การใช้ประโยชน์จากฉลากสินค้าในชีวิตประจำวัน มาสรุปและเปรียบเทียบการใช้ภาษาอังกฤษ กับภาษาไทยเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน Grade Level: ม.1–3 English from Products (PDF)Download
... ตัวอย่างฉลากอาหาร (ตัวอย่างนี้คือ กลุ่มมักกโรนีและเนยแข็ง) > [ Wikipedia ] ... การอ่านฉลากอาหารง่ายๆ ควรเริ่มจากแถบบน (Start here = เริ่มต้นที่นี่) คือ อาหารหรือเครื่องดื่มทั้งหมดมีกี่หน่วยบริโภค (servings / serving sizes / Sv) ฉลากข้างบนนี้มี 2 หน่วย หน่วยละ 1 ถ้วย (228 กรัม) ถ้าคิดจะกินหมดถุง หมดกล่อง หรือกินในคราวเดียว... อย่าลืมนำจำนวนแคลอรีไปคูณจำนวนหน่วยบริโภค (Sv) ในฉลากอาหาร ... อาหารชนิดนี้ให้กำลังงาน 250 (กิโล)แคลอรี หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า "แคลอรี" ต่อ 1 หน่วยบริโภค (Sv) ภาชนะ (กล่องหรือถุง) นี้มี 2 หน่วยบริโภค (Sv) จำนวนกำลังงานหรือแคลอรีทั้งหมด = 2 x 250 = 500 แคลอรี ... คนเราต้องการกำลังงานจากอาหารไม่เท่ากัน ถ้ากินเกินกว่านี้จะเริ่มมีน้ำหนักเกิน และตามมาด้วยโรคอ้วน
... เพราะฉะนั้นถ้ากินแต่อาหารชนิดนี้หมดถุงหรือหมดกล่อง ไม่กินอาหารอื่นๆ เลย...
... ถ้าคิดแคลอรีจากฉลากอาหารแบบนี้เป็นประจำ... เราจะเริ่มจำได้ว่า อะไรกินแล้วคุ้ม (อิ่มนาน ได้สารอาหารครบทุกหมู่) อะไรกินแล้วไม่คุ้ม (อิ่มไม่นาน ได้สารอาหารไม่ครบทุกหมู่ ให้กำลังงานสูง น้ำตาลสูง ไขมันสูง หรือเกลือสูง) ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา ศัพท์ภาษาอังกฤษตอนนี้ขอนำคำว่า 'Nutrition' มาเล่าสู่กันฟัง
รากศัพท์ของคำกลุ่ม 'nutrition' มีความหมายคล้ายๆ กันคือ แปลว่า ดูด (suckle) หมายถึงการดูดนม นั่นคือ คำๆ นี้มีที่มาจากนมแม่ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารและคุณค่าทางใจสูงกว่านมชง ขอให้สังเกตคำ 'nutritionist' > อะไรที่ลงท้ายด้วย '-ist' หมายถึงผู้เชี่ยวชาญ (expert) หรือ "นัก..."
ที่มา
|