เมื่อมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หรือพลาดท่าไม่ว่ากรณีใด ๆ แล้วกินยาคุมฉุกเฉินไปจะมีโอกาสท้องอยู่ไหมนะ Show
ยาคุมฉุกเฉิน จัดเป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดแบบหนึ่งที่มักจะใช้ในกรณีลืมป้องกันด้วยวิธีอื่น หรือกรณีถูกข่มขืน หรือป้องกันด้วยถุงยางอนามัยแล้ว แต่เกิดถุงยางแตก รั่วหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเมื่อกินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปแล้วสาว ๆ ส่วนใหญ่ก็มักสงสัยว่าจะยังมีโอกาสท้องอยู่ไหม เพราะบางทีกินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนไม่มา เอาเป็นว่ามาหาคำตอบกันเลย กินยาคุมฉุกเฉินมีโอกาสท้องไหม ต้องบอกว่าแม้เราจะกินยาคุมฉุกเฉินถูกวิธีเป๊ะ ๆ ก็ยังคงมีโอกาสท้องได้อยู่ดี เพราะการกินยาคุมฉุกเฉินหรือการคุมกำเนิดด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% อย่างยาคุมฉุกเฉินก็มีอัตราการป้องกันการตั้งครรภ์อยู่ที่ 75-89% เท่านั้น และโอกาสท้องก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ รวมไปถึงสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เป็นเพราะพลาดตรงไหน แม้จะกินยาคุมฉุกเฉินก็ยังมีโอกาสท้องได้ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ 1. กินยาคุมฉุกเฉินช้าเกินไปโดยเฉพาะหากกินยาคุมฉุกเฉินหลังวันที่ 3 ของการมีเพศสัมพันธ์ โอกาสการตั้งครรภ์ก็จะยิ่งมีมากขึ้น เพราะในช่วงเวลานี้อสุจิอาจปฏิสนธิกับไข่ไปแล้ว 2. มีเพศสัมพันธ์ซ้ำหลังกินยาคุมฉุกเฉินหากกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วชะล่าใจ แล้วมีเพศสัมพันธ์ซ้ำในวันเดียวกัน ก็อาจมีสิทธิ์ท้องได้ เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ช่วยป้องกันการท้องได้ 100% ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ซ้ำไปอีก 3. มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไข่ตก4. มีอาการป่วยหลังกินยาคุมฉุกเฉินทันทีเช่น อาเจียน หรือท้องเสีย ภายใน 2 ชั่วโมง หลังกินยาเข้าไป ร่างกายอาจดูดซึมตัวยาได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นจึงอาจเสี่ยงตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งถ้าเกิดกรณีนี้ก็ควรรีบปรึกษาเภสัชกรว่าควรกินยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ซ้ำหรือไม่ 5. มีภาวะอ้วน หรือ BMI เยอะมีการศึกษาที่พบว่า ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินจะยิ่งลดลงในผู้หญิงที่มี BMI เยอะ (มากกว่า 30) หรือมีภาวะน้ำหนักเกิน 80 กิโลกรัม ซึ่งทำให้มีโอกาสท้องได้แม้จะกินยาคุมฉุกเฉินครบโดสและกินอย่างถูกวิธี วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง แบบชนิด 2 เม็ด : วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง คือ กินยาคุมฉุกเฉินที่ประกอบด้วยยาฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเทริล (Levonorgestrel) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ขนาด 0.75 มิลลิกรัม เม็ดแรกให้เร็วที่สุด คือภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ และควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 2 หลังจากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง แบบชนิด 1 เม็ด : หากเลือกกินยาคุมฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด ที่ประกอบด้วยยาฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเทริล (Levonorgestrel) 1.5 มิลลิกรัม ก็ให้กินยาเม็ดเดียวภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ ต้องย้ำว่ายิ่งกินยาคุมฉุกเฉินเร็วเท่าไรก็ยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ภายใน 12 ชั่วโมงแรกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แต่ถ้ากินช้ากว่านี้โอกาสตั้งครรภ์จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนจะมาตอนไหน การกินยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ โดยประจำเดือนอาจมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ 1-2 สัปดาห์ หรือหากประจำเดือนไม่มานานกว่านั้นแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ทันที อย่างไรก็ดี การกินยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดท้อง เลือดออกกะปริบกะปรอย เจ็บคัดเต้านมได้ในบางคน แต่โดยปกติอาการจะหายได้เองใน 1-2 วัน หรือขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน
ดังนั้นก่อนรับประทานยาคุมฉุกเฉินควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรก่อนนะคะ ผลข้างเคียงยาคุมฉุกเฉิน สาว ๆ ต้องรู้ไว้ บทความที่เกี่ยวข้องกับยาคุมฉุกเฉินกินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนไม่มา หรือประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์นอกมดลูก หรืออาจเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้ยา ดังนั้น หากกินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดกระปริบกระปรอยนานกว่า 1 สัปดาห์ และมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมด้วย ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดโดยเร็ว ประเภทของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมี 2 ประเภท ได้แก่
กินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนไม่มา เกิดจากอะไรยาคุมฉุกเฉิน คือ ยาคุมกำเนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เผชิญเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ถุงยางอนามัยแตกขณะมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยหลุดจากการสวมใส่ไม่ถูกวิธี รวมไปถึงผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่มีการป้องกัน หรือลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่ 3 เม็ดขึ้นไป ยาคุมฉุกเฉินมีกลไกการออกฤทธิ์ที่ช่วยชะลอการตกไข่ ช่วยไม่ให้อสุจิเดินทางมาผสมกับไข่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลให้ประจำเดือนไม่มาหรือมากว่าช้ากว่าปกติ จนผู้ใช้สงสัยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ สาเหตุที่กินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนไม่มาอาจเกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ในยาคุมเข้าไปเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายเพื่อช่วยชะลอการตกไข่ ซึ่งอาจกระตุ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน ส่งผลให้ประจำเดือนเดือนถัดไปคลาดเคลื่อน นอกจากนี้ ประจำเดือนจะมาช้าหรือเร็วยังขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคลด้วย หากเป็นผู้ที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว หรือเครียดจัดในช่วงนั้น อาจทำให้ประจำเดือนรอบถัดไปมาช้าหรือคลาดเคลื่อนหลายวัน สำหรับผู้ที่มีประจำเดือนปกติ รอบเดือนถัดไปประจำเดือนอาจมาเร็วหรือล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ หากสงสัยว่าตั้งครรภ์หรือไม่ อาจตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง หรือเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดโดยคุณหมอ ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน มีดังนี้
อาการหลังจากใช้ยาคุมฉุกเฉิน ที่ควรเข้าพบคุณหมอหากเกิดอาการต่อไปนี้หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) หรือยาคุมฉุกเฉินยูริพริสทอล อะซิเตท (Ulipristal Acetate) 2-3 ชั่วโมง ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพจากคุณหมอทันที เพราะอาจเสี่ยงเกิดภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆนอกจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ยังมีวิธีคุมกำเนิดในรูปแบบอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ ดังนี้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด |