ใบแจ้งหนี้ หรือ ใบวางบิล หรือที่นิยมเรียกกันว่า Invoice จริงๆ แล้วคือเอกสารจากคนที่ขายสินค้าหรือเป็นผู้ที่ให้บริการจะต้องออกให้กับคนซื้อ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการซื้อหรือขายบริการ โดยจะมีรายละเอียดรวมถึงค่าบริการและมูลค่าของสินค้าอยู่ภายในใบแจ้งหนี้
และที่สำคัญใบแจ้งหนี้จะต้องมีลายเซ็นต์จากทั้งฝั่งผู้ซื้อและฝั่งผู้ขายถึงจะเป็นใบแจ้งหนี้ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อที่จะใช้เอกสารใบแจ้งหนี้มาเป็นหลักฐานในการซื้อขายได้ เรารวมข้อสงสัยใบวางบิลมาให้ในบทความนี้แล้ว 1. ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง?หลักๆ แล้วข้อมูลในใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ จะต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนตามดังต่อไปนี้
2. ตัวอย่างแบบฟอร์ม ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้3. ขั้นตอนในการใช้ ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ (Invoice)
4. สรุปเรื่อง ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้จริงๆ แล้วเรื่องการทำใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ไม่ใช่เรื่องที่ทำยากเลย แต่เรื่องที่ควรรู้มากกว่านั้นก็คือเป็นเอกสารที่เอาไว้สำหรับเป็นหลักฐานในการซื้อขาย ดังนั้นในใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ (Invoice) จึงจะต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องนะครับ หากใครที่อยากเป็นเจ้าของกิจการหรือไม่รู้ว่าการจดทะเบียนบริษัททำยังไงหรืออยากให้เราจดทะเบียนบริษัทให้ทักหาเราได้เลย ทักมาได้เลย: m.me/kmcp.acc LINE: https://line.me/R/ti/p/@kmcp.acc ใบวางบิล SMEMOVE เชื่อว่าคนทำธุรกิจ หรือคนทำบัญชีทุกคนจะต้องรู้จักใบวางบิล (Billing Note) และใบแจ้งหนี้ (Invoice) เพราะเอกสารเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเอกสารประจำสำนักงาน ที่จำเป็นจะต้องถูกนำมาใช้อยู่เป็นประจำโดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือน แต่หากใครยังไม่มั่นใจว่าเอกสารใบวางบิล และใบแจ้งหนี้คืออะไร เป็นเอกสารในรูปแบบไหน เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้คืออะไรเอกสารใบวางบิล หรือใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารทั่วไปที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นกิจการ หรือบุคคลธรรมดาก็ล้วนมีโอกาสได้พบเจอ หรือใช้งานเอกสารนี้อยู่บ่อยครั้ง เพราะเอกสารนี้จะมาในรูปแบบของการเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ตลอดจนค่าจ้างค่าบริการต่างๆ ที่ทำหน้าที่เรียกเก็บเงินของคุณอยู่ ใครมีหน้าที่ในการออกใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ส่วนใหญ่แล้วเอกสารใบวางบิล ใบแจ้งหนี้นั้นจะถูกใช้ในกิจการที่มีขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีการให้เครดิตในการชำระเงิน ซึ่งระยะเวลาการวางบิลก็แล้วแต่บริษัทจะกำหนด จึงทำให้เวลาในการออกเอกสารแตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ในการออกเอกสารใบวางบิล ใบแจ้งหนี้นั้นก็จะเป็นเจ้าหนี้ ผู้ขายสินค้า หรือผู้ให้บริการในรูปแบบของการให้เครดิตที่จำเป็นจะต้องมีการเรียกเก็บภายหลังเป็นรายเดือน และในการออกใบวางบิล หรือใบแจ้งหนี้ก็มักจะเกิดปัญหาในการออกเอกสารเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลภายในเอกสารที่มักจะมีรายละเอียดไม่ครบถ้วน ไม่ตรงกับใบเสนอราคา มีความล่าช้าในการส่งเอกสาร ดังนั้นเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อจำเป็นจะต้องทำการออกเอกสารเหล่านี้ SMEMOVE จะขอพาคุณมาพบกับขั้นตอนการวางบิลที่มีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการวางบิล/ใบแจ้งหนี้ ที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน1. ตรวจสอบกำหนดการในการวางบิล และวันรับเช็คของคู่ค้า 2. จัดเตรียมเอกสารสำคัญในการวางบิล 1 ชุด (ต้นฉบับ และสำเนา) ในกรณีที่มีใบเสนอราคา หรือใบสั่งซื้อควรทำการแนบไปกับเอกสารใบวางบิล 3. นำส่งเอกสาร มอบฉบับจริงให้กับลูกค้า สำเนาให้นำกลับมาไว้เป็นหลักฐาน การส่งจะมีการเซ็นที่เอกสารเพื่อรับรองว่ามีการวางบิล และลูกค้าได้รับเอกสารแล้ว 4. เตรียมเอกสารสำคัญในการรับเงินอย่าง “ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน” เพื่อมอบให้กับลูกค้าเมื่อมีการรับเช็คตามวันที่ที่ได้กำหนดไว้ สิ่งสำคัญของเอกสารใบวางบิล (Billing Note) และใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ออกเอกสารใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ (เจ้าของธุรกิจ) 1. ชื่อและที่อยู่บริษัท 2. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และสำนักงานสาขา 3. เบอร์ติดต่อบริษัทและเบอร์แฟกซ์ 4. เลขที่ใบวางบิล 5. ลายเซ็นผู้วางบิล และระบุวันที่ที่ออกเอกสาร สำหรับผู้รับใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ (ลูกค้า) 1. ชื่อและที่อยู่บริษัท 2. เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และสำนักงานสาขา 3. รายละเอียดของสินค้า/บริการ ที่สั่งซื้อหรือให้บริการ พร้อมระบุยอดรวม 4. วันครบกำหนดชำระเงิน 5. ลายเซ็นผู้รับวางบิล และระบุวันที่ที่รับเอกสาร ตัวอย่างเอกสารใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ จากโปรแกรมบัญชีออนไลน์ SMEMOVE การจัดทำเอกสารใบวางบิล หรือใบแจ้งหนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กิจการไม่อาจหลีกเลี่ยงในการใช้งานได้ ไม่ว่าจะในฐานะคนออกเอกสาร หรือคนรับเอกสาร จะดีกว่าไหมหากคุณสามารถจัดการเอกสารใบวางบิล และใบแจ้งหนี้ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ใช้ โปรแกรมบันทึกบัญชีออนไลน์ SMEMOVE ตัวช่วยดีๆ ในการทำงานด้านบัญชี และจัดการเอกสารภายในกิจการได้ครบหมดจบได้ในโปรแกรมเดียว ติดตามบทความอื่นๆของ SMEMOVE.com ได้ที่บทความบัญชี: smemove.com/blog Facebook: Facebook.com/smemove.th Youtube: SMEMOVE |