การ เชื่อม ต่อ ระบบ เครือ ข่าย คอมพิวเตอร์ มี ประโยชน์ อย่างไร

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีประโยชน์มากมายต่อระบบการทำงานในหลายองค์กร ซึ่งสามารถสรุปประโยชน์เป็นด้านๆ ได้ดังนี้

ด้านการใช้งาน

ระบบเครือข่ายสามารถให้ผู้ใช้หลายคนใช้โปรแกรมและข้อมูลต่างๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง  ข้อมูลที่เครื่องอื่นๆ จะถูกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เช่น  บริษัทรถทัวร์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แต่ละสาขาเข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงตำแหน่งที่นั่งว่างของรถทัวร์แต่ละคัน

ด้านการใช้อุปกรณ์

ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์  เครื่องสแกนเนอร์ เป็นต้น เนื่องจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีราคาค่อนข้างสูง  และมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงด้วย  ทำให้บริษัทหรือธุรกิจต่างๆ ทำการติดตั้งระบบเครือข่ายขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายและดูแลรักษาได้ง่ายขึ้น

ด้านการสื่อสาร

ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย  สะดวก และรวดเร็วขึ้น เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล (Email)  เป็นระบบที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อความผ่านระบบเครือข่าย  เสมือนเป็นการรวมการทำงานของระบบไปรษณีย์กับระบบตอบรับโทรศัพท์เข้าด้วยกัน  การรับส่งอีเมลผ่านเครือข่ายในบริษัทต่างๆ ก็เหมือนกันกับการรับส่งอีเมลในระบบอินเทอร์เน็ต ปกติแล้วระบบเครือข่ายภายในบริษัทต่างๆ จะเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต  ดังนั้นพนักงานภายในบริษัทจึงสามารถเลือกที่จะส่งและรับข้อความจากระบบเครือข่าย  หรือจากระบบอินเตอร์เน็ตก็ได้  นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม คือ การประชุมทางไกล (Teleconference)  เป็นการประชุมโดยที่ผู้ประชุมอยู่คนละที่กันสามารถพิมพ์ข้อความ  หรือสนทนาโต้ตอบแสดงความคิดเห็นกันได้   อีกทั้งสามารถนำเสนอผลงาน  แผนภูมิตาราง  ภาพวาด และงานอื่นๆ ได้อีกด้วย

ด้านการสำรองข้อมูล

คอมพิวเตอร์ของพนักงานแต่ละเครื่อง  สามารถส่งข้อมูลผ่านทางเครือข่ายมาเก็บไว้ที่หน่วยความจำสำรองที่เป็นส่วนกลาง  ไม่จำเป็นต้องเก็บสำรองไว้ที่เครื่องของตนเอง  เมื่อจะเรียกใช้ก็สามารถเรียกใช้ได้ผ่านทางระบบเครือข่าย  ซึ่งมีข้อดีในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานเกิดปัญหา  ก็ยังมีข้อมูลเก็บไว้ไม่สูญหาย  รวมทั้งในกรณีที่จะต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน  ก็สามารถเรียกใช้ได้ง่ายและยังมีความสะดวกในเรื่องของการจัดระบบข้อมูล และการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย

ข้อดีของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายนั้นมีข้อดีดังนี้
1. สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
2. สามารถแชร์ทรัพยากร เช่น เครื่องพิมพ์ ฮาร์ดดิสก์ ซีดีไรท์เตอร์ ไว้ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
3. ประหยัดเนื่องจากสามารถแชร์ทรัพยากรร่วมกันได้
4. สามารถแชร์เอกสาร เช่น บันทึกข้อความ ตารางข้อมูลต่าง ๆ ใบส่งขอ บัญชีต่าง ๆ ใบรายการ สินค้า เป็นต้น
5. สามารถใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ ในการติดต่อผู้ที่อยู่ห่างไกลได้อย่างรวดเร็ว
6. การสนทนาผ่านเครือข่าย หรือการแชท (Chat)
7. การประชุมระยะไกล (Videoconference)
8. การแชร์ไฟล์ต่าง ๆ เช่น รูปภาพ วีดิโอ เพลง เป็นต้น
9. การแชร์ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ โปรแกรมฐานข้อมูล เป็นต้น

ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

1. การใช้ Hardware ร่วมกัน ระบบเครือข่าย (Network) จะช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่อง Hardware ลงไปได้ ทั้งนี้เนื่องจากจะสามารถนำ Hardware บางประเภทมาใช้งานร่วมกันได้     Share Diskspace เป็นการใช้งานร่วมกันของเนื้อที่ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลซึ่งรวม Harddisk และ CD ROMS (Compact-Disk Read-Only Memory) ซึ่งจะใช้ Harddisk หรือ CD ROMS จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ที่เรียกว่า File Server โดย File Server นี้จะเป็นเครื่องที่ใช้ในการเก็บข้อมูล (Data) ของ User และ Software ของระบบทั้งหมด รวมทั้งควบคุมการทำงานของระบบ Network ด้วย

2. การใช้ Software ร่วมกัน
Software ทีใช้งานบนระบบ Network แบ่งออกเป็น Software Packages และ Data เมื่อใช้ระบบ Network จะสามารถที่จะนำเอา Software ทั้ง 2 ชนิด มาใช้งานร่วมกันได้

Share Software Packages ในปัจจุบันสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่คือ เรื่องของลิขสิทธิ์ทาง Software ถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) แต่ละเครื่องใช้งานแยกกันอยู่ ก็จำเป็นที่จะต้องซื้อ Software ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายมาใช้งาน นั่นคือ 1 ชุดต่อ 1 เครื่อง รวมทั้งยังต้องคอยระวังในเรื่องของการ Copy Software มาใช้งานเองของ User แต่ละคนด้วย การนำระบบ Network มาใช้งานจะช่วยลดปัญหาของการทำผิดกฎหมายทางด้านลิขสิทธิ์ได้ นอกจานนั้น Software ที่ใช้งานระบบ Network จะมีความคล่องตัวกว่า Software บน เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการ Maintain หรือการซ่อมบำรุงปรับปรุง Software ให้ถูกต้อง เช่น มีรุ่นที่ Update มาใหม่ จะสามารถติดตั้งและ Upgrade software ทั้ง 10 เครื่อง ซึ่งเสียเวลามาก

นอกจากนั้นกรณีที่ใช้ Workstation ประเภท Diskless Workstation User จะไม่มีสิทธิ์ในการใช้งานแผ่น Disk เลย ทำให้สามารถขจัดปัญหาของ Virus ที่สามารถจะแพร่ระบาดอยู่ได้ รวมทั้งการตรวจสอบ Virus ก็ไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC)แต่ละเครื่อง แต่ตรวจสอบที่ File Sever เพียงเครื่องเดียว ทำให้ประหยัดเวลา และการทำงานที่คล่องตัว มากขึ้น สำหรับเครื่อง License หรือลิขสิทธิ์นั้น Software ที่จะนำมาใช้งานบนระบบ Network จะต้องเป็น Software รุ่น Netware เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมี License Software สำหรับระบบ Network อยู่ 2 แบบคือ

1. concurrent User License หมายถึง Software ที่ระบุจำนวน User ที่สามารถใช้งานได้สูงสุดบนระบบ Network เช่น แบบ 20 Copy นั่นหมายถึง User สามารถใช้งาน Software ตัวนี้สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 20 คน

2. Per User License หมายถึง Software ที่จะต้องระบุจำนวน User ลงไปเลยว่าต้องการใช้เท่าใดแต่ในการทำงานจริงๆแล้วจะใช้กี่คนพร้อมกันก็ได้
Share Data ปัญหาที่เกิดขึ้นแน่นอน สำหรับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) แยกกันก็คือ ในกรณีที่เราต้องการข้อมูลของคอมพิวเตอร์ (PC) เครื่องหนึ่ง จะต้อง Copy ลงในแผ่น Disk แล้วนำไปเรียกใช้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) อีกเครื่องหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าข้อมูลนั้นมีขนาดใหญ่หรือต้องการข้อมูลร่วมกันบ่อย ๆ จะทำให้เสียเวลาในการ Copy ข้อมูลมาก ถ้านำระบบ Network มาใช้งานข้อมูล User แต่ละคนจะถูกเก็บไว้ในที่เดียวกันก็คือ Harddisk ของ File Server ดังนั้น User แต่ละคนจะสามารถใช้ข้อมูลซึ่งกันและกันได้ทันที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการกำหนดสิทธิ์ในการเรียกใช้ข้อมูลของแต่ละ User ซึ่งจะสามารถกำหนดไว้ว่า User คนใดจะสามารถใช้งานข้อมูลได้ถึงระดับใดบ้าง
จากประโยชน์การใช้ Software ร่วมกันนี้ข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ที่ File Server ข้อมูลจึงถูกต้อง ทันสมัยและรวดเร็ว เป็นการควบคุมข้อมูลที่จุดศูนย์กลาง โดยแต่ละ Workstation สามารถใช้ข้อมูลของ Workstation อื่นใดทันทีถ้ามีสิทธิ์ โดยไม่ต้องรีรอจึงทำให้การทำงานสะดวกขึ้น (Flexible ) นอกจากนั้นยังลดขั้นตอนในการปฏิบัติงานและลดเวลาในการทำงาน คือ แทนที่จะต้องเสียเวลาในการรอข้อมูลซึ่งกันและกันเพื่อที่จะทำงานต่อไป ก็ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและลดความผิดพลาดที่เกิดจากข้อมูลไม่ถูกต้องทันสมัย

3. การเชื่อมต่อกับระบบอื่น
ในการระบบงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) เมื่อต้องการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC)มาเชื่อมต่อกับระบบอื่น เช่น Mainframe หรือ Computer จะต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อพิเศษเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) นั้นสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นได้ จะเรียกขบวนการนี้ว่า Terminal Emulation ปัญหาก็คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) 1 เครื่องจะต้องมีอุปกรณ์ พิเศษต่อเชื่อม 1 ชุด ซึ่งปกติจะมีราคาสูงมาก เมื่อมีการทำงานที่มากขึ้น การต่อเชื่อมกันกับเครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) เพียง 1 ชุด อาจไม่เพียงพอในการใช้งาน อาจจำเป็นต้องต่อมากยิ่งขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากขึ้น

แต่ถ้ามีระบบ Network อยู่แล้ว สามารถที่จะนำ เครื่องคอมพิวเตอร์ (PC) และอุปกรณ์เชื่อมต่อสำหรับระบบอื่น เพียง 1 ชุด หลังจากนั้น Workstation เครื่องอื่นที่ไม่มีอุปกรณ์ต่อเชื่อมนี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นได้ด้วย เสมือนมี อุปกรณ์เชื่อมต่อติดตั้งทีเครื่องของตนเอง ลักษณะนี้เรียกว่า Gateway

4. การใช้ระบบ Multiusers

การใช้ระบบ Multiusers หมายถึง ระบบที่ User สามารถใช้โปรแกรมหรือข้อมูลเดียวกัน ได้ครั้งละหลาย ๆ คน ซึ่งNetwork นั้นสามารถใช้งานระบบนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ในปัจจุบันผู้ใช้งานในระบบ Mainframe หรือ Mini Computers หันให้มาเล็งเห็นความสำคัญของระบบ Mainframe และเริ่มใช้งานระบบนี้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนของการทำงานในระบบ Multiusers คือ

E-mail (Electronic Mail) ซึ่ง User แต่ละคนสามารถสั่งและรับข้อมูลหรือข่าวสารซึ่งกันและกันได้ โดยผ่านทาง Workstation ของตนเอง มีโปรแกรมที่ใช้งานแบบ E-mail ได้มากมาย เช่น Word Perfect Office CC mail Microsoft Exchange Outlook เป็นต้น

Schedule หรือ Group Calendar เป็นโปรแกรมที่รวบรวมปฏิทินรายวันของ User แต่ละคนมารวมกันเป็นตาราง (Schedule) ของทั้งระบบ ทำให้ผู้จัดการระบบสามารถทราบนัดหมายต่าง ๆ ของ User แต่ละคนได้ และวางแผนการได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น WordPerfect Office

Database สามารถใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเดียวกันได้พร้อม ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน File Server ได้ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนมี File Server เฉพาะสำหรับงาน Database เรียกว่า Database server ซึ่งเป็น server ชนิดพิเศษ ที่มีความเร็วสูงในการเรียกใช้และปรับปรุงข้อมูลใน Database จึงมีผู้กล่าวว่าประสิทธิภาพในการทำงาน ของ Database Server นี้ใกล้เคียงหรืออาจจะดีกว่าแบบ Mini Computer เสียอีก
ดังนั้นการจะนำระบบ Network มาใช้งานในองค์กรนั้น จึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความเป็นไปได้ด้วย ถึงแม้จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของ Hardware เนื่องจากสามารถนำอุปกรณ์บางอย่างมาใช้งานร่วมกันได้ก็จริงอยู่ แต่ตอนลงทุน ในการเริ่มต้นก็สูงเช่นกันทั้งนี้เนื่องจากเราต้องซื้อ Server ที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งอุปกรณ์การติดตั้งอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ดังนั้นผู้ที่จะตัดสินใจนำระบบ Network มาใช้งานจึงควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ทั้งนี้อาจอาศัยรายละเอียดต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น รวมทั้งนโยบายขององค์กรและงบประมาณการเงินอีกด้วย