พนักงานขายนมบีทาเก้นจัดเป็นพนักงานขายอะไร

บริษัท บีทาเก้น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทนมเปรี้ยวพร้อมดื่มพาสเจอร์ไรส์และโยเกิร์ตพาสเจอร์ไรส์ ตรา บีทาเก้น ซึ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ จึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยยึดความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นหลักสำคัญ

นอกจากความพิถีพิถันในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ตั้งแต่ทำการวิจัย พัฒนาและคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีแล้ว บริษัท บีทาเก้น จำกัด ยังคำนึงถึงการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย เห็นได้จากหนึ่งในตัวอย่างของการนำระบบไอทีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขนส่งสินค้า นั่นคือการนำระบบบริหารจัดการและติดตามยานพาหนะ NOSTRA Logistics มาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนาระบบขนส่งและกระจายสินค้าทั่วประเทศ และเนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตจำเป็นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ดังนั้น บริษัท บีทาเก้น จำกัด จึงให้ความสำคัญกับระบบการขนส่งเพื่อรักษาและคงคุณภาพของสินค้าก่อนถึงมือผู้บริโภค ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดระดับอุณหภูมิภายในตู้บรรทุกสินค้า ที่ทำงานร่วมกันกับระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) ที่ติดตั้งในรถขนส่งสินค้าทุกคัน เพื่อใช้ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพการขนส่ง ซึ่งหากอุณหภูมิภายในตู้สินค้าเพิ่มสูงขึ้นหรือลดต่ำลงกว่าที่กำหนดไว้ระบบจะแจ้งไปยังผู้ดูแลเพื่อให้แก้ไขสถานการณ์ได้ในทันที ทำให้ลดความเสียหายของสินค้าอันเกิดมาจากการขนส่งได้เป็นอย่างดี นับเป็นการลงทุนด้านไอทีที่เป็นการต่อยอดในการพัฒนาระบบการขนส่งและกระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรด้วยการยึดมั่นในการผลิตสินค้าอาหารที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัย ภายใต้การควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดทุกขั้นตอน

 

งาน part time งาน part time 2559 งาน Part Time ขายนมเปรี้ยว งานขายนมเปรี้ยวบีทาเก้น งานพิเศษ รายได้เสริม อาชีพเสริม
N
Nov 24, 2022 มีงี้ด้วย! จ่ายเงินพนักงานผลิตโอโฟนคนละกว่า 50,000 บาทที่ต้องการกลับบ้าน หลังเหตุปะทะรุนแรงกับรปภ.-เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กักพื้นที่โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ป้องกันโควิด-19 ระบาด
ฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป อินคอร์ปอเรชั่น โรงงานผลิตไอโฟนที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งตั้งในเมืองเจิ้งโจวที่ต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ทั้งโรงงานและทั้งเมืองเจิ้งโจวเป็นเวลา 5 วัน เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารโรงงานฟ็อกซ์คอนน์มีมติให้จ่ายเงินมูลค่า 10,000 หยวน หรือราว 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 50,400 บาท ให้กับพนักงานที่ต้องการกลับออกไปบ้านที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะแบ่งเป็นการจ่าย 2 รอบ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและอื่นๆ
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างพนักงานในสายการผลิตไอโฟนจำนวนมากกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงาน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำหน้าที่กักพื้นที่โรงงานดังกล่าว เนื่องจากพนักงานจำนวนมากไม่พอใจอย่างมากต่อมาตรการล็อกดาวน์ของทางการจีนที่กำกับลงมายังฝ่ายรักษาความปลอดภัยของโรงงานแห่งนี้
พนักงานจำนวนกว่าหลายร้อยคนขึ้นไปแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเกิดความตึงเครียดสะสมมาโดยตลอดที่ต้องถูกกักตัวใช้ชีวิตส่วนตัวและทำงานในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์มาเป็นเวลากว่าเดือน เงินพิเศษจำนวนกว่า 50,000 บาทที่จ่ายให้ในครั้งนี้นับเป็นมูลค่าที่สูงกว่าเงินเดือนปกติของพนักงานในสายการผลิตไอโฟน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฟ๊อกซ์คอนน์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของสมาร์ทโฟนชื่อดังไอโฟนของโลก เปิดเผยว่าได้รับสมัครพนักงานเข้าทำงานจำนวนมากถึง 100,000 คนในโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูหนาน จีนแผ่นดินใหญ่
นายหยาง ฮัน ผู้บริหารฟ๊อกซ์คอนน์ กล่างว่า จำนวนพนักงานที่เปิดรับทั้งหมดถึง 100,000 คน เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้ขั้นตอนการจ้างงานใหม่ที่โรงงานดังกล่าวต้องยุติลงชั่วคราว
สาเหตุการเปิดรับพนักงานในครั้งนี้ เกิดจากพนักงานของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์จำนวนมากตัดสินใจเดินเท้าออกจากโรงงานดังกล่าวในช่วงต้นเดือนผ่านมา หลังจากทางการเมืองเจิ้งโจวสั่งล็อกดาวน์ทั้งเมืองและโรงงานแห่งนี้ หลังจากพบผู้ติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 รายใหม่เป็นจำนวนมาก พนักงานที่ออกจากโรงงานไปได้ล้วนไม่กลับมาทำงานอีกแต่อย่างใด กระทบกำลังการผลิตไอโฟนจำนวนมาก
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้บริหารฟ็อกซ์คอนน์ กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเพิ่มการจ่ายเงินโบนัสรายวันสูงถึง 4 เท่า เพื่อจูงใจให้กลับเข้าทำงานผลิตไอโฟนให้ได้ทั้งเร็วที่สุด และมากที่สุดตามเป้าหมาย ซึ่งสูญเสียเวลาตามหลังเป้าหมายการผลิตอย่างมาก
ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวในเมืองหลวงเจิ้งโจว เป็นโรงงานผลิตไอโฟนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกำลังการผลิตไอโฟนมาก 50%-60% ของกำลังการผลิตของโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในปัจจุบัน


https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan

ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3

เว็บไซต์: https://btimes.biz

พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/

#แอปเปิล #ไอโฟน14 #ไอโฟน #ฟ็อกซ์คอนน์ #โรงงาน #จีน #เจิ้งโจว #แรงงาน #BTimes

 

Nov 23, 2022 รีแบรนด์ใหม่! บางจากเปิดโลโก้ใหม่ ทุ่มลงทุน 2 แสนล้าน ดัน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ตั้งเป้า EBITDA โตแตะ 7 หมื่นล้านบาทในปี 73
.
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) มองแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปี 66 คาดว่าจะยืนอยู่ในระดับสูงมากกว่า 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากน้ำมันที่อยู่ในคลังสำรองเชิงยุทธศาตร์ในประเทศที่พัฒนาแล้วจะอยู่ระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาหลังการดำเนินโครงการปล่อยน้ำมันสำรองยุทธศาตร์ Strategic Petroleum Reserve (SPR) ของสหรัฐ ส่งผลทำให้อุปทานตึงตัว
.
โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 73 เติบโตแตะ 70,000 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดจะเติบโตมาที่ราว 40,000 ล้านบาท หลัง 9 เดือนของปี 65 มี EBITDA อยู่ที่ 37,773 ล้านบาท โดยเป็นไปตามการขยายตัวของ 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ภายหลังบริษัทได้ปรับวิสัยทัศน์และอัตลักษณ์องค์กรเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนผ่านแนวคิด 3Rs ได้แก่ Refocus เร่งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด, Restructure การปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางในการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ Reimagine การใช้โอกาสและเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท
.
สำหรับสัดส่วน EBITDA ในปี 73 จะมาจากธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ราว 50%, ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 18% และธุรกิจพลังงานไฟฟ้าภายใต้การดำเนินงานของ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ราว 10% ที่เหลือจะมาจากธุรกิจการตลาด ราว 6-8% และธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 6-8%
.
ในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจเชื้อเพลิงนอกกลุ่มยานยนต์เป็นกว่า 60% ภายใน ปี 73 โดยจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากน้ำมันยานยนต์และผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
.
ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการขายน้ำมันยานยนต์คาดว่าจะปรับตัวลดลงเหลือ 40% ในปี 73 โดยยังคงรักษาระดับกำลังการกลั่นเท่าเดิมที่ 1.2 แสนบาร์เรล/วัน และบริษัทจะไม่มีแผนการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นแล้วในช่วงที่เหลือของปีนี้รวมถึงปีหน้า แต่จะไปปิดซ่อมบำรุงอีกครั้งในปี 67-68
.
ส่วนกลุ่มธุรกิจการตลาด วางเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเติบโตเป็น 1,900 แห่งในปี 73 จากปีนี้คาดทำได้ 1,340 แห่ง และมีแผนเพิ่มเป็น 1,410 แห่งในปี 66 โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขยายรูปแบบ Unique Design Service Station เพื่อให้เป็นมากกว่าสถานที่เติมน้ำมัน โดยมุ่งมั่นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค อีกทั้งยังมีแผนขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลต่อเนื่อง โดยวางเป้าไว้ที่ 3,000 แห่งทั่วประเทศในปี 73 จากปีนี้จะอยู่ที่ 1,030 แห่ง และปีหน้าจะขยายเป็น 1,250 แห่ง
.
ขณะที่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ภายใต้การดำเนินงานโดยบมจ.บีซีพีจี (BCPG) วางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,800 GWh จากปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 GWh และปีหน้า 3,600 GWh
.
ด้านกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ภายใต้ BBGI ได้กำหนดแนวทางและเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจหลักกว่า 70% ของ EBITDA ,ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานผ่านการขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ โดยในส่วนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีเป้าหมายการผลิตมากกว่า 100,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันภายในปี 73 ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่อื่นๆ บริษัทตั้งเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วน EBITDA กว่า 7,000 ล้านบาทภายในปี 73 จากธุรกิจที่กำลังพัฒนา
.
ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 8 ปี (66-73) ไว้ที่ 200,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจกลุ่มบางจาก โดยเฉพาะในส่วนของพลังงานสีเขียวและโรงกลั่น ซึ่งปี 66 จะใช้งบลงทุนในส่วนนี้ราว 40,000 ล้านบาท
.
นอกจากนี้ บางจากยังได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดย บริษัทฯ ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงโลโก้ (Corporate Logo) ของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 65 เป็นต้นไป และเริ่มใช้ทดแทนรูปใบไม้เดิมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป(23 พ.ย.65) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและบริการทางธุรกิจใดๆ ของบริษัท รวมทั้งโลโก้สถานีบริการบางจาก ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจการตลาดและสมาชิกบัตรบางจากกรีนไมล์ จะยังคงเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ จนกว่าจะมีการสื่อสารเรื่องการเปลี่ยนแปลง
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
พนักงานขายนมบีทาเก้นจัดเป็นพนักงานขายอะไร
https://bit.ly/3ES3rDz
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#บางจาก #ปั๊มบางจาก #EBITDA #BCP #โลโก้บางจาก #BTimes

 

Nov 23, 2022 ขานรับครม.! ออมสิน ปรับเกณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ขยายให้กู้หมุนเวียนกิจการโรงแรม ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ร้านอาหารทั่วไป เพิ่มเวลาผ่อนชำระเป็น 10 ปี เปิดให้ยื่นกู้แล้ววันนี้ ถึง 30 มิ.ย.66
.
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มอบนโยบายให้ทุกภาคส่วนเร่งกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้พร้อมรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่ทยอยเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอขอปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับธุรกิจโรงแรม และ Supply Chain ของโรงแรม รวมถึงกิจการร้านอาหาร (Soft Loan Re-Open) ที่ดำเนินการโดยธนาคารออมสิน ให้เอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อผู้ประกอบการ อาทิ การขยายระยะเวลากู้ให้นานขึ้น จากเดิม 7 ปี เป็นไม่เกิน 10 ปี การให้กู้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมถึงผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณาประวัติการชำระหนี้ และยังขยายเป้าหมายไปยังธุรกิจร้านอาหาร (นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม) อีกด้วย
.
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อยื่นกู้ได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ
.
อนึ่ง โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan Re-Open) เปิดให้กู้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน วงเงินให้กู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถเลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ หรือ เลือกใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หรือ ใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ ซึ่งกรณีใช้ บสย.ค้ำประกันเต็มจำนวน ให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 1.99% ต่อปี สามารถปลอดชำระเงินต้นได้สูงสุด 2 ปี โดยในปีที่ 3-10 คิดอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันตามประเภทหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน กล่าวคือ กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MLR -1.0 ต่อปี กรณีใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับ บสย. คิดอัตราดอกเบี้ย MLR – 0.5 ต่อปี และกรณีที่ใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงินกู้ คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MLR ต่อปี (ปัจจุบัน MLR ธนาคารออมสิน = 6.150%)
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
พนักงานขายนมบีทาเก้นจัดเป็นพนักงานขายอะไร
https://bit.ly/3tTlPWl
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ออมสิน #สินเชื่อ #สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ #SoftLoanReOpen #ดอกเบี้ย #เงินกู้ #BTimes

 

Nov 23, 2022 ถกอนาคต! กลุ่มปตท.เปิดเวทีติดตามทิศทางราคาน้ำมัน และหาเส้นทางสู่สมดุล เศรษฐกิจ-พลังงาน-สิ่งแวดล้อมในงาน “2022 The Annual Petroleum Outlook Forum"
.
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ 2022 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “Thriving amid Global Energy Volatility towards Sustainable Future – เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของพลังงานโลก” และได้เปิดเผยถึงสถานการณ์พลังงานของโลกในปัจจุบันว่ายังคงอยู่ท่ามกลางความผันผวน จากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่นำไปสู่วิกฤติพลังงานในหลายๆประเทศ
.
ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ประชาคมโลกต่างต้องร่วมมือผลักดันการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยในการประชุม COP27 ที่ผ่านมา ณ สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ประเทศไทยได้ร่วมแถลงยุทธศาสตร์ชาติอย่างเป็นรูปธรรม ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ตามที่ได้แสดงเจตนารมณ์ไว้ใน COP26 ในปีที่ผ่านมา
.
ท่ามกลางความผันผวนนี้ กลุ่ม ปตท. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมความพร้อมและจัดหาพลังงานรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้มีการปรับทิศทางและกลยุทธ์องค์กร มุ่งพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต ตอบรับทิศทางโลกที่จะเปลี่ยนแปลงไป ทั้งธุรกิจพลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจใหม่อื่นๆ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ กลุ่ม ปตท. มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 15 ภายในปี 2030 บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ กลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างสมดุลและยั่งยืน
.
ด้านนายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ในปี 2022 นี้ หลายประเทศต่างให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและการเข้าถึงพลังงานเป็นประเด็นหลัก อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพภูมิอากาศทั่วโลกที่แปรปรวน รวมถึงภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เราต้องตระหนักและร่วมมือกันแก้ไขปัญหา Climate Change อย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยนักวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน กลุ่ม ปตท. หรือ “PRISM Experts” ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอข้อมูลและวิเคราะห์ทิศทางราคาน้ำมัน รวมถึง ความท้าทายที่อุตสาหกรรมพลังงานต้องเผชิญ เป็นที่มาของหัวข้อสัมมนาในปีนี้ “Thriving amid Global Energy Volatility towards Sustainable Future : เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของพลังงานโลก”
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก
พนักงานขายนมบีทาเก้นจัดเป็นพนักงานขายอะไร
https://bit.ly/3XrQbwH
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ปตท #ราคาน้ำมัน #พลังงาน #ราคาน้ำมัน #BTimes

 

"ฟีฟ่า" ขู่จอดำถ่ายบอลโลกเมืองไทย หลังพบการละเมิดลิขสิทธิ์

ข่าวร้ายแฟนบอลชาวไทย หลัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท. ทำหนังสือถึง กสทช. เรื่องได้รับคำเตือนจาก "ฟีฟ่า" พบการละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 พร้อมขู่ลงโทษตัดสัญญาณ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะผู้ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ได้ส่งหนังสือเรื่องขอความอนุเคราะห์แจ้งให้ดำเนินการเข้ารหัสสัญญาณให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Federation Internationale de Football Association – FIFA) หรือ ฟีฟ่า ไปยังเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

ตามที่อ้างถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ขอความอนุเคราะห์คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจ้งขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ให้บริการวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ อันประกอบด้วย ผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary (มัสต์ แครี) และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสด

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยเข้ารหัสสัญญาณและดำเนินการทำ OTA ของกล่องเครื่องรับระบบโทรทัศน์ดาวเทียม นั้น กกท. ได้รับแจ้งจากทางสหพันธ์ฟตุบอลนานาชาติ ว่า สัญญาณออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ยังคงแพร่กระจายไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น นอกเหนือลิขสิทธิ์ที่ได้รับตามข้อกำหนดของสหพันธ์ฯ

ทั้งนี้ สหพันธ์ฯ ได้ขอให้ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของประเทศไทย ดำเนินการแก้ไขการเข้ารหัสสัญญาณ (Encryption) ที่ส่งผ่านดาวเทียมให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของสหพันธ์ฯ โดยด่วนที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาสัญญาณการออกอากาศการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ในประเทศไทย ไปละเมิดลิขสิทธิ์ในดินแดนของประเทศอื่น ตามที่สหพันธ์ฯ แจ้งมา

กกท. ใคร่ขอความอนุเคราะห์และความร่วมมือจาก กสทช. ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการ Multiplexer DTT ทั้ง 5 MUX และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Cary และผู้ให้บริการกล่อง STB คุ้มครองสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) โดยดำเนินการดังต่อไปนี้

1.ให้ดำเนินการเข้ารหัส (Encryption) ในการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามมาตรฐานของ FIFA ซึ่งกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ BISS CA Director หรือ Power/u

2.ในส่วนของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้ควบคุมระบบ Must Carry และผู้ให้บริการกล่อง STB จะต้องเข้ารหัส โดยไมใช่การดำเนินการในลักษณะ BISS 1 Simultcrypt เหมือนที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

3.ในกรณีที่ผู้ให้บริการใด ไม่สามารถเข้ารหัสให้เป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์ฯ กำหนด มีความจำเป็นต้องตัดสัญญาณที่จะส่งไปเผยแพร่ผ่านผู้บริการนั้น ซึ่งต้องดำเนินการในลักษณะส่งข้อความขี้แจงข้อกำหนดการเผยแพร่ตามข้อกำหนดลิขสิทธิ์ที่ประเทศไทยได้รับ (หรือตามที่ผู้รับชมทั่วไปจะเข้าใจในลักษณะการขึ้น “จอดำ”)

ในการนี้ ทางสหพันธ์ฯ ได้กำชับให้ผู้ได้รับลิขสิทธิ์และดำเนินการเผยแพร่ในประเทศไทย แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วนที่สุด หากไม่สามารถดำเนินการได้ ทางสหพันธ์ฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามเงื่อนไขการซื้อลิขสิทธิ์ ซึ่งการดำเนินการของสหพันธ์ฯ ที่ร้ายแรงที่สุด คือ การตัดสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่จะส่งมาเผยแพร่ในประเทศไทย อันจะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการติดตามรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอสโลก 2022 (รอบสุดท้าย) ของประชาชนชาวไทย ได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งจบการแข่งขัน

ที่มา : NEWS1

 

วิจัยสารกัญชายับยั้ง "เซลล์มะเร็งเต้านม" ในหนูได้ดี จ่อดัน CBD สูงเข้าบัญชียาหลักฯ 1 รักษาลมชักในเด็ก

สธ.ระดมทีมวิจัยสถาบันเฉพาะทางตั้งโต๊ะแถลง "กัญชาทางการแพทย์" พบ CBD สูงช่วยรักษาลมชักในเด็กได้ผลดี จ่อดันเข้าบัญชียาหลักสมุนไพร บัญชี 1 ช่วยหมอจ่ายสะดวกขึ้น ส่วนรักษามะเร็ง สารสกัดกัญชายับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมในหนูทดลองได้ผลดี จ่อวิจัยต่อในคน พร้อมวิจัย CBD หยอดใต้ลิ้นลดอาการถอนยาบ้าทั้งที่มีและไม่มีอาการจิตเวช ด้านสถาบันโรคผิวหนังต่อยอดทำเวชสำอางด้วยเทคโนโลยีนาโน

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ นำทีม ผอ.สถาบันประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) และสถาบันโรคผิวหนัง แถลงข่าวกัญชาทางการแพทย์รักษาโรคและเวชสำอางกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

นพ.โอภาสกล่าวว่า สธ.จัดให้มีแผนบริการสุขภาพ (Service plan) สาขากัญชาทางการแพทย์ ส่งเสริมการนำกัญชามาใช้ในผู้ป่วยอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยปีงบประมาณ 2565 ผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชามากขึ้นถึง 159.64% เมื่อเทียบกับปีงบ 2564 เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยประคับประคองกว่า 8,000 คน อย่างไรก็ตาม คนติดภาพจำว่า "กัญชา" เป็นยาเสพติด แต่ปัจจุบันไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว เป็นสมุนไพรมีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะการรักษา สุขภาพ และเศรษฐกิจ แต่ไม่มีอะไร 100% หากใช้ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมก็อาจเกิดผลกระทบได้ จึงต้องพัฒนาองค์ความรู้นำมาใช้ประโยชน์และลดการเกิดโทษ ซึ่งปี 2566 จะมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย ศึกษาวิจัยเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน

นพ.ธงชัย กล่าวว่า กัญชาเป็นเรื่องใหม่ของสังคมและบุคลากรทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกมีการนำมาใช้ดูแลรักษา หลายโรคก็ได้ประโยชน์ หลายโรคน่าจะได้ประโยชน์ก็ต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอย่างกรมการแพทย์ หน่วยงานวิชาการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการรักษาโรค สร้างความมั่นคงทางยาให้แก่ประเทศได้ เนื่องจากสามารถปลูกและผลิตเองได้ในประเทศ ส่วนการติดตามอาการแพ้หรือต้องมานอน รพ.จากการใช้กัญชา เช่น มึนศีรษะ เป็นต้น ยังไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก้ตาม แนวโน้มช่วงแรกจะเพิ่มขึ้นเหมือนตอนปี 2562 ที่เริ่มเปิดใช้ทางการแพทย์ พอเริ่มใช้ก็มีผลกระทบขึ้นมา มีอาการมึนเมา เนื่องจากใช้ไม่ถูกวิธี ผู้ใช้ยังไม่มีความรู้ แต่หลังให้ความรู้มากขึ้นก็ลดลง

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า โรคลมชักรักษายากในเด็ก บางครั้งทำให้เด็กเกิดอาการชัก 50-100 ครั้งต่อวัน บางส่วนมีการใช้ยาแล้วแต่ไม่สามารถหยุดการชักได้ ซึ่งจากการศึกษาการใช้สารสกัดกัญชา CBD สูง ร่วมกับยากันชักหลายชนิดเป็นระยะเวลา 12 เดือน จำนวน 14 ราย พบว่า หยุดชักได้ขณะนั้น 14% และลดอาการชักลงถึงครึ่งหนึ่งได้ 50% ที่ผ่านมามีการผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร บัญชี 3 และมีการใช้พร้อมติดตามผลการรักษาเพื่อให้มีข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิผลที่เชื่อถือได้ นำไปสู่การเสนอเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร บัญชี 1 ในปี 2567 ต่อไป ซึ่งบัญชี 3 จะต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญเท่าน้น แต่บัญชี 1 สามารถสั่งจ่ายได้โดยแพทย์ทุกคน

ส่วนโรคพาร์กินสันอาจพบมากขึ้นจากการเข้าสุ่สังคมสูงอายุ การรักษาจะมียาลดอาการเกร็ง ซึ่งให้ยาไปสักระยะอาจมีอาการดื้อยาและไม่ได้ผล มีการให้สารสกัด CBD สูงเพื่อลดอาการเกร็ง ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ภาวะกล้ามเนื้อเกร็ง ขยับยุกยิก นอนหลับ และความเป็นอยู่ดีขึ้น สำหรับโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (MS) จะมีการเกร็ง บิดและเจ็บ ทุกข์ทรมาน จะใช้ THC:CBD 1:1 ตีพิมพ์แล้วว่ามีประโยชน์ลดอาการเจ็บ บิดเกร็ง และอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ จะผลักดันเป็นบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร บัญชี 1

นพ.สกานต์ บุนนาค ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า เรามีการใช้กัญชาทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคอง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต ลดอาการไม่พึงประสงค์อาการจากตัวโรค ผลข้างเคียงของยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ดำเนินการตั้งแต่ปี 2563-2565 มีผู้รับบริการแผนปัจจุบัน 433 ราย แผนไทย 52 ราย ให้คำปรึกษา 1,441 ครั้ง พบว่า ผู้ป่วยที่มามักมาด้วยมะเร็งศีรษะและลำคอมากที่สุด ส่วนใหญ่ 70% อยู่ในระยะที่ 4 หรือระยะท้าย อาการหลักคือนอนไม่หลับ 39% ปวด 35% หลังดูแลมีอาการดีขึ้น 58% ส่วนการรักษาตัวโรคมะเร็งยังอยู่ในการวิจัย ซึ่งในระดับหลอดทดลองพบว่า สารสกัดกัญชายับยั้งได้ดีที่สุด 3 ตัว คือ เซลล์มะเร็งตับอ่อน ท่อน้ำดี และเต้านม เราศึกษาต่อโดยนำมาปลูกถ่ายในหนูดทดลอง เปรียบเทียบ 5 กลุ่ม คือ หนูกินยาหลอก รับยาเคมีบำบัด รับสารสกัดกัญชาขนาดต่ำ กลาง และสูง พบว่า สารสกัดกัญชาลดการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง และเพิ่มการตายแบบ Apoptosis ที่ไม่อันตรายต่อคน ได้ผลดีในเซลล์มะเร็งเต้านม และไม่มีผลข้างเคียงต่อการกินอาหาร นักหนักตัว และเคมีในเลือด ซึ่งเราจะแปลงขนาดยาเพื่อไปวิจัยในคนต่อไปที่มีอีกหลายเฟสกว่าจะออกมาเป็นยา

นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สบยช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมวิจัยนำสารสกัด CBD ชนิดหยอดใต้ลิ้น มาใช้ร่วมกับยาต้านอาการทางจิต Amisulpride เพื่อช่วยลดอาการทางจิตและลดพฤติกรรมเสี่ยงก่อความรุนแรงในผู้ป่วยเสพติดเมทแอมเฟตามีนที่มีอาการทางจิตเวช เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้ยาต้านอาการทางจิตร่วมกับยาหลอก เพื่อดูว่าอาการจิตเวช อาการอยากยาดีขึ้นหรือไม่ พฤติกรรมเสี่ยงก่อความรุนแรงลดลงหรือไม่ ลดการเสพซ้ำระยะยาวหรือไม่ และเตรียมวิจัยสาร CBD หยอดใต้ลิ้น มาใช้ร่วมกับยามาตรฐานเพื่อลดอาการถอนและอาการอยากเมทแอมเฟตามีน เทียบกับยาทดแทน Methylphenidate ร่วมกับยามาตรฐาน เพื่อนำมาใช้ทดแทนเมทแอมเฟตามีนตามแนวทางลดอันตรายจากการใช้ยา ซึ่งที่เราใช้ CBD เพราะไม่ได้เป็นสารเสพติด มีฤทธิ์ทางจิตประสาทเชิงบวก ช่วยให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ลดวิตกกังวล

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า กัญชาสำหรับโรคผิวหนังและความงามนั้น เราพบว่า สารสกัดกัญชามีฤทธิ์เด่น 3 ด้าน คือ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และการปรับสมดุลภาวะภูมิคุ้มกัน ซึ่งเซลล์ผิวหนังจะมีตัวรับของสารกัญชาโดยเฉพาะ สามารถทาได้ ผลข้างเคียงจึงค่อนข้างน้อย เราจึงนำมาพัฒนาทั้งทางการแพทย์รักษาโรคผิวหนัง ซึ่งเรากำลังวิจัย 4 โรค คือ สะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ ผมร่วง และสิว คาดว่าใช้เวลาวิจัย 1 ปีครึ่ง และอีกด้านพัฒนาเวชสำอาง ทำมา 3 ปี 2 โครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบเวชสำอางรวม 18 รายการ ซึ่งตัวที่เด่นคือฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ใช้โดสน้อยเพียง 0.08-0.01 ที่จะได้ผล ต่างจากการปรับภุมิคุ้มกันที่ต้องใช้โดสถึง 300 และต้านอนุมูลอิสระที่ใช้โดส 50-100 อย่างไรก็ตาม สาร CBD จะมีปัญหาเรื่องการละลายยากและความคงตัว จึงพัฒนาเทคโนโลยีห่อหุ้มระดับนาโน ทำให้เราใช้ปริมาณโดสน้อย คงตัวดีขึ้น ราคาไม่แพงมาก เราถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เอกชนแล้ว 10 รายการ

ด้าน นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผอ.รพ.นพรัตนราชธานี กล่าวว่า รพ.นพรัตนราชธานีได้เปิดศูนย์ห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์กัญชา ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานห้องปฏิบัติการพิษวิทยา โดยสภาเทคนิคการแพทย์ และการทดสอบระหว่างห้องปฏิบัติการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปัจจุบันมีเครื่องตรวจวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์กัญชา ได้แก่ 1. HPLC สามารถตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญในน้ำมันกัญชา (Potency) 11 ชนิด และ 2.เครื่องมือที่ใช้ตรวจวิเคราะห์ GC-MS/MS (SHIMADZU) สามารถตรวจวิเคราะห์หาสาร Terpenes ในน้ำมันกัญชา 28 ชนิด ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการตรวจ ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี

ที่มา : NEWS1

 

WHO: องค์การอนามัยโลก หรือ WHO และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC แถลงในวันพุธ (23 พฤศจิกายน) ขณะนี้ มีภัยคุกคามใกล้ตัวจากโรคหัดที่กำลังระบาดในหลายภูมิภาคทั่วโลก เนื่องจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้การกระจายวัคซีนอย่างครอบคลุมลดลงอย่างต่อเนื่อง และการเฝ้าระวังโรคก็ลดลงตามไปด้วย

โรคหัด เป็นหนึ่งในไวรัสที่ติดต่อในมนุษย์ได้มากที่สุด และเป็นไวรัสที่สามารถป้องกันได้เกือบทั้งหมดด้วยการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 95% เพื่อป้องกันการระบาดในหมู่ประชาชน

WHO และ CDC ระบุในรายงานร่วมว่า ในช่วงปี 2021 สถิติสูงสุดของเด็กเกือบ 40 ล้านคน ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด เนื่องจากอุปสรรคจากการระบาดของไวรัสโควิด

นายแพทย์แพทริก โอ คอนเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัดของ WHO กล่าวกับรอยเตอร์ในวันอังคาร (22 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมาว่า แม้ว่าผู้ป่วยโรคหัดจะยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องดำเนินการ เราอยู่บนทางแยก มันจะเป็นความท้าทายอย่างมากในช่วง 12-24 เดือนในความพยายามที่จะบรรเทาปัญหานี้

โอคอนเนอร์ กล่าวว่า มีหลายปัจจัย เช่นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และลักษณะวัฏจักรของโรคหัด อาจอธิบายได้ว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการระบาดของโรคหัด แม้ว่าจะมีช่องว่างของการสร้างภูมิคุ้มกันกว้างขึ้น แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยโอคอนเนอร์ชี้ให้เห็นลักษณะของโรคที่ติดต่อได้เร็ว

เขากล่าวว่า WHO ได้เห็นการระบาดครั้งใหญ่ตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 19 เป็นเกือบ 30 รายภายในเดือนกันยายน และกล่าวเพิ่มเติมว่า เขากังวลเกี่ยวกับหลายพื้นที่ในภูมิภาคซับซาฮารา แอฟริกาโดยเฉพาะ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสาธารณสุขในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ รายงานพบการระบาดของโรคหัด มีผู้ป่วย 24 ราย ตามการรายงานของสำนักข่าว WCMH ในเครือ NBC News ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งหมดเป็นเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ตามข้อมูลของ WHO ระบุว่า ผู้ป่วยโรคหัดมักเริ่มต้นด้วยการเป็นไข้ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการป่วยจะมีลักษณะเป็นผื่นที่มักเริ่มลามออกจากใบหน้าและลำคอ หลังจากผ่านไปสองสามวัน ไวรัสสามารถคงอยู่ในอากาศและบนพื้นผิวได้นานถึงสองชั่วโมง และผู้ติดเชื้อสามารถแพร่ไวรัสได้นานถึงสี่วันก่อนและหลังผื่นขึ้น ขณะนี้ไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะในการรักษาโรคหัด

รายงานชิ้นใหม่ ประเมินว่า ในปี 2021 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดทั่วโลกประมาณ 128,000 ราย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #โรคหัด #CDC #WHO
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
พนักงานขายนมบีทาเก้นจัดเป็นพนักงานขายอะไร
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok