ตัวอย่าง รายงาน ผู้ นํา ใน ดวงใจ

นายอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริหาร สลิงชอท กรุ๊ป เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า หลายคนได้รับการอุปโลกน์ให้เป็นผู้นำเพราะเก่งงานอย่างหาตัวจับยาก แต่บ่อยครั้งที่ไม่ทันได้ตรวจสอบให้ดีว่าคนๆ นั้นมีภาวะผู้นำพร้อมแล้วหรือยัง

ข้อสอบหน่วยที่ 7 ภาวะผู้นา LEADERSHIP วิชาการบริหารการพยาบาล


คาสั่ง นักศึกษากรุณาทาข้อสอบลงในBlog ของนักศึกษา ภายในวันที่12 กันยายน2553

“เวลาการทาข้อสอบไม่จากัด แต่ส่งภายในกาหนด” คะแนนเต็ม 100 คะแนน

ข้อ1 “ผู้นาในดวงใจของท่านคือใคร?”จงนาเสนอรายละเอียด ภาวะผู้นาที่นักศึกษาเลือก มา1 ท่าน

และผู้นาที่ท่านเลือกเป็นผู้นาลักษณะ ใดโดยใช้ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับ ภาวะผู้นาวิเคราะห์(50 คะแนน)

ตอบ ภาวะผู้นำ (Leadership) ในดวงใจ ก็คือ นายกทักษิณ นายแพทย์กระแส ชนะวงค์( ไม่ได้รวมกับเรื่องการเมืองนะค่ะ หนูคิดว่าทักษิณเคยเป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้รวยแต่สามารถ ขึ้นมาเป็นผู้นำคนระดับประเทศได้

ลักษณะเด่นของผู้บริหารคนสำคัญที่ประสบผลสำเร็จ เช่น

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคุณลักษณะและอุปนิสัยดังนี้

คุณลักษณะ 1) มีความกล้า 2) มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง

3) มีความทะเยอทะยาน 4) มีมนุษยสัมพันธ์ดี

5) มีความมุ่งมั่น 6) มีสติเฉลียวฉลาด

7) ยังสามารถครองใจประชาชนในช่วงเวลานั้นได้

แนวดำเนินชีวิต 1) ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก 2) ใช้ชีวิตสมถะ

3) สู้ชีวิตด้วยการลงมือทำ 4)การบริหารยึดวิสัยทัศน์

5) เชื่อว่าการเมืองในระบบเท่านั้นคือการเมืองที่ถูกต้องที่สุด

นพ. กระแส ชนะวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีเบื้องหลังที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ

1) ได้รับแนวคิดพัฒนาจากนักพัฒนาชาวอเมริกาเชื้อสายจีน

2) ได้รับอิทธิพลการพัฒนาแบบญี่ปุ่น 3) เน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน

4) เน้นเรื่องภาวะผู้นำ 5) ให้ความสามารถต่อสตรีในการพัฒนา

ปรัชญาบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร

1. จุดยืนใหม่ของประเทศไทย ได้แก่ความเชื่อมั่นในการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย ที่มีอุดมการณ์ โดยอาศัย ผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

2 กระบวนการทำงาน การทำงานต้องปรับโครงสร้าง องค์กรให้เล็กคล่องตัว โดยสร้างวัฒนธรรมขององค์กรและวัฒนธรรมของการทำงานเป็นหมู่คณะทำงาน การบริหารอย่างบูรณาการซึ่งใช้สหวิทยาการอย่างกลมกลืน รวมทั้งต้องปรับกระบวนการรายงานทุกลำดับชั้น ( Matrix Report)

3. การแข่งขันในเวทีโลก ทำให้ต้องปรับองค์กรและคนทำงานให้รู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่ ต้องเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เริ่มจากการทำงานจากการสร้างฐานข้อมูล แล้วสังเคราะห์ประสบการณ์จนเกิดเป็นองค์ความรู้ ซึ่งต่อมาเกิดเป็นปัญญารู้แจ้งมองทะลุถึงแก่นจนนำไปใช้งานได้จริง (Information - -> Knowledge - -> Wisdom )

4. ภาวะผู้นำ ผู้บริหารต้องมี มีวิสัยทัศน์ รู้จักมองการไกล เป็นนักสื่อสารที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ได้ยอดเยี่ยม เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ พูดจริงทำจริง กล้าได้กล้าเสียกล้าคิดการใหญ่ กล้าเปลี่ยนแปลง แม้มีผู้คัดค้าน กล้าคิดใหม่ทำใหม่ให้แตกต่างไปจากความเคยชินเดิม และต้องทำด้วยความรวดเร็ว แข่งกับเวลา

5. นโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีหลักการสำคัญคือ การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ การ ขยายโอกาส และการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

Prof. Dipak C.Jain คณบดีวิทยาลัยการจัดการ Kellogg และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เสนอแนวคิดไว้ดังนี้

1. การบริหารคือการขับเคลื่อนโดยใช้กลไกตลาด ผู้บริหารต้องเข้าใจว่าลูกค้าคือใคร/ ใครคือคู่แข่ง/ เราเก่งอะไร/ เราจะขายอะไร

2. ต้องสร้างภาพลักษณ์และกำหนดจุดยืนในตลาด เช่น มีคุณลักษณะเฉพาะ และคุณภาพเทียบได้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล

3. บุคลิกนักบริหาร ผู้จะก้าวหน้าในอันดับหัวแถวต้องสร้างคุณลักษณะพิเศษ ได้แก่

คิดใหญ่ฝันใหญ่ ต้องการสร้างชิ้นงานหรือโครงการที่สำคัญ ใช้สัญชาติญาณ ใช้ข้อมูล ใช้องค์ความรู้จนสามารถสร้างชิ้นงาน หรือนวัตกรรมใหม่ ขับเคลื่อนความฝันอย่างมีเป้าหมาย มีทิศทางที่มีโอกาสสู่ความสำเร็จ มีกลยุทธ และ มีมิติวัดผลสำเร็จ ทำงานอย่างมีกระบวนการวางแผนรัดกุมรอบคอบ ทำงานไปแล้วติดตามวัดผลสำเร็จได้

สร้างทีมร่วมผลักดัน รู้จักทำเป็นแบบอย่าง ใช้ขีดความสามารถของแต่ละคนมาร่วมกันสร้างสรรค์งานใหญ่ โดยผู้บริหารมาร่วมคิดช่วย ชี้แนะ เป็นต้นแบบของการทำงานหนักเอาเบาสู้ สร้างแรงจูงใจ รวมทั้งการ มอบอำนาจ ผู้บริหารต้อง ให้กำลังใจสร้างขวัญในการทำงานและรู้จักกระจายอำนาจความรับผิดชอบให้ผู้บริหารระดับรองลงไป ช่วยแบ่งเบางานที่ต้องตัดสินใจ

4. การนำการเปลี่ยนแปลงของนักบริหาร คือการจัดการภารกิจเหล่านี้ให้เกิดผลดีการ คิดเชิงธุรกิจ (โอกาส + กำไร) คำนึงถึงความคุ้มทุนและคุ้มค่า โดยเฉพาะการทำงานราชการมักไม่คำนวณต้นทุนเนื่องจากเป็นงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาให้ ทัศนคติเชิงบวก มองวิกฤติให้เป็นโอกาส แม้เผชิญปัญหาอุปสรรคก็มิได้ย่อท้อ ความสามารถนำทีม นำคณะไปสู่การสร้างความสำเร็จการ ทำงานเชิงรุก บุกเข้าไปไม่ท้อถอย ป้องกันก่อนเกิดปัญหาจริง การสร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างทีมงานที่แข็งแกร่งรู้จักประสานสมานฉันท์


เปรียบเทียบได้กับทฤษฏีภาวะผู้นำ

ทฤษฏีภาวะผู้นำ ที่สำคัญ มี 3 ทฤษฏี คือ

1.) ทฤษฎีคุณลักษณะผู้นำหรือทฤษฎีอุปนิสัย (Trait Theory)

โดยคุณลักษณะที่เด่นชัด คือ

• มีความรู้ความสามารถในการงาน

• เข้าร่วมกิจกรรมด้วยใจรัก

• ได้รับการยอมรับจากสมาชิก สมาชิกเต็มใจทำงานร่วม

2. ทฤษฎี สถานการณ์ (Situation Theory)

หลักการ ผู้นำเกิดจากสถานการณ์บางอย่างผลักดันให้บุคคลต้องแสดงบทบาทผู้นำ หรือต้องพัฒนาลักษณะผู้นำขึ้นมา (ฮิตเลอร์ มุสโสลินี หรือ เหมาเจ๋อตุง) ทฤษฏีนี้ยอมรับความสัมพันธ์ของผู้นำและกลุ่ม ผู้นำต้องครองใจปวงชนผู้แวดล้อม

3. ทฤษฎีปฏิสัมพันธ์ (Interaction Theory)

หลักการ ความเป็นผู้นำเกิดจากปฏิสัมพันธ์ ความเป็นผู้นำ+สถานการณ์

(วิเคราะห์จากคุณสมบัติผู้นำ และ สถานการณ์ ) เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ความเป็นผู้นำก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ผู้นำจึงมีได้หลายคน ผลัดเปลี่ยนกันไป

ทฤษฎีอื่นๆ ในเรื่อง ภาวะผู้นำ โดย Terry สรุป ไว้ 4 ทฤษฎี คือ

1. ทฤษฎีสนับสนุน (supporting Theory) เป็นทฤษฎีการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยผู้นำเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงาน มีโอกาสร่วมวางแผนและตัดสินใจในพันธกิจขององค์การ (ผู้นำต้องยอมรับในความรู้ความสามารถของผู้ร่วมงาน )

2. ทฤษฎีทางสังคมวิทยา(Sociological Theory) มีความเชื่อว่าผู้นำต้องแสดงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ร่วมงานโดยมุ่งจัดหา วัสดุ อุปกรณ์ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน จาก ทฤษฎีนายหลวงของเรามีความคิดที่จะพัฒนาบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา จัดหาโครงการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ดังเช่น ฌศษฐกิจพอเพียงและอีกหลายๆโครงการ

3. ทฤษฎีทางจิตวิทยา( Psychological Theory) มีความเชื่อว่าผู้นำต้องพัฒนาระบบสร้างแรงจูงใจ มีจิตวิทยาสูง ใช้เทคนิคกระตุ้นให้บุคคลปฏิบัติงานด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อองค์การ

4. ทฤษฎียึดถืออำนาจ (Autocratic Theory) มีความเชื่อในการใช้อำนาจ ของตนเองในการบริหาร สั่งการ บีบบังคับให้ปฏิบัติงาน โดยไม่ต้องการเหตุผลในการอธิบายความ


ข้อ2 นักศึกษาจงค้นคว้าและศึกษาพร้อมสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดภาวะผู้นาของ

ศาสตราจารย์ ดร.นพ. กระแส ชนะวงศ์ เจ้าของรางวัล รามอนแมกไซไซสาขาผู้นาชุมชนสานัก

นายกรัฐมนตรีผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งวิทยาลัยบัณฑิต เอเซีย โดยสังเขป (50 คะแนน

ตอบ นพ. กระแส ชนะวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์กระแส ชนะวงศ์ เกิดที่อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ในครอบครัวชาวนาที่ยากจน ในวัยเด็กต้องดิ้นรนทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนหนังสือมาตั้งแต่อายุ 13 ปี แต่ในที่สุดก็สามารถจบการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลในปี 1960 แต่แทนที่จะประกอบอาชีพในเมืองหลวงอย่างสุขสบาย นายแพทย์กระแส กลับอุทิศตัวโดยใช้วิชาชีพเพื่อดูแลรักษาประชาชนที่ยากจนในชนบทห่างไกล โดยหลังจากจบการศึกษา นายแพทย์กระแสก็ได้กลับไปบ้านเกิดเพื่อตั้งสถานพยาบาลแห่งแรกในอำเภอพล ซึ่งแต่เดิมไม่มีหมอหรือสถานพยาบาลใดๆ มาก่อน นายแพทย์กระแสเป็นผู้เริ่มต้นบุกเบิกการรักษาพยาบาลประชาชนที่ยากจนในอำเภอพล โดยบุกเบิกทำทุกอย่างแม้แต่การซ่อมและทาสีตัวอาคารด้วยตนเอง ตลอดจนได้ชักชวนให้ ข้าราชการ ชาวบ้าน และพ่อค้าในท้องถิ่น ช่วยกันสนับสนุนการตั้งสถานพยาบาลแห่งนี้ ผลงานจากการอุทิศตัวของนายแพทย์กระแสได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง และนายแพทย์กระแสได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาผู้นำชุมชนในปี 1973

มีเบื้องหลังที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ

1) ได้รับแนวคิดพัฒนาจากนักพัฒนาชาวอเมริกาเชื้อสายจีน

2) ได้รับอิทธิพลการพัฒนาแบบญี่ปุ่น

3) เน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน

4) เน้นเรื่องภาวะผู้นำ

5) ให้ความสามารถต่อสตรีในการพัฒนา