Show ความแตกต่างระหว่าง คอนโด และ อพาร์ทเม้นท์ความแตกต่างระหว่าง คอนโด และ อพาร์ทเม้นท์ ในประเทศไทยที่เห็นชัดเจนที่สุดในแง่ของกฎหมาย คือ คอนโด เป็นทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตและจดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด สำหรับ อพาร์ทเม้นท์ เป็นสิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว หรือ Leasehold มีความหมายเดียวกับคำว่า “เซ้ง” ในมุมมองของคนทั่วไป คอนโด และ อพาร์ทเม้นท์ ดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่างกัน แต่เมื่อถึงขั้นตอนของการซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก คอนโด และ อพาร์ทเม้นท์ ในแง่ของความเป็นเจ้าของหากคุณซื้อ คอนโด ซึ่งมีการจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากกรมที่ดิน คุณสามารถเป็นเจ้าของคอนโดแต่ละยูนิตทันที สำหรับ อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติอาคารชุด จะไม่สามารถมอบสิทธิความเป็นเจ้าของอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้เพราะผู้พัฒนาโครงการซึ่งสร้างอพาร์ทเม้นท์ สามารถให้สิทธิ “การครอบครอง” แต่ละยูนิตภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขโดยเจ้าของโครงการ คอนโด ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมที่ดิน จะมอบความเป็นเจ้าของแต่ละยูนิดกับผู้ซื้อ สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ระเบียง บันใด และการดูแลรักษาตึก เจ้าของคอนโดแต่ละยูนิตเป็นเจ้าของร่วมกัน และทุกคนต้องร่วมกันบริหารจัดการ สำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ซื้อ คอนโด ต้องแน่ใจว่าได้ตรวจสอบชัดเจนว่า เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นมันอาจเป็นแค่ “สัญญาเช่า” ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด เจ้าของคอนโดจะได้รับโฉนดที่ดินซึ่งพวกเขาอาจขายหรือโอนให้ผู้อื่นตามที่เห็นสมควร เมื่อทรัพย์ได้จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด ลูกค้าจะไม่ได้รับความคุ้มครองมากนัก เพราะการกำกับดูแลอาคารเป็นการดูแลจัดการโดยเจ้าของทุกคน ในกรณีที่คุณจ่ายเงินค่า อพาร์ทเม้นท์ คุณมีฐานะเป็น “ผู้เช่า” จะไม่มีส่วนในความเป็นเจ้าของพื้นที่ใดๆภายในอาคาร ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นแต่ละยูนิตหรือพื้นที่ส่วนกลาง การบริหารจัดการอาคารและสถานที่จะต้องดำเนินการโดยเจ้าของ ส่วนผู้เช่าต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆที่เจ้าของอาคารอาจมีข้อกำหนดเอาไว้ ทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด จะต้องเสียภาษีที่อยู่อาศัยและที่ดิน ในกรณีที่เป็นการขายสิทธิ์ โอนสิทธิการเช่า หรือ การเซ้ง การครอบครองทรัพย์สินที่เช่านั้น มีจำกัดไว้สูงสุด 30 ปี ถ้าหมดสัญญาเช่าแล้วสามารถต่อได้อีก แต่ไม่เกิน 30 ปี เหตุผลที่คอนโดได้รับความนิยมสำหรับผู้ซื้อ เพราะผู้ซื้อสามารถเปลี่ยนแปลงทรัพย์ตามที่คิดว่าเหมาะสมในยูนิตของตัวเองซึ่งเป็นเจ้าของแบบเฉพาะเจาะจง แต่ในส่วนของตึกที่เป็นเจ้าของร่วมกันหลายคนจะไม่ได้รับอนุญาติให้ปรับเปลี่ยนอะไร ผู้ที่เป็นเจ้าของร่วมทุกคน จะต้องร่วมกันจ่ายค่าดูแลรักษาคอนโดที่เกิดขึ้นร่วมกัน เช่น การเก็บขยะ การทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ดูแลรักษาห้องซาวน่าและสปา ดูแลห้องยิมให้อยู่ในสภาพดี และรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่มีอยู่ภายในคอมเพล็กซ์ซึ่งต้องได้รับการจัดการร่วมกันโดยเจ้าของ สมาชิกซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อปรึกษาเรื่องระยะเวลาและรายละเอียดเกี่ยวกับงานต่างๆที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเวลาที่ต้องทำการซ่อมแซม หรือวิธีการทิ้งขยะ การประชุมร่วมกันเป็นสิ่งที่ต้องทำสำหรับเจ้าของคอนโดเพื่อจะได้รู้จักกันดีขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาต้องอยู่ร่วมกันในคอมเพล็กซ์ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนซื้อคอนโด พวกเขามีส่วนเป็นเจ้าของบางส่วนในตึกนั้น นั่นทำให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของที่แท้จริง ไม่ต่างจากการมีส่วนเป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งเมื่อมีการลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทนั้น คำว่า Condominium เป็นภาษาลาติน ซึ่งมีความหมายว่า การเป็นเจ้าของร่วมกัน ในกรณีที่เป็นอพาร์ทเมนต์แบบเซ้ง มันไม่มีลักษณะของความเป็นเจ้าของ เพราะที่จริงแล้วผู้ที่เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์เขาแค่ให้สิทธิ์ในการครอบครองแต่ละยูนิต ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆตามที่เขาต้องการ คุณไม่ได้เป็นเจ้าของแต่สามารถใช้ประโยชน์ทรัพย์นั้นในช่วงเวลาที่จำกัด ระยะเวลาสูงสุด คือ สามสิบปี ความเป็นเจ้าของ ยังขึ้นอยู่กับแนวทางที่ใช้ลบล้างของคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ ในขณะที่พื้นฐานที่สามารถทำ และไม่สามมารถทำ จะเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ ในทางปฏิบัติและการดำเนินการตามกฎยังมีความผันผวนอยู่ ตัวอย่างเช่น อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง บริษัทที่บริหารจัดการทรัพย์สินทำการบังคับใช้กฎที่เหมือนกันสำหรับทุกยูนิต ความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานประกอบด้วย:
อาจมีกฎอื่นเพิ่มเติม อย่างกรณีที่คุณอยู่ในตึกที่ยอมให้มีสัตว์เลี้ยง แต่โดยพื้นฐานแล้วกฎและเงื่อนไขที่กล่าวมาเป็นเรื่องที่มีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด กฎหมายสำหรับคอนโดอาจมีการพลิกแพลงมากกว่า นอกเหนือจากแนวทางที่กำหนดร่วมกันโดยเจ้าของคอนโด สำหรับพื้นที่ส่วนกลางนอกยูนิต ข้อกำหนดของแต่ละคอนโดอาจแตกต่างกันออกไป เหล่าเจ้าของคอนโดสามารถกำหนดเงื่อนไขของพวกเขาเอง และอาจมีข้อกำหนดบางอย่างที่เป็นพิเศษ ต้องแน่ใจว่าได้สอบถามเกี่ยวกับ “House Rules” ก่อนเซ็นต์สัญญาเช่า กฎหลายข้อที่กำหนดโดย สมาคมเจ้าของบ้าน มีผลกระทบโดยตรงต่อเจ้าของบ้าน ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้เช่า พวกเขาสามมารถรวมถึงข้อกำหนดเรื่องการชำระค่าธรรมเนียมซึ่งมีการครอบคลุมในส่วนของการบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ภายนอกอาคาร ในบางกรณี สมาคมเจ้าของบ้านได้กำหนดจำนวนยูนิตที่เป็นส่วนที่ยอมให้เป็นยูนิตให้เช่า นี่เป็นอะไรที่ต้องเก็บไว้พิจารณาเมื่อคิดจะซื้อคอนโดที่มีความตั้งใจเอาไว้ปล่อยให้เช่า ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์มักจะกำหนดจำนวนเงินค่าเช่าที่คงที่สำหรับขอบเขตที่เป็นไปตามสัญญาเช่า การขึ้นราคาค่าเช่าส่วนใหญ่ จะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาต่อสัญญาเช่าโดยมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในระยะเวลาที่เพียงพอ ตามกฎหมายแล้วสามารถขึ้นราคาค่าเช่าในช่วงที่ยังมีการเช่าอยู่ อพาร์ทเม้นท์บางแห่งเสนอเงื่อนไขเดือนต่อเดือน หรือการเช่าระยะสั้น แต่โดยปกติแล้วสัญญาเช่ามีระยะเวลาหนี่งปี ค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและยูนิตที่มีให้เช่า นอกเหนือจากนั้นยังมีกฎง่ายๆที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องของค่าใช้เพิ่มเติมส่วนอื่นๆซึ่งเป็นค่าเช่าที่คุณสามารถจ่ายได้ บางอพาร์ทเม้นท์มีข้อกำหนดที่ต้องทำประกันผู้เช่า โดยมีจำนวนเงินขั้นต่ำเป็นต้นทุนเพิ่มเติม โดยปกติแล้วค่าสาธารณูปโภคต่างๆมักไม่รวมอยู่ในค่าเช่า หากคุณเช่าคอนโด การชำระเงินของคุณจะเป็นจำนวนเงินคงที่สำหรับระยะเวลาเช่าเว้นแต่ข้อตกลงของคุณจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับต้นทุนในการเช่าคอนโด ซึ่งหมายความว่าอาจแตกต่างกันระหว่างยูนิต เจ้าของบางรายรวมค่าธรรมเนียมและค่าสาธารณูปโภคที่เป็นตัวเลขคงที่ตามข้อกำหนดของสมาคมเจ้าของทรัพย์ไว้เป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่า ดังนั้นหมายความว่าผู้เช่าได้จ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับค่าใช้จ่ายพื้นฐานทั้งหมด ค่าสาธารณูปโภคส่วนกลางจะเฉลี่ยจ่ายตามจำนวนห้องที่มี ส่วนค่าธรรมเนียมสมาคมเจ้าของบ้านอาจแตกต่างกันออกไป สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไประหว่าง คอนโด กับ อพาร์ทเม้นท์ ยูนิตในอพาร์ทเมนต์คอมเพล็กซ์มีคุณสมบัติมาตรฐานที่เหมือนกันทั่วทั้งอพาร์ทเม้นท์ บางครั้งอาจมีแผนผังชั้นที่แตกต่างกันและมีตัวเลือกสำหรับอุปกรณ์มาตรฐานหรือการอัพเกรด หากเจ้าของทรัพย์กำลังลงทุนปรับปรุงภายในยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวกในอพาร์ทเมนท์ของอาคาร อาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:
สิ่งอำนวยความสะดวกใดๆที่ทำให้ทรัพย์ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นในประเภทนี้ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้อาคารอพาร์ตเมนต์โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอพาร์ทเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ใหม่กว่า ยิ่งอพาร์ทเมนต์หรูหรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีช่องว่างที่หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น สิ่งอำนวยความสะดวกในชุมชนของคอนโด ค่อนข้างเหมือนกับสิ่งที่คุณจะพบในอพาร์ทเมนต์คอมเพล็กซ์ ภายในยูนิตเป็นที่ที่สิ่งที่จะเห็นความแตกต่างได้มากที่สุด คุณสมบัติต่อไปนี้ บางครั้งมีเอกลักษณ์และเพิ่มระดับความหรูหรามากขึ้น เช่นเคาน์เตอร์หินแกรนิต พื้นไม้เนื้อแข็ง และเพดานโค้ง เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพสามารถสร้างมูลค่าทรัพย์สินให้กับเจ้าของได้สูงขึ้น ตามความคิดเห็นหรือการรีวิวของลูกค้า เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า เครื่องใช้ในครัวระดับไฮเอนด์ และพื้นไม้เนื้อแข็ง เป็นสิ่งที่เจ้าของส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆในการอัพเกรด ภายในยูนิตของอพาร์ทเม้นท์อาคารอพาร์ทเมนต์โดยทั่วไปเป็นของบุคคลหรือนิติบุคคลหนึ่งราย และสามารถเช่าได้ในอัตรารายเดือนคงที่ ดังนั้นจึงไม่มีกรรมสิทธิ์ร่วมในอาคารที่อาจต้องช่วยในการจัดการอาคาร หรือในบางกรณีก็เป็นเหตุผลของปัญหาในอาคาร อพาร์ทเมนท์จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกคล้ายๆกับสิ่งที่มักจะพบในคอนโดมิเนียม นี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้สนใจเช่ามีความสะดวกที่จะอยู่อาศัยในเมืองในช่วงเวลาสั้น โฉนดคอนโดการเป็นเจ้าของคอนโดจะถูกลงทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน และเจ้าของใหม่จะได้รับโฉนดอย่างเป็นทางการในชื่อของเขาหรือเธอ โฉนดประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้ตำแหน่งที่ตั้ง พื้นที่ของโครงการคอนโด แบบแปลนห้องคอนโดที่แสดง ความกว้างความยาว และความสูง ชื่อและนามสกุลของผู้มีกรรมสิทธิ์ในห้องชุด และชื่อเจ้าของคนๆก่อนหน้านี้ การโอนโฉนดจะเกิดขึ้นที่กรมที่ดินเสมอ โควต้าชาวต่างชาติ (49%)ชาวต่างชาติทุกสัญชาติสามารถมีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของคอนโด เขา/เธอสามารถซื้อคอนโดได้หากสามารถขายคอนโดได้ภายใต้โควต้าชาวต่างชาติ มีกฎหมายที่สามารถขายพื้นที่ห้องชุดได้เพียง 49% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยอย่างน้อย 51% ของพื้นที่คอนโดต้องจดทะเบียนภายใต้เจ้าของที่มีสัญชาติไทย เมื่อซื้อคอนโดมือสอง ผู้ขายจะต้องได้รับจดหมายที่ออกโดยนิติบุคคลอาคารชุดซึ่งระบุว่าห้องชุดอยู่ในโควต้า 49% ของอาคารคอนโด ผู้ขายจะต้องได้รับจดหมายจากนิติบุคคลว่าได้ชำระค่าบำรุงรักษาอาคารครบถ้วนแล้ว พระราชบัญญัติอาคารชุดกฎหมายทรัพย์สินในประเทศไทย - อาคารที่อยู่อาศัยที่จดทะเบียนในประเทศไทยมี 2 ประเภท ได้แก่ คอนโดที่จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุดโดยมีใบอนุญาตอาคารชุด และอาคารอพาร์ตเมนต์ที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติอาคารชุด เฉพาะคอนโดที่จดทะเบียนเท่านั้นที่สามารถเสนอกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลได้เต็มรูปแบบ โดยมีโฉนดที่ออกโดยรัฐบาล พระราชบัญญัติอาคารชุดระบุตัวอย่างขั้นตอน และข้อกำหนดสำหรับอาคารอพาร์ตเมนต์หลายยูนิตที่จะได้รับใบอนุญาตเป็นคอนโด พระราชบัญญัติอาคารชุดฉบับล่าสุดผ่านการออกกฎหมายในปี 2551 กฎหมายใหม่สำหรับทรัพย์สิน "ผู้ประกอบธุรกิจ"ภายใต้กฎหมายใหม่การเช่าที่อยู่อาศัยตั้งแต่ 5 ยูนิตขึ้นไป จะถูกจัดประเภทอย่างเป็นทางการว่าเป็น “ธุรกิจที่ควบคุมตามสัญญา” และเจ้าของทรัพย์สินจะถูกจัดประเภทเป็น “ผู้ประกอบธุรกิจ” กฎหมายใหม่นี้ มีขึ้นเพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้นจากสัญญาเช่าและผู้ให้เช่า กฎระเบียบใหม่จะบังคับใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เช่าจะไม่เสียเปรียบอย่างไร้เหตุผลจากข้อตกลงการเช่าที่ไม่เป็นธรรม กฎหมายใหม่กำหนดผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัย เป็น: “ผู้ประกอบธุรกิจที่ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อยห้ายูนิตขึ้นไปในอาคารหนึ่งหลังขึ้นไปเพื่อใช้ในที่พักอาศัย ประเภทอสังหาริมทรัพย์รวมถึง คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ บ้าน และทรัพย์สินประเภทอื่นๆที่ใช้สำหรับการเช่าสำหรับอยู่อาศัย (ไม่รวมโรงแรม)” มีการเปลี่ยนแปลงหลัก 3 ประการในกฎหมายนี้: 1. ผู้ให้เช่า (เจ้าของบ้าน - เจ้าของทรัพย์สิน) สามารถขอเงินประกัน 1 เดือนและค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือนเท่านั้น แนวทางปฏิบัติทั่วไปในการเช่าในประเทศไทยสำหรับผู้ให้เช่า (เจ้าของบ้าน - เจ้าของทรัพย์สิน) สามารถขอค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน และเงินประกัน 2 หรือ 3 เดือน เงินประกันที่สามารถขอคืนได้นี้ ถือโดยผู้ให้เช่า (เจ้าของบ้าน - เจ้าของทรัพย์สิน) เพื่อประกันหนี้สินที่เกิดจากผู้เช่า เช่น ความเสียหายของทรัพย์สิน (นอกเหนือจากการสึกหรอตามปกติ) ค่าไฟฟ้าหรือค่าน้ำที่ยังไม่ได้ชำระ การผิดนัดชำระค่าเช่ารายเดือน หรือการยกเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนด กฎหมายใหม่กำหนดให้เจ้าของบ้านสามารถเรียกรับเงินประกันเพียงหนึ่งเดือน ทั้งนี้เพื่อป้องกันหนี้สินเพิ่มเติมที่เรียกคืนไม่ได้ในกรณีที่เป็นการเช่าที่มีปัญหา 2. ผู้เช่า สามารถบอกเลิกสัญญาเช่าได้ โดยเพียงแค่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า 30 วัน โดยไม่ต้องเสี่ยงว่าเงินประกันของตนจะถูกริบ 3. ห้ามมิให้ผู้ให้เช่า (เจ้าของบ้าน - เจ้าของทรัพย์สิน) เรียกเก็บเงินในอัตราพิเศษสำหรับบริการสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำประปา ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ กฎหมายเหล่านี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2018 ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก ทำผิดพลาดเกี่ยวกับประเภทของทรัพย์ที่แตกต่างกัน และลงเอยด้วยการซื้ออย่างอื่นแทนที่จะเป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจไว้ ข้อมูลที่กล่าวถึงทั้งหมดนี้ คงทำให้คุณได้เรียนรู้โดยละเอียดถึงความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง คอนโด และ อพาร์ทเม้นท์ |