น้ำมันดีเซล "พรีเมี่ยม" ความคุ้มค่าที่ตาเปล่ามองไม่เห็น01 ต.ค. 2564 ผู้เข้าชม 2,694 Show
เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงเกรดเดียวให้ผู้บริโภคเลือกใช้อีกต่อไป ด้วยการแข่งขันในเรื่องของคุณภาพน้ำมัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้อย่างอิสระ และมีประสิทธิภาพต่อเครื่องยนต์สูงสุด จึงทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงถูกจัดสรรเป็นเกรดต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกใช้งาน เช่นเดียวกับน้ำมันดีเซล ในปัจจุบันได้มีตัวเลือกให้กับผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ทั้ง น้ำมันดีเซล พรีเมี่ยม และน้ำมันดีเซลทั่วไป ทั้งแบบ น้ำมัน B7น้ำมัน B10 และน้ำมัน B20 ซึ่งข้อสงสัยที่ตามมาสำหรับการใช้งานคือ แบบพรีเมี่ยม และทั่วไปมีความแตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้ เราพร้อมตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง และเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลที่แตกต่างกัน สารบัญ
ความแตกต่างระหว่าง น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม และ น้ำมันดีเซล ทั่วไปหากพูดถึงข้อแตกต่าง ข้อเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดคือ อัตราในการเร่งความเร็ว และความแรงของเครื่องยนต์ แม้จะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดเดียวกัน แต่น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมกลับมีความพิเศษที่เหนือกว่า แม้ว่าราคาน้ำมันดีเซลจะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย นั่นเป็นเพราะสารต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าปกติ ดังนั้นราคาที่แตกต่างจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ในการเลือกใช้น้ำมันดีเซล พรีเมี่ยม น้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมมีสารต่าง ๆ ที่เพิ่มเติมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 และกำมะถัน ที่มีค่าต่ำกว่า 10 ppm และมีค่าซีเทนสูงสุดในระดับที่เครื่องยนต์ต้องการ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความทนทาน วิ่งได้ไกล สารเหล่านี้ช่วยดึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เสริมพลังขับเคลื่อนให้แรงขึ้น แรงบิดมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้หัวฉีดสะอาดขณะใช้งาน แถมยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้นานขึ้นอีกด้วย น้ำมันดีเซล พรีเมี่ยม มีพร้อมให้บริการที่ปั๊มน้ำมันหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ปตท. (PTT) บางจาก (ฺBangchak) เชลล์ (SHELL) หรือ เอสโซ่ (ESSO) ใกล้บ้านคุณ น้ำมัน B7ชื่อเดิมคือ น้ำมันดีเซล ที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ ซึ่งต่อมาเมื่อมีการผลิตน้ำมันดีเซลหลาย ๆ เกรดเพิ่มขึ้นมา จึงมีการเปลี่ยนชื่อให้มีความแตกต่างกันไปเพื่อไม่ให้เกิดสับสนในการใช้งาน เป็น “ดีเซล B7” หรือ “น้ำมัน B7” นั่นเอง ความแตกต่างของน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ สัดส่วนของไบโอดีเซล ซึ่งจะอยู่ที่ 6.6-7.0% ถือว่ามีปริมาณของน้ำมันดีเซลมากกว่าน้ำมัน B10 โดยน้ำมันชนิดนี้จะเหมาะสำหรับรถรุ่นเก่า และรถยุโรป น้ำมัน B10ถูกเปลี่ยนชื่อกลายเป็น “ดีเซล” ซึ่งมีความแตกต่างจาก น้ำมัน B7 ตรงที่มีสัดส่วนไบโอดีเซลที่มากกว่า หรืออยู่ที่ 9-10% ถือเป็นเกรดน้ำมันที่ได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน ที่ไม่เก่าจนเกินไป มีราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรศึกษาให้แน่ใจว่า รถยนต์ที่ใช้นั้นสามารถเติมน้ำมัน B10ได้หรือไม่ เพราะในรถยนต์บางรุ่นที่เป็นรุ่นเก่า น้ำมัน B7อาจจะเหมาะสมกว่า น้ำมัน B20น้ำมันดีเซล B20 มีความแตกต่างจาก น้ำมัน B7 และน้ำมัน B10 ตรงที่มีสัดส่วนไบโอดีเซลที่มากกว่า หรืออยู่ที่ 20% ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่มากกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น รถบรรทุก ขสมก. ISUZU, SCANIA เป็นต้น จะเห็นได้ว่า น้ำมันดีเซล พรีเมี่ยม จะมีความคุ้มค่ามากกว่า และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้ดีกว่า แม้จะไม่ได้เห็นผลทันตา แต่ส่งผลดีต่อเครื่องยนต์ในระยะยาวอย่างแน่นอน ซึ่งราคาน้ำมันดีเซลวันนี้อาจจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย แต่หากลองเทียบดูดี ๆ แล้ว ราคาระหว่างน้ำมันดีเซล และน้ำมันดีเซล พรีเมี่ยม ราคาจะแตกต่างกันอยู่ที่ประมาณ 3 บาท / ลิตร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ขับขี่ว่าต้องการเลือกใช้น้ำมันชนิดใด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานของตนเองมากที่สุด
น้ำมันดีเซล B20 คือ น้ำมันดีเซลสูตรใหม่ที่ใช้ส่วนผสมของไบโอดีเซล (B100) กับน้ำมันดีเซล ในอัตราส่วน 20 ส่วน ต่อ 80 ส่วน คล้ายคลึกกับการผสมของน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 ในรถยนต์เบนซิน ด้วยการผสมอัตราส่วนของไบโอดีเซลมากขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล บี 20 มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วปกติ ประมาณ 5 บาท (ราคาจำหน่ายในวันที่เขียนบทความ 21.39 บาท / ลิตร) และถูกกว่าน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมประมาณ 9 บาท โดยประมาณ
ในช่วงเริ่มแรกของการประกาศใช้น้ำมันเดีเลสูตรใหม่ที่มีการผสมไบโอดีเซลมากขึ้น ทางภาครัฐมุ่งเน้นทางด้านกิจการขนส่งเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร จนในระยะหลังได้เริ่มหันมาสร้างความตระหนัดให้ประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย จนในที่สุดบริษัทรถยนต์ชั้นนำ โตโยต้า มอเตอร์ ประกาศ รับรองให้รถกระบะและรถอเนกประสงค์พื้นฐานกระบะ (PPV) ของบริษัท ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร รหัส 1 GD-FTV และ 2.4 ลิตร รหัส 2 GD-FTV สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวได้ ไม่นานนัก บริษั ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ Isuzu ในประเทศไทย ประกาศรับรองให้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร RZ4E-TC สามารถใช้ได้ เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 4JJ1-TCX ทั้งคู่ติดตั้งในรถกระบะ Isuzu D max และ Isuzu Mu-X ใหม่ และล่าสุด Nissan เป็นบริษัทรถยนต์รายที่ 3 รับรองการใข้น้ำมันดีเซล B20 ในรถยนต์ Nissan Navara รหัสตัวถัง D23 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ YD25DDTi สามารถใช้น้ำมันดังกล่าวได้ สรุป รถกระบะ-อเนกประสงค์ใหม่ที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้
ข้อควรรู้ในการใช้งานแม้นว่าทางทีมงาน Ridebuster.com จะยังไม่มีโอกาสได้ทดลองการใช้งานน้ำมันดีเซล B20 อย่างเป็นทางการ แต่จากการรวบรวมข้อมูลจากการพูดคุยในกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ชี้ชัดว่า น้ำมันดีเซล บี20 มีอัตราเร่งลดลงเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลปกติ โดยจากข้อมูลในต่างประเทศ เดเผยว่าการผสมน้ำมันไบโอดีเซลมากขึ้นจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง 3-5% ในแง่อัตราเร่ง เนื่องจากพลังงานจากไบโอดีเซลน้อยกว่า น้ำมันดีเซลปิโตรเลียมปกติ รวมถึงยังทำประสทธิภาพความประหยัดลดลงเล็กน้อย จากค่าพลังงานในเนื้อน้ำมันที่น้อยกว่า แต่ก็แลกกับราคาที่ถูกกว่า หากเทียบการเติมน้ำมันดีเซลปกติ กับ ดีเซล บี20 ในอัตรา 80 ลิตร (เต็มถังรถกระบะ) จะพบว่า น้ำมันดีเซล บี 20 จะมีค่าใช้จ่าย 1,711 บาท (ราคาลิตรละ 21.39 บาท) ขณะที่น้ำมันดีเซลปกติ จะมีค่าใช้จ่าย 2,111 บาท ( ราคาลิตรละ 26.39 บาท) หรือมีส่วนต่าง 400 บาท ค่าใช้จ่ายถูกลงประมาณ 18.94% จากปกติ อย่างไรก็ดีในมุมผู้ลิตรถยนต์แม้ว่าจะมีการรับรองการใช้งาน ก็ยังไม่ถึงกับเปิดกว้างอย่างน้ำมันแก๊สโซฮอลในรถเก๋งอย่างที่เราเข้าใจ ในเว็บไซต์ของรถบรรทุก Isuzu ได้ชี้แจงรายละเอียดสำคัญ ว่า สมควรจะต้องมีการตรวจสอบท่อทางเดินน้ำมัน และเปลี่ยนไส้กรองเชื้อเพลิง (กรองดีเซล) ก่อนใช้น้ำมันครั้งแรก หลังจากนั้นเปลี่ยนทุก 2,000 กิโลเมตร อีก 2 ครั้ง จึงจะสามารถใช้กรองได้ยาว 10,000 กิโลเมตร นอกจากนี้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 สมควรเป็นรถใช้งานประจำ ไม่จอดทิ้งนานเกิน 2 เดือน และไม่ใช้รถในพื้นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศเซลเซียส เนื่องจากน้ำมันอาจจะเป็นไขส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ และแนะนำให้เติมจากปั้มน้ำมันที่ได้มาตรฐาน ส่วนทางด้านนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ก็มีคำแนะนำคล้ายๆ กัน คือ เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงทุกๆ 18 เดือน หรือ 30,000 กิโลเมตร ไม่ใช้รถในพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส และแนะนำให้ตรวจเช็ครถเป็นรถจำทุก 6 เดือน หรือ 10,000 ก.ม. รวมถึงต้องเติมจากสถานีบริการที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นหากสรุปจากข้อมูล จาก 2 ผู้ผลิต เราจะพบว่า น้ำมันดีเซล B20 มีข้อควรทราบดังนี้ 1.ต้องเป็นรถที่ขับเป็นประจำต่อเนื่อง 2.รถคันนั้ต้องใช้ในพื้นที่ปกติที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส 3.กรองเชื้อเพลิงจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยกว่าปกติมากกว่าเดิม (ปกติกรองเชื้อเพลิงเปลี่ยนทุกๆ 40,000 ก.ม.) 4.น้ำมันบี 20 ต้องเติมจากปั้มน้ำมันที่ได้มาตรฐานเท่านั้น อย่างไรก็ดีน้ำมันชนิดนี้มีแนวโน้มอาจจะสร้างปัญหาในระยะยาวหรือไม่ ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ เนื่องจากปัญหาจะสะท้อนออกมาเมื่อถึงเวลาสมควรเท่านั้น ในต่างประเทศ รายงานจากมหาวิทยาลัยรัฐเพนซิเวเนีย ชี้ว่า การใช้น้ำมันไบโอดีเซลในน้ำมันจะมีปัญหาสำคัญ 2-3 ประการได้แก่ 1.สตาร์ทยากตอนเช้าในพื้นที่อากาศเย็น เนื่องจากความเป็นไขของไบโอดีเซลทำให้เกิดการจับตัวที่หัวฉีด 2.เกิดการอุดตันที่ปั้มดีเซล โดยมีสาเหตุคล้ายกับการอุดตันที่หัวฉีด 3.น้ำมันเครื่องถูกเจือปน ทำให้น้ำมันเครื่องสูงขึ้นผิดปกติ สร้างความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ เช่นแหวนลูกสูบ , และ แบร์ริ่ง 4.การรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากน้ำมันไบโอดีเซล มีคุณสมบัติกัดกร่อนมากกว่า ดีเซลปกติ ต้องหมั่นตรวจสอบ ถึงแม้วันนี้น้ำมันดีเซล บี 20 จะเหมือนเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยคอกระบะประหยัดเงินมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีใครตอบได้ในระยะยาวว่า จะมีปัญหากับส่วนอื่นๆของเครื่องยนต์หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์สมัยใหม่หลายรุ่นยังไม่รับรอง รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลสมัยเก่าหลายรุ่นยังไม่ได้รับการยืนยันว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ ปัจจุบันน้ำมันนิดนี้มีขายในปั้มน้ำมันสำคัญๆ หลายแบรนด์ ทั้ง บางจาก ,ปตท. และอื่นๆ อีกมาก แม้จะไม่ใช่ในทุกปั้มก็ตาม แต่ก่อนจะใช้ก็ศึกษาให้ดีว่ารถของเราสามารถเติมได้จริงๆ หรือไม่ อย่าเสี่ยงเติมโดยพละการเป็นอันขาด ที่มาข้อมูล https://extension.psu.edu/using-biodiesel-fuel-in-your-engine https://old.isuzu-tis.com/news-activities/public-relations/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89 https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/navara-double-cab/B20.html |