โปรแกรม ปลด passcode iphone

เทคนิคใหม่ล่าสุด 2020 สำหรับหน้าจอที่ติดรหัส

เราขอเรียกวิธีการปลดนี้ว่า (ปลดล็อคPasscode iCloud Off)

เทคนิคใหม่ 2020 เทคนิคนี้ใช้ได้เฉพาะ iPhone ที่ติดล็อคหน้าจอใส่รหัส Passcode 

ไม่ว่าจะเป็น 4 ตัว 6 ตัว หรือตัวอักษรก็ตาม หรือติดไม่ให้ใส่รหัสแล้วก็ทำได้ 

ไม่สนใจสถานะ Clean หรือ Lost ใดๆ
แต่ไม่ใช่ว่าทุกรุ่นจะทำได้
จะต้องเป็นรุ่นที่อยู่ในเงื่อนไขการทำ
หรือ iOS ของเครื่องที่รองรับเท่านั้น
หากเครื่องอยู่ในเงื่อนไขก็สามารถทำได้

รุ่นที่รองรับการปลดล็อค iCloud

นี่คือรายชื่อรุ่น iPhone และ iPad ที่รองรับในการปลดด้วยวิธีนี้
หากไม่มีอยู่ในลิส ก็สามารถ ปลดล็อค iCloud ด้วยวิธีอื่นได้ครับ

iPhone

• 5S – SE
• iPhone 6s – 6sPlus
• iPhone 7 – 7Plus
• iPhone 8 – 8Plus
• iPhone X

iPad

• iPad Mini 2 – 3 – 4
• iPad Air
• iPad Pro 2017
• iPad 6 – iPad 7

นี่ไม่ใช่วิธีการล้างเครื่อง

สำหรับมือใหม่ อาจจะไม่เข้าใจว่านี่คือวิธีการล้างเครื่องเฉยๆรึเปล่า
“เทคนิคนี้ไม่ใช่วิธีการล้างเครื่อง” เทคนิคนี้จะต้องมีการทำ Jailbrek เข้าไปที่เครื่อง
เพื่อดึง source code token ออกมา และทำการ decrypt ถอดรหัส
เพื่อทำการปลดล็อคแบบถาวร โดยที่เครื่องจะสถานะ OFF ในทันทีเมื่อทำเสร็จ

ต้องการส่งปลดล็อคทำอย่างไร

จำเป็นต้องนำเครื่องเข้ามาทำ หรือส่งมาทำครับ ไม่สามารถทำแบบออนไลน์ได้ครับ
โดยติดต่อเราผ่านช่องทางด้านล่างได้เลย

จริงอยู่ที่การปลดล็อคหน้าจอบน iPhone รุ่นใหม่ ๆ จะใช้การสแกนใบหน้า หรือ Face ID แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ทำให้สแกนใบหน้าไม่ผ่าน ทำให้ต้องใส่รหัส Passcode แทน ซึ่งก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไร แต่ก็ยังมีผู้ใช้งาน iPhone บางรายที่จำรหัส Passcode ผิด และป้อนผิดหลายครั้งเกินไป ทำให้ iPhone ถูกระงับการใช้งาน ถ้าหากเข้าข่ายกรณีแบบนี้ วิธีเดียวที่จะสามารถเข้าใช้งาน iPhone ได้อีกครั้ง ก็คือ การเข้าสู่โหมดการกู้คืน หรือ Recovery Mode นั่นเอง

ทั้งนี้ โหมดการกู้คืน จะลบข้อมูลที่มีในเครื่อง รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ และรหัสผ่าน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน iPhone ได้อีกครั้ง ฉะนั้น สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone ควรจะทำให้ติดเป็นนิสัยก็คือ การสำรองข้อมูล (Backup) ซึ่งสามารถสำรองข้อมูลได้ทั้งทาง iCloud หรือลงคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม iTunes

มาดูกันดีกว่าว่า ในกรณีที่ลืมรหัส Passcode และป้อนรหัสผิดจนตัวเครื่องถูกล็อค มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

1. มีอุปกรณ์ Mac หรือ PC

สำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ Mac อยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไร แต่สำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ PC ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป จะต้องเป็นรุ่นที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 หรือใหม่กว่า และมี iTunes ติดตั้งไว้แล้ว (ถ้าหากยังไม่มี สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่)

2. ปิด iPhone

สำหรับวิธีการปิด iPhone แต่ละรุ่น มีรายละเอียดดังนี้

• iPhone X หรือใหม่กว่า, iPhone SE (รุ่นที่ 2), iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ให้กดทั้งปุ่มด้านข้างและปุ่มลดระดับเสียงค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏขึ้น

• iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ให้กดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏขึ้น

• iPhone SE (รุ่นที่ 1) และ iPhone 6s และรุ่นก่อนหน้า ให้กดปุ่มด้านข้าง (หรือด้านบน) ค้างไว้จนกว่าแถบเลื่อนปิดเครื่องจะปรากฏขึ้น

3. ให้ iPhone เข้าสู่โหมดการกู้คืน

• เข้าสู่โหมดกู้คืน (Recovery mode) โดย iPhone แต่ละรุ่น มีขั้นตอนดังนี้

iPhone X หรือใหม่กว่า, iPhone SE (รุ่นที่ 2), iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ใช้ปุ่มด้านข้าง

iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ใช้ปุ่มลดระดับเสียง

iPhone SE (รุ่นที่ 1) และ iPhone 6s และรุ่นก่อนหน้าใช้ปุ่ม Home

• กดปุ่มข้างต้นค้างไว้ในขณะที่เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ทันที อย่าปล่อยปุ่ม
• กดปุ่มค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นหน้าจอโหมดการกู้คืนบน iPhone แล้วค่อยปล่อยปุ่ม แต่ถ้าหากมายังหน้าใส่รหัส Passcode ต้องปิด iPhone แล้วทำตามขั้นตอนด้านบนใหม่

4. กู้คืน iPhone

• ค้นหา iPhone ใน Finder หรือใน iTunes บนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อ
• เลือก "กู้คืน" เมื่อเห็นตัวเลือกให้กู้คืนหรืออัปเดต คอมพิวเตอร์จะดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สำหรับ iPhone และเริ่มกระบวนการกู้คืน หากการดาวน์โหลดใช้เวลานานกว่า 15 นาทีและอุปกรณ์ออกจากหน้าจอโหมดการกู้คืน ปล่อยให้การดาวน์โหลดเสร็จสิ้น จากนั้นปิดเครื่อง iPhone และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

• รอให้เสร็จสิ้นกระบวนการ  
• ตัดการเชื่อมต่อ iPhone จากคอมพิวเตอร์ จากนั้นตั้งค่าและใช้งาน iPhone ใหม่

-------------------------------------
ที่มา : Apple
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com

Update : 18/02/2022

iPhone passcode