ประโยชน์ของ E-Commerce 1. ต่อบุคคล - มีสินค้าและบริการราคาถูกจำหน่าย - ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง - ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ในเวลาที่รวดเร็ว - ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าตรงตามความต้องการมากที่สุด - สนับสนุนการประมูลเสมือนจริง - ทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับลูกค้ารายอื่นได้ - ทำให้เกิดการเชื่อมโยงการดำเนินงานภายในโซ่มูลค่า (Value Chain Integration) 2. ต่อองค์กรธุรกิจ - ขยายตลาดในระดับประเทศและระดับโลก - ทำให้บริการลูกค้าได้จำนวนมากทั่วโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำ - ลดปริมาณเอกสารเกี่ยวกับการสร้าง การประมวล การกระจายการเก็บและการดึงข้อมูลได้ถึงร้อยละ 90 - ลดต้นทุนการสื่อสารโทรคมนาคม เพราะ อินเทอร์เน็ตราคาถูกกว่าโทรศัพท์ - ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กสามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้ - ทำให้การจัดการผลิตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 3. ต่อสังคม - ทำให้คนสามารถทำงานที่บ้านได้ ทำให้มีการเดินทางน้อยลง ทำให้การจราจรไม่ติดขัด ลดปัญหามลพิษทางอากาศ - ทำให้มีการซื้อขายสินค้าราคาถูกลง คนที่มีฐานะไม่รวยก็สามารถยกระดับมาตรฐานการขายสินค้าและบริการได้ 4. ต่อระบบเศรษฐกิจ - กิจการ SMEs ในประเทศกำลังพัฒนา อาจได้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดที่กว้างขวางในระดับโลก - ทำให้กิจการในประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ - บทบาทของพ่อค้าคนกลางลดลง ทำให้ต้นทุนการซื้อขายลดลง ทำให้อุปสรรคการเข้าสู่ตลาดลดลงด้วย - ทำให้ประชาชนในชนบทได้หาสินค้าหรือบริการได้เช่นเดียวกับในเมือง - เพิ่มความเข้มข้นของการแข่งขัน ทำให้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค สรุปประโยชน์ของ E-Commerce 1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที 2. เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายขนาดใหญ่ทั่วโลก ฐานผู้ซื้อขยายกว้างขึ้น 3. คุณสามารถทำการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงและเปิดได้ทุกวันโดยไม่วันหยุด 4. คุณไม่มีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานขายเพราะเจ้า E-Commerce จะทำการค้าแบบอัตโนมัติให้คุณ ไม่ต้องมีสินค้าคงคลังหรือมีก็น้อยมาก 5. คุณไม่มีความจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างตึกแถว เพื่อใช้เป็นร้านค้า เพียงแค่สร้าง Web Site ก็เปรียบเสมือนร้านค้าของคุณแล้ว ไม่ต้องเสี่ยงกับทำเลที่ตั้งของร้านค้า 6. E-Commerce สามารถเก็บเงิน และนำเงินฝากเข้าบัญชี ให้คุณโดยอัตโนมัติ ข้อจำกัดของ E-Commerce 1. ข้อจำกัดด้านเทคนิค - ขาดมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ - ความกว้างของช่องทางการสื่อสารมีจำกัด - ซอร์ฟแวร์ยังกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา - ปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างอินเทอร์เน็ตและซอร์ฟแวร์ของ E-Commerce กับแอพพลิเคชั่น - ต้องการ Web Server และ Network Server ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ - การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังมีราคาแพงและไม่สะดวก 2. ข้อจำกัดด้านกฎหมาย - กฎหมายที่สามารถคุ้มครองการทำธุรกรรมข้ามรัฐหรือข้ามประเทศ ไม่มีมาตรฐานที่เหมือนกัน และมีลักษณะที่แตกต่างกัน - การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ - ปัญหาเกิดจากการทาธุรกรรม เช่น การส่งสินค้ามีลักษณะแตกต่างจากที่โฆษณาบนอินเทอร์เน็ต จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่ 3. ข้อจำกัดด้านธุรกิจ - วงจรผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) จะสั้นลง เพราะการเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่ายและรวดเร็ว การลอกเลียนผลิตภัณฑ์จึงทำได้รวดเร็ว เกิดคู่แข่งเข้ามาในตลาดได้ง่าย จะต้องมีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เสมอ - ความพร้อมของภูมิภาคต่าง ๆในการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของ E-Commerce มีไม่เท่ากัน - ภาษีและค่าธรรมเนียม จาก E-Commerce จัดเก็บได้ยาก ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง - ต้นทุนในการสร้าง E-Commerce ครบวงจรค่อนข้างสูง เพราะรวมถึงค่า Hardware, Software ที่มีประสิทธิภาพ ระบบความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ การจัดการระบบเครือข่าย ตลอดจนค่าจ้างบุคลากร - ประเทศกำลังพัฒนาต้องลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสูงมาก ในโครงสร้างพื้นฐาน - เงินสดอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดการฟอกเงินได้ง่าย เนื่องจากการใช้เงินสดอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้การตรวจสอบที่มาของเงินทำได้ยาก 4. ข้อจากัดอื่นๆ - การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จบนอินเทอร์เน็ต มีมาก และมีการขยายตัวเร็วมากกว่าการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตเสียอีก - สิทธิส่วนบุคคล (Privacy) ระบบการจ่ายเงิน หรือการให้ข้อมูลของลูกค้าทางอินเทอร์เน็ตทำให้ผู้ขายทราบว่าผู้ซื้อเป็นใคร และสามารถใช้ซอร์ฟแวร์ติดตามกิจกรรมต่าง ๆ หรือส่ง Spam ไปรบกวนได้ -E-Commerce เหมาะกับระบบเศรษฐกิจที่สามารถเชื่อถือและไว้ใจได้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - ยังไม่มีการประเมินผลการดำเนินงาน หรือวิธีการที่ดีของ E-Commerce เช่น การโฆษณาผ่านทาง E-Commerce ว่าได้ผลเป็นอย่างไร - จำนวนผู้ซื้อ / ขาย ที่ได้กำไรหรือประโยชน์จาก E-Commerce ยังมีจำกัด โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งสัดส่วนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่อประชากรต่างกันมาก และการใช้ E-Commerce ในการซื้อ/ขายสินค้า มีน้อยมาก สรุปข้อจำกัดของ E-commerce 1. ความเสี่ยงจากการที่ยังไม่มีกฎหมายมารองรับการค้าแบบ E-Commerce เพราะฉะนั้นเราควรเขียนคำบรรยายถึงขอบเขตในการรับผิดชอบของเราทีมีต่อลูกค้าให้ชัดเจน เช่น ซื้อสินค้าแล้วไม่รับคืนก็ต้องแจ้งลูกค้าให้เข้าใจ 2. ไม่มีการกำหนดมาตรฐานในด้านภาษีเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายมารองรับ 3. ปัญหาในการจัดส่งสินค้าที่ไม่สะดวกรวดเร็ว หรือสินค้าชำรุดเสียหาย ซึ่งได้แก่ พวกสินค้าที่เป็นของสด เช่น อาหาร หรือดอกไม้ สินค้าเหล่านี้ อาจเสียหาย หรือเสื่อมสภาพ เน่าเสีย จากระยะเวลา ในการขนส่งได้ 4. ปัญหาจากการขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงเช่น อัญมณีต่างๆ บริษัทขนส่งมักจะไม่ยินดีที่จะรับส่งของเหล่านี้ เนื่องจากโอกาสสูญหายได้ง่าย 5. การทุจริตฉ้อโกง เช่น การปลอมบัตรเครดิต 6. ไม่แน่ใจผู้ขายเป็นผู้ประกอบการที่ปฏิบัติธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และน่าเชื่อถือเพียงใด 7. ทำสัญญาซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 8. ผู้ขายยังไม่มั่นใจว่าตัวตนจริงของลูกค้าจะเป็นบุคคลคนเดียวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ นั่นคือผู้ขายไม่มั่นใจว่า ผู้ซื้อมีความสามารถจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการหรือไม่ ที่มา : หนังสือก้าวสู่ความเป็นผู้ประกอบการโดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จุดสำคัญของการขายสินค้าออนไลน์คือข้อใดขายสินค้าเหมือนๆกับคนอื่น นำเสนอเรื่องเหมือนกันกับคนอื่น ขาดการนำเสนอ Brand Story / Brand Concept ที่ดีพอให้ลูกค้าจดจำได้ ส่วนใหญ่จะเน้นขายสรรพคุณของสินค้าว่าทำอะไรได้บ้าง โดยเป็นการสื่อสารจุดที่เหมือนๆกันกับคู่แข่งไปหมด จนแบรนด์ไม่มีความแตกต่างพอให้ลูกค้าจดจำ
ข้อใดเป็นประโยชน์ของการขายออนไลน์ที่สำคัญมากที่สุด10 ประโยชน์ของการมีเว็บไซต์ธุรกิจและเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์. 1. สร้างความน่าเชื่อให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณ ... . 2. ใช้งบประมาณน้อย ... . 3. ลดปัญหาเรื่องคน ... . 4. ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของ Social Media. ... . 5. สามารถให้บริการต่าง ๆ ที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุดกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง. ข้อใดคือสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นเกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์7 ข้อเบื้องต้น เตรียมตัวเป็น “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์”. 1. กำหนดงบลงทุน และเลือกสินค้าที่จะขาย. 2. ช่องทางการขายสินค้า เลือกให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย. 3. ทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย. 5. ช่องทางการชำระเงิน ต้องให้ลูกค้าสะดวกที่สุด. 6. เข้าใจการยื่นภาษีของ “ร้านค้าออนไลน์”. 7. จัดส่งสินค้าต้องเร็ว ราคาไม่แพง. บทความที่เกี่ยวข้อง. รูปเเบบการขายของออนไลน์มีกี่เเบบประเภทธุรกิจออนไลน์. 1.เว็บไซต์ขายสินค้า ... . 2.เว็บไซต์เพื่อการโฆษณา ... . 3.เว็บไซต์ข่าวสาร ... . 4.การทำ Blog. ... . 5.เว็บตลาดประกาศขาย ... . 1.ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ... . 2.ประหยัดค่าใช้จ่าย ... . 3.เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก. |