เทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางอย่างเราก็ใช้งานมันอย่างไม่รู้ตัว อย่าง blockchain technology คืออีกเทคโนโลยีที่เริ่มก้าวมาสู่ชีวิตประจำวัน มีผลต่ออุตสาหกรรมหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมยานยนต์ สื่อ การบริจาคระดมเงิน การแพทย์ หรือแม้แต่การประกันภัย หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออะไร แล้วมาเกี่ยวข้องอะไรกับอุตสาหกรรมเหล่านี้ มาทำความรู้จักและเรียนรู้กันว่า blockchain technology จะส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจในอนาคตอย่างไรบ้าง Blockchain technology คืออะไร โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร มาทำความรู้จักกันBlockchain technology คือ เป็นเทคโนโลยีที่มาจัดการด้านธุรกรรมออนไลน์ เป็นลักษณะของโครงสร้างการเก็บข้อมูลเชิงสถิติเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูล ยืนยันการมีตัวตนโดยไม่มีตัวกลาง ปกติแล้วผู้ที่จะเป็นตัวกลางในการพิสูจน์ข้อมูลจะเป็นหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ถ้าเป็นด้านการเงิน ก็จะเป็นธนาคาร หรือสถาบันการเงิน การที่มี blockchain technology เข้ามาช่วย จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานต่ำลง ตัวอย่างของการนำมาใช้ ที่ได้รับความนิยม ที่อาจจะเคยได้ยิน ก็คงจะเป็น Bitcoin ด้วยการตรวจสอบด้วย Blockchain technology คือการใช้รหัส Token แทนการตรวจสอบด้วยบุคคล ให้เจ้าของบัญชียืนยันตัวตนผ่านรหัส Token ก่อนการทำธุรกรรมจะพบว่าหลายหน่วยงานก็มีการพัฒนาเพื่อจะนำ blockchain มาใช้งาน ที่จะเห็นได้ชัดเจน ก็จะเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน ที่เริ่มทำธรุกรรมต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ สร้างระบบการยืนยันตัวตน ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามาทำธุรกรรมที่สาขาหรือหน้าเคาเตอร์ แนวโน้มของการปิดสาขาของธนาคารมีมากขึ้น แต่สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น หัวใจหลักอยู่ที่การจัดการบันทึกฐานข้อมูลในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้น การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลให้มีความน่าเชื่อถือ ทำให้เทคโนโลยีได้รับการยอมรับและใช้งานกว้างขวางยิ่งขึ้น Blockchain technology คืออีกก้าวของเทคโนโลยีออนไลน์ ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานการทำงานที่จะต้องมีขั้นตอนหลายส่วนงาน มักจะเพิ่มเวลา และการตัดสินใจบางเรื่องที่อาจจะล่าช้าเกินไป ในยุคของข่าวสารและปริมาณข้อมูลที่มีจำนวนมาก ก็มี blockchain technology คือตัวช่วยทำให้มันเปลี่ยนไป ไม่เพียงในโลกของการเงินเท่านั้น การเก็บสถิติต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างโตโยต้า ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำขึ้น ก็เป็นอีกทางที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการถูกตรวจสอบอย่างโปร่งใส ไม่ว่าจะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคเงิน บริจาคทรัพย์สิน หรือแม้แต่การนับคะแนนโหวตการเลือกตั้งก็ตามBlockchain technology คือทางเลือกที่จะถูกพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างบนโลกใบนี้ ในยุคที่ข้อมูลมีปริมาณมาก ผู้ที่สามารถครอบครองข้อมูลที่ถูกต้อง จำนวนของข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ จะทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ มีความผิดพลาดน้อยลง
blockchain คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร การทำธุรกรรมออนไลน์ต้องอาศัยความเชื่อใจ ทำให้มี “คนกลาง” ที่น่าเชื่อถือเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของข้อมูล แต่ blockchain เป็นเทคโนโลยีที่ให้ความปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่านคนกลางอีกต่อไป blockchain คืออะไร ระบบโครงข่ายในการเก็บบัญชีเกี่ยวกับธุรกรรมออนไลน์ ที่มีลักษณะการเก็บและบันทึกข้อมูลในรูปแบบ “ฐานข้อมูล” แล้วแชร์ไปเก็บไว้ในระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงถึงกัน โดยสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการเข้ารหัสและการพิสูจน์ Digital Signature (ลายเซ็นดิจิตอล) โดยที่ข้อมูลใหม่ๆ จะเก็บโดยการสร้าง “บล็อก” ใหม่ และบล็อกนั้นจะไปอยู่ในตำแหน่งที่ต่อจากบล็อกล่าสุด จึงได้ชื่อว่า Blockchain วัตถุประสงค์ของ Blockchain Blockchain นี้ สร้างขึ้นมาเพื่อตัดระบบตัวกลางที่เคยทำหน้าที่เป็นพยานยืนยันการทำธุรกรรมระหว่างกัน แต่ Blockchain สร้างระบบมาเก็บข้อมูลที่เป็นหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของ เก็บไว้ทุกขั้นตอนการเคลื่อนไหว คนที่ได้รับอนุญาตสามารถเข้าถึงข้อมูลดั้งเดิมได้โดยได้รับอนุญาต และข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ปรากฏคือความจริงที่ไม่เคยถูกแก้ไข ไม่สามารถทุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนตนได้ จึงเป็นระบบที่รับรองความน่าเชื่อถือและเป็นพยานแทนคนกลางที่เป็นสถาบันการเงินที่เข้ามาควบคุม ลักษณะการควบคุมและเข้าถึงข้อมูลของ blockchain บล็อกเชน เก็บข้อมูล (Data structure) เอาไว้แล้วแชร์ไปถึงสมาชิก ลักษณะเสมือนห่วงโซ่ (Chain) ในการส่งลิงก์ข้อมูลที่ทำเป็น block เอาไว้ โดยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นๆ ว่า ใครเป็นเจ้าของข้อมูลดังกล่าว จากการทำงานแบบนี้ทำให้
ข้อดีของ blockchain
เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง Blockchain ก็เช่นกัน การมีคนกลาง ทำให้ถูกควบคุมด้วยระบบของคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่เข้ามาข้องเกี่ยวแบบได้ผลประโยชน์ แต่เทคโนโลยีช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเชื่อถือได้ Author: admin |