คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

ว23/2564 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

ดาวน์โหลดไฟล์แนบ

ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 3 กันยายน 2564 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง


คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 13,595 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 15,362 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 11,300 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 3,596 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 12,208 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 12,976 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 16,941 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 19,879 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 23,197 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 8,730 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 22,722 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 4,256 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 15,881 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 13,730 ครั้ง

คําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง ว23

เปิดอ่าน 28,193 ครั้ง

คุณสมบัติผู้ขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะครู อปท. เกณฑ์ใหม่ ตาม ว23
1. มีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ดังนี้
1.1 วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องดำรงตำแหน่งครูมาแล้ว ไม่น้อยกว่า  5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
1.2 วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการมาแล้ว ไม่น้อยกว่า  5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
1.3 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษมาแล้ว ไม่น้อยกว่า  5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
1.4 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญมาแล้ว ไม่น้อยกว่า  5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
2. มีชั่วโมงปฏิบัติงาน ย้อนหลัง 5 ปี  นับถึงวันที่ยื่นคำขอ ดังนี้
2.1 การขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ หรือเลื่อนวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องมีชั่วโมงปฏิบัติงานปีละไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยต้องมีชั่วโมง PLC ไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมงต่อปี(ชั่วโมงปฏิบัติงานประกอบด้วย ชั่วโมงสอนตามตารางฯ : ชั่วโมงสนับสนุนการสอน : ชั่วโมงสนองนโยบาย และชั่วโมง PLC)
2.2 การขอเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ และวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีชั่วโมงปฏิบัติงานปีละไม่น้อยกว่า 900 ชั่วโมง โดยต้องมีชั่วโมง PLC ไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมงต่อปี
3. มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และจรรยาบรรณวิชาชีพ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี
4. ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด(คูปองครู : 10,000 บาท) ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี(ปีละ 12-20 ชั่วโมง 5 ปี ต้องไม่น้อยกว่า 100 ชั่วโมง)
5. มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่สายงานการสอน ในระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ติดต่อกันนับถึงวันสิ้นปีการศึกษาก่อนวันที่ยื่นขอ

ผู้ขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะต้องผ่านการประเมิน ดังนี้
1. ทุกวิทยฐานะต้องผ่านการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่  ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการบริหารจัดการขั้นเรียน ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

ตามหนังสือซักซ้อม ที่ มท 0809.4/ว23 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2562 เรื่องซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการประเมินผลงานข้าราชการหรือพนักงานครูฯ เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น

 หนังสือฉบับนี้ได้กล่าวถึงแนวปฏิบัติ 4 เรื่อง คือ
1. ผู้ประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น กรณีที่ ศพด.ไม่มีผู้อำนวยการสถานศึกษา ให้เสนอ ก.จังหวัด แต่งตั้งข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้ประเมินฯ(ไม่ระบุว่าผู้ประเมินฯต้องเป็นข้าราชการ สังกัดใด) โดยผู้ประเมินจะต้องมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะที่ยื่นขอ และก่อนเริ่มปีการศึกษาให้ผู้รับการประเมินเสนอแผนการจัดการเรียนการสอน และเอกสารอื่นที่เี่ยวข้อง ต่อ ผอ.กองการศึกษา เพื่อรับทราบ/ติดตามผผการปฏิบัติงาน
2. การแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองฯ เมื่อมีประกาศแต่งตั้งผู้ประเมินฯโดยนายก อปท.เป็นผู้ลงนามแล้ว ให้ผู้ประเมินแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูล โดยให้แต่งตั้งจากพนักงาหรือข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษาใน ศพด. นั้น หรือ ศพด.อื่น หรือแต่งตั้งจากพนักงาหรือข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษาสังกัดโรงเรียน อบจ., ทต., อบต. โดยไม่ระบุว่าต้องมีวิทยฐานะใด ดังนั้นก็สามารถแต่งตั้ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ได้
3. การบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน ให้บันทึกตามแบบรายงานผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานรายบุคคล(Personol Perfomance Report : PPR) เป็นประจำ ต่อเนื่อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน โดยสามารถบันทึกได้ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.2561
4. เอกสารประกอบการยื่นขอฯ ที่ต้องส่ง จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย 1) คำขอฯ(วฐ.1) 2) รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ รายปีการศึกษา(วฐ.2)  3) แบบรายงานผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานรายบุคคล(Personol Perfomance Report : PPR) 4) เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ตารางสอน  ตารางกิจกรรมประจำวัน สำเนาคำสั่งที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

วิธีการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ 3 ด้าน 13 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย 1) ด้านการจัดการเรียนการสอน 2) ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน 3) ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ โดยให้มีการประเมินต่อเนื่อง ทุกปี ดังนี้
1. ให้ผู้ขอรับการประเมินฯ จัดทำรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ รายปีการศึกษา(วฐ.2) ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง
2. ให้ผู้ประเมินฯ ประเมินฯ 5 ปีการศึกษา ต่อเนื่อง โดยประเมินภาคเรียนบะ 1 ครั้ง โดยการประเมินภาคเรียนที่ 1 เป็นการประเมินเพื่อให้คำแนะนำและพัฒนา ส่วนการประเมินในภาคเรียนที่ 2 เป็นการประเมินภาพรวมทั้งปี
3. ให้ผู้ประเมินฯ แจังผลการประเมินฯ ให้ผู้รับการประเมินฯ ทราบ ทุกปีการศึกษาเมื่อทำการประเมินเสร็จ

มีสมาชิกสอบถามกันมามากมายเกี่ยวกับการเริ่มต้นของการเตรียมตัวเพื่อยื่นขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะที่สูงขึ้น ตาม ว23(เณฑ์ใหม่) ประการแรกคงต้องบอกว่าให้ไปอ่าน/ศึกษาหลักเกณฑ์ สัก 2-3 รอบก่อน พอเป็นความรู้เบื้องต้นที่จะนำทาง หลังจากศึกษาหลักเกณฑ์หรือแนวทางพอประมาณ ก็ลองมาเดินตามแนวทางที่แนะนำและสรุปความ ดังนี้

1. สำรวจคุณสมบัติของตนเองว่าดำรงตำแหน่งครู  หรือดำรงตำแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการ เมื่อไหร่ ตามประกาศฯ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งครู ที่ยังไม่มีวิทยฐานะ และผู้ที่ดำรงตำแหน่งครูที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการ สามารถเข้าสู่กระบวนการเตรียมเอกสารหลักฐาน/ข้อมูล/งานต่างๆ ได้ทันที ไม่ต้องรอให้ครบปี
2. ทำความเข้าใจ/แจ้ง/หารือต้นสังกัด(ผอ.กองฯ) ให้เข้าใจร่วมกันว่าครูสามารถเข้าสู่กระบวนการเตรียมประเมินฯได้ อาจคุยเป็นการส่วนตัวหรือทำบันทึกข้อความ โดยแนบ ว23 และหนังสือซักซ้อมไปด้วย
3. หาผู้ประเมินฯ(1 ท่าน) ตามหนังสือซักซ้อม ให้หาผู้ประเมินที่มีตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา หรือครู ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าที่ยื่นขอ อาจเอาจากสังกัก สพฐ.หรือสังกัดท้องถิ่นก็ได้ เพราะหนังสือซักซ้อมไม่ได้ระบุสังกัด โดยให้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ และแบบตอบรับ ส่งไปขอฯ เมื่อได้รับการตอบรับก็ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ ก.จังหวัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อ ก.จังหวัดให้ความเห็นชอบส่งเรื่องกลับมาก็ให้นายกฯออกประกาศแต่งตั้งผู้ประเมิน
4. เมื่อผู้ประเมินได้รับการแต่งตั้งแล้ว ให้ผู้ประเมินออกประกาศหรือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรอง 3 คน 

เมื่อได้ผู้ประเมิน และกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองแล้ว ครูผู้ขอรับการประเมินก็เตรียมตัว เตรียมงาน เตรียมแฟ้ม ฯลฯ รายละเอียดตาม ว23