สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราเป็นผู้ที่มีเงินได้ในระหว่างปีที่ผ่านมาคือ “การเสียภาษี” และเมื่อครบ 1 ปีภาษี ประชาชนที่มีเงินได้ มีหน้าที่ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ สำหรับปีภาษี 2565 จะมีรายละเอียดและวิธีคำนวณภาษี รวมถึงลดหย่อนอะไรได้บ้าง FINNOMENA สรุปมาให้คุณแล้ว! Show
บุคคลธรรมดาต้องยื่นแบบภาษีเมื่อไร?สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินได้ ปกติการยื่นแบบแสดงรายการ จะยื่นปีละ 1 ครั้ง (ยื่นแบบฯ ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป) แต่ถ้าเงินได้บางลักษณะ เช่น การให้เช่าทรัพย์สิน เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เงินได้จากการรับเหมา เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ เป็นต้น จะต้องยื่นแบบฯ ตอนกลางปี (สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นใน 6 เดือนแรก ภายในเดือนกันยายนของทุกปี)
บุคคลธรรมดาต้องมีเงินได้เท่าไร ถึงจะต้องเสียภาษีเกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ “ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี” แบ่งเป็นสำหรับคนโสดและคนที่สมรสแล้ว หลักการคำนวณภาษี แบบสรุปสั้น ๆ คือ
โดยเงินได้สุทธิ สามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งหมดมารวมกัน พร้อมหาค่าลดหย่อนต่าง ๆ (เช่น ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน) และนำมาหักออกจากรายได้ทั้งหมด เหลือเท่าไรคือเงินได้สุทธิที่จะนำไปคำนวณภาษีแบบขั้นบันได
วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปีการคำนวณภาษีให้ทำเป็น 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่หนึ่งคำนวณหาจำนวนภาษีตาม วิธีคิดอัตราภาษีเงินได้แบบขั้นบันได อัตราภาษีเงินได้ แบบขั้นบันได
ขั้นตอนที่สองกรณีที่จะต้องคำนวณภาษีตามวิธีคิดแบบเหมา คือต่อเมื่อมีรายได้ทางอื่นนอกเหนือจากเงินได้ประเภทที่ 1 หรือเงินเดือน หากรายได้จากทางอื่นทั้งหมดมีจำนวนรวมกันตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป ให้คำนวณในอัตราร้อยละ 0.5 ของยอดเงินได้พึงประเมิน
โดยวิธีนี้มีข้อควรระวังคือ
ขั้นตอนที่สามเปรียบเทียบและสรุป โดยให้เทียบกันระหว่าง 2 วิธีนี้ คือ วิธีคิดแบบขั้นบันได กับ วิธีคิดแบบเหมา โดยวิธีใดคำนวณแล้วเสียภาษีสูงกว่า ให้เลือกเสียภาษีตามวิธีนั้น ลดหย่อนภาษีจากอะไรได้บ้าง?กลุ่มที่ 1 ค่าลดหย่อนพื้นฐาน
กลุ่มที่ 2 ค่าลดหย่อน/ยกเว้น ด้านการออมและการลงทุน
กลุ่มที่ 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายภาครัฐ
กลุ่มที่ 4 ค่าลดหย่อนเพื่อบริจาค
อ่านเพิ่มเติม ลดหย่อนภาษี: ทุกเรื่องที่ต้องรู้ รวบรวมมาให้แล้ว! วางแผนลดหย่อนภาษีจากการออมและการลงทุนหากเราพอจะรู้แล้วว่า เงินได้ของเราในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณเท่าไร อยู่ขั้นบันไดไหนและต้องเสียภาษีในอัตราภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ จะสามารถนำมาวางแผนลดหย่อนได้ ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ควรจะเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ที่สามารถวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้ดังนี้ ลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันจากประกันชีวิต ประกันแบบสะสมทรัพย์ ประกันสุขภาพตัวเองและบิดามารดา ประกันชีวิตแบบบำนาญ โดยแต่ละประเภทจะลดหย่อนได้ไม่เท่ากัน ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) โดยกองทุนแต่ละแบบจะลดหย่อนได้แบบละไม่เกิน 30% ของรายได้รวมทั้งปี เช็กได้จาก เครื่องคำนวณ SSF RMF หากต้องการเปรียบเทียบดูความแตกต่างระหว่างการลดหย่อนภาษีจากประกันและกองทุนรวม ว่าแบบไหนเหมาะกับเราและลดหย่อนได้เท่าไรบ้าง แนะนำให้อ่านบทความนี้เพิ่มเติม ประกัน VS กองทุนรวม สำหรับใครที่ลงทุนในหุ้น และได้รับเงินปันผลด้วย แนะนำให้อ่านบทความภาษีเงินปันผลเพิ่มเติม ได้ที่ เครดิตภาษีเงินปันผล คืออะไร? แล้วเราต้องยื่นไหม? I TAX เพื่อนๆ EP4 หากพร้อมแล้วสามารถเข้าไปยื่นภาษีแบบออนไลน์ ได้ที่ https://rdserver.rd.go.th
FINNOMENA Admin แท็ก: ArticleBasicKnowledgeLong ContentPersonalFinance101Tax Saving Fundคำนวณภาษีประหยัดภาษีภาษียื่นภาษีลดหย่อนภาษีวางแผนภาษี |