แบบฝึกหัดระดับภาษา ม.6 พร้อมเฉลย

1. ข้อใดเป็นภาษาทางการ
ก. นักวิชาการไทยได้เสนอข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์หลายอย่างในที่ประชุมนานาชาติ
ข. การประเมินมหาวิทยาลัยมีข้อดีคือทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
ค. การจัดลำดับวัตถุประสงค์จะช่วยให้ทราบว่าการอุดมศึกษาไทยควรดำเนินไปทิศทางไหน
ง. การประสานงานระหว่างอาจารย์ในประเทศกับนักวิชาการที่เพิ่งจบจากต่างประเทศดำเนินไปด้วยดี

2. ข้อใดใช้ภาษาระดับไม่เป็นทางการ
ก. เราจะรักษามุมสงบของป่าอุ้มผางไว้ได้ด้วยการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ข. ภาวะหนี้เสียเกิดจากความไม่สุจริตของลูกหนี้ การปรับค่าเงินบาท และการที่รัฐบาลปิดสถาบันการเงิน
ค. ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองได้ ประชาชนทุกสาขาอาชีพต้องเป็นคนที่มีทั้งความสามารถและคุณธรรม
ง. การศึกษาสมัยปฏิรูป ครูต้องพยายามให้นักเรียนออกความคิดความเห็นเรื่องต่าง ๆ เอง โดยครูจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้จัดการห้องเรียน

3. ข้อใดใช้ภาษาในงานเขียนเชิงวิชาการได้เหมาะสมที่สุด
ก. การได้รับเงินทุนสนับสนุนไม่เพียงพอไม่ใช่ปัญหาสำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัย
ข. คนทั่วไปอาจคิดไม่ออกว่าเหตุใดการศึกษาจึงจะไปโยงใยกับเศรษฐกิจของประเทศ
ค. ความอ่อนแอของอุดมศึกษาไทย คือสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมทรุดลงเรื่อย
ง. ประเทศไทยต้องสร้างทีมร่วมระหว่างอาจารย์มหาวิทยาลัยในประเทศกับนักวิชาการต่างประเทศ

4. ข้อใดเป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนเชิงวิชาการได้เหมาะสมที่สุด
ก. ความอ้วนดูจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครสนใจเป็นพิเศษ
ข. ปัจจุบันวงการแพทย์มีความเห็นว่าความอ้วนเป็นโรคที่ต้องรักษา
ค. ความอ้วนยังเป็นสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ โรคเกิดตามมาอีก
ง. ปัจจุบันมีธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามเกิดขึ้นทั่วไป

5. ข้อใดใช้ภาษาระดับแบบแผน
ก. หวยบนดินเป็นที่นิยมกันมาก
ข. โทรทัศน์ช่องเจ็ดสีมีรายการใหม่หลายรายการ
ค. การจราจรในท่าอากาศยานดอนเมืองคับคั่งมาก
ง. สถานีตำรวจดอนเมืองอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟดอนเมือง

6. ข้อใดใช้ระดับภาษาต่างจากข้ออื่น
ก. แต่ครั้งดึกดำบรรพ์โลกไม่มีเส้นกั้นอาณาเขตเพื่อแบ่งออกเป็นประเทศต่าง ๆ เฉกเช่นทุกวันนี้
ข. ก่อนที่วัฒนธรรมอินเดียและจีนจะแผ่เข้ามาในเอเชียอาคเนย์ ผู้คนแถบนี้ถือว่าเป็นพวกบ้านป่าเมืองเถื่อน แต่การรับวัฒนธรรม ก็ใช่ว่าจะรับมาทั้งแท่งหรือรับไปทุกเรื่อง
ค. “ระบบความเชื่อ” ทำให้สังคมเข้าใจว่าอำนาจเหนือธรรมชาติทั้งปวงเป็นผู้สร้างสรรค์ดนตรีและนาฏศิลป์ขึ้น
ง. ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งกลางแห่งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างตะวัน ตกกับตะวันออก จึงทำให้เกิดการสร้างสรรค์ทางสังคมและวัฒนธรรมขึ้น

7. ข้อความใดมีระดับภาษาต่างกับข้ออื่น
ก. การตัดสินใจซื้อของคนกลุ่มนี้ยังง่ายสะดวกดายเหมือนเดิม
ข. รถเราดิ่งไปที่ใจกลางเมือง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเป้าหมายของรถทุกคน
ค. มนุษยสัมพันธ์คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน
ง. สินค้าที่อยู่ระดับครึ่ง ๆ กลาง ๆ มีโอกาสเจ็บตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายมีอยู่มาก

8. ข้อใดระดับภาษาแตกต่างกับข้ออื่น
ก. ชาวบ้านเรียกหม่อมคึกฤทธิ์ว่าเป็นเสาหลักประชาธิปไตย
ข. เครื่องประดับของผู้หญิงสมัยอยุธยามีหลายอัน แล้วแต่จะใช้ในโอกาสไหน
ค. เวลานึกอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรให้เพื่อนฝูงตามที่อยากได้ ฉันมักจะนั่งพลิกหนังสือต่าง ๆ ง. ดูไปเรื่อย ๆ คำคล้องจองที่ว่า “เหาะเหินเดินอากาศ” ความหมายตามศัพท์หมายถึงขึ้นเดินไปในอากาศ

9. ข้อใดใช้ระดับภาษาแตกต่างจากข้ออื่น
ก. กินของไทย ใช้ของไทย ร่วมใจกันประหยัด เป็นคำขวัญยอดนิยมในปีท่องเที่ยวไทย
ข. ป่าที่อุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลำธารหลายสาย
ค. ต้องยอมรับว่าเป็นความฉลาดปราดเปรื่องของผู้จัดที่เลือกอุทยานน้ำตกแจ้ซ้อนเป็นที่ประชุม
ง. ไม่เคยแม้สักครั้งที่ไปถึงเมืองไหนแล้ว จะไม่ได้ออกไปชมบรรยากาศยามเช้าของเมืองนั้น

10. ข้อใดใช้ภาษาระดับทางการ
ก. การกลับคำให้การของผู้ต้องหามีผลอย่างยิ่งต่อกระบวนการสอบสวน
ข. จนถึงขณะนี้การปฏิรูปการศึกษาไทยยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าใดนัก
ค. รัฐบาลแถลงว่านับแต่นี้เป็นต้นไปจะจริงจังกับการแก้ปัญหาความยากจน
ง. เพราะความไม่สันทัดต่อการเมืองเป็นผลให้บ้านเราต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีอยู่เสมอ

11. จงเรียงลำดับข้อความต่อไปนี้ตามระดับของภาษา โดยเริ่มจากภาษาระดับทางการกึ่งทางการ ไม่เป็นทางการและกันเอง
ก. ทำไมผู้หญิงที่มีลูกแล้วถึงอ้วน สาเหตุที่คนมักนึกไม่ถึงคือแม่เสียดายของที่ลูกกินเหลือ
ข. ผู้หญิงที่ปล่อยให้พุงพลุ้ยเป็นพะโล้อย่างนี้ นอกจากจะดูไม่ได้แล้วยังจะตายไวเสียด้วย
ค. การประชุมวิชาการเรื่องโรคอ้วนครั้งนี้จัดขึ้นเนื่องจากโรคอ้วนเป็นปัญหาทางสุขภาพที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังประสบอยู่
ง. การลดน้ำหนักด้วยวิธีง่าย ๆ นั้น เราจะต้องควบคุมอาหารและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง

ง ก ค ข
ค ก ข ง
ค ง ก ข
ง ก ข ค

12. ข้อใดใช้ภาษาในงานเขียนทางวิชาการได้เหมาะสมที่สุด
ก. ตึกระฟ้าทั้งหลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให้ลมพัดเข้าสู่ตัวเมือง
ข. ถ้ายังมีฝุ่นและควันมากเช่นนี้ กรุงเทพฯ ก็คงมิใช่เมืองฟ้าอมรอีกต่อไป
ค. ฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างและควันจากโรงงานลอยอยู่ทั่วไปในอากาศ
ง. สิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่สกัดกั้นไม่ให้ฝุ่นละอองกระจายไปในมุมกว้าง

13. ข้อความต่อไปนี้เป็นโวหารชนิดใด
“สารอาหารในข้าวกล้องจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยป้องกันโรคอ้วน ข้าวกล้องมีสารเส้นใยมากกว่าข้าวขาว 8 เท่า ข้าวกล้องจะช่วยดูดซับไขมันและน้ำตาลในอาหารแล้วขับออกมาเป็นกากอาหาร ทำให้ไขมัน และน้ำตาลซึมเข้ากระแสเลือดน้อยลง”

ก. บรรยายโวหาร
ข. พรรณนาโวหาร
ค. อธิบายโวหาร
ง. สาธกโวหาร

14. ข้อความต่อไปนี้เป็นการใช้โวหารในลักษณะใด
งานที่ออกมาแล้วไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ถ้าจะวิเคราะห์ปัญหาออกมา ก็อาจ ทำให้ทราบว่าตีเหล็กผิดจังหวะ เพราะว่ายังไม่ร้อนพอหรือร้อนแล้วแต่ตีช้าไป เหล็กเย็นก่อนงานเสร็จก็เป็นบทเรียนว่าครั้งต่อไปต้องทำงานให้เร็วและดีกว่า เดิม

ก. อุปมาโวหาร
ข. สาธกโวหาร
ค. เทศนาโวหาร
ง. พรรณนาโวหาร

15. การคบคนดีเป็นศรีแก่ตัว แต่ทั้ง ๆ ที่พูดอย่างนี้ คนที่ขาดปัญญาและขาดสติ ก็ยังหลงไปคบกับคนที่เลว คนที่สังคมรังเกียจ โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือทางหายนะของตน คนบางคนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการพนันเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่ว ก็ยังเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่นั่นเอง
ข้อความข้างต้นนี้ใช้กลวิธีการเขียนแบบใด

ก. อภิปราย
ข. อภิปราย
ค. เทศนา
ง. บรรยาย

16. ข้อใดเป็นพรรณนาโวหาร
ก. สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวของเราที่สุดที่เราควรช่วยกันอนุรักษ์คือสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ โรงเรียนของเรานั่นเอง
ข. ป่าภูหลวงที่รกทึบไปด้วยพรรณไม้ขนาดใหญ่เป็นเครื่องยืนยันว่าป่าแห่งนี้ยังอยู่ห่างไกลจากน้ำมือของผู้ทำลาย
ค. นอกจากภาพของป่าเขาที่ทำให้เราพิศวงในความงามแล้ว อากาศหนาวและลมอ่อน ๆ ก็ดูเหมือนเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสังคมเมืองเบื้องล่าง
ง. ต้นไม้ใบหญ้า ไม้ดอกไม้ใบทุกชนิด หลังจากที่ได้หยุดปรุงอาหารและนอนพักมาตลอดคืน เมื่อถึงยามเช้าจะอยู่ในสภาพที่เบิกบานชูกิ่งก้านสล้าง

17. ข้อใดเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดของคำสนทนาต่อไปนี้ “ดีใจด้วยนะ ปีนี้เธอได้รับรางวัลเรียนดีอีกแล้ว”
ก. ขอบใจจ้ะ ฉันก็คิดไว้แล้วว่าปีนี้คงได้รางวัลอีก
ข. ขอบใจจ้ะ ฉันคิดว่าปีนี้เธอน่าจะได้รางวัลนี้มากกว่านะ
ค. ขอบใจจ้ะ ฉันก็ดีใจมากที่ได้รับรางวัลนี้อีก
ง. ขอบใจจ้ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รางวัลนี้อีก

18. ข้อใดใช้คำไม่ฟุ่มเฟือย
ก. ในพระราชพิธีครั้งนี้ประชาชนจะได้ชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารคที่งดงาม
ข. บางคืนเราอาจมองเห็นดวงดาวมากมายหลายหลาก ต่างชนิดต่างขนาด
ค. ในวันนี้จะมีการแจกรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำที่โรงละครแห่งชาติ
ง. ชาวชิลีดำรงชีพอย่างยืนยงคงทนด้วยอาชีพประมงในน่านน้ำของตน

19. ข้อใดแสดงน้ำเสียงชื่นชมได้ชัดเจนที่สุด
ก. เขาทำได้ดี ทุกคนที่มาก็พอใจ
ข. ทุกคนประทับใจที่เขาได้สู้จนสุดความสามารถ
ค. เราได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีไปให้เขาแล้ว
ง. รางวัลที่เขาได้รับเป็นกำลังใจให้เขาพยายามต่อไป

20. ข้อใดใช้คำผิดหน้าที่
ก.วรรณกรรมร้อยแก้วของไทยเริ่มมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว
ข. มาตรการการลงโทษผู้กระทำผิดระเบียบที่บริษัทกำหนดไว้รุนแรงมาก
ค. บริษัทของเราจัดให้พนักงานได้นันทนาการในวันขึ้นปีใหม่
ง. เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยไม่มีอำนาจตัดสินเรื่องนี้โดยพลการ