ความปลอดภัย และข้อควรระวังในการปฏิบัติงานกับเครื่องจักร มีอะไรบ้าง

ความปลอดภัย และข้อควรระวังในการปฏิบัติงานกับเครื่องจักร มีอะไรบ้าง

การทำงานในโรงงานหรืองานด้านวิศวกรรมต่างๆ คนทำงานมักจะต้องเสี่ยงกับเครื่องจักรหลากชนิด ทั้งแบบเครื่องจักรขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่มีความสำคัญในตัวงาน ดังนั้นผู้ที่ต้องปฏิบัติงานร่วมกับเครื่องจักรจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจต่อการใช้งานและมีความระมัดระวังสูง รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์เซฟตี้ส่วนบุคคลที่ครบครันและมีอุปกรณ์ความปลอดภัยภายในที่ทำงานที่ได้มาตรฐาน แม้แต่เครื่องมือช่างทั่วไปที่อาจสร้างอันตรายต่อคนทำงานได้ก็ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณต้องทำงานร่วมกับเครื่องจักร ต้องรู้ 6 ข้อควรระวังที่ห้ามพลาดเด็ดขาด! คือ

1.ต้องได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี

พนักงานทุกคนที่ต้องทำงานร่วมกับเครื่องจักร ต้องผ่านการฝึกอบรมและมีการสอนงานมาแล้วเป็นอย่างดี ทำงานประจำตำแหน่งและเครื่องจักรของตัวเองเท่านั้น ถ้าไม่ได้ทำตรงจุดของตัวเองก็ห้ามไปใช้เครื่องจักรอื่นเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนคนที่ไม่ได้มีหน้าที่ข้องเกี่ยวกับเครื่องจักรก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งหรือใช้งานเช่นกัน

2.ต้องทำตามคู่มือหรือคำแนะนำเท่านั้น

ตรงจุดที่ติดตั้งเครื่องจักรควรมีคู่มือการใช้งานและคำแนะนำต่างๆ ให้กับพนักงาน เพื่อทำให้การทำงานถูกต้องทุกขั้นตอนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนทำงานมากขึ้น คู่มือนี้อาจจะต้องให้พนักงานที่ประจำเครื่องจักรเก็บไว้อ่านโดยเฉพาะ และควรต้องมีการทดสอบพนักงานคนนั้นๆ อยู่เสมอ เพื่อทำให้แน่ใจว่าจำได้และจะไม่ทำผิดพลาด

3.ห้ามซ่อมเครื่องจักรเองถ้าไม่มีความรู้

แม้ว่าจะทำงานร่วมกับเครื่องจักรทุกวันจนชำนาญ แต่เมื่อใดที่เครื่องเกิดมีปัญหาชำรุดหรือทำงานไม่ได้ ควรต้องรีบแจ้งให้ทางหัวหน้าช่างเข้ามาซ่อม ไม่ควรเข้าไปซ่อมเครื่องเองอย่างเด็ดขาด ยิ่งถ้าคุณไม่ได้มีความรู้ในเรื่องเครื่องจักรด้วยแล้วก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะอาจจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาเสียหายหนักและอาจทำให้ตัวคนทำงานได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว

4.สวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้เสมอ

อุปกรณ์เซฟตี้เป็นส่วนสำคัญต่อการทำงานกับเครื่องจักร จึงควรต้องสวมใส่แบบครบครัน เช่น รองเท้าเซฟตี้ ถุงมือ ppe, หมวกนิรภัย, แว่นป้องกันสายตา และ safety equipment ที่จำเป็นต่องานแต่ละประเภท ต้องมีการสวมใส่ให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงานเสมอและควรตรวจดูให้ดีว่าใส่ครบทุกส่วนอย่างถูกต้องแล้วหรือยัง เพื่อให้การเข้าทำงานมีความปลอดภัยสูงสุด ที่สำคัญคือไม่ควรถอดอุปกรณ์เซฟตี้ออกในขณะทำงาน ถ้าร้อนหรือรู้สึกไม่สบายตัวให้หาเวลาพักแล้วจึงค่อยถอดออกจะดีที่สุด

5.ทำตามกฎอย่างเคร่งครัด

กฎของการทำงานกับเครื่องจักรและกฎของบริษัทจะต้องถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับทั้งคนทำงานและเครื่องจักร ซึ่งภายในกฎนี้จะรวมไปถึงการปฏิบัติตัวในขณะทำงานอย่างถูกต้อง เช่น ห้ามยื่นแขนและอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายเข้าไปภายในเครื่องจักร, ถ้าเครื่องจักรเกิดติดขัดห้ามสอดมือเข้าไปหยิบของหรือมุดเข้าไปในขณะที่เครื่องยังทำงานอยู่เด็ดขาด, รวบผมให้เรียบร้อยห้ามให้ผมตกลงไปภายในเครื่องจักร, ห้ามสวมใส่เครื่องประดับใดๆ ทั้งสิ้น และสวมเสื้อผ้าที่มีความกระชับตัวเท่านั้น เป็นต้น

ตรวจสอบเครื่องจักรที่ใช้งานทุกวันอยู่เสมอ โดยมีทั้งการตรวจสอบประจำปีและการตรวจสอบทั่วไป เช่น ตรวจดูสายไฟ, การทำงานโดยรวมมีความเสียหายหรือไม่, ดึงปลั๊กออกหลังเลิกงานหรือยัง, ก่อนทำงานก็ควรตรวจดูเครื่องก่อนเปิด และถ้าตัวครอบเครื่องจักรหลุดหรือชำรุดก็ควรรีบแจ้งช่างทันที นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการตรวจสอบ safety equipment ทุกชิ้นที่ต้องใช้งานทุกวันเช่นกัน

ถ้าต้องการได้รับความปลอดภัยจากการทำงานแบบสูงสุด พร้อมให้ความมั่นใจในการทำงานทุกๆ วัน ควรใช้เครื่องจักรอย่างมีความรู้และระมัดระวัง ตรวจสอบเครื่องจักร, อุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องจักร, ชุดรักษาความปลอดภัย และ safety equipment ต่างๆ ที่ต้องใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนทำงานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวผู้ประกอบการอย่างสูงสุดได้นั่นเอง

เราได้ยินข่าวหรือได้รับข้อมูลรายงานผลการสอบสวนอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานกับเครื่องจักรกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ละเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่ส่งผลถึงความสูญเสียกับร่างกายและชีวิต ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากการกระทำของผู้ปฏิบัติงานเองหรือเกิดจากการขาดความรู้ ทักษะ ความชำนาญและความเข้าใจในการทำงานกับเครื่องจักรหรือมาจากสภาพของเครื่องจักรที่มีการแก้ไข ดัดแปลงส่วนความปลอดภัยออกไปหรือมีสภาพที่ชำรุดขาดการตรวจสอบบำรุงรักษา ขาดระบบการจัดการหรือมาตรการสำหรับใช้ในการควบคุมการทำงานกับเครื่องจักรอย่างปลอดภัยและที่สำคัญขาดบุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงที่จะควบคุม กำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักรอย่างชัดเจน

ดังนั้นเรามารู้จักและทำความเข้าใจกับนิยาม ของคำว่าเครื่องจักรตามที่กฎหมายกำหนดกันดีกว่า

    “เครื่องจักร”หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับก่อกำเนิดพลังงานเปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก๊าซ ไฟฟ้าหรือพลังงานอื่น และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลัง รอก สายพาน เพลา เฟือง หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งเครื่องมือกล

    “เครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร” หมายความว่า ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบหรือติดตั้งไว้บริเวณที่อาจเป็นอันตรายของเครื่องจักร เพื่อช่วยป้องกันอันตรายแก่บุคคลที่ควบคุมหรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียง

    “เครื่องปั๊มโลหะ” หมายความว่า เครื่องจักรที่ใช้สำหรับการปั๊มหรือวัสดุอื่น

     “รถยก”หมายความว่า รถที่ติดตั้งอุปกรณ์ใช้สำหรับการยกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ

     “ลิฟต์” หมายความว่า เครื่องจักรที่ใช้บรรทุกผู้โดยสารขึ้นลงตามแนวดิ่ง

     “เครื่องมือกล” หมายความว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานทางกลเพื่อเป็นการทุนแรงหรือทดแทนการใช้กำลังของผู้ปฏิบัติงาน โดยอาศัยพลังงานจากไฟฟ้า เครื่องยนต์และต้นกำลังอื่นๆ ปกติจะมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยสองมือ ใช้สำหรับเปลี่ยนหรือแปรรูปวัสดุด้วยการตัด เจียร เฉือน กัด ขัดหรืออัดขึ้นรูปมีใช้งานมากในโรงงานแปรรูปไม้ โรงงานซ่อมสร้างเครื่องจักรและโรงกลึงทั่วไป

 

 แนวทางการดำเนินการจัดการด้านความปลอดภัยที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับ ควบคุม จัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักรดังนี้

 

1. จัดทำคู่มือหรือขั้นตอนการดำเนินงานและวิธีการปฏิบัติงานกับเครื่องจักรแต่ละชนิดอย่างปลอดภัย ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบก่อนใช้งาน ขั้นตอนการควบคุมการเดินเครื่องจักร ขั้นตอนการดำเนินเกี่ยวกับการหยุดซ่อม หรือแก้ไขเหตุขัดข้องของเครื่องจักร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน

 2. มีแผนการตรวจสอบ บำรุงรักษาเครื่องจักรและจัดให้มีผู้ชำนาญการที่รับผิดชอบในการดำเนินงานตามสาขาวิศวกรรมควบคุม

3. จัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักรตามชนิด ประเภทและลักษณะการทำงานของเครื่องจักร

4. จัดให้มีการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานกับเครื่องจักร

 5. จัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ชนิดพิเศษสำหรับป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร (Lock out Tag out)

6. จัดให้มีการออกแบบ ติดตั้งและตรวจสอบระบบไฟฟ้าและระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าและรวมถึงการต่อกับระบบสายดิน

 7. จัดให้มีการออกแบบอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติสำหรับเครื่องจักรชนิดอัตโนมัติ ต้องมีสีเครื่องหมายปิด-เปิด ที่สวิตช์อัตโนมัติตามหลักสากลและมีเครื่องป้องกันมิให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดกระทบสวิตช์ อันเป็นเหตุให้เครื่องจักรทำงาน

 8. จัดให้ผู้ปฏิบัติงานใช้และสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลขณะที่ทำงานกับเครื่องจักร

9. จัดให้มีบริเวณพื้นที่สำหรับปฏิบัติงานกับเครื่องจักรมีสภาพที่ปลอดภัย

 10. จัดให้มีการป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรที่มีการถ่ายทอดพลังงานโดยใช้เพลา สายพาน รอก เครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลังต้องมีตะแกรงหรือที่ครอบปิดคลุมส่วนที่หมุนได้และส่วนส่งถ่ายกำลังให้มิดชิด ถ้าส่วนที่หมุนได้หรือส่วนส่งถ่ายกำลังสูงกว่าสองเมตร ต้องมีรั้วหรือตะแกรงสูงไม่น้อยกว่าสองเมตรกั้นล้อมมิให้บุคคล เข้าไปได้ในขณะเครื่องจักรกำลังทำงาน

 11. ห้ามดัดแปลง แก้ไข หรือปล่อยให้ผู้ปฏิบัติงานเปลี่ยนแปลงสมรรถนะของเครื่องจักรหรือเครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร เว้นแต่ได้รับการรับรองจากวิศวกร และเก็บผลการรับรองไว้ให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้

12. สำหรับการประกอบ การทดสอบ การใช้ การซ่อมบำรุง และการตรวจสอบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์อื่นที่นำมาใช้กับเครื่องจักร ต้องปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะหรือคู่มือการใช้งานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ หากไม่มีรายละเอียดคุณลักษณะหรือคู่มือการใช้งานดังกล่าว ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามรายละเอียดคุณลักษณะหรือคู่มือการใช้งานที่วิศวกรได้กำหนดขึ้นเป็นเอกสาร


ที่มา : www.npc-se.co.th 15 ก.ค. 2552