บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันนี้โลกเราได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายอย่าง ทางด้านพฤติกรรมความคิดของวัยรุ่นในสมัยนี้มีการออกกำลังการน้อยลงมากและอาจทำให้เกิดผลเสียตามมา คือร่างกายไม่แข็งแรง สุขภาพไม่แข็งแรง มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย การเจริญเติบโตของร่างกายด้านความสูงขึ้นอยู่กับความยาวของกระดูก ซึ่ง การออกกำลังกาย จะทำให้กระดูกของวัยรุ่นมีความแข็งแรง คงทนและมีความหนา เนื่องจากร่างกายมีการเพิ่มการสะสมแร่ธาตุพวกแคลเซียมในกระดูก วัยรุ่นที่ขาดการออกกำลังกายจะมีกระดูกที่เล็ก เปราะบาง และการขยายขนาดความยาวไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มีการเจริญเติบโตช้า แคระแกร็น นอกจากนี้ยังมีผลต่อสมรรถภาพทางกาย การออกกำลังกายมีผลโดยตรงต่อสมรรถภาพทางกายในด้านต่างๆ การออกกำลังกายชนิดที่ใช้แรงกล้ามเนื้อจะทำให้เกิดความแข็งแรงเพิ่มขึ้น และการออกกำลังกายแบบไม่หนักมากแต่ใช้เวลานานติดต่อกันทำให้เพิ่มความอดทนโดยเพิ่มสมรรถภาพของระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือด ผู้ที่ขาดการออกกำลังกายจะเสียเปรียบในการเรียนวิชาพลศึกษาหรือเล่นกีฬา และมีการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่ำ ทำให้ปฏิกิริยาในการหลีกเลี่ยงอันตรายต่ำด้วย จึงมักได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติภัยได้ง่าย มีผลในด้านสังคมและจิตใจ การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นกลุ่มจะทำให้วัยรุ่นรู้จักปรับตัวเข้ากับสังคม มีจิตใจร่าเริง ไม่เซื่องซึม วัยรุ่นที่ขาดการออกกำลังกายมักเก็บตัว มีเพื่อนน้อย บางรายอาจหันไปหาอบายมุขหรือยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมปัจจุบัน กลุ่มของข้าพเจ้าจึงเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกายในวัยรุ่น จึงได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายโดยได้ดำเนินการจัดทำโครงงานสุขศึกษา เรื่อง การออกกำลังกายในวัยรุ่นขึ้น วัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาค้นคว้าให้ความรู้ในเรื่องการออกกำลังกายในวัยรุ่น 2.เพื่อออกกำลังกายอย่างให้ถูกต้องเหมาะสม ขอบเขตการศึกษา โครงงานเรื่อง การออกกำลังกายในวัยรุ่น ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดพวงนิมิต สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้วเขต 1 มีขอบเขตในการค้นคว้าดังนี้ ขอบเขตเนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ทำงานนี้เป็นเนื้อหาที่ได้เรียนในวิชาสุขศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขอบเขตด้านประชากร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดพวงนิมิต สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้วเขต 1 ขอบเขตด้านระยะเวลาที่ใช้ การทำโครงงานครั้งนี้ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. มีความรู้ในเรื่องการออกกำลังกายในวัยรุ่น บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
การออกำลังกายมีข้อดีอย่างไร 1. ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง ประเภทของการออกกำลังกาย การออกกำลังกายแบ่งออกแบบง่ายๆ เป็น 3 ประเภท คือ การออกกำลังกายที่เน้นพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ และปอด ,การออกกำลังกายที่เน้นเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และการออกกำลังกายที่เน้นเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เดี๋ยวเรามาลองดูตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้เห็นภาพกันได้มากยิ่งขึ้น 1.การออกกำลังกายที่เน้นพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ และปอด (Cardiovascular Respiratory Exercise) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า คาร์ดิโอ เบิร์น เป็นต้น ยกตัวอย่างกิจกรรมง่ายๆ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค ฯลฯ โดยส่วนสำคัญคือจะช่วยพัฒนาระบบไหลเวียนโลหิต หัวใจ ปอด มีสมรรถภาพที่ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่า หลายๆคนทำกิจกรรมแบบนี้กันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำคือให้ออกกำลังกายรูปแบบนี้อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ 2.การออกกำลังกายที่เน้นเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ (Resistance Exercise) พอพูดถึงแบบนี้ทุกคนก็จะนึกถึง การยกน้ำหนักหรือเล่นเวท แน่นอน แต่จริงๆแล้วการออกกำลังกายแบบแรงต้านมีหลากหลายรูปแบบ โดยอาจจะใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงต้าน (วิดพื้น ซิตอัพ) ใช้แรงต้านจากยางยืด ใช้แรงต้านกับอุปกรณ์ภายในบ้านต่างๆ (กระเป๋า ขวดน้ำ หนังสือ) ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่บริหารมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สัดส่วนต่างๆมีความกระชับมากยิ่งขึ้น และสำหรับคนที่ลดน้ำหนัก อาจจะมองว่าการออกกำลังกายแบบนี้ไม่จำเป็น แต่จริงๆ มีส่วนสำคัญอย่างมากเลยครับ เพราะจะช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญขั้นต่ำให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยแนะนำบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วนสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย (สำหรับผู้หญิงไม่ต้องกลัวกล้ามใหญ่นะครับ เพราะผู้หญิงมีฮอร์โมนในร่างกายที่แตกต่างกับผู้ชาย เพราะฉะนั้นกล้ามไม่ใหญ่เหมือนผู้ชายแน่นอนครับ) 3.การออกกำลังกายที่เน้นเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ (Flexibility Exercise) หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า ยืดเหยียด อ่อนตัว ซึ่งรวมไปถึงกิจกรรม เช่น โยคะ พิลาทิส ไทชิ ชี่กง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น หลายๆ คนอาจจะงงว่า กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมีประโยชน์อย่างไร ลองนึกง่ายๆ ว่า ถ้ากล้ามเนื้อเราเหมือนหนังสติ๊ก เวลาเราเก็บหนังสติ๊กไว้นานๆ แล้วพอมาดึง จะเป็นยังไงครับ ก็จะขาดใช่ไหมครับ แต่ถ้าเราใช้อยู่เป็นประจำ กว่าจะขาดก็ต้องใช้เวลาใช่ไหมครับ ก็เปรียบเหมือนกล้ามเนื้อเรา ถ้าไม่เคยยืดเหยียดเลย พอเราก้มไปยกของหนักๆก็จะปวดหลังทันที แต่ถ้ากล้ามเนื้อเรามีความยืดหยุ่นก็จะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ โดยสามารถทำได้เป็นประจำ อย่างน้อยทุกครั้งหลังออกกำลังกายก็จะดี วัยรุ่นกับการออกกำลังกาย การออกกำลังกาย ไม่ได้หมายถึง การที่จะต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกาย จะหมายถึง การที่เราเคลื่อนไหวร่างกายในอิริยาบถต่างๆ โดยใช้แรงของกล้ามเนื้อ จะส่งผลให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถผ่อนคลายความตึงเครียดได้ ซึงก่อให้เกิดการพัฒนาสุขภาวะที่ดี อันจะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับคุณภาพชีวิตวัยรุ่นก่อนที่จะออกกำลังกายมักจะหาเหตุผลต่างๆนาน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ยอมออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาของสภาพอากาศ เป็นต้น แต่การออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพดีนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่ใช้วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และไม่จำเป็นจะต้องไปหาสถานที่กว้างๆหรือสถานที่สำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะหรือเครื่องมือต่างๆให้เสียเวลา มีเพียงพื้นที่ให้เดินก็เพียงพอแล้ว ซึ่งการออกกำลังกายจะทำให้มีรูปร่างที่ดูดี มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน โรคอ้วน โรคมะเร็ง เป็นต้น อีกทั้งการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายสดชื่น บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน ขั้นตอนที่ 2 เก็บรวบรวม ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินความรู้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพนั้น สมาชิกในกลุ่มร่วมกันวางแผนเพื่อจะศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่สังคมพบกันบ่อยมากก็คือ การออกกำลังกายในวัยรุ่น กลุ่มข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่น เพื่อที่จะทำความเข้าใจ และศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุ ของการออกกำลังกายในวัยรุ่ยและผลปรากฎว่าข้อมูลที่สมาชิกในกลุ่มศึกษามานั้นเป็นวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ที่พบมากที่สุดก็คือวัยรุ่นเกิดจากสาเหตุต่างๆจากการกระทำของตนคิดเพียงแต่ว่าสนุกไปวันๆ และผลที่เกิดตามและเกิดปัญหาตามมามากมายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือการทำแท้งในคลีนิกเถื่อนบางคนอาจโชคดีไม่เป็นไร ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่ได้ศึกษามานั้นมาเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้มงานประจำกลุ่มและแบ่งหน้าที่ตามที่เพื่อนถนัดแต่ละคน ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ผลจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ การออกกำลังกายในวัยรุ่นเราได้ทราบสาเหตุของวัยรุ่นด้วยสาเหตุใหญ่ๆก็คือความขี้เกียจของวัยรุ่น สมาชิกในกลุ่มของเราจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาและศึกษาต่อเพื่อเผยแผ่ความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินความรู้ แจกเอกสารเผยแพร่ความรู้แก่เพื่อนๆในในชั้นเรียน และสร้างแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับปฏิบัติตนให้สมวัย บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน
จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานสุขศึกษา เรื่องการออกกำลังกายในวัยรุ่น ผู้ค้นคว้าได้นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามานำเสนอผลการ วิเคราะห์ข้อมูลเป็น4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน ขั้นตอนที่ 1 ขั้นวางแผน จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพนั้น สมาชิกในกลุ่มร่วมกันวางแผนเพื่อจะศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่สังคมพบกันบ่อยมากก็คือ การออกกำลังกายในวัยรุ่นกลุ่มข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่นชายหญิง เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่นให้มากที่สุด และศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของการออกกำลังกายในวัยรุ่นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะกระทำเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในอนาคตจากการศึกษาแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการออกกำลังกายในวัยรุ่น และผลปรากฏว่าข้อมูลที่สมาชิกในกลุ่มศึกษามานั้นเป็นวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ที่พบมากที่สุด และผลที่เกิดตามมาก็คือการออกกำลังกายในวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือการทำแท้งในแคกนิก เถื่อนบางคนอาจโชคดีไม่เป็นไร ขั้นตอนที่ 2 ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล จากการแบ่งงานเพื่อไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่ได้ศึกษามานั้นก็นำความรู้ที่ไปศึกษามาเก็บรวบรวมมาเรียบเรียงข้อมูลต่างๆให้เรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์เพื่อรอการนำเสนอ ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ผลจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ การออกกำลังกายในวัยรุ่น เราได้ทราบสาเหตุการออกกำลังกายในวัยรุ่นของวัยรุ่นด้วยสาเหตุใหญ่ๆ สมาชิกในกลุ่มของเราจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาและศึกษาต่อเพื่อเผยแผ่ความรู้ ขั้นตอนที่ 4 ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินความรู้ การนำเสนอข้อมูลของกลุ่มข้าพเจ้าโดยการนำเอกสารไปเผยแพร่ความรู้และให้เพื่อนๆได้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความรู้ที่ได้รับว่าสิ่งที่กลุ่มข้าพเจ้าได้เสนอไปนั้นได้รับความรู้มากน้อยเพียงใด บทที่5 สรุปผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะ
จากการค้นคว้าโครงงานสุขศึกษาเรื่อง การออกกำลังกายในวัยรุ่น มีผลสรุปผลการศึกษาค้นคว้าดังนี้ วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า 1.เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการติดต่อของการออกกำลังกายในวัยรุ่น 2.เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้รอดพ้นจากโรคไม่ติดต่อ 3.เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายให้แก่ผู้อื่นได้ สรุปผลการดำเนินงานศึกษาค้นคว้า ในปัจจุบันสังคมเรามีการออกกำลังกายน้อยขึ้นจึงทำให้ให้วัยรุ่นและผู้ใหญ่มีความเชื่อที่ผิด ๆ การที่มีออกกำลังกาย อาจทำให้ติดเป็นโรคไม่ติดต่อได้ง่ายจึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้และวิธีการป้องกันการเป็นโรคไม่ติดต่อ ความรู้ที่เราได้รับนั้นถ้าเราเก็บมาปรับใช้เพียงผู้เดียวชีวิตเราก็จะดีเพียงผู้เดียวแล้วคนอื่นที่เค้ายังไม่รู้จักวิธีการปรับตัวที่ดีแล้วพวกเราที่เป็นอนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นความรู้ที่เราได้รับมาเราควรนำความรู้นั้นไปเผยแพร่ให้วัยรุ่นและผู้ใหญ่ รู้จักวิธีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้ดี อัตราการโรคไม่ติดต่อวัยรุ่นและผู้ใหญ่ก็คงจะลดน้อยลงมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ข้อเสนอแนะ จัดการรณรงค์และอบรมเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้ผู้อื่นจะได้ตระหนักถึงปัญหานี้ว่าการมไม่ออกกำลังกายอาจเป็นภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน |