่งทุกอยา่ งในการดาเนินงานของมนษุ ยใ์ นองคก์ ารและเป็นสง่ิ สาคญั ในการนาพาองค์การไปสู่
ความสาเร็จ
จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับความรูเ้ บื้องต้นของวฒั นธรรมองค์การ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
หลังจากศึกษาหน่วยนี้แล้วผูเ้ รยี นสามารถ
1. อธบิ ายความหมายวฒั นธรรมองคก์ ารได้
2. อธิบายความสาคญั ของวฒั นธรรมองค์การได้
3. บอกประโยชนข์ องวฒั นธรรมองค์การได้
4. อธบิ ายองคป์ ระกอบสาคัญของวฒั นธรรมองค์การได้
5. พฒั นาวฒั นธรรมองค์การได้
6. พฒั นาวฒั นธรรมองคก์ ารให้เขม้ แข็งได้
7. สรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมองคก์ ารได้
8. บอกลักษณะของวัฒนธรรมท่ที าใหอ้ งคก์ ารเกิดประสิทธผิ ลได้
9. อธิบายวัฒนธรรมองค์การกับการบรหิ ารองค์การได้
10. อธิบายวัฒนธรรมที่เป็นตัวบง่ ช้คี วามสาเร็จและความล้มเหลวขององคก์ ารได้
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกับความรู้เบ้ืองต้นของวัฒนธรรมองค์การ
หวั ข้อการเรียนรู้
2.1 ความหมายวฒั นธรรมองคก์ าร
2.2 ความสาคัญของวัฒนธรรมองค์การ
2.3 ประโยชนข์ องวัฒนธรรมองคก์ าร
2.4 องคป์ ระกอบสาคัญของวัฒนธรรมองคก์ าร

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

8

2.5 การพัฒนาวัฒนธรรมองค์การ

2.6 การพัฒนาวฒั นธรรมองค์การใหเ้ ข้มแขง็

2.7 การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมองค์การ

2.8 ลกั ษณะของวัฒนธรรมท่ีทาให้องคก์ ารเกิดประสทิ ธผิ ล

2.9 วฒั นธรรมองคก์ ารกบั การบรหิ ารองค์การ

2.10 วฒั นธรรมทเ่ี ป็นตวั บง่ ชคี้ วามสาเรจ็ และความลม้ เหลวขององค์การ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 3-4)

กิจกรรมผ้สู อน กิจกรรมผ้เู รียน

1. ครูให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2

2. ครนู าเข้าบทเรยี น ความรูเ้ บ้ืองต้นของวฒั นธรรมองค์การ

3. ครผู ู้สอนอธิบายเน้ือหาสาระ 2. ผู้เรียนฟังคาบรรยาย ดูการสาธิต และศึกษา

หน่วยท่ี 2 ความรูเ้ บอ้ื งต้นของวฒั นธรรมองค์การ ตามใบเนื้อหา เรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนใจ

โดยใชส้ อื่ Power Point และใบงาน สามารถแสดงความคิดเห็น (ถาม-ตอบ) และใบ

4. ครูใหผ้ ูเ้ รยี นทาแบบฝึกหดั เพ่ือตรวจสอบ ปฏบิ ตั ิงาน

กระบวนการเรยี นรู้ และผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รียน 3. ผู้เรยี นทาแบบฝกึ หัด

5. ครูเฉลยแบบฝึกหัดโดยให้ผู้เรียนตรวจ 4. ผู้เรียนตรวจแบบฝึกหัดของตนเองและบันทึก

แบบฝึกหัดของตนเอง ผลดา้ นคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์

6. ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 5. ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน

7. ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโดยให้ผู้เรียน 6. ผู้เรียนตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนของ

ตรวจของตนเองและบันทึกผลผู้เรียนด้าน ตนเองและบันทึกผลด้านคุณลักษณะที่พึง

คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ประสงค์

7. ดูแลสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้เป็นระเบียบ

เรียบร้อย

การบรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ ประหยัด ใฝ่รู้ และปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายโดยยึดหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี ง

กิจกรรมเสนอแนะ/ งานที่มอบหมาย

1. ศกึ ษาค้นควา้ เพ่มิ เติมเกี่ยวกับความรู้เบอื้ งต้นของวัฒนธรรมองคก์ าร

2. ศึกษาคน้ ควา้ เพิม่ เติมเกี่ยวกบั วัฒนธรรมของแตล่ ะองคก์ าร

การวดั และประเมินผล

วิธีการวดั และประเมินผล

- สงั เกตการทางาน

- ทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

9

เครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล
- แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน

เกณฑก์ ารวดั ผล และประเมินผล
- ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 80 ของแบบประเมินแตล่ ะประเภท

ดา้ นความรู้
- ประเมนิ จาก การสนทนา ตอบ ขอ้ ซกั ถาม
- ประเมินจากการทาแบบฝกึ หัด แบบทดสอบ

ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
- ประเมินด้วยแบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เน้นความรับผิดชอบ ซ่ือสัตย์ ประณีต รอบคอบ

ประหยัดและมคี วามอดทน
ด้านทักษะกระบวนการ
- กระบวนการทางาน
วธิ กี ารแกป้ ัญหาในกรณที ผ่ี ู้เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามจุดประสงค์ทก่ี าหนด
1. สอนซอ่ มเสรมิ ให้กบั ผู้เรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ในแตล่ ะจดุ ประสงค์ โดยใช้วธิ ีการดงั นี้
- แนะนา/สอนเสริมในส่วนท่ยี งั ไมเ่ ข้าใจ
- มอบหมายใหเ้ พือ่ นที่ผา่ นเกณฑส์ อนเพื่อน
- มอบหมายใหง้ านเพ่มิ เตมิ นอกเวลา
2. ทดสอบเพื่อประเมนิ ผล

สอ่ื การเรยี นการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน วชิ างานเขียนแบบเทคนิคเบือ้ งต้น รหัสวชิ า 30001 1002
2. สอ่ื Power Point หนว่ ยที่ 2 ความรู้เบอื้ งตน้ ของวัฒนธรรมองค์การ
3. วัสด-ุ อปุ กรณอ์ ื่น ๆ

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

10

แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี นหนว่ ยท่ี 2

ความรู้เบอ้ื งตน้ ของวฒั นธรรมองค์การ

คาสัง่ : จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ข้อที่ถูกตอ้ งท่ีสุด

1. ขอ้ ใดมิได้เกิดจากลกั ษณะวัฒนธรรมองค์การ

ก. การสวสั ดีทกั ทายช่วงเช้า-เยน็

ข. การแต่งกายตามท่ีหนว่ ยงานกาหนด

ค. การช่วยเหลอื แบบพี่นอ้ ง เพอ่ื นร่วมงาน

ง. การร่วมแสดงความยินดีกับวนั เกิดของสมาชิกทุกคนในองคก์ ร

2. พฤตกิ รรมใดเกดิ จากการสร้างของวัฒนธรรมองค์การ

ก. สมาชิกต่างคนตา่ งอยู่ ข. สมาชกิ นาของมาแบ่งกนั เสมอ

ค. เขา้ ร่วมประชมุ ตามเวลาที่กาหนด ง. ถา่ ยทอดองค์ความรูใ้ ห้กันและกัน

3. ข้อใดมใิ ช่วัฒนธรรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ องค์การ

ก. มกี ารสารสมั พันธ์ท่ไี ด้ในองคก์ าร ข. มคี วามรู้สกึ เป็นอนั หนึง่ อันเดยี วกนั

ค. ชว่ ยใหอ้ งคก์ ารประสบความสาเร็จ ง. การสรา้ งพรรคพวกเพ่ือตอ่ รองอานาจ

4. ขอ้ ใดมใิ ช่องค์ประกอบของการสร้างวฒั นธรรมองคก์ าร

ก. เงิน ข. ค่านยิ ม ค. วรี บรุ ุษ ง. สภาพแวดลอ้ มขององค์การ

5. ขอ้ ใดมใิ ช่การปฏบิ ัตงิ านของวัฒนธรรมองค์การแบบสร้างสรรค์

ก. มุง่ ผลสัมฤทธิ์ ข. ม่งุ พฒั นาบุคลากร

ค. ม่งุ ผูกพนั ฉันพ่นี อ้ ง ง. มงุ่ ใหก้ ารประเมนิ ผลงานดเี ดน่

6. ขอ้ ใดมิใช่การปฏิบัติงานของวฒั นธรรมแบบปอ้ งกันเชิงรับ

ก. การพึ่งพงิ ข. การม่งุ อานาจ ค. การหลีกเล่ียง ง. การมงุ่ ยอมตาม

7. ขอ้ ใดมใิ ช่ลักษณะที่แสดงออกของวฒั นธรรมขององค์การดีเด่น

ก. มงุ่ การกระทา ข. มุ่งความอิสระ ค. โครงสรา้ งทเี่ รียบงา่ ย ง. เขม้ งวดกบั กฎระเบยี บ

8. ข้อใดมใิ ช่ลักษณะของการเสรมิ แรงบวก

ก. ให้รางวัล ข. ให้คาชมเชย

ค. ใหต้ าแหน่งหนา้ ที่งาน ง. ให้มกี ารบนั ทึกการปฏิบัตงิ าน

9. ข้อใดมิใช่วัฒนธรรมน้ันกอ่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ล

ก. การมีส่วนรว่ มในองคก์ าร ข. การปรบั ตัวทเี่ หมาะสม

ค. การประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ ด้สม่าเสมอ ง. การกาหนดระเบียบข้อบงั คบั ท่ชี ัดเจน

10. ขอ้ ใดมิใช่วฒั นธรรมองค์การท่ีมคี วามสมั พนั ธก์ บั การบริหารภายในองค์การโดยตรง

ก. ภาษา ข. อุดมการณ์ ค. อานาจทไี่ มล่ งตวั ง. การให้รางวัลและการลงโทษ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

11

ผงั มโนทัศน์หน่วยท่ี 3

มีลักษณะของ ความมีวินยั ใน ทากจิ กรรมกลุ่ม คณุ ธรรม/จรยิ ธรรม
ผ้ปู ฏิบัตงิ านที่ดี ตนเอง ร่วมกับเพือ่ น ทกั ษะการปฏบิ ตั งิ าน

มผี ลสัมฤทธ์ิ มคี วาม มมี นษุ ยสัมพันธ์ สมดุ /แบบฝึกหัด
รบั ผดิ ชอบ ทดสอบย่อย
เก่ง มคี วามสขุ
ดี ประเมนิ ตามสภาพจริง

ผผเู้ ร้เู รยี ยี นน วิธีการ

การบรหิ ารงานคณุ ภาพและการเพ่มิ
ผลผลติ ในองคก์ าร

1. การบริหารง าน คุณภาพใน 6. ความหมายของการเพ่ิมผลิต
องค์กร ภาพในองค์การ

2. แนวคิดการบริหารงานคุณภาพ สาระ 7. วัตถุประสงค์ของการเพ่ิมผลิต
ในองค์การ ภาพในองค์การ

3. หลักการบริหารงานคุณภาพใน 11. ประโยชน์ที่ได้รับจาก 8. องค์ประกอบของการเพิ่มผลิต
องค์การ ก า ร เ พ่ิ ม ผ ลิ ต ภ า พ ใ น ภาพในองค์การ
องคก์ าร
4. กระบวนการบรหิ ารงานคณุ ภาพ 9. หลักการบริหารในการเพ่ิมผลิต
ในองค์การ ภาพในองคก์ าร

5. ประโยชน์ของการบริหารงาน 10. ความสาคัญของการเพิ่มผลิต
คณุ ภาพในองค์การ ภาพในองค์การ

สงั คม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม
4
1,6 2-3 5

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

12

แผนการจัดการเรียนรู้
ช่ือวิชา องค์การและการจัดการสมยั ใหม่ รหัสวชิ า 30001 1002
หนว่ ยท่ี 3 การบรหิ ารงานคณุ ภาพและการเพ่ิมผลผลติ ในองค์การ

สอนครงั้ ที่ 5-6 ชัว่ โมงท่ี 17-24 เวลา 8 ช่ัวโมง

สาระสาคญั

การนาหลักการบริหารงานคุณภาพในองค์กรมาใช้ เป็นสิ่งสาคัญเพ่ือเป็นการควบคุมคุณภาพ

มาตรฐานขององค์การ โดยมีตัวชวี้ ัดทเี่ ป็นรูปธรรมในการนาธุรกิจสู่เป้าหมาย และการเพมิ่ ผลิตภาพในองค์การ

เป็นความรับผิดชอบของทุกคน ในแง่ของบริษัทหรือโรงงาน ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในเรื่องการเพ่ิมผลิต

ภาพและให้การสนับสนุนการดาเนินกิจกรรมอย่างเต็มท่ี ในขณะเดียวกัน ฝ่ายพนักงานต้องให้ความร่วมมือ

โดยการทางานอย่างเต็มความสามารถและเพ่ิมทักษะการทางานให้สูงขึ้น นอกจากน้ีการเพิ่มผลผลิตยังต้อง

อาศัยความรว่ มมือจากพนักงาน เจ้าหนา้ ที่ บคุ ลากร และหน่วยงานอื่นท่ัวๆ ไป ในการร่วมกันปรบั ปรุงการเพ่ิม

ผลติ ภาพในทุกสถานที่ ทัง้ ที่ทางาน และสถานประกอบการดว้ ยการทาส่ิงต่างๆ อยา่ งถกู ต้อง โดยใช้ทรัพยากร

ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด ซ่งึ สง่ ผลให้การเพิม่ ผลิตภาพโดยรวมของประเทศเพิ่มสูงข้นึ อนั จะนาไปส่กู ารยกระดบั

จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ่ัวไป

เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับการบรหิ ารงานคุณภาพและการเพมิ่ ผลผลิตในองค์การ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม

หลังจากศกึ ษาหนว่ ยนแี้ ล้วผเู้ รยี นสามารถ

1. อธิบายการบรหิ ารงานคุณภาพในองค์กร

2. อธบิ ายแนวคิดการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
3. อธิบายหลกั การบริหารงานคุณภาพในองค์การ

4. บอกกระบวนการบรหิ ารงานคุณภาพในองค์การ
5. บอกประโยชนข์ องการบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร

6. อธบิ ายความหมายของการเพ่ิมผลติ ภาพในองค์การ

7. วัตถปุ ระสงคข์ องการเพม่ิ ผลิตภาพในองคก์ าร

8. องคป์ ระกอบของการเพ่ิมผลิตภาพในองคก์ าร

9. อธิบายหลกั การบรหิ ารในการเพิ่มผลิตภาพในองคก์ าร
10. อธิบายความสาคัญของการเพิ่มผลิตภาพในองคก์ าร

11. บอกประโยชน์ที่ไดร้ ับจากการเพมิ่ ผลผลิตในองคก์ าร
สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การบรหิ ารงานคุณภาพและการเพิ่มผลผลติ ในองคก์ าร

หัวข้อการเรยี นรู้

3.1 การบริหารงานคุณภาพในองค์กร

3.2 แนวคดิ การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองค์การ

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

13

3.3 หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร
3.4 กระบวนการบริหารงานคณุ ภาพในองค์การ
3.5 ประโยชนข์ องการบริหารงานคุณภาพในองคก์ าร
3.6 ความหมายของการเพ่ิมผลิตภาพในองคก์ าร
3.7 วัตถปุ ระสงค์ของการเพ่มิ ผลติ ภาพในองค์การ
3.8 องคป์ ระกอบของการเพม่ิ ผลิตภาพในองค์การ
3.9 หลกั การบรหิ ารในการเพิม่ ผลิตภาพในองคก์ าร
3.10 ความสาคญั ของการเพมิ่ ผลิตภาพในองคก์ าร
3.11 ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั จากการเพิ่มผลิตภาพในองคก์ าร

กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 5-6)

กิจกรรมผู้สอน กิจกรรมผเู้ รียน

1. ครใู ห้ผู้เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 3

2. ครนู าเขา้ บทเรียน การบริหารงานคุณภาพและการเพ่ิมผลผลิตใน

3. ครผู ู้สอนอธบิ ายเน้อื หาสาระ องคก์ าร

หน่วยที่ 3 การบริหารงานคุณภาพและการเพิ่ม 2. ผู้เรียนฟังคาบรรยาย ดูการสาธิต และศึกษา

ผลผลติ ในองคก์ าร โดยใช้สอ่ื Power Point ตามใบเน้ือหา เรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนใจ

4. ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เพ่อื ตรวจสอบ สามารถแสดงความคิดเห็น (ถาม-ตอบ) และใบ

กระบวนการเรียนรู้ และผลการเรยี นรู้ของผู้เรยี น ปฏิบัตงิ าน

5. ครูเฉลยแบบฝึกหัดโดยให้ผู้เรียนตรวจ 3. ผู้เรยี นทาแบบฝกึ หัด

แบบฝึกหดั ของตนเอง 4. ผู้เรียนตรวจแบบฝึกหัดของตนเองและบันทึก

6. ครใู หผ้ ้เู รียนทาแบบทดสอบหลังเรียน ผลด้านคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์

7. ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโดยให้ผู้เรียน 5. ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น

ตรวจของตนเองและบันทึกผลผู้เรียนด้าน 6. ผู้เรียนตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนของ

คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ต น เ อ ง แ ล ะ บั น ทึ ก ผ ล ด้ า น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ท่ี พึ ง

ประสงค์

7. ดแู ลสภาพแวดล้อมในหอ้ งเรียนใหเ้ ป็นระเบียบ

เรยี บร้อย

การบรู ณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ ประหยัด ใฝ่รู้ และปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายโดยยึดหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี ง
กิจกรรมเสนอแนะ/ งานทมี่ อบหมาย

1. ศกึ ษาค้นควา้ เพมิ่ เตมิ เกี่ยวกบั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและการเพิม่ ผลผลติ ในองค์การ
2. ศึกษาคน้ คว้าเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับการเพ่มิ ผลผลติ ขององค์การ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

14

การวดั และประเมนิ ผล
วิธีการวดั และประเมินผล
- สังเกตการทางาน
- ทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น
เครื่องมอื วดั และประเมินผล
- แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
เกณฑก์ ารวัดผล และประเมินผล
- ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน รอ้ ยละ 80 ของแบบประเมินแต่ละประเภท
ดา้ นความรู้
- ประเมินจาก การสนทนา ตอบ ขอ้ ซกั ถาม
- ประเมนิ จากการทาแบบฝกึ หดั แบบทดสอบ
ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
- ประเมินด้วยแบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เน้นความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประณีต รอบคอบ

ประหยดั และมคี วามอดทน
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
- กระบวนการทางาน
วธิ กี ารแกป้ ญั หาในกรณีทผี่ เู้ รียนไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามจดุ ประสงค์ที่กาหนด
1. สอนซอ่ มเสริมใหก้ ับผเู้ รียนท่ไี มผ่ า่ นเกณฑใ์ นแตล่ ะจดุ ประสงค์ โดยใช้วิธกี ารดงั น้ี
- แนะนา/สอนเสริมในส่วนที่ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ
- มอบหมายให้เพอื่ นที่ผ่านเกณฑส์ อนเพื่อน
- มอบหมายให้งานเพิม่ เติมนอกเวลา
2. ทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ผล

ส่อื การเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน วิชางานเขียนแบบเทคนิคเบื้องต้น รหสั วิชา 30001 1002
2. สอ่ื Power Point หนว่ ยท่ี 3 การบรหิ ารงานคณุ ภาพและการเพิม่ ผลผลิตในองคก์ าร
3. วสั ด-ุ อปุ กรณอ์ น่ื ๆ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

15

แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี นหน่วยที่ 3

การบริหารงานคณุ ภาพและการเพม่ิ ผลผลติ ในองคก์ าร

คาสั่ง : จงทาเครือ่ งหมายกากบาท (X) ลงหน้าขอ้ ท่ถี ูกต้องทสี่ ุด

1. ขอ้ ใดคอื ความหมายของคณุ ภาพ

ก. คุณลักษณะเฉพาะของสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดยไม่คานึกถึง

สิ่งแวดล้อม

ข. คุณลักษณะเฉพาะของสินค้าหรือบริการที่สามารถตอบสนองตามความต้องการและสร้างความพึง

พอใจใหแ้ กล่ กู ค้าได้และไมเ่ ป็นภัยตอ่ สง่ิ แวดล้อม

ค. คุณลักษณะทั่วไปของสินค้าที่สรา้ งความพึงพอใจให้กับลูกคา้ และนกึ ถึงสงิ่ แวดลอ้ ม

ง. ข้อกาหนดของสินค้าท่ผี ผู้ ลิตกาหนดขึน้ ตามความต้องการของผผู้ ลิต

2. คุณภาพตามความคิดสมยั ใหม่ (Modern) คานึงถึงส่ิงใดทล่ี ูกค้าตอ้ งการ

ก. มาตรฐานสากล ข. มาตรฐานโลก ค. ความพงึ พอใจ ง. สิ่งแวดลอ้ ม

3. กระบวนการทุกอย่างมุ่งเน้นที่ลูกค้าเพ่ือสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าตรงกับวิวิวัฒนาการของการ

บริหารงานคณุ ภาพ ข้อใด

ก. ช่วงก่อนการปฏิวัตอิ ุตสาหกรรม ข. ช่วงของการปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม

ค. ช่วงหลังการปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม ง. ช่วงของการแขง่ ขันท่ีเข้มข้นข้ึน

4. การจดั ระบบการบรหิ ารงานคณุ ภาพแลว้ มผี ูน้ าโดดเดน่ ตรงกบั ขอ้ ใด

ก. บุคลากร ข. ภาวะผนู้ า ค. งบประมาณ ง. โครงสร้างองคก์ าร

5. ขอ้ ใดมิใช่กระบวนการดาเนนิ งานดา้ นกลยทุ ธ์การบริหารงานในองค์การ

ก. กาหนดนโยบาย ข. กาหนดความรบั ผดิ ชอบ

ค. สื่อข้อมลู ภายในองคก์ าร ง. การสรา้ งความสัมพนั ธ์ในองค์การ

6.ข้อใดมใิ ชห่ ลกั การบรหิ ารแบบวทิ ยาศาสตรข์ อง Federick W.Taylor

ก. พัฒนาระบบการผลติ ด้วยการหาวิธที ี่ดที ส่ี ดุ

ข. จดั หาสิ่งจูงใจในการทางาน

ค. เน้นความชานาญเฉพาะอยา่ งและแบ่งงานกันทา

ง. คัดเลอื กและจดั คนเขา้ ทางานตามตาแหน่งวา่ งของหน่วยงาน

7. ขอ้ ใดมใิ ช่องค์ประกอบทสี่ าคัญของการเพิม่ ผลผลิตท่ีสาคญั 7 ประการ คือ QCDSMEE

ก. C : Cost ข. S : Safety ค. Quality ง. M : Motivation

8. ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการเพ่ิมผลผลติ ในด้านผลตอบแทน สวสั ดิการเพิม่ ขึ้นตรงกับข้อใด

ก. ผลตอบแทนด้านสังคม ข. ผลตอบแทนดา้ นผู้ผลติ

ค. ผลตอบแทนด้านผ้บู รโิ ภค ง. ผลตอบแทนด้านพนกั งาน

9. ไดร้ บั สนิ ค้าและบริการท่ีมีคุณภาพสงู มคี วามหลากหลายมากขน้ึ ราคาถกู ลง ตรงกบั ขอ้ ใด

ก. ผลตอบแทนด้านสงั คม ข. ผลตอบแทนดา้ นผู้ผลติ

ค. ผลตอบแทนด้านผู้บรโิ ภค ง. ผลตอบแทนดา้ นพนกั งาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

16

10. สามารถผลิตและทางานในปรมิ าณที่สงู ข้นึ ขยายธุรกจิ ไดอ้ ยา่ งมั่นคง ตรงกับขอ้ ใด

ก. ผลตอบแทนด้านสงั คม ข. ผลตอบแทนด้านผผู้ ลิต

ค. ผลตอบแทนด้านผู้บรโิ ภค ง. ผลตอบแทนด้านพนักงาน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

17

ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยที่ 4

มีลักษณะของ ความมวี นิ ัยใน ทากจิ กรรมกล่มุ คุณธรรม/จรยิ ธรรม
ผู้ปฏิบัตงิ านทีด่ ี ตนเอง ร่วมกับเพอ่ื น ทกั ษะการปฏิบัตงิ าน

มีผลสัมฤทธิ์ มีความ มมี นุษยสัมพันธ์ สมุด/แบบฝึกหัด
รับผดิ ชอบ ทดสอบย่อย
เก่ง มีความสขุ
ดี ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

ผผเู้ รู้เรยี ยี นน วธิ ีการ

การเพิ่มประสทิ ธภิ าพในองค์การ

1. ความหมายของการเพ่ิม 5. การใช้สัญลักษณ์ส่ีเหล่ียมจัตุรัส
ประสทิ ธภิ าพในองคก์ าร สาระ และเสน้ ทแยงมุม

2. ประเภทของประสิทธิภาพ 6. ลักษณะบุคคลทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ

3. องค์ประกอบของการพัฒนา 7. เทคนิคการประเมินผลการ
ประสทิ ธิภาพในการทางาน ทางาน

4. ปัจจยั ทีส่ ่งผลตอ่ ประสทิ ธิภาพ 8. ปัจจัยที่ช่วยทาให้คนทางานดี
ในการทางาน และมีประสิทธิภาพ

9. ประสทิ ธภิ าพในการทางาน

สังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม

1,6 2-3 5 4

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

18

แผนการจดั การเรยี นรู้
ชื่อวิชา องค์การและการจดั การสมัยใหม่ รหสั วิชา 30001 1002

หนว่ ยท่ี 4 การเพมิ่ ประสิทธภิ าพในองคก์ าร
สอนคร้งั ที่ 7-8 ช่วั โมงที่ 25-32 เวลา 8 ช่ัวโมง

สาระสาคญั
การเพ่ิมประสิทธิภาพขององค์การเป็นเสมือนจุดมุ่งหมายหลักในการพัฒนาทรัพยากรขององคก์ าร

ทกุ ด้าน โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคลเป็นอันดับแรกและส่ิงสาคัญท่ีสุดในการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ
การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพขององค์การ
จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคท์ ่ัวไป
เพ่ือใหผ้ ้เู รียนมีความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในองคก์ าร
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
หลงั จากศกึ ษาหน่วยนี้แล้วผู้เรยี นสามารถ
1. อธบิ ายความหมายของการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในองคก์ ารได้
2. บอกประเภทของประสทิ ธภิ าพได้
3. อธบิ ายองคป์ ระกอบของการพฒั นาประสิทธิภาพในการทางานได้
4. บอกปจั จัยทีส่ ง่ ผลต่อประสิทธภิ าพในการทางานได้
5. บอกประโยชนก์ ารพัฒนาประสทิ ธภิ าพในการทางานได้
6. อธบิ ายลกั ษณะบคุ คลทีม่ ีประสิทธภิ าพได้
7. อธบิ ายเทคนคิ การประเมินผลการทางานได้
8. บอกปัจจัยที่ชว่ ยทาให้คนทางานดีและมปี ระสิทธิภาพได้
9. พฒั นาประสิทธิภาพในการทางานได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กีย่ วกับปจั จยั ท่ีชว่ ยทาใหค้ นทางานดีและมปี ระสทิ ธภิ าพไดต้ ามหลกั การ
หัวขอ้ การเรยี นรู้
4.1 ความหมายของการเพิ่มประสทิ ธิภาพในองคก์ าร
4.2. ประเภทของประสทิ ธิภาพ
4.3 องคป์ ระกอบของการพฒั นาประสิทธภิ าพในการทางาน
4.4 ปัจจยั ท่สี ่งผลตอ่ ประสิทธิภาพในการทางาน
4.5 ประโยชน์การพฒั นาประสิทธภิ าพในการทางาน
4.6 ลกั ษณะบุคคลทีม่ ปี ระสิทธิภาพ
4.7 เทคนิคการประเมินผลการทางาน
4.8 ปัจจัยท่ชี ว่ ยทาให้คนทางานดีและมปี ระสทิ ธิภาพ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

19

4.9 การพัฒนาประสทิ ธิภาพในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 7-8)

กิจกรรมผู้สอน กิจกรรมผู้เรยี น

1. ครใู ห้ผูเ้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 4

2. ครนู าเขา้ บทเรยี น การเพิม่ ประสทิ ธิภาพในองค์การ

3. ครูผสู้ อนอธิบายเนอ้ื หาสาระ 2. ผู้เรียนฟังคาบรรยาย ดูการสาธิต และศึกษา

หน่วยที่ 4 การเพิ่มประสทิ ธภิ าพในองคก์ าร ตามใบเน้ือหา เรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนใจ

4. ครใู หผ้ ้เู รียนทาแบบฝึกหดั เพอื่ ตรวจสอบ สามารถแสดงความคิดเห็น (ถาม-ตอบ) และใบ

กระบวนการเรียนรู้ และผลการเรียนรขู้ องผู้เรยี น ปฏบิ ัติงาน

5. ครูเฉลยแบบฝึกหัดโดยให้ผู้เรียนตรวจ 3. ผเู้ รียนทาแบบฝกึ หัด

แบบฝึกหัดของตนเอง 4. ผู้เรียนตรวจแบบฝึกหัดของตนเองและบันทึก

6. ครูใหผ้ ู้เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ผลด้านคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์

7. ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโดยให้ผู้เรียน 5. ผ้เู รียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน

ตรวจของตนเองและบันทึกผลผู้เรียนด้าน 6. ผู้เรียนตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนของ

คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ต น เ อ ง แ ล ะ บั น ทึ ก ผ ล ด้ า น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ที่ พึ ง

ประสงค์

7. ดูแลสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้เป็นระเบยี บ

เรยี บร้อย

การบรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผู้เรียนมีวินัย ซ่ือสัตย์ ประหยัด ใฝ่รู้ และปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายโดยยึดหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี ง
กจิ กรรมเสนอแนะ/ งานท่ีมอบหมาย

1. ศึกษาค้นคว้าเพมิ่ เติมเกี่ยวกบั การเพิม่ ประสทิ ธิภาพในองค์การ
2. ศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับปัจจยั ที่ชว่ ยทาให้คนทางานดีและมปี ระสิทธิภาพไดต้ ามหลกั การ
การวดั และประเมินผล
วิธีการวัดและประเมินผล

- สงั เกตการทางาน
- ทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น
เคร่ืองมือวัดและประเมินผล
- แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น
เกณฑ์การวดั ผล และประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 80 ของแบบประเมนิ แต่ละประเภท

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

20
ดา้ นความรู้

- ประเมนิ จาก การสนทนา ตอบ ขอ้ ซักถาม
- ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหดั แบบทดสอบ
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
- ประเมินด้วยแบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เน้นความรับผิดชอบ ซ่ือสัตย์ ประณีต รอบคอบ
ประหยัดและมีความอดทน
ดา้ นทักษะกระบวนการ
- กระบวนการทางาน
วิธกี ารแกป้ ญั หาในกรณที ผ่ี ้เู รียนไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามจุดประสงคท์ ี่กาหนด
1. สอนซ่อมเสรมิ ใหก้ ับผูเ้ รียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ในแตล่ ะจดุ ประสงค์ โดยใชว้ ิธกี ารดังนี้

- แนะนา/สอนเสรมิ ในส่วนท่ียังไมเ่ ข้าใจ
- มอบหมายใหเ้ พื่อนท่ีผา่ นเกณฑส์ อนเพ่ือน
- มอบหมายใหง้ านเพ่มิ เตมิ นอกเวลา
2. ทดสอบเพ่อื ประเมนิ ผล
ส่อื การเรยี นการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน วชิ าองค์การและการจัดการสมยั ใหม่ รหสั วิชา 30001 1002
2. ส่อื Power Point หนว่ ยท่ี 4 การเพ่ิมประสทิ ธภิ าพในองค์การ
3. วสั ด-ุ อปุ กรณอ์ น่ื ๆ

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

21

แบบทดสอบกอ่ นและหลงั เรยี นหนว่ ยที่ 4

การเพ่ิมประสทิ ธิภาพในองค์การ

คาสั่ง : จงทาเครอื่ งหมายกากบาท (X) ลงหน้าขอ้ ท่ีถูกตอ้ งท่ีสดุ

1. ประสิทธภิ าพของบุคคลตรงกบั ขอ้ ใดมากทส่ี ุด

ก. นกผลติ ผ้าเช็คหน้า 10 ชิน้ ในเวลา 5 วนั งบประมาณ 10 บาท

ข. ไกผ่ ลติ ผ้าเชค็ หนา้ 10 ชิน้ ในเวลา 5 วนั งบประมาณ 13 บาท

ค. แมวผลิตผ้าเช็คหน้า 10 ช้ิน ในเวลา 6 วัน งบประมาณ 13 บาท

ง. ปลาผลติ ผ้าเช็ดหน้า 10 ชิน้ ในเวลา 5 วนั งบประมาณ 9 บาท

2. ขอ้ ใดไมเ่ กีย่ วข้องกบั การปฏิบัตงิ านของบุคคลท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพในการทางาน

ก. เวลา ข. นโยบาย ค. งบประมาณ ง. วัสดุ อุปกรณ์

3. ขอ้ ใดไม่เกยี่ วข้องกบั องค์ประกอบของการพฒั นาประสิทธิภาพในการทางาน

ก. เวลา ข. ปริมาณงาน ค. คุณภาพของงาน ง. แผนงานจากแผนก

4. ขอ้ ใดคอื สงิ่ แวดล้อมภายนอกองคก์ ารของการพฒั นาประสทิ ธิภาพการทางาน

ก. นโยบาย ข. เทคโนโลยี ค. วฒั นธรรมองคก์ าร ง. กาลงั การซือ้ ของลกู ค้า

5. ขอ้ ใดมใิ ชป่ จั จยั โครงสรา้ งดา้ นการบรหิ าร

ก. การสง่ั การ ข. การวางแผน ค. การจัดสรรทรัพยากร ง. การกาหนดมาตรฐาน

6. ข้อใดมิใช่ลกั ษณะของบคุ คลผู้มีประสทิ ธิภาพ

ก. ความฉบั ไว ข. ประสบการณ์ ค. ความถกู ต้องแม่นยา ง. ปฏิบตั ิงานตรงเวลา

7. “สมหญิง ไดร้ บั คาชมจากเพื่อนร่วมงานว่ามีความประณตี ถกู ต้อง ครบถว้ น ทนั เวลาและ

เปน็ ที่พึงพอใจจากงานทีส่ าเร็จ” ตรงกบั ข้อใด

ก. ความคิดริเริ่ม ข. ปริมาณงาน ค. คุณภาพงาน ง. มคี วามนา่ ไวว้ างใจ

8. “สมชาย มีความเขา้ ใจชดั เจนในค่มู ือวิธีปฏิบตั ิ รวมถึงการนาทกั ษะ และเทคนคิ ตา่ ง ๆ

ทจี่ าเปน็ มาประยุกตใ์ ช้ในงาน”ตรงกับขอ้ ใด

ก. คณุ ภาพงาน ข. ความรเู้ ก่ยี วกบั งาน ค. ความร่วมมือกบั ผอู้ ่นื ง. มีความนา่ ไว้วางใจ

9. ขอ้ ใดมิใช่ปัจจยั ท่ีทาให้บุคลากรปฏิบัติงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ก. เปน็ เพื่อนรว่ มงานท่ีดี ข. รักษามารยาทในการทางาน

ค. มขี อบเขตการทางานท่ีชัดเจน ง. สร้างบรรยากาศในการทางานทด่ี ี

10. ข้อใดมิใช่เทคนิคการพัฒนาตนเองใหม้ ีประสิทธิภาพในการปฏบิ ัติงาน

ก. วิเคราะห์ ข. มองโลกในแง่ดี ค. มองหาคนผดิ เสมอ ง. วางแผนกอ่ นลงมอื ทา

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

22

ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยท่ี 5

มีลกั ษณะของ ความมวี นิ ยั ใน ทากิจกรรมกลุม่ คุณธรรม/จรยิ ธรรม
ผ้ปู ฏิบัติงานทด่ี ี ตนเอง ร่วมกบั เพอ่ื น ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน

มผี ลสัมฤทธ์ิ มีความ มีมนษุ ยสมั พันธ์ สมดุ /แบบฝกึ หดั
รับผิดชอบ ทดสอบย่อย
เกง่ มคี วามสุข
ดี ประเมินตามสภาพจรงิ

ผผู้เร้เู รียียนน วธิ กี าร

แรงจูงใจในองคก์ าร
งค์งงง

1. ความหมายแรงจูงใจและการ 5. ทฤษฎแี รงจงู ใจ
จูงใจ
สาระ 6. รปู แบบของแรงจงู ใจ
2. ลักษณะของแรงจูงใจ
7. วิ ธี ก า ร ส ร้ า ง แ ร ง จู ง ใ จ
3. ความสาคญั ของการจงู ใจ ภายนอกและแรงจงู ใจภายใน

4. ความสาคญั ของการจงู ใจ 8. แนวทางการสร้างแรงจูงใจใน
องคก์ าร

9. วเิ คราะหก์ ารใชเ้ ครอ่ื งมอื จงู ใจในองคก์ าร

สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิง่ แวดลอ้ ม

1,6 2-3 5 4

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

23

แผนการจัดการเรียนรู้
ชอื่ วิชา องค์การและการจดั การสมยั ใหม่ รหัสวชิ า 30001 1002

หน่วยท่ี 5 แรงจงู ใจในองคก์ าร
สอนคร้งั ที่ 9-10 ชว่ั โมงที่ 33-40 เวลา 8 ช่วั โมง

สาระสาคญั
การจูงใจก่อให้เกดิ เหตุการณต์ า่ งๆ หากไดศ้ ึกษาและทาความเขา้ ใจเกีย่ วกับการจูงใจแล้วจะสามารถ

เข้าใจพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนในองค์การ และจะสามารถสร้างแนวทางเพื่อปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมของบุคคล
ในองค์การไปในทิศทางที่ต้องการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจูงใจให้บุคคลช่วยกันพาองค์การไปสู่การพัฒนา
คุณภาพ ดงั น้นั การแรงจูงใจเกดิ จากสิง่ เร้าท้ังภายในและภายนอกตัวบคุ คล ถา้ เราเขา้ ใจถึงแรงจูงใจ ซึ่งเปน็ สิ่ง
ควบคุมพฤตกิ รรมของมนษุ ย์ อันเกิดจากความต้องการ ความปรารถนาหรือสิง่ ใด ยอ่ มนามาซงึ่ ความสาเร็จใน
กระบวนการบรหิ ารงานต่อไป
จุดประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคท์ ่ัวไป
เพื่อให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั การแรงจูงใจในองค์การ
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
หลงั จากศึกษาหนว่ ยนี้แล้วผูเ้ รียนสามารถ
1. อธิบายความหมายแรงจงู ใจและการจงู ใจได้
2. อธบิ ายลกั ษณะของแรงจงู ใจได้
3. อธบิ ายทม่ี าของแรงจูงใจได้
4. อธบิ ายความสาคญั ของการจูงใจได้
5. อธิบายทฤษฎีแรงจูงใจได้
6. บอกรปู แบบของแรงจงู ใจได้
7. บอกวธิ กี ารสรา้ งแรงจูงใจภายนอกและแรงจงู ใจภายในได้
8. บอกแนวทางการสรา้ งแรงจูงใจในองคก์ ารได้
9. วิเคราะห์การใช้เครือ่ งมือจูงใจในองคก์ ารได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับการแรงจงู ใจในองคก์ าร
หวั ขอ้ การเรียนรู้
5.1 ความหมายแรงจูงใจและการจงู ใจ
5.2 ลักษณะของแรงจงู ใจ
5.3 ทมี่ าของแรงจงู ใจ
5.4 ความสาคัญของการจงู ใจ
5.5 ทฤษฎแี รงจูงใจ

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

24

5.6 รปู แบบของแรงจูงใจ
5.7 วธิ กี ารสร้างแรงจูงใจภายนอกและแรงจงู ใจภายใน

5.8 แนวทางการสร้างแรงจูงใจในองค์การ
5.9 เครอ่ื งมือจูงใจในองค์การ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 7-9)

กจิ กรรมผสู้ อน กิจกรรมผเู้ รยี น

1. ครใู หผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1. ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 5

2. ครนู าเข้าบทเรียน แรงจูงใจในองค์การ

3. ครูผสู้ อนอธบิ ายเนื้อหาสาระ 2. ผู้เรียนฟังคาบรรยาย ดูการสาธิต และศึกษา

หนว่ ยท่ี 5 แรงจูงใจในองค์การ ตามใบเน้ือหา เรียนรู้ด้วยความตั้งใจ สนใจ

4. ครใู ห้ผเู้ รียนทาแบบฝึกหัด เพอ่ื ตรวจสอบ สามารถแสดงความคิดเห็น (ถาม-ตอบ) และใบ

กระบวนการเรยี นรู้ และผลการเรียนรูข้ องผูเ้ รยี น ปฏบิ ตั ิงาน

5. ครูเฉลยแบบฝึกหัดโดยให้ผู้เรียนตรวจ 3. ผูเ้ รยี นทาแบบฝึกหดั

แบบฝกึ หดั ของตนเอง 4. ผู้เรียนตรวจแบบฝึกหัดของตนเองและบันทึก

6. ครูใหผ้ ูเ้ รยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน ผลด้านคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์

7. ครูเฉลยแบบทดสอบหลังเรียนโดยให้ผู้เรียน 5. ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น

ตรวจของตนเองและบันทึกผลผู้เรียนด้าน 6. ผู้เรียนตรวจแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนของ

คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ต น เ อ ง แ ล ะ บั น ทึ ก ผ ล ด้ า น คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ที่ พึ ง

ประสงค์

7. ดูแลสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้เป็นระเบยี บ

เรยี บร้อย

การบรู ณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ผู้เรียนมีวินัย ซ่ือสัตย์ ประหยัด ใฝ่รู้ และปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายโดยยึดหลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพยี ง
กิจกรรมเสนอแนะ/ งานทม่ี อบหมาย

1. ศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ เกี่ยวกบั การแรงจูงใจในองค์การ
2. ศกึ ษาค้นควา้ เพ่มิ เติมเกีย่ วกับการการสรา้ งแรงจงู ใจในการทางาน
การวดั และประเมินผล
วิธีการวดั และประเมินผล

- สงั เกตการทางาน
- ทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

25

เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล
- แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน

เกณฑก์ ารวัดผล และประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 80 ของแบบประเมนิ แตล่ ะประเภท
ด้านความรู้
- ประเมินจาก การสนทนา ตอบ ข้อซกั ถาม
- ประเมินจากการทาแบบฝกึ หัด แบบทดสอบ

ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
- ประเมินด้วยแบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม เน้นความรับผิดชอบ ซ่ือสัตย์ ประณีต รอบคอบ

ประหยดั และมีความอดทน
ด้านทกั ษะกระบวนการ
- กระบวนการทางาน
วธิ กี ารแก้ปญั หาในกรณที ผี่ ู้เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามจุดประสงค์ทก่ี าหนด
1. สอนซ่อมเสรมิ ให้กบั ผูเ้ รียนทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑใ์ นแตล่ ะจดุ ประสงค์ โดยใช้วิธกี ารดังน้ี
- แนะนา/สอนเสรมิ ในสว่ นท่ยี งั ไมเ่ ขา้ ใจ
- มอบหมายให้เพื่อนทผี่ ่านเกณฑส์ อนเพ่อื น
- มอบหมายให้งานเพมิ่ เติมนอกเวลา
2. ทดสอบเพือ่ ประเมินผล

ส่ือการเรียนการสอน
1. เอกสารประกอบการสอน วิชาองคก์ ารและการจดั การสมัยใหม่ รหสั วิชา 30001 1002
2. สือ่ Power Point หนว่ ยที่ 5 แรงจงู ใจในองคก์ าร
3. วสั ด-ุ อุปกรณ์อน่ื ๆ

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม

26

แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียนหน่วยท่ี 5

แรงจูงใจในองคก์ าร

คาส่ัง : จงทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงหนา้ ขอ้ ทีถ่ กู ต้องทสี่ ุด

1. ขอ้ ใดมิใชแ่ รงจงู ใจภายนอก

ก. รางวัล ข. คาชม ค. ยกยอ่ ง ง. ความตัง้ ใจ

2. สิ่งใดไม่จัดอย่ใู นปัจจัยส่ีตามความตอ้ งการของมาสโลว์ ในการดารงชวี ิตของมนษุ ย์

ก. อาหาร ข. เส้ือผ้า ค. บ้านพัก ง. รถยนต์

3. ความตอ้ งการของมนุษยต์ ามทฤษฎมี าสโลว์ ข้ันใดสาคญั เป็นอนั ดับแรก

ก. ความต้องการการยอมรบั ข. ความต้องการจุดสูงสดุ ของชีวติ

ค. ความตอ้ งการขน้ั พ้นื ฐานปจั จยั สี่ ง. ความต้องการความปลอดภยั ในชวี ติ

4. ขอ้ ใดมใิ ช่แรงจงู ใจทางดา้ นสงั คม

ก. ครอบครัว ข. เพ่อื นบา้ น ค. เพือ่ นร่วมงาน ง. ความปลอดภัย

5. ข้อใดมใิ ช่การกระต้นุ แรงจูงใจด้วยการลงโทษ

ก. การดุ ข. การตาหนิ ค. สิทธิพเิ ศษ ง. การตดั คะแนน

6. สมชยั รู้สกึ หิวอาหาร ตรงกับทฤษฎขี อ้ ใด

ก. ทฤษฎสี ิ่งเร้า ข. ทฤษฎีแรงขบั

ค. ทฤษฎีสัญชาตญาณ ง. ทฤษฎกี ารเรา้ อารมณ์

7. สมจิตต์ มีความต้องการเป็นผจู้ ดั การตรงกับทฤษฎขี ้อใด

ก. ทฤษฎสี ่งิ เรา้ ข. ทฤษฎแี รงขบั

ค. ทฤษฎีสัญชาตญาณ ง. ทฤษฎีการเร้าอารมณ์

8. ขอ้ ใดมใิ ชแ่ รงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธ์ิ

ก. ตงั้ เปา้ หมายสูง ข. มคี วามเกรงใจสูง

ค. ม่งุ หาความสาเร็จ ง. มคี วามรบั ผิดชอบในการทางาน

9. สมหวงั ชอบเปน็ ผู้นา ตรงกับลกั ษณะขอ้ ใด

ก. แรงจงู ใจใฝ่สาเร็จ ข. แรงจงู ใจใฝ่สัมพนั ธ์

ค. แรงจงู ใจใฝ่อานาจ ง .แรงจูงใจใฝ่อานาจ

10. สมถวลิ ชอบกล่าวร้ายคนอื่น ตรงกับลกั ษณะขอ้ ใด

ก. แรงจูงใจใฝพ่ ง่ึ พา ข. แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์

ค. แรงจงู ใจใฝ่สัมพันธ์ ง. แรงจูงใจใฝก่ ้าวร้าว

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

27

ผังมโนทศั นห์ น่วยท่ี 6

มีลกั ษณะของ ความมวี ินัยใน ทากจิ กรรมกลุ่ม คณุ ธรรม/จรยิ ธรรม
ผู้ปฏิบตั ิงานทีด่ ี ตนเอง ร่วมกับเพอื่ น ทกั ษะการปฏบิ ัติงาน

มีผลสัมฤทธิ์ มีความ มมี นุษยสมั พันธ์ สมดุ /แบบฝึกหดั
รับผิดชอบ ทดสอบยอ่ ย
เก่ง มีความสขุ
ดี ประเมนิ ตามสภาพจริง

ผผู้เรู้เรยี ียนน วิธกี าร

ความรู้เกีย่ วกับการบริการความ
เส่ยี ง

1. ความหมายของความเสี่ยง 7. ความเส่ยี งตามหลักธรรมาภิบาล

2. ประโยชน์ของการบริหาร สาระ 8. กรอบการบรหิ ารความเส่ียง
ความเสี่ยง
13. การบริหารความเส่ียงแบบ 9. แนวทางการบรหิ ารความเส่ยี ง
3. ประเภทของความเสี่ยง ยั่งยืน
10. หลกั การบรหิ ารความเสี่ยงเส่ียง
4. แนวคดิ การบรหิ ารความเสี่ยง
11. ข้อจากัดของการบริหารความ
5. ขัน้ ตอนการบรหิ ารความเสยี่ ง เส่ียงขององค์การเสย่ี ง

6. การบริหารความเส่ียงของ 12. แนวปฏิบัติสู่ความเป็นเลิศใน
องคก์ าร การบริหารความเส่ียงขององค์การ
ทั่วไป

สังคม เศรษฐกจิ วัฒนธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม

1,6 2-3 5 4

ครูอนั ธกิ า แกว้ บญุ ธรรม

28

แผนการจดั การเรียนรู้
ชื่อวิชา องค์การและการจัดการสมยั ใหม่ รหัสวชิ า 30001 1002

หน่วยท่ี 6 ความรเู้ ก่ียวกับการบรกิ ารความเสีย่ ง
สอนคร้ังที่ 11-12 ชว่ั โมงที่ 41-48 เวลา 8 ชว่ั โมง

สาระสาคญั
การจงู ใจก่อใหเ้ กิดเหตกุ ารณต์ ่างๆ หากไดศ้ ึกษาและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจูงใจแล้วจะสามารถ

เขา้ ใจพฤตกิ รรมตา่ งๆของคนในองคก์ าร และจะสามารถสร้างแนวทางเพื่อปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรมของบุคคลใน
องค์การไปในทิศทางท่ีต้องการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจูงใจให้บุคคลช่วยกันพาองค์การไปสู่การพัฒนา
คณุ ภาพ ดงั นน้ั การแรงจูงใจเกดิ จากสงิ่ เรา้ ทงั้ ภายในและภายนอกตัวบุคคล ถ้าเราเขา้ ใจถงึ แรงจูงใจ ซง่ึ เปน็ ส่ิง
ควบคุมพฤตกิ รรมของมนุษย์ อันเกดิ จากความต้องการ ความปรารถนาหรือสิ่งใด ยอ่ มนามาซงึ่ ความสาเรจ็ ใน
กระบวนการบริหารงานต่อไป
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคท์ ั่วไป
เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั ความรู้เกี่ยวกับการบริหารความเสย่ี ง
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
หลงั จากศึกษาหนว่ ยนแ้ี ล้วผู้เรียนสามารถ
1. อธบิ ายความหมายของความเสี่ยงได้
2. บอกประโยชน์ของการบรหิ ารความเสี่ยงได้
3. บอกประเภทของความเส่ยี งได้
4. อธบิ ายแนวคิดการบริหารความเส่ียงได้
5. บอกขั้นตอนการบริหารความเส่ียงได้
6. อธบิ ายการบรหิ ารความเส่ยี งขององค์การ ได้
7. อธบิ ายความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลได้
8. กาหนดกรอบการบรหิ ารความเสี่ยงได้
9. อธิบายแนวทางการบรหิ ารความเสี่ยงได้
10. อธิบายหลกั การบรหิ ารความเสี่ยงได้
11. บอกขอ้ จากดั ของการบริหารความเส่ียงขององค์การได้
12. อธิบายแนวปฏบิ ัติสู่ความเป็นเลศิ ในการบริหารความเส่ียงขององค์การทั่วไปได้
13. อธิบายการบริหารความเส่ยี งแบบยั่งยืนได้
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความร้เู กยี่ วกับการบริหารความเสีย่ ง
หัวข้อการเรียนรู้
6.1 ความหมายของความเสยี่ ง

ครูอนั ธิกา แกว้ บญุ ธรรม