กระบวนการพ ฒนาเว บไซต ม ก ข นตอน อะไบ าง

ใบความรู้ที่2 กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ 1.กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ แนวทางหลกัการออกแบบเวบ็ ไซตส์ามารถแบ่งออกเป็นข้นัตอนต่าง ๆ เพื่อใหเ้หมาะสมกบัผู้ เริ่มตน้ ใชเ้ป็นแนวทาง ในการสร้างและพฒันาเวบ็ ไซต์ • การวางแผน การวางแผนนับว่ามีความส าคัญมากในการสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้การทา งานในข้นัตอน ต่าง ๆ มีแนว ทางที่ชดัเจนและสามารถปฏิบตัิไดต้ามที่ต้งัเป้าไว้ซ่ึงประกอบดว้ย • การกา หนดเนื้อหาและจุดประสงค์ของเว็บไซต์การกา หนดเน้ือหาและจุดประสงคข์องเวบ็ ไซตท์ ี่จะ สร้าง นบัเป็นสิ่งสา คญัอยา่งมากในการเริ่มตน้ สร้างเวบ็ ไซตเ์ลยทีเดียวเพื่อให้เห็นภาพว่าเราต้องการ น าเสนอข้อมูลแบบใด เช่น เว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร การบริการด้านต่าง ๆ หรือขายสินค้า เป็ น ตน้เมื่อสามารถกา หนดจุดประสงคข์องเวบ็ ไซตไ์ดแ้ลว้เงื่อนไขเหล่าน้ีจะเป็นตวักา หนดโครง สร้าง รูปแบบรวมถึงหน้าตา และสีเว็บไซต์ของเราด้วย • การกา หนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้การสร้างและออกแบบเว็บไซต์ได้รับความนิยม การก าหนด กลุ่มเป้าหมายในการเข้าชมเว็บไซต์ก็นับว่ามีส่วนส าคัญไม่น้อย เช่น เว็บไซต์ส าหรับเยาวชน นกัเรียน นกัศึกษาในการคน้หาขอ้มูล หรือเวบ็ ไซตส์า หรับบุคคลทวั่ ไปที่เขา้ไปใชบ้ริการต่าง ๆ เป็น ต้น • การเตรียมข้อมูลเน้ือหาหรือขอ้มูลจดัวา่เป็นสิ่งที่เชิญชวนใหผ้อู้ื่นเขา้มาเยยี่มชมเวบ็ ไซต์และตอ้ง ทราบว่าข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ สามารถน ามาจากแหล่งใดบ้าง เช่น การคิดน าเสนอข้อมูลด้วยตัวเอง หรือน าข้อมูลที่น่าสนใจมาจากสื่ออื่น เช่น หนังสือพิมพ์ แมกกาซีน เว็บไซต์ และที่ส าคัญ ขอ อนุญาตเจา้ของบทความก่อนเพื่อป้องกนัเรื่องลิขสิทธ์ิดว้ย • การเตรียมสิ่งต่าง ๆ ที่จ าเป็ น ในการออกแบบเว็บไซต์ต้องอาศัยความสามารถต่าง ๆ เช่น โปรแกรม ส าหรับสร้าง เว็บไซต์ ภาพเคลื่อนไหว มัลติมีเดีย การจดโดเมนเนม การหาผู้ให้บริการรับฝาก เว็บไซต์ (Web Hosting) เป็ นต้น • การจัดโครงสร้างข้อมูลเมื่อไดข้อ้มูลต่าง ๆ เช่น กา หนดเน้ือหาและจุดประสงคข์องเวบ็ ไซต์การ กา หนดกลุ่มเป้าหมายการเตรียมขอ้มูลการเตรียมสิ่งต่าง ๆ ที่จา เป็นจากข้นัแรกเรียบร้อยแลว้ ใน ข้นัตอนน้ีเราจะจดัระบบเพื่อใชเ้ป็นกรอบสา หรับการออกแบบและดา เนินการในข้นัตอนต่อไป ซึ่ง มีรายละเอียด ดงัน้ี • โครงสร้างและสารบัญของเว็บไซต์ • การใช้ระบบน าผู้เข้าชมไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์หรือที่เราเรียกว่าระบบน าทาง (Navigation) • องค์ประกอบที่ต้องน ามาใช้ เช่น สื่อมัลติมีเดีย ภาพกราฟิ ก แบบฟอร์มต่าง ๆ • การก าหนดรูปแบบและลักษณะของเว็บเพจ

• การก าหนดฐานข้อมูล ภาษาสคริปต์หรือแอปพลิเคชันที่น ามาใช้ในเว็บไซต์ • การบริการเสริมต่าง ๆ • การออกแบบเว็บไซต์นบัเป็นข้นัตอนในการออกแบบรูปร่าง โครงสร้างและลักษณะ ทางด้านกราฟิ กของหน้าเว็บเพจโดย โปรแกรมที่เหมาะสมในการออกแบบคือ Photoshop หรือFireworks ซึ่งจะช่วยในการสร้างเค้าโครงของหน้าเว็บและองค์ประกอบ ต่าง ๆ เช่น ชื่อเว็บไซต์โลโก้ รูปไอคอน ปุ่ มไอคอน ภาพเคลื่อนไหว แบนเนอร์โฆษณา เป็ นต้น<![endif]> • ในการออกแบบเวบ็ ไซตน์ ้นัยงัตอ้งคา นึงถึงสีสันและรูปแบบของส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ ไม่ใช่ภาพกราฟิกเช่น ขนาดของตวัอกัษร สีของขอ้ความ สีพ้ืน ลวดลายของเส้นกรอบ เพื่อความสวยงามและดึงดูดผู้เยี่ยมชมด้วย 2. เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจต้องพิจารณา 3 ประการ คือ 1.ออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นเนื้อหา เวบ็ ไซตบ์างประเภทจะเนน้เน้ือหา หรือขอ้ความเป็นหลกัภายในเวบ็ ไซตจ์ะประกอบไปดว้ย ตัวหนังสือ มีภาพประกอบบ้างแต่ไม่มาก เช่น เอ็นไซโคพีเดีย ดิกชันนารี ฯลฯ 2.ออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นภาพกราฟิ ก เวบ็ ไซตช์นิดน้ีจะใชภ้าพหรือกราฟิกในการนา เสนอเรื่อง มีขอ้ความบา้งเลก็นอ้ย 3.ออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นทั้งภาพและเนื้อหา เว็บไซต์ประเภทนี้จะให้น ้าหนักทั้งข้อความ และภาพเท่าๆ กัน 3.ส่วนประกอบของหน้าเว็บเพจ เราสามารถจ าแนกส่วนประกอบของหน้าเว็บเพจเป็ น 3 ส่วน ดงัน้ี 1.ส่วนหัว (Page Header) น่าจะอยู่บริเวณบนสุดของหน้าเว็บเพจ เป็ นส่วนที่แสดงชื่อเว็บไซต์โลโก้ แบน เนอร์โฆษณาลิงก์ส าหรับข้ามไปยังหน้าเว็บอื่น 2.ส่วนเนื้อหา (Page Body) จะอยู่บริเวณตอนกลางของหน้าเว็บเพจ ซ่ึงเป็นส่วนที่แสดงเน้ือหาภายในหนา้ เวบ็เพจน้นั โดยประกอบดว้ยขอ้ความ ขอ้มูล ภาพเคลื่อนไหวเป็นตน้ 3.ส่วนท้าย (Page Footer) จะอยู่บริเวณด้านล่างสุดของหน้าเว็บเพจ ส่วนมากใชส้า หรับลิงกข์อ้ความส้ัน ๆ เข้าใจง่าย หรือจะมีชื่อเจ้าของเว็บไซต์ อีเมลแอดเดรสของผู้ดูแลเว็บไซต์ส าหรับติดต่อกับทางเว็บไซต์

4.แนวคิดในการออกแบบ ดูจากเว็บไซต์อื่นเพื่อเป็ นตัวอย่าง การดูจากเวบ็ ไซตอ์ื่นบนอินเตอร์เน็ตเพื่อศึกษาเป็นตวัอยา่งน้นั นบัเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด แต่ก็ควรนา ไปประยกุตใ์ชใ้หเ้หมาะสมกบัเน้ือหาและกลุ่มเป้าหมายของเราดว้ย ศึกษาจากสื่อสิ่งพิมพใ์นรูปแบบต่าง ๆ สื่อสิ่งพิมพใ์นที่น้ีไดแ้ก่แมกกาซีน โปสเตอร์โฆษณา โบรชัวร์ หรือหนังสือบางเล่มที่มีรูปแบบและจุดดึงดูดความสนใจ สามารถน ามาประยุกต์ใช้ในเว็บไซต์ของเราได้ เช่นกัน 5.กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ การที่จะสร้างพัฒนาเว็บเพจและน าเว็บไซต์เข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เวบ็ ใหค้นอื่นเขา้มาเยยี่มชมไดน้ ้นัมี กระบวนการที่ผพู้ฒันาเวบ็ ไซตจ์ะตอ้งศึกษาและปฏิบตัิตาม ดงัน้ี 1.การวางแผนการท างาน การวางแผนการทา งานเปรียบเหมือนเขม็ทิศที่จะช้ีทางให้เรารู้วา่ควรจะเดินทางไปในทิศทางใดเพื่อ ไม่ให้หลงทาง การสร้างเวบ็ ไซตก์ ็เหมือนกนัจา เป็นตอ้งมีการวางแผนการทา งานให้รอบดา้นก่อนที่จะเริ่มลงมือทา โดยมีหลกัที่ตอ้งกา หนดในการวางแผน ดงัน้ี 1.ระยะเวลาการท างาน เป็ นการก าหนดช่วงเวลาที่จะใช้ในการสร้างเว็บ อาจก าหนดเป็ นรายวันหรือราย สัปดาห์ก็ไดข้้ึนอยกู่บัองคป์ระกอบดา้นอื่นๆ เช่น ความยากง่ายของเวบ็ ไซต์จา นวนผูร้่วมงาน ประสิทธิภาพ การท างานของแต่ละคน ฯลฯ 2.ทีมงานหรือผู้ร่วมงาน ปกติการสร้างเว็บต้องท างานเป็ นทีม อย่างน้อยต้องมีผู้เชี่ยวชาญ 3 ฝ่ าย คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา HTML หรือโปรแกรมสร้างเว็บเพจผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและตกแต่งภาพ และ ผเู้ชี่ยวชาญดา้นเน้ือหาหรือบรรณาธิการ 3.งบประมาณ การก าหนดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าจ้าง ค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์ ฯลฯ ในกรณีที่จ้างท าเว็บเพจ ผู้รับจ้าง จะเสนอราคามาโดยมีท้งัแบบระบุเป็นหนา้และแบบเหมารวม 4.อุปกรณ์หรือเครื่องมือช่วยงาน กรณีสร้างเว็บเพจเองจะมีอุปกรณ์ที่ ส าคัญ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่อง สแกนเนอร์และรูปภาพประกอบเว็บเพจเป็ นต้น 5.ปัญหาและอุปสรรค ในแผนงานควรระบุปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดข้ึนซ่ึงจะส่งผลทา ใหง้านล่าชา้หรือ ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ผู้ร่วมงานป่ วยไม่สามารถมาท างานได้พร้อมท้งัหาแนวทางแกไ้ขไวล้่วงหนา้ 2.การรวบรวมและวิเคราะห์โครงสร้างข้อมูล เป็นข้นัตอนหน่ึงที่ต่อจากการวางแผน เป็ นการแผนงานไปปฏิบัติ โดยการรวบรวมข้อมูลที่ จา เป็นตอ้งใชใ้นการสร้างเวบ็ตามหวัขอ้ที่เลือกไว้ท้งัเน้ือหา ภาพ เสียงและภาพเคลื่อนไหวเก็บรวบรวม เป็ นไฟล์ข้อมูล หรือใส่แฟ้มแยกเป็ นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการน ามาใช้งาน

3.การออกแบบและการสร้างเว็บไซต์ เป็นข้นัตอนการนา ขอ้มูลท้งัหมดมาสร้างเป็นเวบ็ ไซตด์ว้ยภาษา HTML หรือเครื่องมือในการสร้าง เว็บอื่นๆ หลักส าคัญในการออกแบบและสร้างเว็บ คือ 1.ก าหนดจุดประสงค์เว็บไซต์ โดยวางเป้าหมายของผู้เข้าชมว่าจะเป็ นกลุ่มใด 2.เลือกเว็บเบราว์เซอร์ เป็ นการเลือกเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้แสดงผลเว็บไซต์ จะได้ก าหนดขนาดกว้าง ยาว และ ลักษณะการวางองค์ประกอบเว็บให้สวยงามและแสดงผลได้เร็ว 3.วางโครงร่างของเวบ็ ไซต์กา หนดโครงร่างวา่มีท้งัหมดกี่เวบ็เพจแต่ละเวบ็เพจมีเน้ือหาอะไรบา้งควรเขียน เป็ นแผนผังเว็บไซต์ออกมาบนกระดาษ 4.ออกแบบหนา้ตาเวบ็เป็นข้นัตอนในการลงมือสร้างเวบ็เพจแต่ละหนา้ตามที่ไดอ้อกแบบไว้พร้อมกบั ทดสอบผ่านเว็บเบราว์เซอร์(แบบ Offline) 4.ทดสอบและปรับปรุงเว็บไซต์ หมายถึงการทดสอบแบบออฟไลน์ โดยที่ยังไม่ได้น าเว็บไซต์เข้าสู่อินเทอร์เน็ต แต่ก็สามารถแสดง ผลได้เหมือนจริงผ่านเว็บเบราว์เซอร์เช่น IE เพื่อตรวจสอบตัวอย่างเว็บที่สร้างไว้ เช่น ขนาดตัวอักษร ขนาด ภาพ การใช้สี ตาราง ฯลฯ ว่าเหมาะสมหรือไม่ พร้อมกับการปรับปรุงจนเป็ นที่น่าพอใจ 5.เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เป็นการเผยแพร่ใหค้นทวั่ ไปไดรู้้จกัหรือเรียกว่าการอัพโหลด (Upload) โดยเจ้าของเว็บจะต้องจด ทะเบียนโดเมนเนม และเช่าพ้ืนที่โฮสต์ก็สามารถนา เวบ็เพจอพัโหลดข้ึนสู่อินเทอร์เน็ต และประชาสัมพันธ์ ใหค้นทวั่ ไปไดรู้้จกั การที่จะท าให้คนรับรู้และเขา้มาใชบ้ริการเวบ็ ไซตไ์ดม้ากน้นัจะตอ้งมีการ ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและใช้เวลาพอสมควร และถ้าจะให้ดีควรมีเคาน์เตอร์ (Counter) หรือตัวจดสถิติ ผู้เข้าชม ก็จะช่วยให้ประเมินได้ว่าเว็บไซต์ของเราได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด 6.การพัฒนาเว็บไซต์ เป็นการปรับปรุงเน้ือหา ภาพประกอบหรืออพัเดท (Update) เวบ็ ไซต์ถือเป็นข้นัตอนสา คญเพราะั ในโลกของอินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ผู้ชมเว็บมักจะใช้เวลาในการค้นหาและ เปิดผา่นเวบ็ ไซตต์ ่างๆ อยา่งรวดเร็วหากพบวา่เวบ็ ไซตข์องเราไม่ไดเ้ปลี่ยนแปลงหรือมีขอ้มูลใหม่ๆ เพิ่มข้ึน เลย ผู้เข้าชมเว็บก็จะลดจ านวนลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็ นเว็บที่ไม่มีผู้คนเข้ามาเลยหรือเป็ นเว็บที่ตายแล้ว ดงัน้นัการปรับปรุงเวบ็ ไซตอ์ยเู่สมออาจจะวนัละคร้ัง หรือสัปดาห์ละคร้ัง โดยเพิ่มขอ้มูลข่าวสาร ใหม่ๆ อยเู่ป็นประจา ก็จะทา ใหเ้วบ็ ไซตท์นัสมยัผคู้นเขา้ชมเป็นประจา และมากข้ึนจนพฒันาเป็นเวบ็ ไซต์ ยอดนิยมได้ในที่สุด