ดิถีเพ็ญแห่งมาฆะ ลูกขอคารวะด้วยเศียรเกล้า ต่อพระพุทธเจ้า ต่อพระปฐมธรรมวินัย ต่อเหล่าอรหันต์ ใหญ่ ผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย มาฆะบูชาดิถี มีความอัศจรรย์สี่ประการ ปรากฏขึ้นแล้วในโลก หนึ่ง อรหันตสงฆ์ผู้พ้นโศกทั้งแผ่นดิน มาปรากฏพร้อมแล้ว โดยมิได้นัดหมาย สอง พระอรหันต์ทุกองค์ ล้วนเป็นสงฆ์อันพระผู้มีพระภาค ทรงอุปสมบทให้ สาม เหล่าอรหันตสงฆ์ ล้วนทรงอภิญญาใหญ่ บริสุทธิ์บริบูรณ์ สี่ การประชุมอรหันตสงฆ์ พร้อมไพบูลย์ ณ เพ็ญดิถีแห่งเดือนมาฆะพอดี เมื่ออรหันตสงฆ์ใหญ่ พร้อมเพรียงสงบสงัดดีแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ เป็นพระปฐมธรรมวินัย ความว่า พระพุทธดำรัส : การไม่ทำบาปทั้งปวง เหล่าอรหันตสงฆ์น้อมรับโดยดุษณี ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ที่สอง ความว่า พระพุทธดำรัส : ขันติ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง เหล่าอรหันตสงฆ์น้อมรับโดยดุษณี ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ที่สาม ความว่า พระพุทธดำรัส : ผู้กำจัดสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย เหล่าอรหันตสงฆ์น้อมรับโดยดุษณี ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ที่สี่ ความว่า พระพุทธดำรัส : การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย การสำรวมในปาติโมกข์ เหล่าอรหันตสงฆ์น้อมรับโอวาทปาฏิโมกข์โดยดุษณี ณ ดิถีเพ็ญแห่งมาฆะ พระปฐมธรรมวินัยแก้วได้อุบัติแล้วในโลก โอวาทปาติโมกข์ หมายถึง หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้โอวาทปาฏิโมกข์ หลักคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานในวันมาฆบูชา ประกอบด้วย หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 หลักการ คือ หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องมี 3 ประการ ได้แก่ หลักการ 3 ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลดละเลิก ได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ทางแห่งความชั่วมี 10 ประการ อันความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ 2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดีทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ 10 เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี 10 ประกาศอันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจ 3. การทำจิตให้ผ่องใส ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนิวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี 5 ประการ ได้แก่ 1. กามฉันทะ คือความพอใจในกาม สิ่งที่สามารถควบคุมนิวรณ์ได้คือ ศีล 5 ได้แก่ กามฉันทะ ให้ควบคุมคุมด้วย ศีลข้อ 3 คือการไม่ประพฤติผิดในกาม อุดมการณ์ คือ เป้าหมายสูงสุดในการดำเนินชีวิต มี 4 ประการ ได้แก่ อุดมการณ์ 4 ได้แก่ 1. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ วิธีการ คือ แนวทางปฏิบัติฝึกหัดขัดเกลาตนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนามี 6 ประการ คือ 1. อนูปวาโท ไม่ไปว่าร้ายกัน ผู้เผยแผ่คำสอนจะต้องไม่โจมตี ไม่นินทาใคร 2. อนูปฆาโต ไม่ไปล้างผลาญกัน ไม่เผยแผ่ศาสนาด้วยการฆ่า และต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน 3. ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร สำรวมในพระปาฏิโมกข์ เว้นข้อที่ได้ตรัสห้ามไว้ และทำตามข้อที่ทรงอนุญาต 4. มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ต้องรู้จักประมาณในการกิน การใช้เครื่องอุปโภคบริโภคทุกอย่าง 5. ปนฺตญฺจ สยนาสนํ เลือกที่นั่งที่นอนในที่สงบ เพื่อให้ตนเองมีโอกาสในการบำเพ็ญเพียรเต็มที่ 6. อธิจิตฺเต จ อาโยโค ประกอบความเพียรในการทำใจหยุดนิ่งอยู่เสมอ มุ่งทำตนให้หลุดพ้นจากกิเลส โอวาทปาฏิโมกข์ทั้ง 3 ส่วนนี้ เป็นหลักปฏิบัติและนโยบายในการเผยแผ่ของพระพุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทานให้แก่พระอรหันต์ชุดแรกที่ได้ออกไปประกาศพระศาสนาในโอกาสที่ได้มาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้ถือเป็นนโยบายและหลักปฏิบัติในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เป็นแนวทาง เดียวกัน การประชุมพระอรหันตสาวกเช่นนี้ เพื่อประทานนโยบายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ได้มีแต่ในยุคของพระสมณโคดมพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ในกัปนี้เท่านั้น แต่ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ในอดีตก็ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ แต่จำนวนครั้งในการประชุมภิกษุสาวกและจำนวนพระอรหันตสาวกที่เข้าร่วมประชุมต่างกัน จะเห็นได้ว่า วิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน คือ เมื่อทรงฝึกพระอรหันต์ชุดแรก สำหรับเป็นครูและเป็นต้นแบบให้กับชาวโลกได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ก็ส่งออกไปประกาศพระพุทธศาสนา และเมื่อคราวที่พระอรหันตสาวกเหล่านั้น มาประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน พระพุทธองค์ก็ทรงประทานนโยบายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อจะนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากทะเลแห่งทุกข์ ไปสู่ฝั่งแห่งพระนิพพาน |