จงบอกจรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้กระดานข่าว

1. จงอธิบายความหมายของจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ หลักการที่มนุษย์ในสังคมยึดถือปฏิบัติ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคม
2. จงอธิบายความหมายความเป็นส่วนตัวในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ สิทธิที่จะอยู่ตามลำพังและเป็นสิทธิที่เจ้าของสามารถควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น
3. จงอธิบายความหมายของความถูกต้องในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใช้ข้อมูลนั้น
4. จงอธิบายความเป็นเจ้าของในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ ในสังคมของโลกอินเทอร์เน็ต มักจะกล่าวถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะที่เป็นปันหามากที่สุด คือ ลิขสิทธิ์เพลง ภาพยนต์ รูปภาพ วิดีโอ และข้อมูลข่าวสาร
5. จงอธิบายการเข้าถึงข้อมูลในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ เป็นการป้องกันการเข้าไปดำเนินการกับช้อมูลของผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
6. จงอธิบายวิธีการดูแลตู้จดหมาย (Inbox)
ตอบ
7. จงอธิบายจรรยาบรรณสำหรับผู้สนทนา
ตอบ อินเทอร์เน็ตมีคำสั่งให้ใช้ในการสนทนาออนไลน์ เช่น chat,line,facebook ในการเรียกหาหรือเปิดการสนทนา
8. จงอธิบายจรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้กระดานข่าว
ตอบ ข่าวและผู้อภิปรายต่างๆ ที่เขียนลงไปจะกระจายออกไปทั่วโลก ผู้ใช้บริการโดยเฉพาะที่ต้องการเขียนข่าวสารบนกระดานข่าว จะต้องเคารพกฎกติกามารยาทโดยอย่างเคร่งครัด
9. จงบอกบัญญัติ 10 ประการในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ 1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
3. ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในแฟ้มของผู้อื่น
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7. ต้องไม่ระเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ
10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท
10. จงบอกผลกระทบทางบวกต่อสังคมไทยในการใช้อินเทอร์เน็ต
ตอบ 1. ทำให้มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่
2. ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน
3. ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา

จำนวนผู้เข้าชม

</td> </tr> <tr> <td><img src="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/photo/200w_d.gif" width="200" height="150"></td> </tr> <tr> <td><img src="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/photo/emailevent.gif" width="200" height="150"></td> </tr> </table> &nbsp;</td> <td width="644" valign="top" bgcolor="#FFCCCC"><div align="center">หน่วยที่ 9 จริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต</div> &nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp; ความหมายของจริยธรรมในการใช้อินเตอร์เน็ต จริยธรรม&nbsp; หมายถึง&nbsp; หลักการที่มนุษย์ในสังคมยึดถือปฏิบัติ&nbsp;&nbsp; เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขในสังคม&nbsp; และเมื่อนำไปใช้กับอินเทอร์เน็ต&nbsp; ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นิยมใช้มากที่สุดของมนุษย์ในขณะนี้&nbsp; ย่อมหมายถึงมนุษย์จะต้องมีจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต&nbsp; เพราะในการใช้อินเทอร์เน็ต&nbsp; มนุษย์ย่อยต้องมีสังคม&nbsp; ซึ่งประกอบด้วยคนหลายคนทั่วโลก&nbsp; ดังนั้น&nbsp; จึงสมควรที่จะมีการวางกรอบให้มนุษย์ประพฤติ&nbsp; เพื่อการใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกันอย่างมีความสุข&nbsp; โดยการกำหนดแนวทางในการปฏิบัติหรือควบคุมการใช้&nbsp; ซึ่งเมื่อพิจารณาจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว&nbsp; สรุปได้&nbsp; 4&nbsp; ประเด็น&nbsp; ดังนี้ &nbsp;&nbsp;&nbsp; 1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและสารสนเทศ&nbsp; โดยทั่วไปหมายถึง&nbsp; สิทธิที่จะอยู่ตามลำพังและเป็นสิทธิที่เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น&nbsp; ปัจจุบันมีประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวที่เป็นข้อน่าสังเกต&nbsp; ดังนี้ 1.1 การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล 1.2 การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตในการติดตามความเคลื่อนไหวหรือพฤติกรรมของบุคคล 1.3 การใช้ข้อมูลของลูกค้าระบบอินเทอร์เน็ต&nbsp; เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด 1.4 การเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล&nbsp; เช่น&nbsp; หมายเลขโทรศัพท์&nbsp; หมายเลขบัตรเครดิต&nbsp; และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ &nbsp;&nbsp;&nbsp; 2. ความถูกต้อง&nbsp; (Information&nbsp; Accuracy) ในการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการรวบรวม&nbsp; จัดเก็บ&nbsp; และเรียกใช้ข้อมูลนั้น&nbsp; คุณลักษณะที่สำคัญประการหนึ่ง&nbsp; คือ&nbsp; ความน่าเชื่อถือของข้อมูล&nbsp; ทั้งนี้&nbsp; ข้อมูลจะมีความน่าเชื่อถือมากเพียงใด&nbsp; ย่อมขึ้นอยู่กับความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลด้วย&nbsp; ประเด็นด้านจริยธรรมเกี่ยวกับความถูกต้องจองข้อมูล&nbsp; โดยทั่วไปจะพิจารณาว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่&nbsp; ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคลหรือองค์กร &nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. ความเป็นเจ้าของ&nbsp; (Information&nbsp; Property) ในสังคมของโลกอินเทอร์เน็ต&nbsp; มักจะกล่าวถึงการละเมิดลิขสิทธิ์&nbsp; โดยเฉพาะที่เป็นปัญหามากที่สุด&nbsp; คือ&nbsp; ลิขสิทธิ์เพลง&nbsp; ภาพยนตร์&nbsp; รูปภาพ&nbsp; วิดีโอ&nbsp; และข้อมูลข่าวสาร&nbsp; ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของย่อมมีสิทธิ์ในการปกป้องเป็นเจ้าของ &nbsp;&nbsp;&nbsp; 4.การเข้าถึงข้อมูล&nbsp; (Data&nbsp; Accessibility) เป็นการป้องกันการเข้าไปดำเนินการกับข้อมูลผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง&nbsp; และเป็นการรักษาความลับของข้อมูล&nbsp; ตัวอย่างสิทธิในการใช้งานระบบ เช่น&nbsp; การซื้อของขายสินค้าด้วยบัตรเครดิต&nbsp; การสั่งจองสินค้าที่จะต้องระบุรายละเอียดส่วนบุคคล&nbsp; เป็นต้น&nbsp; ดังนั้น&nbsp; ในการพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ต&nbsp; จึงได้มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้&nbsp; และการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมนั้น&nbsp; ถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมเช่นเดียวกับการละเมิดข้อมูลส่วนตัว&nbsp; ในการใช้งานคอมพิวเตอร์และเครือข่ายร่วมกัน&nbsp; หากผู้ใช้ร่วมใจกันปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัดแล้วการผิดจริยธรรมตามประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นก็คงจะไม่เกิดขึ้น &nbsp;&nbsp; คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกวัน&nbsp; การใช้งานระบบเครือข่ายที่ออนไลน์และส่งข่าวสารถึงกันย่อมมีผู้ที่มีความประพฤติไม่ดีบ้าง&nbsp; และมักจะสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่นอยู่เสมอ&nbsp; หลายเครือข่ายจึงได้ออกกฎเกณฑ์การใช้งานภายในเครือข่าย&nbsp; เพื่อให้สมาชิกในเครือข่ายของตนยึดถือ&nbsp; ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และได้รับประโยชน์สูงสุด&nbsp; ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนที่เป็นสมาชิกเครือข่าย&nbsp; จะต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ข้อบังคับของเครือข่ายนั้น&nbsp; มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้ร่วมใช้บริการคนอื่นและจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่เข้าไปขอใช้บริการต่างๆบนเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมอินเทอร์เน็ตสงบสุข Arlene H. Rinaldiแห่งมหาวิทยาลัย&nbsp; ฟอร์ริดาแอตแลนติก&nbsp; จึงรวบรวมกฎกติกา&nbsp; มารยาทและกำหนดเป็นจรรยาบรรณอินเทอร์เน็ต&nbsp; หรือที่เรียกว่า&nbsp; Netiquette&nbsp; ไว้ดังนี้ &nbsp;&nbsp;&nbsp; 1.จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนมีเมลบ็อกซ์ (mail box) หรือเมลแอดเดรส (E-mail Address) ที่ใช้อ้างอิงในการรับ-ส่งจดหมายความรับผิดชอบต่อการใช้งานอีเมลในระบบจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนตองให้ความสำคัญเพราะจดหมายมีการรับ-ส่งโดยระบบหากมีจดหมายค้างในระบบจำนวนมากจำทำให้พื้นที่ของจดหมาะในระบบหมดจะเป็นผลให้ระบบไม่สามารถรับ-ส่งจดหมายต่อไปได้หลายต่อหลายครั้งระบบปฏิเสธ&nbsp;&nbsp; การรับ-ส่งจดหมายเพราะไฟล์ระบบเต็มดังนั้น&nbsp; จึงควรมีความรับผิดชอบในการดูแลกล่องจดหมาย (Inbox) ของตนเอง ดังนี้ 1.ตรวจจดหมายให้บ่อยครั้ง&nbsp; และจะต้องจำกัดจำนวนไฟล์และข้อมูลในกล่องจดหมายของตนให้เลือกภายในโควตาที่กำหนด&nbsp; เพราะในปัจจุบันมักจะมีจดหมายขยะหรือจดหมายจาก Face book เข้ามาเป็นจำนวนมาก 2.ลบข้อความหรือจดหมายที่ไม่ต้องการออกจากระบบกล่องจดหมาย เพื่อลดปริมาณจำนวนจดหมายที่อยู่ในกล่องจดหมาย (Inbox) ให้มีจำนวนน้อยที่สุด 3.ทำการโอนย้ายจดหมายจากระบบไปไว้ยังแหล่งเก็บข้อมูลอื่น&nbsp; เช่น&nbsp; ในเครื่องคอมพิวเตอร์&nbsp; เพื่อใช้อ้างอิงในภายหลัง&nbsp; แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย 4.พึงระลึกเสมอว่าจดหมายที่เก็บไว้ในกล่องจดหมายนี้อาจถูกผู้อื่นแอบอ่านได้&nbsp; ไม่ควรเก็บข้อมูลหรือจดหมายที่คุณคิดว่าไม่ใช้แล้วเสมือนเป็นประกาศไว้ในตู้จดหมาย &nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.จรรยาบรรณสำหรับผู้สนทนา บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีคำสั่งให้ใช้ในการสนทนาออนไลน์&nbsp; เช่น chat, line, facebookในการเรียกหาหรือเปิดการสนทนา&nbsp; ดังนั้น&nbsp; การสนทนาจะต้องมีมารยาทที่สำคัญ&nbsp; ได้แก่ 1.ควรสนทนากับผู้ที่เรารู้จักและต้องสนทนาด้วย&nbsp; หรือมีเรื่องสำคัญที่จะติดต่อด้วย&nbsp; ควรระลึกเสมอว่าการขัดจังหวะผู้อื่นที่กำลังทำงานอยู่อาจสร้างปัญหาได้ 2. ก่อนการเรียนคู่สนทนาควรตรวจสอบสถานการณ์ใช้งานของคู่สนทนาที่ต้องการเรียก เพราะการเรียกแต่ละครั้งจะมีข้อความไปปรากฏบนจอภาพของฝ่ายถูกเรียกซึ่งก็สร้างปัญหาการทำงานได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. หลังจากเรียนเรียกไปชั่วคณะคู่ที่ถูกเรียกไม่ตอบกลับ แสดงว่าคู่สนทนาอาจจะติดงานสำคัญ ขอให้หยุดการเรียนเพราะข้อความที่เรียกไปปรากฏบนจออย่างแน่นอน 4. ควรใช้วาจาสุขภาพ และให้เกียติซึ่งกันและกัน การแทรกอารมณ์ขัน ควรกระทำกับคนที่รู้จักคุ้นเคยแล้วเท่านั้น &nbsp;&nbsp;&nbsp; 3.จรรยาบรรณสำหรับผู้ใช้กระดานข่าว เว็บบอร์ด หรือสื่อทางข่าวสาร ข่าวและผู้อภิปรายเรื่องต่างๆ ที่เขียนลงไปจะกระจายออกไปทั่วโลก ผู้ใช้บริการโดยเฉพาะที่ต้องการเขียนข่าวสารบนกระดานข่าว จะต้องเคารพกฎกติกามารยาทโดยเคร่งครัด ข้อปฏิบัติที่สำคัญ ได้แก่ 1. เขียนเรื่องให้กระชับ ข้อความควรสั้นและตรงประเด็นไม่กำกวม ใช้ภาษาที่สุขภาพ 2. ในแต่ละเรื่องที่เขียนให้ตรงโดยข้อความที่เขียนควรจะมีหัวข้อต่อเรื่อง 3. การเขียนพาดพิงถึงผู้อื่น ให้ระมัดระวังในการละเมิดหรือสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น การให้อีเมลอาจจะตรงประเด็นกว่า 4. ให้แหล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้ โคมลอยหรือข่าวลือ หรือเขียนข่าวเพื่อความสนุกโดยขาดความรับผิดชอบ 5. จำกัดความยาวของข่าว และหลีกเลี่ยงตัวอักษรควบคุมพิเศษอื่น ๆ เพราะหลายครั้งที่อ่านข่าว อาจจะมีปัญหาในการแสดงผล 6. ข่าวบางข่าวมีการกระจายกันมาเป็นลำดับใช้ และอ้างอิงต่อ ๆ กันมา การเขียนข่าวจึงควรพิจารณาในประเด็นนี้ด้วย 7. ไม่ควรใช้เครือข่ายของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรืองานเฉพาะของตน เพื่อประโยชน์ส่วนตัวในเรื่องการค้า 8. การเขียนภาพข่าวทุกครั้งจะต้องลงชื่อไว้ตอนล่างของข้อความ เพื่อบอกชื่อ อีเมลแอดเดรสที่อ้างอิงได้ทางอินเทอร์เน็ตหรือให้ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ 9. ไม่ควรนำข้อความที่ผู้อื่นเขียนไปกระจายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่อง 10. ให้ความสำคัญในเรื่องลิขสิทธิ์ ไม่ควรละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น 11. ไม่ควรคัดลอกข่าวจากที่อื่น เช่น จากหนังสือพิมพ์ทั้งหมด โดยไม่มีการสรุปย่อและเมื่อส่งข่าวย่อจะต้องอ้างอิงที่มา 12. ไม่ควรใช้กระดาษข่าวเป็นที่ตอบโต้หรือละเมิดผู้อื่น &nbsp;&nbsp; 4. บัญญัติ 10 ประการ เป็นจรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือไว้เสมือนเป็นแม่บทแห่งการปฏิบัติ ดังนี้คือ 1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น 2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น 3. ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในแฟ้มของผู้อื่น 4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร 5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ 6. ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์ 7. ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ 8. ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นตนเอง 9. ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ 10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท จรรยาบรรณเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตเป็นระเบียบ ความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเรื่องที่จะต้องปลูกฝัง กฎเกณฑ์ของแต่ละเครือข่าย จึงต้องมีการวางระเบียบเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน บางเครือข่ายมีบทลงโทษและจรรยาบรรณที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้สังคมสงบสุขและหากการละเมิดรุนแรงกฎหมายก็จะเข้ามาบทบาทได้เช่นกัน &nbsp; &nbsp;&nbsp; อินเทอร์เน็ตกับผลกระทบต่อสังคมไทย อินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เห็นได้จากหนังสือพิมพ์ วารสาร รายการโทรทัศน์ วิทยุต่าง ๆ ได้นำเรื่องของอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่นำเสนอต่อสาธารณะในแง่มุมต่าง ๆ การเผยแพร่ข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตเริ่มมีมากขึ้นและในรูปแบบที่หลากหลายกว่าเดิม ผลกระทบต่อสังคมไทยมีทั้งด้านบวกและด้านลบ เช่น &nbsp;&nbsp; อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางบวกต่อสังคม ดังนี้ 1.ทำให้มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่ กล่าวคือ ทำให้คนในสังคมติดต่อสื่อสารได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา 2.ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย 3.ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทำให้เกิดการศึกษารูปแบบใหม่ที่กระตุ้นความสนใจของผู้เรียนให้เกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้ อีกทั้งทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ได้แก่ ระบบการเรียนทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต ( E-Learning) &nbsp;&nbsp;&nbsp; อินเทอร์เน็ตมีผลชกระทบทางลบต่อสังคม ดังนี้ 1.ก่อให้เกิดความเครียดคนในสังคม กล่าวคือ อินเทอร์เน็ตทำให้คนในสังคมเข้าถึงข้อมูลมากมายมหาศาล สภาพสังคมจึงเปลี่ยนเป็นสังคมฐานความรู้ หรือสังคมที่ใช้ความรู้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดังนั้น จึงเกิดการแข่งขันด้านเศรษฐกิจกันอย่างรุนแรง ซึ่งการตัดสินใจในการทำงานต้องใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง ทำให้คนในสังคมเกิดความกดดันและเกิดความเครียดสูงขึ้น 2.เกิดความแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง&nbsp; ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นในสังคม เช่น การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของเยาวชน การติดเกมประเภทความรุนแรง เป็นต้น 3.เกิดช่องว่างระหว่างคนในสังคม เนื่องจากคนในสังคมใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมลดลง จนเกิดคำพูดที่ว่า “เทคโนโลยีทำให้คนไกลใกล้กันมากขึ้น แต่เทคโนโลยีก็ทำให้คนใกล้ไกลกันมากขึ้น “ หรือที่นิยมเรียกกันว่า “เป็นสังคมก้มหน้า” กล่าวคือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้คนที่อยู่ไกลกันสามารถสื่อสารได้เหมือนอยู่ใกล้กัน&nbsp; ในขณะที่ทำให้คนที่อยู่ใกล้กันเกิดความห่างไกลกันมากขึ้น เช่น คนในครอบครัวที่ต่างคนต่างคุยกับเพื่อนในอินเทอร์เน็ต จึงมีเวลาพูดคุยกับคนในครอบครัวน้อยลง 4.เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นโลกเสรีที่ให้ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นร่วมกันได้ แต่การแสดงความคิดเห็นที่ไร้ขอบเขต ย่อมส่งผลต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่นการนำข้อมูลส่วนบุคคลออกเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจไม่เป็นจริงหรือไม่ได้พิสูจน์ความถูกต้อง&nbsp; การแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่รุนแรงต่อบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 5.อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ผู้ไม่หวังดีอาจใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด เช่นการล่อลวงผู้ที่เล่นอินเทอร์เน็ตและก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งภาพลามกอนาจาร การพนันออนไลน์ การจำหน่ายของผิดกฎหมาย การส่งไวรัสไปทำลายข้อมูลของผู้อื่น เป็นต้น &nbsp;&nbsp;&nbsp; กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตที่สำคัญ นอกจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ก็คือ กฎหมายที่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ เพราะข้อมูลข่าวสารในอินเทอร์เน็ตเป็นอิสระของผู้ใช้ แต่ก็มีส่วนที่ทำให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บ่อยครั้ง จึงควรที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ด้วย &nbsp;&nbsp; ลิขสิทธิ์ ( Copyright ) คืออะไร ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง โดยให้เจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์ที่ตนได้กระทำขึ้น งานอันมีลิขสิทธิ์ งานสร้างสรรค์ที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ต้องเป็นงานในสาขา วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ รวมถึงงานอื่น ๆ ในแผนกวรรคดี วิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ งานเหล่านี้ถือเป็นผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ สิทธิในลิขสิทธิ์เกิดขึ้นทันที นับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างผลงานออกมาโดยไม่ต้องจดทะเบียน หรือผ่านพิธีการใด ๆ การคุ้มครองลิขสิทธิ์ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้ประโยชน์จากผลงานสร้างสรรค์ของตนในการทำซ้ำดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งสินสิทธิในการเช่า โดยทั่วไปอายุการคุ้มครองสิทธิจะมีผลเกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน&nbsp; โดยความคุ้มครองนี้จะมีตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์&nbsp; และคุ้มครองต่อไปอีก&nbsp; 50&nbsp; ปี&nbsp; นับแต่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต ประโยชน์ต่อผู้บริโภค การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิในผลงานลิขสิทธิ์&nbsp; มีผลให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้สร้างสรรค์&nbsp; ทำการสร้างสรรค์ผลงานที่มีประโยชน์&nbsp; มีคุณค่าทางวรรณกรรมและศิลปกรรมออกสู่ตลาด&nbsp; ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับความรู้&nbsp; ความบันเทิง&nbsp; และได้ใช้ผลงานที่มีคุณภาพ &nbsp;&nbsp; พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; กฎหมายลิขสิทธิ์มีวัตถุประสงค์ให้ความคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจแบะทางศีลธรรมซึ่งบุคคลพึงได้รับจากผลงานสร้างสรรค์อันเกิดจากความนึกคิดและสติปัญญาของตน&nbsp; นอกจากนี้&nbsp; ยังมุ่งที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงาน&nbsp; กล่าวคือ&nbsp; เมื่อผู้สร้างสรรค์ได้รับผลตอบแทนจากหยาดเหงื่อแรงกายและสติปัญญาของตน&nbsp; ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุน&nbsp; ก็ย่อมจะเกิดกำลังใจที่จะคิดค้นสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานให้แพร่หลายออกไปมากยิ่งขึ้น&nbsp; อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติทั้งด้านเศรษฐกิจ&nbsp; สังคม&nbsp; และเทคโนโลยี&nbsp; การกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาสติปัญญาของคนในชาติ&nbsp; เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยังยืนต่อไปในอนาคต ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์&nbsp; พ.ศ.2557&nbsp; เพื่อใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่&nbsp; 21&nbsp; มีนาคม&nbsp; 2538&nbsp; พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์&nbsp; ให้ความคุ้มครองต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์&nbsp; โดยจัดเป็นผลงานทางวรรณกรรมประเภทหนึ่ง&nbsp; และงานที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ&nbsp; และเป็นงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้&nbsp; จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว&nbsp; แต่ความเข้าใจของประชาชนโดยทั่วไปในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไม่ใช่เจน&nbsp; ความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการคุ้มครองลิขสิทธิ์และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเป็นปัจจัยสำคัญ&nbsp; ที่จะนำไปสู่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ยั่งยืนกว่าการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์&nbsp; พ.ศ.&nbsp; 2537&nbsp; ได้ให้ความหมายคำว่า “ลิขสิทธิ์” ว่า&nbsp; หมายถึง&nbsp; สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวที่จะทำการการใดๆตามพระราชบัญญัตินี้&nbsp; เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น&nbsp; นั่นก็หมายความว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ของตนเอง &nbsp;&nbsp; การละเมิดลิขสิทธิ์ การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : คือ การทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพิวเตอร์แก่สาธารณชนรวมทั้งการนำต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าวออกให้เช่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ของตนเอง การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : คือ การกระทำทางการค้า&nbsp; หรือการกระทำที่มีส่วนสนับสนุนให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวข้างต้นโดยผู้กระทำรู้อยู่แล้วว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น&nbsp; แต่ก็ยังกระทำเพื่อหากำไรจากงานนั้น&nbsp; ได้แก่&nbsp; การขาย&nbsp; มีไว้เพื่อขาย&nbsp; ให้เช่า&nbsp; เสนอให้เช่า&nbsp; ให้เช่าซื้อ&nbsp; เผยแพร่ต่อสาธารณชน&nbsp; แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของลิขสิทธิ์&nbsp; และนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร &nbsp;&nbsp;&nbsp; บทกำหนดโทษ 1.การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : มีโทษปรับตั้งแต่&nbsp; 20,000&nbsp; บาท ถึง 200,000&nbsp; บาท&nbsp; หากเป็นการกระทำเพื่อการค้า&nbsp; มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี&nbsp; หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง&nbsp; 80,000&nbsp; บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000&nbsp; บาท ถึง&nbsp; 100,000&nbsp; บาท หากเป็นการการกระทำเพื่อการค้า&nbsp; มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3&nbsp; เดือน ถึง 2 ปี&nbsp; หรือปรับตั้งแต่&nbsp; 50,000&nbsp; บาท&nbsp; ถึง 400,000&nbsp; บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับนี้&nbsp; เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปีกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก&nbsp; จะต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นปรับ กรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้&nbsp; ให้ถือว่ากรรมการหรือผู้จัดการทุกคนของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้กระทำความผิดกับนิติบุคคลนั้น&nbsp; เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่ามิได้รู้เห็นหรือยินยอม ค่าปรับที่ได้มีการชำระตามคำพิพากษานั้น&nbsp; ครึ่งหนึ่งจะตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์&nbsp; อย่างไรก็ดี การได้ค่าปรับดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิ์ของเจ้าของสิทธิ์&nbsp; ที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งสำหรับส่วนที่เกินจำนวนเงินค่าปรับที่เจ้าของลิขสิทธิ์ได้รับไว้แล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp; สาระน่ารู้ จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งจำเป็น&nbsp; เพราะจะได้ป้องกันการกระทำผิดอันเนื่องมาจากการใช้คอมพิวเตอร์&nbsp; โดยเบื้องต้น&nbsp; เพียงแค่ไม่ทำการรูปแล้วส่งข้อสอบทางไลน์&nbsp; หรือการกล่าวหา&nbsp; ใส่ร้าย&nbsp; เพื่อนๆ ทางFace bookและที่สำคัญ ไม่มีการเข้าไปในโลกอินเทอร์เน็ตระหว่างที่กำลังเรียน ก็แสดงว่า&nbsp; ในเบื้องต้น&nbsp; ถือเป็นผู้จริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ตแล้ว คุณธรรม&nbsp; จริยธรรม&nbsp; ค่านิยม&nbsp; และคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษาตามระดับคุณวุฒิอาชีวศึกษา <table border="1" cellspacing="0" cellpadding="0"> <tr> <td width="343" valign="middle"><div align="center"> คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์</div></td> <td width="397" valign="top">พฤติกรรมบ่งชี้</td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">1. รับผิดชอบ&nbsp; หมายถึง&nbsp; การยอมรับผลการกระทำของตนเองทั้งในสิ่งที่ดีและไม่ดี&nbsp; และสามารถควบคุมตนเองได้&nbsp; มีความมุ่งมั่นและเพียรพยามยาม&nbsp; ในการเรียนและการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ทันกำหนดเวลา&nbsp; มีการวางแผนการปฏิบัติงาน&nbsp; การใช้เวลาอย่างมีระบบและเหมาะสม&nbsp; ตลอดทั้งการปฏิบัติอย่างครบถ้วน&nbsp; โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม</td> <td width="397" valign="top">1.1 ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายสำเร็จตามที่กำหนด 1.2 ปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น 1.3 ยอมรับผลการกระทำของตนเอง </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">2. ขยัน &nbsp;หมายถึง&nbsp; ความตั้งใจเพียรพยายามทำหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง&nbsp; สม่ำเสมออดทน&nbsp; ไม่ท้อถอยเมื่อพบอุปสรรค&nbsp; ความขยันต้องปฏิบัติควบคู่กับการใช้สติปัญญาแก้ปัญหาและหรือพัฒนาสิ่งใหม่ๆจนเกิดผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย</td> <td width="397" valign="top">2.1 ศึกษาค้นคว้า&nbsp; แสวงหาความรู้ใหม่ๆด้วยตนเอง 2.2 แสวงหาประสบการณ์เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานอาชีพ 2.3 ตั้งใจทำหน้าที่การทำงานอย่างต่อเนื่องจนเกิดผลสำเร็จ 2.4 คิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม 2.5 มีความคิดหลายหลายในการแก้ปัญหา </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">3. ประหยัด&nbsp; หมายถึง&nbsp; การรู้จักเก็บออมถนอมใช้ทรัพย์สิน&nbsp; สิ่งของ&nbsp; แต่พอควรพอประมาณ&nbsp; ให้เกิดประโยชน์&nbsp; คุ้มค่า&nbsp; ไม่ฟุ่มเฟือย&nbsp; ฟุ้งเฟ้อ</td> <td width="397" valign="top">3.1 ใช้วัสดุถูกต้อง เพียงพอและเหมาะสมกับงาน 3.2 ปิดน้ำ ปิดไฟทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ 3.3 เก็บออม&nbsp; ถนอมใช้ทรัพย์สิน&nbsp; สิ่งของให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า</td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">4. ซื่อสัตย์สุจริต&nbsp; หมายถึง&nbsp; ความประพฤติที่ตรงและจริงใจ&nbsp; ทั้งต่อหน้าที่และวิชาชีพ&nbsp; ไม่คิดคดทรยศ&nbsp; ไม่คอโกง&nbsp; ไม่หลอกหลวง&nbsp; ไม่เอนเอียง&nbsp; ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม&nbsp; ปลอดจากความรู้สึกลำเอียงหรือคติ</td> <td width="397" valign="top">4.1ประพฤติตรง&nbsp; ทั้งต่อหน้าที่และต่อวิชาชีพ 4.2ไม่โกหก 4.3ไม่ลักขโมย 4.4ไม่ทุจริตในการสอบ 4.5ไม่นำผลงานของคนอื่นมาแอบอ้างเป็นของตนเองทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ 4.6ปฏิบัติหน้าที่และรักษาประโยชน์ขององค์กร 4.7ไม่เพิกเฉยต่อสิ่งที่ได้รับรู้และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">5. จิตอาสา&nbsp; หมายถึง&nbsp; การมีจิตใจเป็นผู้ให้มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์&nbsp; เอื้ออาทรช่วยเหลือด้วยกำลังแรงกาย&nbsp; สติปัญญา&nbsp; และเสียสละเพื่อส่วนรวม</td> <td width="397" valign="top">5.1 ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยกำลังแรงกายและสติปัญญา 5.2 อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม 5.3 แบ่งปัน เสียสละความสุขส่วนตน&nbsp; เพื่อทำประโยชน์แก่ผู้อื่น 5.4 อาสาช่วยเหลืองานครูอาจารย์ </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">6. สามัคคี &nbsp;หมายถึง&nbsp; ความพร้อมเพรียงกันความกลมเกลียวกัน&nbsp; ความปรองดองกันร่วมใจกันปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามที่ต้องการเกิดจากงานอย่างสร้างสรรค์&nbsp; ปราศจากการทะเลาะวิวาท&nbsp; ไม่เอารัดเอาเปรียบกันเป็นการยอมรับความมีเหตุผล&nbsp; ยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด&nbsp; ความหลากหลายในเรื่องเชื้อชาติ</td> <td width="397" valign="top">6.1ร่วมมือในการทำงานด้วยความกลมเกลียวและปรองดอง 6.2 รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 6.3 ปฏิบัติตนตามบทบาทผู้นำและผู้ตามที่ดี 6.4 ยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม&nbsp;ความคิด&nbsp; ความเชื่อที่หลากหลาย&nbsp; พร้อมที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ 6.5 ไม่ทะเลาะวิวาท </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">&nbsp; 7. มีวินัย&nbsp; หมายถึง&nbsp; การยึดมั่นในระเบียบแบบแผน&nbsp; ข้อบังคับและข้อปฏิบัติ&nbsp; ซึ่งมีทั้งวินัยต่อสถานศึกษา&nbsp; สถาบันองค์กร&nbsp; สังคมและประเทศ</td> <td width="397" valign="top">7.1ปฏิบัติตามกฎ&nbsp; ระเบียบ&nbsp; ข้อบังคับของสถานศึกษา&nbsp; และสังคม 7.2 ปฏิบัติตามกติกาและมารยาทของสังคม 7.3 ประพฤติตนตามหลักศีลธรรมอันดีงาม 7.4 ประพฤติตนตรงต่อเวลา </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">8. สะอาด&nbsp; หมายถึง&nbsp; การปราศจากความมั่วหมอง&nbsp; ทั้งกายใจและสภาพแวดล้อม&nbsp; ความผ่องใสเป็นที่เจริญตา&nbsp; ทำให้เกิดความสบายใจแก่ผู้พบเห็น</td> <td width="397" valign="top">8.1 คิดดี&nbsp; พูดดี&nbsp; ทำดี 8.2 รักษาสุขภาพร่างกายตามหลักสุขอนามัย 8.3 รักษาที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อมตามคุณลักษณะที่ดี </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">9.สุภาพ&nbsp;หมายถึง&nbsp;ความเรียบร้อย&nbsp; อ่อนโยน&nbsp; ละมุนละม่อมมีกริยามารยาทที่ดีงาม&nbsp; มีสัมมาคารวะ&nbsp; และสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างบุคคล</td> <td width="397" valign="top">9.1ประพฤติตน&nbsp; สุภาพ&nbsp; เรียบร้อย&nbsp; อ่อนน้อมถ่อมตน&nbsp; ตามสถานภาพและกาลเทศะ 9.2 ประพฤติตนเหมาะสมตามมารยาทของวัฒนธรรมไทย 9.3 ไม่ประพฤติก้าวร้าวรุนแรง&nbsp; วางอำนาจข่มผู้อื่นทั้งโดยวาจาและท่าทาง 9.4 ควบคุมกริยามารยาทในสถานการณ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ 9.5 แสดงสัมมาคารวะต่อครู&nbsp; อาจารย์อย่างสม่ำเสมอทั้งต่อหน้าและลับหลัง 9.6 แสดงความมีมนุษย์สัมพันธ์ </td> </tr> <tr> <td width="343" valign="top">10. ละเว้นอบายมุข&nbsp; หมายถึง&nbsp; การประพฤติปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงหนทางแห่งความเสื่อม</td> <td width="397" valign="top">10.1 ไม่เสพสิ่งเสพติดและของมึนเมา 10.2 ไม่เล่นการพนัน 10.3 หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในแหล่งมั่วสุม </td> </tr> </table> </td> <td width="194" align="center" valign="top"><table width="194" height="568" border="0" class="p5"> <tr> <th height="30" class="po3" scope="col"><marquee style="border:BLUE 1px SOLID">แบบฝึกหัด</marquee></th> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn1.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 1</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn2.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 2</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn3.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 3</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn4.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 4</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn5.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 5</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn6.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn7.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 7</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn8.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn9.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 9</a></td> </tr> <tr> <td align="center"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/bn10.html">แบบฝึกหัดหน่วยที่ 10</a></td> </tr> <tr> <td height="21">&nbsp;</td> </tr> <tr> <td height="45" align="center" class="po3"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/prawad.html">ผู้จัดทำ</a></td> </tr> <tr> <td height="43"><script type="text/javascript" src="http://100widgets.com/js_data.php?id=170"> </td> </tr> <tr> <td height="152" align="center"><img src="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/photo/source%20(2).gif" width="194" height="150"></td> </tr> <tr> <td height="22">&nbsp;</td> </tr> </table></td> </tr> <tr> <td height="40" colspan="3" align="center" valign="middle"><table width="197" height="32" border="0" align="center"> <tr> <th class="po3" scope="col"><a target="_blank" href="http://202.29.239.50/temp/2562/internet2019/index.html">หน้าแรก</a></th> </tr> </table></td> </tr> <tr> <td height="73" colspan="3" align="center" valign="middle" class="p11">วิทยาลัยการอาชีพสตึก 100 หมู่ที่ 23 ถ. บุรีรัมย์-มหาสารคาม ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 31150 โทร. 0-4468-0114 , 08-1955-1489 Fax 0-4468-0208 SATUK INDUSTRIAL AND COMMUNITY EDUCATION COLLEGE ----Email: &nbsp;</td> </tr> </table> <div class="fb-comments" data-href="internet" data-width="560" data-numposts="10"></div> </body> </html></td></tr></table></td></tr></table></body></html>

อินเตอร์เน็ตมีกับผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างไร จงอธิบาย อิทธิพล ของ อินเตอร์เน็ต