จากบทความที่ผ่านมา เราพูดถึงเรื่อง อุปกรณ์ต่างๆในระบบนิวเมติก กันมาแล้ว ในบทความนี้จึงอยากนำเสนอเกี่ยวกับสิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญ หรือเป็นหัวใจหลักในการทำงานของระบบนิวเมติก และเป็นสิ่งที่ระบบนิวเมติกจะขาดหรือมองข้ามไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ ความดันลม ความดัน ( Pressure; P ) หมายถึง แรงกดดันบรรยากาศต่อพื้นที่ 1 หน่วยพื้นที่ เครื่องมือวัดความดันได้แก่ แมนนอมิเตอร์ (Manometer) บารอมิเตอร์ (Barometer) ใช้เป็นเกจ (Gauge) วัดความดัน หน่วยวัดความดันทางเทคนิคหรือวัดเป็นบรรยากาศทางเทคนิค (At) หรือ Atmospherel มีหลายหน่วย เช่น กิโลปอนด์ต่อตารางเซนติเมตร (kp/cm2) หรือนิวตันต่อตารางเมตร (N/m2) หรือปอนด์ต่อตารางนิ้ว (lb/in2) หรือพาสคัล (Pascal) หรือกิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร (kgf/cm2) ความดันอากาศที่วัดเทียบกับสุญญากาศสัมบูรณ์เรียกว่า ความดันสัมบูรณ์ (Absolute Pressure) ส่วนความดันอากาศที่วัดเทียบกับความดันอากาศ ความดันเกจ (Gauge Pressure) โดยทั่วไปจะใช้ความดันสัมบูรณ์ เมื่อใช่สมการ ด้านทฤษฎีทางนิวเมติก ในขณะที่โดยปกติจะใช้ความดันสัมบูรณ์เมื่อสมการด้านทฤษฎีทางนิวเมติก ในขณะที่โดยปกติจะใช้ ความดันเกจแสดงค่าความดันอากาศ ดังนั้นเกจวัดความดันจะแสดงค่าความดันที่เทียบกับความดันอากาศ ดังนั้นเกจวัดความดันจะแสดงค่าความดันที่เทียบกับความดันบรรยากาศซึ่งมีค่าเท่ากับ 0 (ศูนย์) กิโลกรัมแรงต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งหน่วยของความดันจะมีดังนี้
เหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือผู้ใช้งานในระบบนิวเมติกจำเป็นต้องทำความเข้่าใจและจดจำค่าต่างๆเหล่านี้ เพื่อลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน และการเลือกใช้อุปกรณ์นิวเมติกต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ช่วงนี้เราพูดถึงความดันของลมในระบบนิวเมติกบ่อย อย่างที่เราทราบกัน ลมหรือ ความดันในระบบนิวเมติก เป็นตัวกลางหรือเป็นหัวใจของระบบนิวเมติก ดังนั้นเราจึงควรทราบข้อมูล รวมถึงประเภทและความดันลมที่ใช้แต่ละระบบ เพื่อที่เราจะสามารถเลือกใช้หรือควบคุมความดันใน ระบบนิวเมติกให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง ความดันลมอัดที่นำไปใช้ในในปัจจุบันแบ่งออกได้ 3 ระดับดังนี้
ทั้ง 3 ระดับก็เป็นความดันในระบบนิวเมติก ที่เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานหรือโหลดในระบบที่เราออกแบบหรือปรับปรุงระบบเดิมได้ เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานที่สุด ความดัน (อังกฤษ: pressure; สัญลักษณ์คือ p) เป็นปริมาณชนิดหนึ่งในทางฟิสิกส์ หมายถึง แรงที่กระทำตั้งฉากซึ่งทำโดยของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส ต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ของสารใด ๆ (ของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส) ความดันเป็นปริมาณสเกลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณที่มีแต่ขนาดไม่มีทิศทาง จากความหมายของความดันข้างต้นสามารถเขียนเป็นสูตรคณิตศาสตร์ (โดยทั่วไป) ได้ดังนี้ หรือ
เนื่องจาก F มีหน่วยเป็น "นิวตัน" (N) และ A มีหน่วยเป็น "ตารางเมตร" (m2) ความดันจึงมีหน่วยเป็น "นิวตันต่อตารางเมตร" (N/m2; เขียนในรูปหน่วยฐานว่า kg·m−1·s−2) ในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) มีการคิดค้นหน่วยของความดันขึ้นใหม่[1] เรียกว่า ปาสกาล (pascal, Pa) และกำหนดให้หน่วยชนิดนี้เป็นหน่วยเอสไอสำหรับความดัน โดยให้ 1 ปาสกาลมีค่าเท่ากับ 1 นิวตันต่อตารางเมตร (หรือ แรง 1 นิวตัน กระทำตั้งฉากกับพื้นที่ขนาด 1 ตารางเมตร) เพื่อให้เห็นภาพ ความดัน 1 ปาสกาลจะมีค่าประมาณ แรงกดของธนบัตรหนึ่งดอลลาร์ที่วางอยู่เฉย ๆ บนโต๊ะราบ ซึ่งนับว่าเป็นขนาดที่เล็กมาก ดังนั้นในชีวิตประจำวัน ความดันทั้งหลายมักมีค่าตั้งแต่ "กิโลปาสกาล" (kPa) ขึ้นไป โดยที่ 1 kPa = 1000 Pa หน่วยของความดันนอกจากปาสคาลแล้ว ยังมีหน่วยชนิดอื่น ๆ เช่น บาร์, บรรยากาศ (atm), เอที,ทอร์, ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (psi) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการใช้ในแต่ละสถานการณ์ ค่าเปรียบเทียบของหน่วยแต่ละชนิดแสดงในตาราง |