การแต่งตัวและเลือกซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายถือว่าเป็นกิจกรรมสุดโปรดของผู้หญิงหลายคน ยิ่งถ้าได้เลือกซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ได้รองสวมใส่ มองในกระจกยิ่งมีความสุขที่ได้แต่งตัวสวยงาม โดยในภาษาอังกฤษก็มีคำศัพท์ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมากมายที่น่าสนใจ ดังนั้นถ้าใครชื่นชอบการแต่งตัวแล้วล่ะก็ ขอแนะนำไว้มาเรียนรู้คำศัพท์ไปพร้อมๆกับสิ่งที่คุณชอบกันดีกว่า อย่างน้อยๆ คุณจะมีความสุขที่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ รวมถึงมันจะทำให้คุณเข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้ง่ายกว่าคนอื่นอีกด้วย มาดูคำศัพท์เกี่ยวกับการแต่งตัวที่น่ารู้กัน
ศัพท์เทคนิคสุดชิคแห่งโลกแฟชั่น...รู้ไว้ เสริมบารมีแห่ง ‘สไตล์’ แน่นอน!นับถอยหลังสู่งานแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับงาน Bangkok International Fashion Week (BIFW) 2019 ปรากฏการณ์แห่งโลกแฟชั่นสุดตื่นตาตื่นใจ ล้นด้วยแรงบันดาลใจ และความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่...OneSiam รวมคำศัพท์ที่คนแฟชั่นใช้พูดกัน ให้คุณเข้าใจแบบง่ายๆ เพิ่มอรรถรสในการชมโชว์เหมือนมีแฟชั่นกูรูมานั่งเป็นเพื่อน 1. Front Row ที่นั่งชมแฟชั่นโชว์แถวหน้าสุด สำรองไว้ให้กับบุคคลที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น ตั้งแต่เอดิเตอร์ตัวท็อป จนถึงเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ บล็อกเกอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ
3. Fabric เนื้อผ้าตั้งต้น ก่อนที่จะถูกนำไปใช้ตัดเป็นชุด มีตั้งแต่ผ้าคอตตอน ผ้าไหม ผ้ามัสลิน ผ้าเจอร์ซี่ ผ้าทวี้ด ผ้ากำมะหยี่
10. Resort Collection หรือ Cruise Collection คอลเล็กชั่นคั่นระหว่างฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน เป็นเสื้อผ้าสำหรับใส่ในช่วงวันหยุดหน้าร้อน ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงพฤศจิกายน แรกเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นเจ็ตเซ็ตเตอร์ (คนร่ำรวยที่เดินทางท่องเที่ยวแบบหรูหราด้วยเครื่องบินเจ็ต) FYI จากคนวงในระดับโลกว่า รีสอร์ตคอลเล็กชั่นขายได้มากกว่าคอลเล็กชั่นหลักเสียอีก! 11. Trompe l’oeil เทคนิค “ทร็องป์เลย” เป็นภาษาฝรั่งเศสหมายถึงภาพลวงตา ในทางแฟชั่นคือการสร้างเอ็ฟเฟ็กต์เหมือนเป็นภาพ 3 มิติบนเสื้อผ้า นอกจากเป็นกิมมิกความสนุกแล้ว ยังใช้เพื่อปรับรูปร่าง หรือเพิ่มเลเยอร์ได้ด้วย
14. Haute couture โอต กูตูร์ ภาษาฝรั่งเศส คือศิลปะแฟชั่นเสื้อผ้าชั้นสูง ตัดเย็บอย่างพิถีพิถันด้วยมือและใช้เนื้อผ้าคุณภาพสูง ผ่านขั้นตอนการประดิดประดอยขั้นสุด งานที่กินเวลานานและสนนราคาประเมินไม่ได้ (ราคาหลักล้าน!) และมีเพียงแฟชั่นเฮ้าส์ไม่กี่แห่งที่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น Haute Couture ได้จริงๆ เพราะต้องผ่านเกณฑ์อันเคร่งครัดจากสมาพันธ์ห้องเสื้อชั้นสูงของฝรั่งเศส เช่น ออกแบบและตัดชุดให้กับลูกค้าแบบตัวต่อตัว ต้องมีการฟิตติ้งอยู่เป็นระยะๆ ในอะเตอลิเย่ร์ (ที่ทำงาน) ที่มีลูกมืออย่างน้อย 15 คน มีช่างเทคนิคอย่างน้อย 20 คนประจำ และออกคอลเล็กชั่นปีละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 ชุด - - ต้องมีชื่อของ Chanel, Dior, Givenchy, Jean Paul Gaultier, Valentino และ Elie Saab
18. Embroidery งานปักลวดลาย นิยมใช้เส้นด้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าคอตตอน หรือผ้าเรยอนมาเย็บลงบนเนื้อผ้า หรือแฟชั่นไอเท็มอื่นๆ อาจใช้แมตทีเรียลอื่นๆ เช่น ไข่มุก ลูกปัด เลื่อม
25. Backstage ด้านหลังเวทีแฟชั่นโชว์ เป็นสถานที่แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวของนายแบบนางแบบก่อนเดินโชว์ “เป็นนาทีแห่งความโกลาหลและความบ้าคลั่งก่อนโชว์เริ่ม” คำสารภาพจากแฟชั่นดีไซเนอร์ระดับโลก และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและคนดูไม่ได้เห็น - - แก้ปัญหา (ที่อาจจะเกิดขึ้น) แบบฉับพลัน อย่างชุดที่จะใส่เดินแบบเกิดชำรุด หรือนายแบบนางแบบผละมาจากอีกโชว์ แล้วต้องเมกอัพใหม่ในเวลาที่เหลือน้อยนิด แต่หลังโชว์จบก็จะเป็นโมเม้นต์ที่ผ่อนคลายขึ้น มักเห็นกลุ่มคนแฟชั่นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังถ่ายเซลฟี่กัน - - แน่นอนต้องมีช็อตทำหน้าตาแปลกๆ หรือแอบขโมยซีน ให้ขำก๊าก
27. Décolleté (เด-โก-แลต-เต้) ภาษาฝรั่งเศส หมายถึงเสื้อผ้าสตรีที่ออกแบบให้มีคอลึก เผยให้เห็นช่วงไหล่และเนินอก ในสังคมตะวันตกมองว่าการเผยให้เห็นช่วงลำคอและเนินอกคือความงามและแสดงความเป็นหญิง แต่บางประเทศกลับมองว่าน่าสะพรึงและเป็นการยั่วยวน
29. Designer’s walk เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีไซเนอร์จะปรากฏตัวบนรันเวย์หลังโชว์จบ พร้อมเสียงปรบมือและอาจจะมีนายแบบ-นางแบบมามอบดอกไม้ให้ด้วย
และแน่นอนว่าคุณสามารถเป็นเจ้าของไอเท็มเด่นจากคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มีวางขายที่ไหน มาจำหน่ายกันเอ็กซ์คลูซีฟที่ See Now Buy Now Pop-up shop ณ Hall of Fame ชั้น M สยามพารากอน ดูโชว์จบแล้วช้อปต่อได้เลยทันที! ในงาน Bangkok International Fashion Week (BIFW2019) ตั้งแต่วันที่ 28 - 31 มีนาคม 2562 |