เพราะ เสาเข็ม เป็นหลักสำคัญของการสร้างบ้าน แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักมันจริง ๆ วันนี้เลยขอนำข้อมูลเกี่ยวกับ เสาเข็ม มาเล่าใหม่ตั้งแต่หน้าที่ความสำคัญกันเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวเกี่ยวกับโครงการบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งลามไปถึงเรื่องเสาเข็มแตกหัก จนเป็นเหตุให้ผนังร้าวและบ้านทรุดทั้งหลังจนยากเกินเยียวยา ฉะนั้นกระปุกดอทคอมเลยขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับ เสาเข็ม จากเว็บไซต์ Terrabkk มาเล่าสู่กันฟัง ว่าเจ้าเสาเข็มที่เขาว่าสำคัญนักหนา มันสำคัญขนาดไหน แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียตรงไหนบ้าง “เสาเข็ม” รากฐานที่สำคัญของบ้าน (Terrabkk) จากกระแสข่าวในปัจจุบันเกี่ยวกับปัญหาการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานของเหล่าโครงการหมู่บ้านจัดสรรหรือโครงการคอนโดมิเนียมหลาย ๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็น ดินทรุด ผนังร้าว และอื่น ๆ อีกมายมาย TerraBKK จึงจะพาท่านผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างประเภทต่าง ๆ ในครั้งนี้จะนำเสนอเรื่อง “เสาเข็ม” เสาเข็มมีประเภทอะไรบ้าง สำคัญอย่างไร ทำหน้าที่อะไร เสาเข็มแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร เสาเข็ม เป็นส่วนที่ถือว่าสำคัญที่สุดของอาคาร ทำหน้าที่ในการค้ำยันอาคาร ถ่ายน้ำหนักของตัวบ้านลงสู่พื้นดิน ลักษณะของการรับน้ำหนักเสาเข็มมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ การรับน้ำหนักจากตัวเสาเข็ม และการรับน้ำหนักจากชั้นดิน ซึ่งการรับน้ำหนักจากชั้นดินเป็นการใช้แรงเสียดทานของดินในการรับน้ำหนัก (Skin Friction) ร่วมกับการใช้ปลายของเสาเข็มในการรับแรงกดดันของดิน (End Bearing) โดยลักษณะของการตอกเสาเข็มเราจะตอกลงไปถึงชั้นทราย เนื่องจากเป็นชั้นที่สามารถรับน้ำหนักได้ดีที่สุด ถ้าหากตอกไม่ถึงชั้นทรายในระยะยาวจะทำให้อาคารทรุดได้ แต่ละจังหวัดก็จะมีความลึกของชั้นทรายไม่เท่ากัน อีกทั้งระยะห่างของเสาเข็มสำคัญเช่นกัน ปกติแล้วต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 3 เท่าของขนาดความกว้างเสาเข็ม เพื่อไม่ให้แรงระหว่างดินกับเสาเข็มถูกรบกวน เสาเข็มมีด้วยกันหลายประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่นำไปใช้ประเภทของเสาเข็ม ได้แก่ 1. เสาเข็มตอก วิธีการตอกเสาเข็ม ข้อเสียของเสาเข็มตอก คืออาจจะไม่สะดวกสำหรับไซต์งานที่มีพื้นที่แคบ ๆ เนื่องจากต้องขนส่งด้วยรถขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ไซต์งานที่อยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ได้ 2. เสาเข็มเจาะระบบแห้ง วิธีการทำเสาเข็มเจาะแบบแห้ง สามารถเจาะโดยใช้ขาตั้ง 3 ขา แล้วใช้ลูกตุ้มเหล็กหรือกระบะตักดินกระแทกลงไปในดินลึกประมาณ 1 เมตร หลังจากนั้นนำปลอกเหล็กตอกลงไปในหลุมเจาะ โดยปกติจะลงไปลึกประมาณ 12-14 เมตร ซึ่งระดับความลึกระดับนี้จะเป็นชั้นดินเหนียวอ่อน หลังจากนั้นทำการเจาะดินโดยทิ้งกระบะตักดินลงไปในปลอกเหล็ก แล้วตักขึ้นมาทิ้งบริเวณปากหลุม การเจาะดินจะทำการเจาะไปถึงชั้นทรายแล้วจึงหยุดเจาะ เนื่องจากชั้นทรายจะมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดซึ่งจะทำให้ก้นหลุมพัง หลังจากนั้นใส่เหล็กเสริมลงไปในปลอกเหล็ก แล้วเทคอนกรีตลงไปในปลอกเหล็ก หลังจากเทเสร็จให้รีบดึงปลอกเหล็กขึ้นทันที เสาเข็มเจาะระบบแห้ง มีข้อดีคือเข้าทำงานในที่แคบ ๆ ได้ แต่ข้อเสียคือรับน้ำหนักได้ค่อนข้างน้อย 3. เสาเข็มเจาะระบบเปียก ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก |