ความรู้ ทำแบบทดสอบออนไลน์ได้เกียรติบัตรฟรี เรื่อง การพัฒนาทักษะการพูดในโอกาสต่างๆ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี
***กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้อง และตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย เพื่อประโยชน์ของท่านด้วยนะคะ หากแบบทดสอบเต็ม หรือระบบปิด ให้กลับมาทำในวันพรุ่งนี้นะคะ ***
ซึ่งเมื่อทำแบบทดสอบเสร็จแล้วในระบบจะมีคะแนนบอกว่าท่านทำผ่านหรือได้คะแนนมากน้อยเพียงใดจึงทำให้เราสามารถทราบได้ว่าได้คะแนนไปมากน้อยเท่าไหร่ แต่ถ้ายังทำไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะไม่ได้รับเกียรติบัตรนะคะ เมื่อทำรอบแรกแล้วยังไม่ผ่านสามารถทำได้จนกว่าจะผ่านนะคะ และวันนี้เราก็มีเกียรติบัตรตัวอย่างที่เราได้ทำผ่านมาเมื่อไม่นานนี้มาให้ได้ดูกันเราพึ่งทำไปเมื่อไม่นานนี่เองค่ะน่าเก็บสะสมเอาไว้นะคะ ซึ่งจากการทำแบบทดสอบทำให้ได้ทบทวนและเรียนรู้ในเรื่องการพัฒนาทักษะการพูดในโอกาสต่างไม่ว่าจะเป็น คุณลักษณะที่ดีของผู้พูด เช่น คิดเรียบเรียงอย่างเป็นระบบ หมั่นศึกษาความรู้เรื่องที่พูด มีความรับผิดชอบในสิ่งที่พูด เป็นต้น ความสำคัญของการพูดในงานอาชีพ เช่น ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ลดปัญหาความขัดแย้ง เเสวงหาลูกค้าใหม่ การกำหนดจุดมุ่งหมายในการพูดนำเสนอผลงานควรคำนึงถึงความต้องการของผู้ฟัง การพูดสาธิตมีจุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติ การเตรียมเรื่องที่จะพูดผู้พูดควรคำนึงถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้ฟัง คุณลักษณะของเนื้อเรื่องที่ดี คือ มีหลักฐานอ้างอิง มีข้อเท็จจริง มีสาระดี เป็นต้น จุดมุ่งหมายของการพูดให้สัมฤทธิผล เช่น พูดเพื่อให้ความรู้ พูดเพื่อให้ความจรรโลงใจ พูดเพื่อโน้มน้าวใจ เป็นต้นค่ะ ซึ่งการพูดก็เป็นอีกทักษะหนึ่งที่เราต้องได้ใช้ในชีวิตประจำวันเราได้ทบทวนและเรียนรู้ไว้จะดีไม่น้อยเลยนะคะ ความคิดเห็น
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์การพูดในโอกาสและสถานการณ์ต่าง ๆ จุดมุ่งหมาย โอกาสที่จะต้องกล่าวคำปราศรัย หรือพูดต่อที่ชุมนุมชน มีมากมายเหลือเกิน ทั้งแบบเป็นทางการ และแบบไม่เป็นทางการ ทุกคนจะต้องเผชิญปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องการพูด ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตราบใดที่ยังอยู่กับสังคม ผู้ฝึกจะต้องเรียนรู้หลักทั่วไปของการกล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสต่าง ๆ แล้วเลือกเตรียมสุนทรพจน์สักแบบหนึ่งมากล่าวในที่ประชุม โดยสมมุติสถานการณ์ขึ้นว่าจะกล่าวในโอกาสอะไร ผู้ฟังในห้องประชุมเป็นใคร และตนเองกล่าวในฐานะอะไร จะเป็นเรื่องจริงหรือเลียนแบบ โดยสมมุติสถานการณ์แปลก ๆ ขึ้นก็ได้ แต่ต้องสมเหตุสมผล ถ้าเป็นเรื่องทีเล่นทีจริงต้องระวัง อย่าให้ผู้ใดเสียหายโดยไม่จำเป็น ในการกล่าวรายงานหรือแถลงเป็นทางการ อาจมีต้นร่างมาอ่านเพื่อไม่ให้ผิดพลาดตกหล่น แต่ผู้พูดจะต้องรักษาบุคลิกภาพในการพูดให้เหมาะสม ไม่ก้มหน้าดูบทตลอดเวลา ต้องใช้สายตาดูบทเพียง ๑ ใน ๓ อีก ๒ ใน ๓ มองผู้ฟัง ข้อควรคำนึงสำหรับการพูดในโอกาสต่าง ๆ เมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พูดในโอกาสใดก็ตาม ที่มิใช่เป็นงานประจำหรือมิใช่งานปาฐกถาธรรมดาทั่ว ๆไป ผู้พูดควรสำรวจวิเคราะห์สิ่งต่อไปนี้ก่อน ๑. จุดมุ่งหมายของการประชุม - การประชุมนั้นจัดขึ้นเพื่ออะไร - ผู้ฟังเป็นใคร มาประชุมในฐานะอะไร - สาระสำคัญของการประชุมอยู่ตรงไหน ๒. ลำดับรายการ - มีรายการเรียงลำดับกันไว้อย่างไร - ผู้พูดอยู่ในฐานะอะไร กล่าวในนามใคร - เวลาที่กำหนดไว้นานเท่าใด หรือควรจะนานเท่าใด - ก่อนหรือหลังรายการพูดมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจพิเศษอย่างใดหรือไม่ ๓. สถานการณ์ - ผู้ฟังกำลังใจจดใจจ่อ อยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษหรือไม่ - ผู้ฟังมาด้วยใจสมัคร หรือถูกขอร้อง ถูกบังคับให้มาฟัง - ผู้ฟังรู้จักผู้พูดหรือไม่ เลื่อมใสอยู่แล้วหรือไม่ชอบหน้า เมื่อใดควรอ่านจากร่าง โดยทั่วไปการพูดที่จืดชืดน่าเบื่อหน่ายที่สุด คือ การอ่านจากต้นฉบับที่เตรียมไว้ เพราะเป็นการพูดที่ไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกอย่างจริงใจของผู้พูด ผู้อ่านไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมาได้ดีเท่ากับการพูดปากเปล่า ดั้งนั้น การอ่านจึงเหมาะสำหรับกรณีต่อไปนี้เท่านั้น ๑. ในโอกาสพระราชพิธี ๒. ในการเปิดประชุม หรือเปิดงานต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ ๓. การรายงานทางวิชาการ หรือสรุปการประชุม ๔. การอ่านข่าวหรือบทความทางวิทยุ โทรทัศน์ ที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ๕. โอกาสสำคัญอื่น ๆ ซึ่งไม่ต้องการให้มีการพูดขาดหรือเกิน นอกจากการอ่านทุกคำจากต้นฉบับที่สมบูรณ์แล้ว ยังมีการอ่านอีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาศัย หลักเดียวกัน แต่ไม่ได้อ่านทั้งหมด อ่านแต่เพียงข้อความบางตอนที่ยกมาประกอบ เช่น ตัวเลข สถิติ วันเดือนปี จดหมายเหตุในประวัติศาสตร์ ข้อความในอัญญประกาศ คำประพันธ์ สุภาษิต คำสอนทางศาสนา เป็นต้น ข้อควรระวังในการอ่าน ๑. ควรซ้อมอ่านต้นฉบับให้คุ้นกับจังหวะ วรรคตอนเสียก่อน ๒. ต้นฉบับต้องเขียนหรือพิมพ์ให้อ่านง่าย ๓. ไม่ควรเย็บติดกัน ควรวางซ้อนกันไว้ เรียงลำดับเลขหน้าให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังเวลาพลิกหน้าต่อไป ๔. ในเมื่อจะต้องอ่านก็ไม่ควรทำลับ ๆ ล่อ ๆ ควรวางต้นฉบับไว้บนแท่น หรือถือด้วยมือทั้งสองข้าง ถ้าไม่มีแท่นให้วาง ๕. อย่าก้มหน้าก้มตาอ่านตลอดเวลา ถ้าได้ซักซ้อมกันมาแล้ว เพียงแต่เหลือบสายตา ก็อาจอ่านได้ตลอดบรรทัดหรือทั้งประโยค ๖. ใช้สายตามองต้นฉบับเพียง ๑ ใน ๓ ที่เหลือมองที่ประชุม ๗. ระวังอย่าให้ขาดตอนเมื่อจะขึ้นหน้าใหม่ ๘. รักษาท่วงทำนองการพูดใหม่ อย่าให้เป็นสำเนียงอ่าน โอกาสต่าง ๆ ในการพูด การพูดในโอกาสพิเศษ อาจแบ่งออกได้เป็น ๗ ประเภทใหญ่ ๆ คือ ๑. กล่าวแสดงความยินดี/กล่าวตอบ ๒. กล่าวไว้อาลัย ๓. กล่าวอวยพร/กล่าวตอบ ๔. กล่าวสดุดี ๕. กล่าวมอบรางวัลหรือตำแหน่ง/กล่าวตอบ ๖. กล่าวต้อนรับ ๗. กล่าวแนะนำผู้พูด-องค์ปาฐก หลักทั่วไป ๑. พยายามคิดค้นหาลักษณะเฉพาะของโอกาสหรือบุคคลที่กล่าวถึง อย่าพูดเหมือนกันทุกงาน ๒. อย่าลืมการขึ้นต้น และการลงท้ายที่ดี ๓. อย่าพูดนานเกินไป ควรรวบรัดที่สุด ๔. ใช้อารมณ์ขันบ้าง ถ้าเหมาะสม ตัวอย่างสถานการณ์และหัวข้อการพูด ๑. กล่าวแสดงความยินดี ก. แสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ - ผู้กล่าว กล่าวในนามของใคร - ยกย่องในความวิริยะอุตสาหะและคุณความดี - อวยพรหรือมอบของที่ระลึก - อย่าชักชวนผู้ฟัง ปรบมือ ควรปล่อยให้ผู้ฟังตัดสินใจเอง หรือปรบมือนำ ข. กล่าวตอบ - ขอบคุณ - ปวารณาตัวรับใช้ ยืนยันในความเป็นกันเองเหมือนเดิม - อวรพรตอบ ๒. กล่าวไว้อาลัย ก. กล่าวให้เกียรติผู้ตาย - ยกย่องคุณความดีของผู้ตาย - ให้เกียรติและให้ความอบอุ่นแก่ญาติมิตรผุ้ตาย - ชักชวนให้ยืนไว้อาลัย (ไม่ควรมีการปรบมือเด็ดขาด) ข. กล่าวแสดงความอาลัยในการย้ายงาน - ชมเชยในผลงานที่ปฏิบัติ - กล่าวถึงความรักความอาลัยของผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานทุกคน - หวังว่าจะก้าวหน้าและทำประโยชน์ต่อไป - อวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและประสบความสำเร็จ ๓. กล่าวอวยพร ก. อวยพรขึ้นบ้านใหม่ - ความสำเร็จในครอบครัวอยู่ที่การมีบ้านช่องเป็นหลักฐาน - ความซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียรของเจ้าของบ้าน - อวยพรให้ประสบความสุข ข. อวยพรวันเกิด - ความสำคัญของวันนี้ - คุณความดีของเจ้าภาพ - ความเจริญเติบโต ก้าวหน้า หรือเป็นที่พึ่งของบุตรหลาน - อวยพรให้อายุยืนนาน ค. อวยพรคู่สมรส - ความสัมพันธ์ของตนต่อคู่สมรส หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง - ความยินดีที่ทั้งสองครองชีวิตคู่ - อวยพร ง. กล่าวตอบรับพระ(ทุกอย่าง) - ขอบคุณในเกียรติที่ได้รับ - ยืนยันจะรักษาคุณงามความดี และปฏิบัติตามคำแนะนำ - อวยพรตอบ ๔. กล่าวสดุดี ก. กล่าวมอบประกาศนียบัตรสดุดี - ความหมายและความสำคัญของประกาศนียบัตร - ความเหมาะสมของผู้ได้รับประกาศนียบัตร - มอบ สัมผัสมือ และปรบมือให้เกียรติ ข. กล่าวสดุดีบุคคลสำคัญที่ล่วงลับไปแล้ว - ความสำคัญที่มีต่อสถาบัน - ผลงานและมรดกตกทอด - ยืนยันจะสืบต่อมรดกนี้อย่างเต็มความสามารถ - แสดงคารวะ/ปฏิญาณร่วมกัน ๕. กล่าวมอบรางวัลหรือตำแหน่ง ก. มอบตำแหน่ง - ชมเชยความสามารถและความดีเด่นของผู้ที่ได้รับตำแหน่ง - ความหมายและเกียรตินิยมของตำแหน่งนี้ - ฝากความหวังไว้กับผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ - มอบของที่ระลึกหรือเข็มสัญญลักษณ์ - สัมผัสมือและปรบมือให้เกียรติ ข. รับมอบตำแหน่ง - ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจและให้เกียรติ - ชมเชยกรรมการชุดเก่า(ส่วนดีเด่น)ที่กำลังจะพ้นไป - แถลงนโยบายโดยย่อ - ให้คำสัญญาจะรักษาเกียรติและปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่ง - ขอความร่วมมือจากกรรมการและสมาชิกทุกคน ๖. กล่าวต้อนรับ ก. ต้อนรับสมาชิกใหม่ - ความสำคัญและความหมายของสถาบัน - หน้าที่และสิทธิที่สมาชิกจะพึงได้รับ - กล่าวยินดีต้อนรับ - มอบเข็มสัญญลักษณ์(ถ้ามี) สัมผัสมือ ข. ต้อนรับผู้มาเยือน - เล่าความเป็นมาของสถาบันโดยย่อ - ความรู้สึกยินดีที่มีโอกาสต้อนรับ - มอบหนังสือหรือของที่ระลึก - แนะนำให้ที่ประชุมรู้จัก และเชิญกล่าวตอบ ๗. กล่าวแนะนำผู้พูด- องค์ปาฐก - เหตุที่ต้องพูดเรื่องนี้ - ความรู้ ประสบการณ์ และความสำคัญของผู้พูด โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องนี้ - สร้างบรรยากาศเป็นกันเองระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง ทำให้ผู้พูดอยากพูดและ ผู้ฟังอยากฟัง - อย่าแนะนำยาวเกินไป และอย่ายกยอจนเกินความจริง |