การวางแผนดูแลสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว เป็นเรื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่งเพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ตัว ของเราเองและบุคคลในครอบครัวเกิดความกระตือรือร้นในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดสัมพันธภาพอันดีระหว่างสมาชิกทุกคนในครอบครัว เกิดความรักในครอบครัวซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างดี อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต 1. คุณค่าของการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว คำว่า “สุขภาพดี” ใน แต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกันออกไปตามแต่สภาวะสังคม หรือรูปแบบของวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วสุขภาพดีอย่างน้อยจะต้องหมายถึง ความสมบูรณ์ของทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดได้เนื่องจากการดูแลเอาใจใส่ระบบต่างๆ ที่สำคัญของร่างกาย การที่จะมีสุขภาพดีได้นั้น ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของตนเองหรือของบุคคลในครอบครัว ไม่ใช่เป็นสิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ หากแต่จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนในการดูแลสุขภาพล่วงหน้าซึ่งจะช่วยให้เกิด ผลดี ดังนี้ 1. สามารถที่จะกำหนดวิธีการหรือเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตัวเราเองหรือบุคคลในครอบครัวได้อย่างเหมาะสม 2. สามารถที่จะกำหนดช่วงเวลาในการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม อาจ จะมีกิจกรรมการออกกำลังกายในช่วงเช้า หรือในบางครอบครัวอาจจะมีเวลาว่างในช่วงเย็น ก็อาจจะกำหนดกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพในช่วงเย็นก็ได้ หรืออาจจะกำหนดช่วงเวลาในการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคคลในครอบครัวได้อย่าง เหมาะสม 3. เป็น การเฝ้าระวังสุขภาพทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัว ไม่ให้ป่วยด้วยโรคต่างๆ นับว่าเป็นการสร้างสุขภาพ ซึ่งจะดีกว่าการที่จะต้องมาซ่อมสุขภาพ หรือการรักษาพยาบาลในภายหลัง 4. ช่วยในการวางแผนเรื่องของเศรษฐกิจและการเงินในครอบครัว เนื่องจากไม่ต้องใช้จ่ายเงินไปในการรักษาพยาบาล 5. ส่งเสริมสุขภาพทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัว 6. ทำให้คุณภาพชีวิตทั้งของตนเองและสมาชิกในครอบครัวดีขึ้น 2.หลักในการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว 1.การ สำรวจรูปแบบการดำเนินชีวิตของสมาชิกในครอบครัวว่าเป็น อย่างไร เนื่องจากการดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวนั้น ไม่ใช่เป็นการดำเนินงานโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงคนเดียวแล้วจะประสบความ สำเร็จ หากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกในครอบครัวเป็นสำคัญ 2.จาก ข้อมูลที่ได้ นำมากำหนดเป็นแผนการในการที่จะดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวโดยการกำหนด เป็นแผนในการดูแลสุขภาพซึ่งอาจจะทำแยกเป็นรายบุคคล หรืออาจจะทำเป็นภาพรวมของทุกคนในครอบครัว 3.เมื่อ กำหนดแผนในการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวได้แล้ว ก็ดำเนินตามแผนที่วางไว้ และประเมินผลเป็นระยะๆ ว่าบุคคลในครอบครัวสามารถปฏิบัติตามแผนในการดูแลสุขภาพที่วางไว้ได้หรือไม่ อย่างไร 4.หาก พบว่าไม่สามารถปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ได้ ก็นำข้อมูลมาวิเคราะห์ใหม่ ว่าเกิดจากปัจจัยใด และลองปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมกับสมาชิกในครอบครัวของเราให้มากที่สุด แหล่งอ้างอิง https://sites.google.com/site/kruwiruttwk/hnwy-thi-2 แบบทดสอบ วิชา พ 42101 สุขศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
ก. ชายและหญิงทำการสมรสกัน ข. บุคคลที่มีความผูกพันกันทางสายโลหิต ค. บุคคลที่พักอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ง. บุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน รักใคร่ ห่วงใย และเอื้ออาทรต่อกัน 2. ครอบครัวของหนูแหววอยู่รวมกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ พี่สาว และหนูแหวว ครอบครัวนี้จัดเป็นครอบครัวประเภทใด
ข. ครอบครัวขยาย ค. ครอบครัวแท้ ง. ครอบครัวไม่แท้ 3. ถ้าพี่สาวของหนูแหววแต่งงานแล้วพาสามีมาอยู่ด้วยในบ้าน ลักษณะครอบครัวนี้เป็นคอบครัวประเภทใด
ข. ครอบครัวไม่แท้ ค. ครอบครัวเดี่ยว ง. ครอบครัวขยาย 4. การวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวเป็นหน้าที่ของใคร
ข. พ่อ ค. พ่อ แม่ ลูก ง. ทุกคนในครอบครัว 5. การดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวข้อใดสำคัญที่สุด
ข. การพักผ่อนหลับนอน ค. การป้องกันโรค ง. การรับประทานอาหาร 6. บุคคลวัยใดที่ควรได้รับการวางแผนดูแลสุขภาพมากที่สุด
ข. วัยเด็ก วัยรุ่น ค. วัยทารก วัยรุ่น ง. วัยรุ่น วัยชรา 7. อาหารมื้อใด สำคัญที่สุดสำหรับร่างกาย
ข. มื้อกลางวัน ค. มื้อเย็น ง. ทุกๆ มื้อ 8. ข้อใดต่อไปนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเอง
ข. วิมลเล่นโยคะหลังเลิกงาน ค. นารี นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ ง. สุดารับประทานอาหารเจทุกมื้อ 9. ข้อใดเป็นโรคที่มักระบาดในฤดูฝน
ข. ไอกรน ค. หวัด ง. โปลิโอ 10. ในวันหนึ่งๆ ร่างกายควรนอนหลับพักผ่อนเป็นเวลาเท่าใดจึงเหมาะ
ข. 6 - 8 ชั่วโมง ค. 10 - 12 ชั่วโมง ง. แล้วแต่ความต้องการของร่างกาย
|