Parkland เพชรเกษม 56 Pantip

ยอมรับจริงๆว่าปีๆหนึ่งผมดูคอนโดหลายที่มากๆ แล้วการที่จะเจอคอนโดที่ทำให้ผม WOW ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายครับ The Parkland เพชรเกษม 56 เป็นหนึ่งในคอนโดที่ผม WOW มากๆยิ่งผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอยู่นานยิ่งอินอ่ะ (อยากได้ๆๆๆ)  ผมแนะนำเลยนะครับถ้าใครหาคอนโดที่เดินทางสะดวกเข้าสีลมสาทรได้ง่ายไม่กี่นาทีถึง ในงบที่ไม่สูงนัก (ห้องเริ่มต้นราคาแค่ 1.97 ล้านเอง) มาดูที่นี่เลย รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนกลางทำออกมาดีมากผมชอบโคตรๆเลย!!!  มาว่ากันดีกว่าว่าทำไมคนถึงชอบที่นี่มากนัก

// Location \\

ทำเลที่ตั้งของคอนโด The Parkland เพชรเกษม 56 ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ช่วงซอยเพชรเกษม 56 จุดสังเกตง่ายๆก็คือตัวคอนโดอยู่ตรงข้ามกับซีคอนบางแค ทางเข้าของคอนโดห่างออกไปแค่ 40 เมตรก็จะเป็นทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญครับ ซึ่งเป็น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหรือ MRT ที่สามารถวิ่งต่อเดียวเข้าเมืองไป สีลม, หัวลำโพงได้เลยครับ จัดว่าเป็นรถไฟฟ้าสายหลักสายหนึ่งของกรุงเทพฯเลย เดินทางได้สะดวกมากๆ 

ในกรณีที่ขับรถก็สามารถที่จะขับรถเข้าเมืองไปในย่าน office อย่างสาทรได้ไม่ยากครับ เพราะว่าตอนนี้มีการตัดถนน/สะพานเพิ่มทำให้สามารถวิ่งยิ่งยาวไปทางสะพานสาทร หรือ สะพานกรุงเทพได้ไม่ยาก ถ้ารถไม่ติด 15-20 นาทีก็ไปถึงถนนสาทรแล้วครับ

นอกจากนี้ The Parkland เพชรเกษม 56 ฝั่งตรงข้ามยังเป็นซีคอนบางแคซึ่งจัดว่าเป็นห้างใหญ่ในละแวกเพชรเกษมนี้นะครับ ใกล้ๆคอนโดยังมีตลาดที่สามารถจะซื้อของสด ไปหา street food กินได้อย่างสบาย หรือถ้าใครอยากจะไปห้างใหญ่ๆก็สามารถไปที่เดอะมอลล์บางแคได้ครับ (ห่างออกไปแค่ 2 ป้ายรถไฟฟ้าเอง หรือถ้าขับรถก็ 10 นาที)

โดยสรุปคือ การมาของรถไฟฟ้าที่อยู่บนถนนเพชรเกษม ช่วยสร้างความเจริญ ความสะดวกสบายให้แก่ย่านนี้มากมายนะครับ เป็น location ที่อยู่อาศัยได้สะดวก หรือคนที่ทำงานในเมืองสีลม/สาทรก็สามารถที่จะอยู่ตรงนี้ได้ เพราะว่าเดินทางสะดวกมีของกินมีความอุดมสมบูรณ์

// การออกแบบ \\

คอนโด The Parkland เพชรเกษม 56 สร้างอยู่บนพื้นที่ดินกว่า 13 ไร่ พอมีพื้นที่เยอะเค้าก็ออกแบบจัดวางส่วนกลางมาได้หลากหลายน่าใช้งาน ตัวตึกที่อยู่อาศัยจะแบ่งออกมาเป็น 3 ตึก – ตึก A อยู่ด้านหน้า ตึก B,C อยู่ด้านใน จำนวนยูนิตโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 2,047 unit ถามว่าเยอะไหมดูเหมือนจะเยอะนะ แต่ๆๆๆ ถ้าเทียบกับจำนวนพื้นที่ส่วนกลางที่พาร์คแลนด์จัดมาให้ผมว่าโอเคนะครับ ที่จอดรถที่นี่ได้ประมาณ 50% (ไม่รวมซ้อนคัน)ผมถือว่าเยอะใช้ได้นะครับ เพราะเป็นคอนโดที่ระยะเดินใกล้กับรถไฟฟ้ามากๆ

ผมว่าการทำส่วนกลางให้เยอะ รองรับลูกบ้านได้จริงจัง มี function การใช้งานที่ดี หลายหลาก เป็นสิ่งที่ทาง Narai property ทำออกมาได้ดีมากนะครับ มันสร้างให้ The Parkland เพชรเกษม 56 มีความแตกต่างโดดเด่นจากคอนโดต่างๆที่อยู่ได้ย่านนี้ได้จริงๆ ไล่กันไปตั้งแต่

Lobby แบบโถงสูง เข้ามาแล้วแกรนด์มากๆครับ มีการแบ่งที่นั่งเป็น group เพิ่ม function การใช้งานได้อย่างดี ตกแต่งด้วยกระจกสีเข้ม ตัดกับสีทอง ดูหรูหรา ด้านในยังมีการทำห้อง private meeting เอาไว้นัดหมายคนมาพูดคุยงานได้ด้วย

Star Pavilion อยู่ที่ชั้น 32 ของตึก A : ผมว่าการออกแบบของส่วนนี้น่าสนใจนะครับ เพราะทางโครงการวางตัว Star pavilion นี้ไว้ที่ตึก A ซึ่งเป็นตึกหน้าสุด แต่ก็มีการสร้างลิฟท์เฉพาะที่จะพาลูกบ้านจากชั้น 1 ขึ้นไปตรงไปยังชั้น 32 (ไม่ต้องแวะไปช้ันอื่นเลย หิหิหิ) ผมว่าฟังก์ชันนี้เลยสร้างความ Private ให้กับลูกบ้านตึก A ดีนะครับเพราะเวลาคนที่อยู่ตึก C มา ก็มาขึ้นแบบนี้เลยไม่ต้องมาแย่งลิฟท์อยู่อาศัยของลูกค้าที่อยู่ตึก A 

ด้านบนนั้นวิวสวยมาก มองไปโล่งรอบทิศเลยนะครับ มีการจัดการใช้งานเป็นที่นั่ง เป็นโซฟาที่กระจายอยู่เป็นกลุ่มๆ แบ่งเป็นสัดส่วนทำให้ลูกบ้านใช้งานพร้อมกันได้หลายๆคน จัดว่าเป็นการออกแบบที่ดี ห้องเป็นโถงสูง กระจกบานใหญ่ เวลาอยู่ในนี้แล้วได้บรรยากาศดี ลูกบ้านสามารถจะเดินบันไดขึ้นไปที่ชั้น 33 ซึ่งจะทำเป็น sky private party room สามารถมานั่งดริ้ง จิบ wine ดูวิวได้ และก็ยังมี mini theater room เป็นห้องขนาดใหญ่ สามารถจองมาดูหนังพร้อมกันได้หลายคนเลยครับ จะมาเล่นเกมส์ จัดปาร์ตี้กันบนห้องนี้ก็สามารถทำเพราะมีการจัดที่นั่งมาเยอะมากๆ

สระว่ายน้ำตึก A,B : ที่ชั้น 6 จะมีการออกแบบทางเชื่อม link ระหว่างตึก A B C เข้าด้วยกัน โดยจะมีการวางสระว่ายน้ำกระจายอยู่ระหว่างตึก A กับตึก B การออกแบบสระน้ำดูดีครับ ไม่ธรรมดา มีการเล่นรูปทรง มีการเล่นดีไซน์ที่ค่อนข้างเยอะ การวาง sunken seat ที่ทุกคนสามารถมานั่งเล่นได้ มันได้ทั้งความสวยเวลาเรามองลงมาจากตึกลงมา ก็จะเห็นเป็นรูปทรงที่แปลกตาน่าสนใจ เดินถัดมาก็จะมีสวนเล่นระดับไล่ลง มีการวางสวนต้นไม้ มีน้ำตก มีศาลาที่นั่ง กระจายอยู่ทำให้พื้นที่ทางเดินเชื่อมระหว่างตึก ร่มรื่น และน่าเดินดูบรรยากาศอย่างมากครับ

.

Fitness : ที่นี่จะตั้งอยู่ระหว่างตึก B กับตึก C ฟิตเนสมีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ มี 2 ชั้นโดยชั้นล่างประกอบด้วยเวทีมวยขนาดใหญ่ชกมวยได้จริงจัง มี Golf Simulator มาให้ถึง 2 ห้อง ให้แบ่งกันเล่นได้สบายๆไม่ต้องแย่งกัน หิหิหิ เดินขึ้นไปด้านบนของฟิตเนสก็จะเป็นห้องโยคะและห้องที่ออกแนว Cardio จำนวนเครื่องเล่น นั้นวางเรียงกันเป็นตับเลยครับ เหมือนอยู่ fitness ตามห้างเลย เครื่องเล่นเยอะมาก ผมว่าเขาออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านจริงๆนะครับ ทั้งลู่วิ่ง ที่ปั่นจักรยานเยอะจริงๆ

สวน on ground ที่ชั้นล่าง : เราเดินลงมาด้านล่างก็จะมีการวางสวนที่ถูกตึกทั้ง 3 ตึกโอบล้อมเอาไว้ เป็นสวนที่มีรายละเอียดการดีไซน์ที่เยอะมากครับ มีการเล่น ปูหิน วางต้นไม้  มีศาลาที่นั่งที่ทำด้วยเหล็กสีขาวดูโดดเด่น ลูกบ้านสามารถมาพักผ่อน เดินเล่นออกกำลังกาย เหมือนอยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่เลย นอกจากนี้สวนตรงการยังทำหน้าที่เป็นอาหารตา ทำให้วิวจากบนห้องพักอาศัยมองลงมาแล้วเห็นสวนสีเขียวสวยๆ เป็นการเพิ่ม Value กับคอนโดของเราจริงๆ

Co-working space ขนาดใหญ่ : ชั้น 1 ของตึก  A ก็จะมีการวาง Co-working Space เอาไว้ ภายในคอนโดนี้เค้าพยายามจะแบ่งฟังก์ชันของการใช้งานส่วนกลางออกมาให้ได้หลากหลายโดยส่วนของ Co-working Space นี้จะเน้นไปที่การทำงานจริงจัง มีการวางโต๊ะทำงานที่มีช่องเสียบ USB มีปลั๊กไฟไว้ให้เราก็เอาคอมพิวเตอร์มานั่งเล่นที่นี่ได้  มีการทำห้องยกขึ้นมาเป็น อัฒจันทร์ เราสามารถจะประชุม Present งานใหญ่ๆ หรือจะเอาหนังสือมานั่งอ่านเล่นบนที่นั่ง บน อัฒจันทร์

ก็ทำได้เพราะว่าเขาทำห้องโถงสูงแบบ Double Space ทำให้บรรยากาศในห้อง Co-working space นั้นดูโปร่งดูโล่ง และใช้กระจกบานใหญ่ link บรรยากาศ กับสวนขนาดใหญ่ด้านนอก มันทำให้เวลาเราทำงานแล้วสบายตามากๆครับ  แถมด้านบนยังมีห้องประชุมจริงจัง ประชุมกันได้เป็น 10 กว่าคนเลย และมีการวางโต๊ะย่อยๆเอาไว้มานั่งประชุมงาน หรือนั่งทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆได้อย่างสะดวกมากๆครับ โทนการออกแบบก็ใช้สีไม้เป็นหลักทำให้ดู relax ยิ่งตอนเชื่อมโยงกับสวนด้านนอกมันทำให้รู้สึกอยากนั่งทำงานนานๆ มีความสุข enjoy กับการใช้ห้องนี้จริงๆครับ

โดยรวมๆ ความรู้สึกเกี่ยวกับส่วนกลางของที่นี่คือ เพรียบพร้อมมาก ผมเชื่อว่าคนที่ซื้อคอนโดเขาไม่ได้ซื้อมาเพื่ออยู่แต่ในห้องอย่างเดียว เค้าซื้อมาเพื่อที่จะได้ชื่นชมกับส่วนกลางที่ทางคอนโดจัดมาให้ด้วย ซึ่งเดอะพาร์คแลนด์เพชรเกษม 56 ทำส่วนกลางออกมาได้เต็มที่น่าใช้งานสุดๆ owner สามารถจะ spend เวลาทั้งวันอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุขเลยครับ (ผมว่า feeling เหมือนเราอยู่ในโรงแรมใหญ่ๆ resort ดีๆที่นึงเลยครับ)  หรือเราจะซื้อห้องเล็กๆเก็บไว้เพื่อจะมานั่งทำงาน นั่งแฮงเอาท์ มาใช้ส่วนกลาง แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ อยากให้เพื่อนๆมาสัมผัสกันจริงๆครับ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็นนะครับ มาที่นี่รับรองเคลิ้มแน่นอนครับ

// แบบห้อง \\

ห้องที่นี่มี type ค่อนข้างเยอะนะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็น หนึ่งห้องนอนแต่ก็มี detail, ขนาดพื้นที่, การจัด layout ที่ต่างกันพอสมควรตามแต่ Lifestyle Spec โดยทั่วๆไปของที่นี่ก็คือ ประตูให้ digital doorlock, เพดานสูง 2.55 เมตร, มี built in ครัวมาให้ พร้อมแถมเตา ฮู้ดดูดควัน ซิงค์,ห้องน้ำก็จะมีติดกระจกกั้นห้องอาบน้ำให้ มีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ ,ในห้องนอนก็จะมี Built In ตู้เสื้อผ้ามีการทำบานกระจกกั้นอลูมิเนียมให้ ถือว่าของที่เขาให้ในห้องค่อนข้างครบนะครับ ซื้อเฟอร์ลอยอีกไม่กี่ชิ้นก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย 

ห้องตัวอย่างที่นี่เค้าทำเอาไว้ถึง 7 ห้อง 7 แบบด้วยกันนะครับ (เจ้าของโครงการเขาใจดีครับ ก็ทำห้องตัวอย่างให้ลูกค้าดูเยอะเลย จะได้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากครับ) ผมจะมาเล่าเฉพาะ layout ที่ผมชอบๆแล้วกันนะครับ

ห้องหนึ่งนอน 36 ตร.ม. หน้ากว้าง 1G1 : ห้องนี้เป็นห้องที่ผมประทับใจมากๆ พื้นที่แค่ 36 ตารางเมตร วางแบบหน้ากว้าง ให้ความรู้สึกเวลาเข้าไปแล้วดูกว้างมาก ห้องนี้กระจกเยอะด้วย มีหน้าต่างแทรกอยู่เกือบทุกโซน ครัวก็ติดหน้าต่าง, dining+living อยู่ริมระเบียง บรรยากาศนึกว่ากำลังอยู่ในห้องขนาด 40 กว่าตารางเมตรเลยนะครับ ถ้าจะซื้ออยู่เอง หรือจะซื้อปล่อยเช่าผมแนะนำซื้อห้องนี้จริงๆครับ เพราะเป็นห้องที่ดีประทับใจทุกคนที่เข้ามาผมรับประกัน หิหิหิ แต่ข้อเสียก็นิดนึงตรงที่ไม่ได้ครัวปิด และ sofa อาจจะสั้นนิดนึงนะครับ

ห้องหนึ่งนอน 30 ตร.ม. 1C1 : เป็นอีกห้องที่ผมชอบ เพราะขนาดเล็ก pack ราคาสบายกระเป๋า แต่ได้ห้อง layout แบบกั้นกลาง แยก living กับ bedroom ด้วยบานเลื่อนกระจก เตียงสามารถวาง King size ได้ ตู้เสื้อผ้าก็ขนาดใหญ่ ห้องน้ำก็หลวมๆสบายๆ ผมว่าเป็นห้องที่อยู่กัน 1-2 คนได้ดีเลย อย่าลืมว่าที่นี่ส่วนกลางดีมากๆนะครับ เราไม่ต้องอยู่ห้องใหญ่ ไปเน้นใช้ส่วนกลางแทนก็ได้ หิหิหิ

ห้องสองห้องนอน 62 ตร.ม. ห้องนี้เป็นแบบสองห้องนอน สองห้องน้ำ ผมว่าห้องนี้สวยนะครับ ขนาดกำลังพอดี เราได้ครัวปิดแต่ก็มีกระจกใสทำให้มองทะลุเข้ามาในห้อง living ได้ ทำให้ดูโปร่ง โซนกินข้าวก็วางโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ ห้องนอนใหญ่ ได้กระจกเข้ามุม ดูโล่งดี มีห้องน้ำในตัว และมีที่เก็บเสื้อผ้าที่เยอะมากๆ ส่วนห้องนอนเล็กก็วางเตียงเดี่ยวได้ ห้องรู้สึกหลวมๆ เป็นห้องที่ทำออกมาแล้วลงตัว อยู่เป็นครอบครัวได้ดีเลยครับ

// สรุป \\

ผมเชื่อว่าคอนโดนี้เหมาะกับคนที่หาที่อยู่อาศัยในโซนฝั่งธน ราคาไม่สูง อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนกลางที่คุ้มเกินคุ้ม เดินทางสะดวก ใกล้ห้าง เข้าเมืองไม่นาน The Parkland เพชรเกษม 56 ตอบโจทย์เหล่านี้ทุกข้อจริงๆครับ เป็นคอนโดที่มีงานออกแบบ มีการจัดวางส่วนกลางได้ดีมาก ถึงมากที่สุดเลยนะครับ ต้องปรบมือให้กับทาง Dev เจ้านี้จริงๆ 

ตอนนี้เค้าขายตึก B,C ไปแล้วประมาณ 80% นะครับ ใครกำลังดูอยู่รีบๆตัดสินใจ ผมเชื่อว่าคนมาดูโครงการจริงแล้วชอบน่าจะชอบกันทุกคน ดังนั้นห้องดีๆคงจะขายหมดไม่ยากครับ 

ราคาที่เปิดอยู่เริ่มที่ 1.97 ล้าน บาทผมว่าไม่แพงนะครับ

มาพร้อมกับโปร ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน ฟังไม่ผิด ฟรีทุกค่าใช้จ่ายเลยครับ 

และจองทำสัญญายังราคาน่ารักๆเพียง 10,000 บาท  เท่านั้น

ในมุมมองการซื้อปล่อยเช่า ผมเชื่อว่าที่นี่ปล่อยเช่าได้นะครับ เอาแค่ส่วนกลางก็ชนะทุกคอนโดขาดแล้วครับ ถ้าค่าเช่าอยู่ที่ต่ำกว่าหมื่น น่าจะ target หาลูกค้าคนไทยมาเช่าได้ไม่ยากครับ ผมหล่ะอยากจะซื้อเก็บไว้ปล่อยเช่าสักห้องนึง แล้วตัวเองก็มาแอบใช้ส่วนกลางที่นี่ทำงาน ดูมีความสุขดีอ่ะ หิหิหิ

สำหรับท่านที่สนใจสามารถเข้าไปชมส่วนกลางที่โครงการกันได้เลยครับ 

โทร 02-454-8585

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการ : https://bit.ly/2ACfHd0

พิกัดนำทางมาโครงการ : https://goo.gl/maps/DUExq4Dnaix1hGKx8

สอบถามทาง Line Official ของ Narai Property คลิ๊ก : https://bit.ly/3gmx7JM

Comments

comments