ในการทำงานในยุคสมัยปัจจุบันนั้น มักจะมีจัดการข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการทำงาน การคำนวนตัวเลข การทำกราฟ หรือ การทำสรุปผลข้อมูล รวมไปถึงการจดบันทึกต่างๆ ซึ่ง การใช้ excel หรือ google sheet มักจะเป็นเครื่องมือที่ใช้จัดการกับข้อมูลต่างๆได้เป็นอย่างดี Show วันนี้ผมได้รวบรวมสูตร excel หรือ google ที่ควรรู้ที่จะทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้นครับ
Excel พื้นฐานที่ควรรู้
การบวก =A1+B1
สูตร excel sum
=sum(จำนวนช่องแบบ range ที่ต้องการจะรวมผลบวก) เช่น ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ แต่ในความเป็นจริงการบวกข้อมูลมักจะไม่ได้รวมข้อมูลง่ายๆ แบบนี้เพราะตัวข้อมูลมักจะมีความซับซ้อนอยู่ หรือมีเงื่อนไขในการรวม หากเราต้องการรวมผลลัพธ์ให้เร็วขึ้นตามเงื่อนไขที่เราต้องการ เราจะต้องใช้สูตรที่เรียกว่า sumif ครับ สูตร excel sum แบบมีเงื่อนไข
=sumif() – การรวมที่มีเงื่อนไขแค่ข้่อเดียว =sumifs() – การรวมที่มีเงื่อนไขหลายข้อ ในตัวอย่างนี้ผมจะสอนแบบ sumifs นะครับเพราะว่า sumifs เองสามารถใช้สำหรับเงื่อนไขเดียวได้ด้วย ดังนั้นรู้วิธีที่ใช้ได้หลายอย่างจะดีกว่าครับ
โจทย์: ต้องการหาราคารวมของหมวดหมู่ เฟอร์นิเจอร์ด้วย sumifs() =SUMIFS(sum_range, criteria_range1, criterion1, [criteria_range2, …], [criterion2, …]) sum_range – column ที่เราจะบวก โดยให้ใส่เป็น range เช่น c1:c10
=SUMIFS(c2:c8, b2:b8, “เฟอร์นิเจอร์”) สมมติว่าโจทย์เปลี่ยนเป็น อยากได้ผลรวมของ เฟอร์นิเจอร์และเสื้อผ้า เราก็สามารถเพิ่มเงื่อนไขต่อท้ายได้เลยแบบนี้ครับ =SUMIFS(c2:c8, b2:b8, “เฟอร์นิเจอร์”,b2:b8,“เก้าอี้”) ที่ต้องใส่ b2:b8 อีกรอบเพราะเป็นการเช็คเงื่อนไขที่สองดังนั้นเราจะต้องระบุ column ที่เราจะหาเงื่อนไข และ ตัวเงื่อนไข ของเราอีกรอบนึงครับ
โจทย์: ต้องการหาจำนวนสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่ “เสื้อผ้า” ว่ามีกี่ชิ้น? อ้างอิงจากตารางเดิมนะครับ หากเราต้องการหาจำนวนสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่ “เสื้อผ้า” หากแปลให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ มีคำว่า “เสื้อผ้า” กิดขึ้นกี่ครั้งในตารางช้อมูลของเรานั่นเองครับ ซึ่งเราจะใช้สูตร =countifs() ในการหาคำตอบครับ (countif มีสองแบบคล้ายๆกับ sumif นะครับซึ่งผมแนะนำว่าให้ใช้แบบมี s เหมือน sumifs ข้างบนครับจะครอบคลุมกว่า) การใช้ countifs=COUNTIFS(criteria_range1, criterion1, [criteria_range2, …], [criterion2, …]) criteria_range1 – column ที่เราจะบวก
โดยให้ใส่เป็น range ในทีนี้ผมจะใช้ b1:b10 ครับ ดังนั้นสำหรับโจทย์นี้เราจะใช้ countifs() แบบนี้ครับ =countifs(B1:B10,“เสื้อผ้า”) ถ้าหากจะนับแบบหลายเงื่อนไข เช่นอยากจะนับสินค้ากลุ่ม เฟอร์นิเจอร์ด้วย สามารถทำแบบนี้ได้ครับ =countifs(B1:B10,“เสื้อผ้า”,B1:B10,“เฟอร์นิเจอร์”) สูตร excel วันที่
=today() – การเรียกวันปัจจุบันหรือวันนี้ วันที่เราสามารถคิดแบบคณิตศาสตร์ได้เลยคือเราสามารถบวกลบกันได้ปกติเลยครับ สูตร excel หาต้นเดือน และ สูตร excel หาสิ้นเดือน
=eom(วันที่ที่เรากำลังสนใจ, ตัวเลขเพื่อระบุเดือนที่ต้องการ)
=eom(today() , 0 ) จะเท่ากับ 31 Oct 2020 eom() ยังสามารถใช้เพื่อเรียกหาวันต้นเดือนได้ครับด้วยวิธีนี้ ถ้าต้องการวันที่ 1 ของเดือน Oct 2020 =eom(today() , -1) + 1 ซึ่งจะเท่ากับ วันที่ 30 Sep 2020 แล้วเพิ่มไป 1 วันหรือวันที่ 1 Oct 2020 นั่นเองครับ ตัวอย่างการใช้ date ใน excel ครับ สูตร vlookup
สรุปสูตร Excel พื้นฐาน
|