Powerpoint ว ชาว ทยาศาสตร ม.1 เล ม 2

วธิ ที า เขียนจานวนคละในรูปเศษบอเกกชนนิ ิดแลจะสะมบไตัดขิ อ้ ง3รูปส95าม=เหล3ี่ย9ม2 และ ค.ร.น. ของ 9 และ 5 คือ 45

32 = 32 x 5 = 160 9 9x5 45

18 = 18 x 9 = 162 5 5x9 45

ซ่งึ 160 < 162 ดงั นั้น 3 5 < 18 45 45 9 5

ตอบ 3 5 < 18 9 5

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.2 หน้า 50 - 52 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

2 การเรยี งลาดับเศษส่ วนบอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหล่ยี ม

และจานวนคละ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

นั กเรยี นสามารถ บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลีย่ ม

  1. เรยี งลาดบั เศษส่วนและจานวนคละ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้

การเรยี งลาดับเศษส่วนและจานวนคละ

การเรยี งลาดบั เศษส่ วบอนกชนิดใแชละส้วมบธิ ตั ิขที องราูปตสามัวเหสล่ยี ่มวนของเศษส่ วนทกุ จานวน ให้เท่ากนั แตถ่ ้ามจี านวนคละให้เขียนจานวนคละในรูปเศษเกิน จากนั้น จงึ เรยี งลาดับ

ตวั อย่าง

  1. เรยี งลาดบั 5 , 11 , 23 , 13 จากน้อยไปมาก 6 15 30 18

วิธที า หา ค.ร.น. ของ 6 , 15 , 30 และ 18 คือ 90

5 = 5 x 15 = 75 6 6 x 15 90

11 = 11 x 6 = บอกช6น6ิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหล่ยี ม 15 15 x 6 90 เมอื่ ตวั ส่วนเทา่ กนั แลว้

23 = 23 x 3 = 69 สามารถนาตวั เศษไปเรยี งลาดับได้เลย 30 30 x 3 90

13 = 13 x 5 = 65 18 18 x 5 90

เรยี งลาดับจากน้อยไปมาก ได้ดังน้ี 65 , 66 , 69 , 75 หรอื 13 , 11 , 23 , 5 90 90 90 90 18 15 30 6

ตอบ 13 , 11 , 23 , 5 18 15 30 6

  1. เรยี งลาดบั 2 5 , 27 , 25 , 3 4 , 31 จากมากไปน้อย 7 6 8 9 14

วิธที า เนื่ องจาก 27 = 4 3 , 25 = 3 1 และ 31 = 2 3 ตอบ 6 6 8 8 14 14

จงึ เปรยี บเทยี บ 2 5 , 4 3 , 3 4 , 3 1 , 2 3 7 6 9 8 14

เปรยี บเทียบ 2 5 และ 2 3 พบว่า 2 = 2 จงึ เปรยี บเทียบ 5 และ 3 วธิ ีคูณไขว้ 7 14 7 14 70 21 53 เน่ื องจาก 5 > 3 แสดงวบา่อกช2นิดแ57ละส>มบตั 2ขิ อ1ง34รูปสามเหลยี่ ม 7 14 7 14 5 x 14 > 3 x 7

เปรยี บเทียบ 3 1 และ 3 4 พบว่า 3 = 3 จงึ เปรยี บเทียบ 1 และ 4 วธิ คี ูณไขว้ 8 9 8 9 9 32 14 เนื่ องจาก 1 < 4 แสดงวา่ 3 4 > 3 1 89 8 9 9 8 1x9 < 4x8

เรยี งลาดบั จากมากไปน้ อยไดด้ งั นี้ 4 3 , 3 4 , 3 1 , 2 5 , 2 3 6 9 8 7 14

หรอื 27 , 3 4 , 25 , 2 5 , 31 6 9 8 7 14

27 , 3 4 , 25 , 2 5 , 31 6 9 8 7 14

การเรยี งลาดับเศษส่วนและจานวนคละ

ความรูเ้ พ่ิมเติม

การเปรยี บเทียบเศษส่วนโดยใชว้ บิธอคีกชูณนิดแไลขะสวมบ้ ตั ขิ องรูปสามเหลย่ี ม หลักสาคัญของการเปรยี บเทยี บเศษส่วน คือ ตอ้ งทาตัวส่วนให้เท่ากัน โดย

สามารถทาตัวส่วนของทง้ั สองจานวนให้เทา่ กับผลคูณของตัวส่วน โดยนาตวั ส่วนของ จานวนหน่ึงไปคูณท้งั เศษและส่วนของอีกจานวนหน่ึง หลังจากคูณไขว้ทกุ ครงั้ จะได้ตวั ส่วนเทา่ กันเสมอ ดังน้ันการเปรยี บเทยี บจึงพิจารณาเฉพาะผลคูณของตวั เศษ

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.3 หน้า 53 - 56 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

3 การบวบกอกชนแิดและลสมบะตั ขิ อกงรูปสาามเหรลีย่ มลบเศษส่ วน

และจานวนคละ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

นั กเรยี นสามารถ บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหลยี่ ม

  1. สามารถหาผลบวกและผลลบของ เศษส่ วนและจานวนคละได้

การบวกและการลบเศษส่ วนและจานวนคละ

การบวกและการลบเศษส่ วน

บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลย่ี ม

การบวกหรอื การลบเศษส่วนท่ีมตี วั ส่วนไม่เทา่ กัน ตอ้ งทาตัวส่วน ของเศษส่วนให้เทา่ กัน โดยทาให้เทา่ กับ ค.ร.น. ของตัวส่วน แลว้ จึงหา ผลบวกหรอื ผลลบ

ตวั อย่าง

  1. 5 + 1 8 6

วิธที า หา ค.ร.น. ของ 8 และ 6 คือ 24

5 + 1 = บอ85กชxxนิดแ33ละ+สมบ61ตั ิขxxองร44ูปสามเหลยี่ ม หาจานวนมาคูณทง้ั เศษและส่วน เพื่อให้ส่วนกลายเป็น 24 8 6

\= 15 + 4 ตวั ส่วนเทา่ กันแลว้ นาเศษมาบวกกันได้เลย 24 24

\= 19 24

ตอบ 19 24

ตัวอย่าง

  1. 37 - 6 25 15

วิธที า หา ค.ร.น. ของ 25 และ 15 คือ 75 ตอบ 37 - 6 = 37 x 3 - 6x5 หาจานวนมาคูณทงั้ เศษและส่วน เพ่ือให้ส่วนกลายเป็น 75 25 15 25 x 3 15 x 5

\= บอ17ก15ช1นิด-แล3ะ7ส05มบตั ิของรูปสามเหล่ียม ตวั ส่วนเท่ากันแล้ว นาเศษมาลบกันได้เลย

\= 81 75

\= 27 ทาให้เป็นเศษส่วนอยา่ งทตา่ 25

\= 1225 ทาให้เป็นจานวนคละ

1225

ตวั อย่าง

  1. 5 - 11 6 15

วธิ ที า หา ค.ร.น. ของ 15 และ 6 คือ 30 ตอบ 5 - 11 = บอ65กชxxนิดแ55ละ-สม1บ1ต5ั1ขิ อxxงรูป22สามเหลีย่ ม หาจานวนมาคูณทงั้ เศษและส่วน เพ่ือให้ส่วนกลายเป็น 30 6 15

\= 25 - 22 ตัวส่วนเทา่ กันแลว้ นาเศษมาลบกันไดเ้ ลย 30 30

\= 3 30

\= 1 ทาให้เป็นเศษส่ วนอย่างทตา่ 10

1 10

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.4 หน้า 57 - 59 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

การบวกและการลบเศษส่ วนและจานวนคละ

การบวกจานวนคละ

การบวกจานวนคละ อบาอกจชนทิดแลาะสไมดบตั ้โิขอดงรูปยสานมเหาลี่ยจม านวนนั บบวกกบั จานวนนั บ และเศษส่วนบวกกับเศษส่วน ถ้าผลบวกของเศษส่วนกับเศษส่วนอยใู่ น รูปเศษเกิน ให้ทาเป็นจานวนคละ แล้วนาจานวนนับของจานวนคละไป บวกกับผลบวกของจานวนนั บ

4 2 + 3 5 5 7

วิธที า 4 2 + 3 5 = (4 + 52) + (3 + 57) หรอื อาจเขียนจานวนคละในรูปเศษเกิน 5 7 แลว้ จงึ หาผลบวก

\= (4 + 3) + (52 + 57) 2 5 22 26 5 7 5 7 ค.ร.น. ของ 5 และ 7 คือ 35 = 7 + (52 x 7 + 5 x 55) วธิ ที า 4 + 3 = + x 7 7 x 22 x 7 26 x 5 \= 7 + (3145 + บ32อ55กช)นิดและสมบตั ิของรูปสามเหคล.รยี่ .มน. ของ 5 และ 7 คือ 35 = 5x7 + 7x5

\= 7 + 39 = 154 + 130 35 35 35

\= 7 + 1 4 = 284 35 35

\= 8 4 = 8 4 35 35

ตอบ 8 4 ตอบ 8 4 35 35

การบวกและการลบเศษส่ วนและจานวนคละ

การลบจานวนคละ

การลบจานวนคละ อาบจอกชทนิดาแลไะดสมบ้โตั ดขิ องยรูปสนามเหาลจย่ี มานวนนั บลบกับจานวนนั บ และเศษส่วนลบกับเศษส่วน ถ้าการลบเศษส่วน มีตวั ต้งั น้อยกวา่ ตวั ลบให้ กระจายผลลบของจานวนนับมา 1 โดยเขียนในรูปเศษส่วน แล้วนาไป บวกกับตวั ต้ัง จากนั้นจงึ หาผลลบ

7 1 - 5 3 6 4

วธิ ที า 7 1 - 5 3 = (7 + 61) - (5 + 43) หรอื อาจเขียนจานวนคละในรูปเศษเกิน 6 4 = (7 - 5) + (61 - 43) แล้วจงึ หาผลลบ

ค.ร.น. ของ 6 และ 4 คือ 12 = 2 + (61 x 2 + 3 x 33) วธิ ที า 7 1 - 5 3 = 43 - 23 \= 2 + x 2 4 x 6 4 6 4 เศษส่วน ตวั ตั้ง < ตวั ลบ ของ (122 - 192บ)อกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหคล.รีย่ .มน. 6 และ 4 คือ 12 = 43 x 2 - 23 x 3 กระจายผลลบ 6x2 4x3 ของจานวนนั บมา 1 = 1 + 1 + (122 - 192) เขียนผลลบท่กี ระจายมา = 86 - 69 (1122 2 192) 12 12 ในรู ปเศษส่ วน = 1 + + 12 - 17 \= 1 + 5 = 12 12 5 \= 1 5 = 1 12 12 5 ตอบ 1 5 ตอบ 1 12 12

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.5 หน้า 60 - 62 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

4 การบวก ลบ คูณ หารระคนบอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหล่ยี ม

ของเศษส่ วนและจานวนคละ

จุดประสงค์การเรยี นรู้

นั กเรยี นสามารถ

บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหลีย่ ม

  1. สามารถหาผลลพั ธข์ องการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและ จานวนคละได้

การบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจานวนคละ

ข้อตกลงเก่ยี วกับลาดับข้ันการคานวณท่ีมากกว่า 1 ข้ันตอน ข้ันท่ี 1 คานวณในวงเล็บ (ถ้าม)ี ขั้นท่ี 2 คูณ หบรอกอื ชนิดหและาสมรบตั ขิโองดรูปยสามคเหาลยี่ นม วณจากซา้ ยไปขวา ข้ันท่ี 3 บวก หรอื ลบ โดยคานวณจากซา้ ยไปขวา

จาลาดับข้ันตอนการคานวณให้ดี!!

17 + 3 4 x 1 2 ÷ 4 9 5 3 15

มาจดั ลาดบั ขั้นตอนการคานวณกันก่อน ว่าคานวณวิธใี ดก่อน - หลัง

17 + 3 4 x 1 2 ÷ 4 17 บ+อกชน3ิดแล45ะสมบxตั ิข1องรูป32สามเห÷ลี่ยม 4 17 + 3 4 x 1 2 ÷ 4 9 5 3 15 9 15 9 5 3 15

1 1 1

2 2

มีวงเลบ็ ให้คานวณในวงเล็บก่อน คานวณวิธหี าร เป็นขั้นท่ี 2 3

คานวณวธิ บี วก เป็นขั้นท่ี 3

17 + 3 4 x 1 2 ÷ 4 9 5 3 15

17 4 2 4 17 19 5 1 4 9 5 3 15 9 51 3 15 วธิ ที า + 3 x1 ÷ = + x ÷ เปล่ียนจานวนคละเป็นเศษเกิน ตอบ คานวณในวงเล็บก่อน (วธิ คี ูณ) 1 = 17 + 19 ÷ 4 คานวณวิธหี าร 2 9 3 15 คานวณวิธบี วก ส่วนไม่เท่ากัน ทาส่วนให้เทา่ กัน (ค.ร.น. คือ 36) 3 = 17 + 19 x 15 5 คานวณวธิ บี วก 9 31 4 คาตอบเป็นเศษเกิน ทาให้เป็นจานวนคละ บ=อก1ช97นิด+แล9ะ4ส5มบตั ิของรูปสามเหล่ยี ม

\= 17 x 4 + 95 x 9 9x4 4x9

\= 68 + 855 36 36

\= 923 36

\= 25 23 36

25 23 36

4 1 - 15 + 1 5 x 2 3 4 6 9 12

มาจดั ลาดบั ข้ันตอนการคานวณกันกอ่ น วา่ คานวณวธิ ใี ดก่อน - หลัง

4 1 - 15 + 1 5 x 2 3 4 บ41อกช-นิด1แ6ล5ะสม+บตั ขิ 1องร95ูปสาxมเห2ล่ียม132 4 1 - 15 + 1 5 x 2 3 4 6 9 12 4 6 9 12 21 1 21 เหลอื วธิ ลี บ และบวก ให้คานวณวิธลี บก่อน 3 (คานวณจากซา้ ยไปขวา) ข้อน้ี ไม่มีวงเลบ็ คานวณวธิ บี วก ตอ้ งคานวณวิธคี ูณก่อน

4 1 - 15 + 1 5 x 2 3 4 6 9 12

วธิ ที า 4 1 - 15 + 1 5 x 2 3 = 17 - 15 + 19437x 273 3 เปล่ยี นจานวนคละเป็นเศษเกิน / ตดั ทอนเศษส่วน 4 6 9 12 4 6 12 6 คานวณวิธคี ูณก่อน

\= 17 - 15 + 7x 1 ค.ร.น. ของ 4, 6 และ 2 คือ 12 4 6 1x 2 คานวณจากซ้ายไปขวา คาตอบเป็นเศษเกิน \= 17 - 15 + 7 ทาให้เป็นเศษส่วนอยา่ งทตา่ 4 6 2 ทาให้เป็นจานวนคละ

\=บอ1ก47ชนxxิดแ33ละ-สม16บ5ตั xิขxอ2ง2รูป+สา27มเหxxลยี่66ม

\= 51 - 30 + 42 12 12 12

\= 63 12

\= 21 4

\= 5 1 4

ตอบ 5 1 4

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.6 หน้า 63 - 70 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

5 โจทย์ปัญหาเศษส่วนและ บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลี่ยม จานวนคละ 2-3 ขั้นตอน

จุดประสงค์การเรยี นรู้

นั กเรยี นสามารถ บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลย่ี ม

  1. สามารถแสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ ปัญหาเศษส่วนและจานวนคละ 2-3 ขั้นตอนได้

โจทยป์ ัญหาเศษส่วนและจานวนคละ 2-3 ขั้นตอน

การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน และจานวนคละ 2-3 ขั้นตอน เร่มิ จากทาความเข้าใจปัญหา วางแผน แก้ปัญหา ดาเนินการตามแผน และตรวจสอบ

บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลยี่ ม

โจทย์กาหนดส่ิ งใดมาให้บ้าง? การแก้ไขโจทย์ปัญหาข้อน้ี โจทยต์ ้องการให้หาส่ิงใด? ตอ้ งทาอะไรก่อน และอะไรหลัง

แสดงวธิ ที า / วธิ คี ิด

ตรวจทานคาตอบว่าถูกตอ้ งหรอื ไม่?

แมค่ ้ามีข้าวสาร 60 1 กโิ ลกรมั ครง้ั แรกแบง่ ใส่ถุง ถุงละ 1 กโิ ลกรมั 4 2

จานวน 47 ถุง ข้าวสารท่ีเหลือทั้งหมดแบ่งใส่ ถุง ถุงละ 7 กิโลกรมั แม่ค้า 8

แบง่ ข้าวสารท่เี หลือไดก้ ่ถี ุง

วธิ คี ิด บอกชนิดและสมบตั ิของรูปสามเหลี่ยม

วิธที า ครง้ั แรกแบ่งข้าวสารใส่ถุง ถุงละ 1 กโิ ลกรมั จานวน 2 ถุง ครง้ั แรกใช้ข้าวสารทัง้ หมด กโิ ลกรมั หลงั จากแบ่งใส่ถุงครงั้ แรกบจอกะชนเิดหแลละสอื มบขตั ้าิขอวงรสูปสาารมเหล่ียม 47 กิโลกรมั กิโลกรมั นาข้าวสารท่เี หลอื ทัง้ หมดแบ่งใส่ถุง ถุงละ 1 x 47 = 47 ถุง 2 2 แม่ค้าแบง่ ข้าวสารท่เี หลอื ได้ ดังน้ัน แม่ค้าแบง่ ข้าวสารท่ีเหลอื ได้ 42 ถุง 60 1 - 37 = 147 ตอบ 42 ถุง 4 2 4

7

8

147 ÷ 7 = 42 4 8

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.7 หน้า 71 - 73 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ตขิ องรูปรสาม์เหล(ย่ี มสสวท.) ป.6 เลม่ 1

แพรไดร้ บั เงนิ เดือน 60,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน 2 ของเงนิ เดือน 5

ท่ีได้รบั เกบ็ ออม 1 ของเงนิ เดอื นท่ีเหลอื แพรออมเงนิ ก่บี าท 4

วิธคี ิด

บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหล่ยี ม

แพรได้รบั เงนิ เดอื น 60,000 บาท เป็นค่าใชจ้ า่ ยในบา้ น 2 ของเงนิ เดอื น 5

ท่ีไดร้ บั เกบ็ ออม 1 ของเงนิ เดอื นท่ีเหลอื แพรออมเงนิ ก่บี าท 4

วิธที า แพรไดร้ บั เงนิ เดือน 60,000 บาท เป็นค่าใชจ้ ่ายในบ้าน 2 ของเงนิ เดอื นท่ไี ดร้ บั คิดเป็นเงนิ บาท แพรเหลือเงนิ บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสา5มเหลีย่ ม เกบ็ ออม 2 x 60,000 = 24,000 แพรออมเงนิ 5 ตอบ 9,000 บาท 60,000 - 24,000 = 36,000 บาท

1 ของเงนิ เดือนท่เี หลือ บาท 4

1 x 36,000 = 9,000 4

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.8 หน้า 74 - 79 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

ชาวสวนขายมะพรา้ วไป 6 ของมะพรา้ วท่ีเก็บได้ท้งั หมด ยงั เหลอื มะพรา้ ว 15

อยู่ 135 ผล ชาวสวนเกบ็ มะพรา้ วได้ทั้งหมดก่ผี ล

วธิ คี ิด

บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหลี่ยม

ชาวสวนขายมะพรา้ วไป 6 ของมะพรา้ วท่ีเกบ็ ได้ทง้ั หมด ยงั เหลือมะพรา้ ว 15

อยู่ 135 ผล ชาวสวนเกบ็ มะพรา้ วได้ทง้ั หมดก่ผี ล

วธิ ที า ชาวสวนเกบ็ มะพรา้ วได้ทง้ั หมด 15 ขายมะพรา้ วไป 6 ของมะพรา้ วท่ีเก็บได้ทั้งหมด ตอบ 15 15

ดงั นั้น เหลอื มะพรา้ ว 15 - 6 = 9 ของมะพรา้ วท่เี ก็บไดท้ ้งั หมด ซ่งึ เท่ากับ 135 ผล 15 15 15 มะพรา้ ว 9 สบอ่ วกชนนิดและสมบตั ิขคองิดรูปเสปาม็นเหล่ียม135 ผล แสดงว่า

มะพรา้ ว 1 ส่วน คิดเป็น 135 ผล 9

มะพรา้ ว 15 ส่วน คิดเป็น 15 x 135 = 225 ผล 9

ดงั น้ัน ชาวสวนเก็บมะพรา้ วไดท้ ้งั หมด 225 ผล

225 ผล

ภาระงาน

แบบฝึกหัด 2.9 หน้า 80 - 82 ในแบบฝึกหัดคณิ ตบอกศชนิดแาละสสมบตั ติของรูปรสาม์เหล(ี่ยมสสวท.) ป.6 เลม่ 1

โรงเรยี นแห่งหน่ึ งมีนักเรยี นสมคั รไปทศั นศึ กษาท่ีพิพิธภณั ฑ์และสวนสัตว์

312 คน ซ่งึ สมัครไปพิพิธภณั ฑ์ 3 ของนั กเรยี นทง้ั หมด และไปสวนสัตว์ 8

1 ของนั กเรยี นทั้งหมด โรงเรยี นน้ีมีนักเรยี นท้ังหมดก่คี น 6

วธิ คี ิด บอกชนิดและสมบตั ขิ องรูปสามเหลีย่ ม

โรงเรยี นแห่งหน่ึ งมีนักเรยี นสมัครไปทัศนศึ กษาท่พี ิพิธภณั ฑ์และสวนสัตว์

312 คน ซ่งึ สมัครไปพิพิธภณั ฑ์ 3 ของนั กเรยี นทัง้ หมด และไปสวนสัตว์ 8

1 ของนั กเรยี นทง้ั หมด โรงเรยี นน้ีมนี ักเรยี นทั้งหมดก่คี น 6

วิธที า นั กเรยี นสมคั รไปพิพิธภณั ฑบ์วอกิทชนยิดแาลศะสามบสตั ขิตองรรูป์ สามเหลี่ยม83 ของนักเรยี นทัง้ หมด