Home > “สุนทรภู่” กวีเอกกรุงรัตนโกสินทร์ สามัญชนไทยคนแรกที่ยูเนสโกยกย่อง
“สุนทรภู่” กวีเอกกรุงรัตนโกสินทร์ สามัญชนไทยคนแรกที่ยูเนสโกยกย่อง
26 มิถุนายน 2529 “ยูเนสโก” ประกาศยกย่อง “สุนทรภู่” ให้เป็นบุคคลดีเด่นระดับโลก ในวาระครบรอบ 200 ปีเกิดของสุนทรภู่ นับเป็นสามัญชนคนแรกของไทยที่ได้รับเกียรตินี้
“สุนทรภู่” นามเดิมว่า “ภู่” เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เล่ากันว่าบิดามารดาเป็นบริวารรับใช้ใกล้ชิดในกรมพระราชวังหลัง ในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยในวัยเด็ก สุนทรภู่อยู่กับแม่ในเรือนแพ ปากคลองบางกอกน้อย ซึ่งมีปรากฏอยู่ใน “โคลงนิราศสุพรรณ” ทั้งยังมีโอกาสได้หัดอ่านเขียนเรียนหนังสือที่สำนักวัดชีปะขาว (ปัจจุบันคือวัดศรีสุดาราม บางขุนนนท์) ในคลองบางกอกน้อย อันเป็นสำนักเรียนของลูกหลานผู้ดีมีตระกูลสมัยนั้น
เมื่อเติบโตขึ้น “สุนทรภู่” รับราชการสังกัดวังหลัง ต่อมาจึงสังกัดวังหลวง ในกรมพระอาลักษณ์ เกี่ยวข้องงานภาษาและหนังสือ ศึกษาค้นคว้าตําราสมุดข่อยโบราณจากหอหลวงและจากเอกสารนานาชาติ และยังรับพระราชทานเรือนแพ อยู่ท่าช้างวังหลวง ย่านขุนนางผู้ใหญ่และย่านพ่อค้านานาชาติ มีโอกาสได้แบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารคนต่างภาษาอยู่เสมอ
ในสมัยรัชกาลที่ 2 “สุนทรภู่” รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็น “ขุนสุนทรโวหาร” ถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ออกบวชและจำพรรษาที่วัดเทพธิดาราม มีกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ พระราชธิดาในรัชกาลที่ 3 ทรงอุปถัมภ์ ต่อมาเมื่อลาสิกขาบทได้รับพระอุปถัมภ์จาก "เจ้าฟ้าน้อย" หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ซึ่งต่อมาคือ “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว” ในสมัยรัชกาลที่ 4 สุนทรภู่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระสุนทรโวหาร" และสิ้นชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2398 อายุ 69 ปี ผู้คนจึงยกย่องว่าเป็น “กวีสี่แผ่นดิน”
ผลงานกลอนของ “สุนทรภู่” มีอยู่จำนวนมาก ทั้งนิราศ นิทาน สุภาษิต บทละคร บทเสภา และบทเห่กล่อมพระบรรทม โดยผลงานโดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นนิทานกลอนเรื่อง “พระอภัยมณี” ที่เป็นต้นแบบในการเขียนกลอนในยุคต่อมาว่าเป็นกลอนแบบสุนทรภู่ และยังนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละคร และเพลง อีกด้วย
26 มิถุนายน 2529 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ “ยูเนสโก” ( UNESCO) ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ “สุนทรภู่” ให้เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ 200 ปีเกิดของสุนทรภู่ นับเป็นสามัญชนคนแรกของไทยที่ได้รับเกียรตินี้
กล่าวกันว่าผลงานของ “สุนทรภู่” เท่าที่มีการค้นพบในปัจจุบันมีปรากฏอยู่เพียงจำนวนหนึ่ง และสูญหายไปอีกเป็นจำนวนมาก แต่เพียงเท่านี้ “สุนทรภู่” ก็ยังสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์และได้รับยกย่องในระดับโลก สมดังกลอนเพลงยาวถวายโอวาทที่เคยแต่งไว้ว่า
อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว
ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อเขาลือฉาว
เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว
เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร
CR : DAD Magazine ฉบับเดือนมิถุนายน 2564
“สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ทรงเป็นคนไทยพระองค์แรกที่ “ยูเนสโก” (UNESCO) หรือองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ประกาศยกย่องให้เป็น “บุคคลสำคัญของโลก” ในวันนี้ และทรงเป็น “บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย” เนื่องด้วยผลงานที่ท่านได้รังสรรค์ไว้ขณะยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั้นได้ตกเป็นมรดกทางปัญญาของคนไทยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ทั้งในส่วนของการศึกษา สาธารณสุข ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี
ขอบคุณภาพจาก kanchanapisek.or.th
งานด้านการศึกษา
พระองค์ทรงเริ่มงานจัดการศึกษาเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2425 โดยเปลี่ยน “โรงเรียนทหารมหาดเล็ก” เป็นโรงเรียนสำหรับพลเรือน “โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ” และทรงก่อตั้ง “โรงเรียนฝึกหัดข้าราชการพลเรือน” ในปี 2442 ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนมหาดเล็ก” และ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย
งานด้านสาธารณสุข
ทรงมีพระดำริริเริ่มให้มี “โอสถศาลา” สำหรับรับหน้าที่ผลิตยาแจกจ่ายให้ราษฎรในตำบลห่างไกล ปัจจุบันคือ “สถานีอนามัย”
งานด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ทรงเป็นผู้วางรากฐานกิจการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และหอสมุดแห่งชาติ พระองค์ท่านได้ทรงพระนิพนธ์หนังสือ ตำราต่าง ๆ ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ไว้เป็นจำนวนมาก
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้ วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็น “วันดำรงราชานุภาพ” เพื่อน้อมนำให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงพระองค์ ผู้ทรงมีคุณูปการต่อแผ่นดินไทยเว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป