จงสรุปความหมายของ server และ client มาพอเข้าใจ

          นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ ถ้าทำงานได้เร็วแต่ขาดความน่าเชื่อถือก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มาใช้งาน ทำระบบงานมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพราะจะมีการทำสำรองข้อมูลไว้ เมื่อเครื่องที่ใช้งานเกิดมีปัญหา ก็สามารถนำข้อมูลที่มีการสำรองมาใช้ได้ อย่างทันที

เพื่อช่วยให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น การนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายจึงทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันทำได้ง่ายมากขึ้นผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายสามารถ ติดต่อถึงกันได้ทันที ลดข้อจำกัดเรื่องของเวลาและสถานที่ลงไปได้


2. ระบบเครือข่ายมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่างประกอบ

ตอบ ข้อดี คือสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกันได้เช่นเครื่องพิมพ์หรือพื้นที่ในฮาร์ดดิสนอก

จากนั้นไฟล์ข้อมูลที่จำเป็นก็สามารถเรียกใช้งานได้จากหลายๆ เครื่องหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันก็ทำได้โดยง่าย ข้อเสียของระบบเครือข่ายอาจเกิดปัญหาได้เช่นกัน เช่น เรียกใช้ข้อมูลได้ช้าเพราะข้อจำกัดของสายของเครือข่ายที่ทำได้ช้ากว่าสายต่อภายในเครื่อง และยากต่อการควบคุมดูแล เพราะมีผู้ใช้งานหลายคนร่วมกัน ข้อมูลอาจไม่สามารถใช้งานได้ทันที หากผู้ใดผู้หนึ่งเรียกใช้ข้อมูล อยู่เป็นต้น


 3.สายเคเบิลที่ได้รับความนิยมอย่างแพรหลายมากที่สุดคือสายชนิดใด จงบอกถึงลักษณะโดยทั่วไปของสายดังกล่าว

ตอบ  สายแบบ UTP หรือแบบไม่มีฉนวนหุ้ม ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย เป็นสายขนาดเล็กคล้ายสายโทรศัพท์มี 8 เส้น ตีเกลียวกันเป็นคู่ๆ เพื่อลดสัญญานรบกวน การเดิน- สายต้องจากเครื่องเข้าหาอุปกรณ์รวมสายหรือ HUB เท่านั้น


4. จงอธิบายวิธีการทำงานแบบ CSMA/CD ที่ใช้ในระบบเครือข่าย มาพอเข้าใจ

ตอบ วิธีการนี้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะคอย "ฟัง" ว่าสายว่างหรือไม่ ถ้าพบว่าสายว่างก็จะเริ่มส่งสัญ- ญาณออกมาซึ่งถ้าสายว่างจริงข้อมูลก็จะส่งไปถึงผู้รับได้เลย แต่การเริ่มส่งสัญญาณนี้อาจเกิดขึ้น จากหลาย ๆ สถานีฟร้อมกันได้ เพราะต่างคนต่าง "ฟัง" และเข้าใจว่าสายว่างพร้อมกันผลก็คือสัญ-ญาณที่จะได้จะชนกันในสาย ทำให้ข้อมูลใช้ไม่ได้ ดังนั้นเครื่องแต่ละเครื่องจึงต้องสามารถตรวจจับการชนกันของข้อมูลได้ด้วย เมื่อเครื่องที่ส่งข้อมูลออกมาชนกัน ก็ให้หยุดส่งและรอโดยนับถอยหลัง ตามเวลาที่สุ่มขึ้นมาซึ่งจะแตกต่างกันระหว่างแต่ละเครื่อง แล้วค่อยส่งข้อมูลออกมาใหม่


5. จงสรุปความหมายของ Server และ Client มาพอเข้าใจ

ตอบ  – Server  คือเครื่องแม่ข่ายที่ทำหน้าที่ให้บริการข้อมูลสำหรับเครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายมักมีหน้าที่และชื่อที่เรียกแตกต่างกันแล้วแต่การให้บริการ เช่น Mail server,File server,Web server Pint server,Database server เป็นต้น

         - Client คือเครื่องลูกข่ายที่อยู่ในระบบ มีหน้าที่ร้องขอหรือเรียกใช้บริการจากเครื่องแม่ข่ายเมื่อทำงานหรือขอข้อมูลบางอย่างนั้นเอง


6. HUB คืออะไร เอามาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรกับระบบเครือข่าย

ตอบ ตัวรวมสายซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในการต่อ LAN โดยสามารถโยบย้ายสาย สลับเครื่องหรือ เพิ่มจำนานเครื่องได้ เนื่องจากสายทั่งหมดจากทุกเครื่องจะลากมารวมอยู่ที่เดียวกันหมด โดยเรา อาจทำเป็นตู้หรือห้องเพื่อไว้เก็บสายด้วยก็ได้ อาจมีจำนวนพอร์ตเพื่อใช้สำหรับต่อสายต่างกันได้ในแต่ละตัวเช่น 5,8,10,16,24 พอร์ตหรือมากกว่านั้นเป็นต้น


7. จงยกตัวอย่างมาตรฐานของ Ethernet ความเร็วสูงพร้อมทั้งอธิบายมาพอเข้าใจ

ตอบ มาตรฐานของ Ethernet ความเร็วสูง มีดังต่อไปนี้

-1000 Base-T เป็นระบบที่พัฒนาต่อจาก Ethernet โดยใช้สายที่ดีขึ้นกว่าเดิมคือสาย UTP แบบ Category5

หรือดีกว่า การต่อนั้นใช้ HUB ที่ทำมาให้รองรับความเร็ว 100 Mbps ด้วยเท่านั้น

- Gigabit Ethernet หรือเรียกกันเป็น 1000 Base-T (สาย UTP) หรือ 1000 Base-F (สาย Fiberoptic)สามารถ ส่งข้อมูลได้ในระดับความเร็ว 1000 Mbps หรือ 1 Gbps เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูงมาก เช่น งานกราฟฟิก หรือใช้เชื่อมต่อตรงช่วงที่เข้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพื่อสามารถรอง รับงานจากเครื่องอื่นได้มากพร้อมกัน

- 10 Gigabit Ethernet เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบอื่น ๆ คือทำได้ถึง 10000 Mbps หรือ10 Gbps นิยมใช้สำหรับเชื่อมต่อกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันระหว่างเมืองหรือ

WAN เป็นต้น


8. จงบอกลักษณะโดยทั่วไปของสายโคแอกเชี่ยล

ตอบ สายเส้นเดี่ยวแบบที่มีเปลือกเป็นสายโลหะถัก (Shield) เพื่อป้องกันคลื่นรบกวน โดยมักใช้กับเครือข่ายแบบ Ethernet ดั้งเดิมซึ่งสามารถใช้ต่อเชื่อมระหว่างแต่ละเครื่องโดยตรงในลักษณะที่ไม่ต้อง

มีอุปกรณ์รวมสายเข้ามาช่วย ปัจจุบันเริ่มใช้กันน้อยลงเพราะถูกทดแทนด้วยสายแบบอื่นที่มีราคาถูกและทำความเร็วได้ดีกว่า


9. จงบอกถึงหน้าที่หลักของอุปกรณ์ Route

ตอบ  Router จะทำงานเสมือนเป็นเครื่องหรือ node หนึ่งใน LAN ที่รับข้อมูลเข้ามาแล้วส่งต่อไปยังปลายทางที่ต้องการ หน้าที่หลักของ Router คือหาเส้นทางที่ดีที่สุดในการส่งต่อข้อมูลต่อไปยังเครือข่ายอื่นซึ่งอาจใช้สื่อสัญญาณหลายแบบแตกต่างกันได้ โดยมีการแปลงหรือจัดรูปแบบข้อมูลตามแบบ


10.ความแตกต่างระหว่าง Ethernet/Internet/Extranet


อินเทอร์เน็ต 


              บางครั้งเรียกว่าเพียงแค่"สุทธิ"เป็นระบบที่ทั่วโลกของเครือข่ายคอมพิวเตอร์  เครือข่ายของเครือข่ายที่ผู้ใช้ที่ใด ๆ ในคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งสามารถหากพวกเขามีสิทธิ์ได้รับข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ (และบางครั้งพูดคุยโดยตรงกับผู้ใช้ ที่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ) มันก็รู้สึกโดยที่หน่วยงานที่ Advanced Research Projects (อาภา) ของรัฐบาลสหรัฐฯในปี 1969 และเป็นที่รู้จักกันเป็นครั้งแรกที่ARPANET จุดมุ่งหมายเดิมคือการสร้างเครือข่ายที่จะช่วยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์การวิจัยที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยเพื่อให้สามารถ"พูดคุยกับ"คอมพิวเตอร์การวิจัยที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ประโยชน์ด้านของการออกแบบ ARPAnet ได้ว่าเพราะข้อความอาจจะส่งหรือเส้นทางในมากกว่าหนึ่งทิศทางเครือข่ายที่สามารถทำงานต่อไปแม้ว่าบางส่วนของมันถูกทำลายในเหตุการณ์ของการโจมตีทางทหารหรือภัยพิบัติอื่นๆ


อินทราเน็ต 


              เป็นเครือข่ายส่วนตัวที่มีอยู่ภายในองค์กร มันอาจจะประกอบด้วยการเชื่อมโยงกันหลายระบบเครือข่ายท้องถิ่นและยังใช้สายเช่าในเครือข่ายบริเวณกว้าง โดยปกติอินทราเน็ตรวมถึงการเชื่อมต่อผ่านหนึ่งหรือมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นประตูสู่อินเทอร์เน็ตภายนอกวัตถุประสงค์หลักของอินทราเน็ตคือการใช้ข้อมูลร่วมกันของ บริษัท และทรัพยากรในการคำนวณในหมู่พนักงาน อินทราเน็ตยังสามารถใช้เพื่ออำนวยความสะดวกการทำงานในกลุ่มและสำหรับ teleconferencesอินทราเน็ตใช้ TCP / IP, HTTP, และอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลอื่น ๆ และโดยทั่วไปดูเหมือนว่ารุ่นที่เป็นส่วนตัวของอินเทอร์เน็ต ด้วยอุโมงค์ บริษัท สามารถส่งข้อความส่วนตัวผ่านเครือข่ายสาธารณะที่ใช้เครือข่ายสาธารณะที่มีการเข้ารหัสพิเศษ / ถอดรหัสและรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ที่จะเชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอินทราเน็ตของพวกเขาไปยังอีก อีเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งท้องถิ่น (LAN)เทคโนโลยี ที่ระบุไว้ในมาตรฐาน IEEE 802.3, Ethernet การพัฒนาเดิมโดยซีร็อกซ์จากข้อกำหนดก่อนหน้านี้ที่เรียกว่า Alohanet (สำหรับ Palo Alto Research Center Aloha เครือข่าย) และพัฒนาแล้วต่อไปโดยซีร็อกซ์ธันวาคมและ Intel Ethernet LAN มักจะใช้คู่สายหรือเกรดพิเศษของสายคู่บิดอีเธอร์เน็ตยังถูกใช้ใน LAN ไร้สาย ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งระบบอีเธอร์เน็ตมักจะเรียกว่า10BASE - Tและให้ความเร็วในการส่งได้ถึง 10 Mbps อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับสายเคเบิลและการแข่งขันสำหรับการเข้าถึงการใช้ความรู้สึกเป็นตัวแทนจำหน่ายหลายAccess ด้วยระบบตรวจจับการชนกัน (CSMA / CD protocol) Fast Ethernet หรือ100BASE - T ให้ความเร็วในการส่งได้ถึง 100 เมกะบิตต่อวินาทีและโดยปกติจะใช้สำหรับระบบ LAN

เอ็กซ์ทราเน็ต 


           เป็นเครือข่ายส่วนตัวที่ใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและระบบสื่อสารโทรคมนาคมสาธารณะเพื่อความปลอดภัยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลทางธุรกิจของหรือการดำเนินงานกับซัพพลายเออร์ผู้ขายหุ้นส่วนลูกค้าหรือธุรกิจอื่น ๆ เอ็กซ์ทราเน็ตสามารถดูได้เป็นส่วนหนึ่งของ บริษัท ฯ อินทราเน็ตที่จะขยายไปยังผู้ใช้ภายนอก บริษัท ก็ยังได้รับอธิบายว่าเ​​ป็น"สภาวะของจิตใจ"ซึ่งในอินเทอร์เน็ตเป็นที่รับรู้เป็นวิธีการทำธุรกิจกับ บริษัท อื่น ๆ รวมทั้งการขายสินค้าให้กับลูกค้า
                เอ็กซ์ทราเน็ตต้องมีการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เหล่านี้สามารถรวมถึงการจัดการเซิร์ฟเวอร์ไฟร์วอลล์การออกและการใช้งานของใบรับรองดิจิทัลหรือวิธีการที่คล้ายกันตรวจสอบผู้ใช้การเข้ารหัสของข้อความและการใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (

Server Client หมายถึงอะไร

ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ (client/server) คือ การที่มีเครื่องผู้ให้บริการ (server) และเครื่อง ผู้ใช้บริการ (client) เชื่อมต่อกันอยู่ และเครื่องผู้ใช้บริการได้มีการติดต่อร้องขอบริการจากเครื่องผู้ ให้บริการ เครื่องผู้ให้บริการก็จะจัดการตามที่เครื่องผู้ขอใช้บริการร้องขอ แล้วส่งข้อมูลกลับไปให้ เครือข่ายแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ ...

Server และ Client แตกต่างกันอย่างไร

Client คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไปร้องขอบริการและรับบริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก Server. server คือเครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทาหน้าที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลาย อย่าง โดยอาศัยโปรแกรม Web serverแก่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่าย ในระบบเครื่อข่าย

Web Server หมายถึงอะไร

Web server คือโปรแกรมที่อยู่และทำงานบนเครื่องฝั่ง Server (Host) ทำหน้าที่ในการรับคำสั่งจากการร้องขอของฝั่ง Client (โดยผ่านทาง Browser) และประมวลผลการทำงานจากการร้องขอดังกล่าว แล้วส่งข้อมูลกลับไปยังเครื่องของ Client ที่ร้องขอ สรุปง่ายๆ ก็คือ Web server คือโปรแกรมที่คอยให้บริการแก่ Client ที่ร้องขอข้อมูลเข้ามาโดยผ่าน ...

Client server มีการทํางานอย่างไร

เป็นรูปแบบหนึ่งของเครือข่ายแบบ server-based โดยจะมีคอมพิวเตอร์หลักเครื่องหนึ่งเป็น เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะไม่ได้ทำหน้าที่ประมวลผลทั้งหมดให้เครื่องลูกข่าย หรือไคลเอนต์ (client) เซิร์ฟเวอร์ทำหน้าที่เสมือนเป็นที่เก็บข้อมูลระยะไกล (remote disk) และประมวลผลบางอย่างให้กับไคลเอนต์เท่านั้น เช่น ประมวลผลคำสั่งในการดึงข้อมูลจาก ...