แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน

เช็กสาเหตุเบื้องต้น เมื่อแอร์มีแต่ลม

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างนะ?

อากาศร้อนสุด ๆ ร้อน ๆ แบบนี้ก็อยากจะนอนแช่ตัวเองอยู่ในห้องแอร์ให้มันรู้แล้ว รู้ไป แต่แอร์เจ้ากรรมดันมีแต่ลมออกมาซะได้ แล้วแบบนี้ต้องทำยังไง สาเหตุเกิดจากอะไร วันนี้แคเรียร์มีวิธีเช็กแอร์เบื้องต้น เมื่อแอร์มีแต่ลมมาให้ทุกคนลองเช็กกัน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน

1. BTU ของแอร์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้อง

ถ้าหากว่าพึ่งติดแอร์ไม่ทันไร แอร์ก็มีแต่ลมซะแล้ว สิ่งแรกที่ควรสงสัยเลยก็คือ ขนาด BTU ของแอร์ที่เราติดเหมาะสมกับขนาดห้องหรือไม่ เพราะว่าหลายคนอาจคิดว่า ห้องไม่ใหญ่มากติดแอร์ขนาดเล็กก็พอ โดยไม่ได้คำนวณขนาดพื้นที่ห้องกับ BTU ที่เหมาะสม จึงทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เย็นช้า แถมยังกินไฟมากกว่าเดิม หากสงสัยว่า BTU แต่ละขนาดกับห้องไซส์ไหน คลิกเลย 

2. ตั้งโหมดทำความเย็นผิด

บางทีสาเหตุที่แอร์ไม่เย็น ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราอาจมองข้ามอย่างเช่น รีโมทแอร์ไม่ทำงาน การตั้งค่าอุณหภูมิผิด โหมดทำความเย็นของแอร์ไม่ใช่โหมดเดิมที่เคยใช้ ดันไปเผลอกดเป็นโหมดพัดลมหรือไม่ แล้วการปรับโหมดแอร์แบบไหนที่เหมาะกับความต้องการเรา แคเรียร์มีคำตอบให้แล้ว คลิกเลย 

3.จำนวนคนในห้อง

อีกสาเหตุยอดฮิตที่หลาย ๆ คนมองข้ามก็คือการสังเกตว่าจำนวนคนในห้องมากกว่าปกติหรือไม่ เพราะการที่มีคนในห้องเพิ่มมากขึ้น หมายความว่ามีการแย่งกันใช้อากาศที่มากขึ้น ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ดังนั้นถ้าการที่เรารู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นเพราะคนในห้องเยอะ สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ คือการรอนั่นเอง เพราะแอร์จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้อากาศเย็นอย่างที่ควร

4.แอร์มีสิ่งสกปรกอุดตัน 

อีกเรื่องสำคัญที่ต้องไม่ลืมเลยก็คือ ควรล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน หากแอร์ไม่ได้รับการทำความสะอาดเลย ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น หรือมีแต่ลมได้เช่นกัน เพราะว่าฝุ่นที่อุดตันตามคอยล์เย็น และแผ่นฟิลเตอร์ ทำให้ลมแอร์ไม่สามารถออกมาได้เท่าที่ควร รวมถึงเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมล้างทำความสะอาดแอร์ครั้งใหญ่ทุก ๆ 6 เดือน และถอดแผ่นฟิลเตอร์มาล้างอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งกันด้วยนะ

5.น้ำยาแอร์ขาดหรือรั่ว

หากเช็กทั้ง 4 ข้อแล้ว ยังไม่มีตรงไหนผิดพลาด อย่าลืมที่จะเช็กว่าน้ำยาแอร์ของเราขาด หรือมีตรงไหนที่น้ำยาแอร์รั่วหรือไม่ เพราะปกติแล้วแอร์นั้นทำงานแบบระบบปิด น้ำยาแอร์จะหมุนเวียนอยู่ภายในท่อแอร์ ทำให้แอร์ทำความเย็นได้สม่ำเสมอ ดังนั้นอย่าลืมเช็กว่ามีจุดไหนของท่อแอร์ที่มีน้ำแข็งเกาะ หรือมีคราบน้ำมันลื่น ๆ หยดหรือไม่ เพราะนั่นหมายถึงว่าจุดนั้นมีน้ำยาแอร์รั่ว และต้องทำการเชื่อมอุดรอยรั่วเท่านั้นแอร์จึงจะทำงานได้ตามปกติ

6.คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน

จุดสุดท้ายที่ต้องเช็กเมื่อแอร์ไม่เย็นก็คือ คอมเพรสเซอร์ที่ถือเป็นสิ่งสำคัญของแอร์นั่นเอง ดังนั้นหากเปิดแอร์แล้วพบว่าคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ทำงาน ก็จะทำให้แอร์ไม่สามารถหมุนเวียนอากาศจากภายในออกมาภายนอกได้ เหตุการณ์คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานส่วนมากจะพบในแอร์รุ่นเก่ามาก ๆ ซึ่งสาเหตุมักเกิดจากไฟตก เพียงแค่เราสับเบรกเกอร์ใหม่อีกครั้ง ก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติแล้ว แต่หากลองสับเบรกเกอร์แล้วยังคงไม่ทำงาน จำเป็นต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาเช็กสภาพแอร์โดยด่วน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม เพียงแค่รู้ก็ไม่กลายเป็นหมูตุ๋นยาจีน

ปัญหาแอร์ไม่เย็น หรือมีแต่ลมเป่าออกมา เหมือนพัดลมตั้งโต๊ะธรรมดา ไม่มีความเย็นออกมาสักนิด นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาแอร์บ้าน ที่คนใช้แอร์ส่วนใหญ่ต้องพบเจอกันเป็นประจำ และปัญหานี้ไม่จำเป็นต้องเกิดกับเฉพาะแอร์เก่าเท่านั้น แอร์ติดตั้งใหม่บางคนก็เป็นได้ ถ้าติดตั้งไม่ดี

ปัญหาแอร์ไม่เย็นส่วนใหญ่ เกิดจากระบบภายในแอร์มีปัญหา เช่น

เส้นผมบังภูเข้าเพราะ ตั้งแอร์ผิดโหมดการทำงาน (ระดับง่าย เช็คเองได้)

ตั้งโหมดการทำงานไม่ถูกต้อง เพราะโหมดที่ให้แอร์ทำความเย็นออกมาเต็มที่คือ Cool mode มีสัญลักษณ์เป็นรูป เกร็ดหิมะ และ Auto mode มีสัญลักษณ์เป็นรู้ลูกศรหมุนเป็นวง ส่วนโหมดอื่นนั้น ไม่ทำความเย็นออกมาเต็ม เราไปดูรูปสัญลักษณ์โหมดแอร์ต่างๆ กัน

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน
Cool mode คือ โหมดที่ให้แอร์ทำความเย็นตามปกติ ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ (ถ้าตั้งโหมดนี้แล้วแอร์ไม่เย็น แสดงว่าปัญหาอื่น)

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน
Dry mode คือ โหมดที่ลดความชื้นภายในห้องโดยเฉพาะ อุณหภูมิในห้องจะลดลงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะความชื้นค่อยๆ หมดไป (ความชื้นมีผลกับการทำงาน Cool mode)

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน
Fan mode คือ โหมดที่เปิดเฉพาะพัดลมเพื่อให้อากาศหมุนเวียนเท่านั้น ไม่มีความเย็นออกมา

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน
Auto mode คือโหมดที่จะปรับโหมดการทำงานอัตโนมัติอีกที เช่น หากอุณหภูมิสูง (อากาศในห้องยังร้อน) จะปรับเป็น Coolmode เพื่อทำความเย็น และเมื่อทำความเย็นจนถึงกำหนด (ภายในห้องเย็นมากพอแล้ว เช่น 23-24 องศา) ก็จะเปลี่ยนเป็น Dry mode เพื่อรักษาความชื้นภายในห้องไม่ให้สูงขึ้น เป็นต้น

 ดังนั้น เมื่อแอร์ไม่เย็น เบื้องต้นให้ดูการตั้งค่าโหมดการทำงานของแอร์ก่อน

BTU แอร์น้อยกว่าขนาดที่ห้องต้องการ (ระดับง่าย เช็คเองได้)

ปัญหานี้ได้เคยเขียนไว้ในเรื่องของ หา BTU แอร์ ให้เหมาะกับขนาดห้อง ใครยังไม่ได้อ่าน ลองไปอ่านกันดูนะครับ จะได้เข้าใจการทำงานของแอร์ให้มากขึ้น

แอร์ไม่เคยล้าง มีแต่คราบฝุ่นเกาะเต็มไปหมด (ระดับง่าย เช็คเองได้)

แอร์สกปรกทั้งตัวนอกและตัวใน ถ้าไม่เคยล้างแอร์เป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดคราบฝุ่นสะสมเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบการแลกเปลี่ยนความร้อนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ (ระบบทำความเย็นปกติ แอร์ไม่เสียแต่อย่างใด แต่แผงฟินไม่สามารถสัมผัสกับอากาศได้เต็มที่) ปัญหานี้สามารถตรวจสอบเองได้ แค่เปิดหน้ากากแอร์ออกมาก็จะเห็นสภาพความสกปรกได้นั่นเอง

มอเตอร์พัดลมมีปัญหา ทำให้ลมระบายอากาศไม่ดี (ระดับกลาง สังเกตการณ์หมุนของใบพัดได้ หากแก้ไขต้องมีความรู้)

บางครั้ง ลมที่ออกมาจากมีกำลังอ่อน เหมือนพัดไม่ออก ภายในห้องก็ไม่เย็นเหมือนกัน แม้ระบบอื่นๆ ทำงานปกติก็ตาม

แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม คอมทํางาน

คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน (ระดับยาก ต้องมีความรู้ถ้าต้องการแก้ไข)

เมื่อเปิดแอร์แล้ว แต่แอร์ไม่เย็น มีแต่ลมออกมา หากไปดูที่คอยล์ร้อนที่อยู่นอกบ้าน ปรากฏว่า ไม่ได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ทำงาน (พัดลมระบายความร้อนทำงานปกติหรือไม่ก็ได้) อาจเกิดขึ้นได้เพราะ

ไฟไม่เข้าคอมเพรสเซอร์ เช่น แมกเนติกไม่ทำงาน ไฟไม่เข้าระบบ คอมพ์ไม่ทำงาน
แคบสตาร์ทไม่ทำงาน ไฟไม่เข้าระบบ คอมพ์ไม่ทำงาน
แคบรันอ่อน คอมเพรสเซอร์ทำงาน แต่ทำงานอ่อนๆ ทำความเย็นได้ไม่เต็มที่

หรือปัญหาพวก สายไฟขาด ขั่วหลุด ปัญหาเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ ถ้ามีความรู้และอุปกรณ์ เช่น มิเตอร์วัดไฟ

ราคาอะไหล่ต่างๆ เช่น แมกเนติก แคปสตาร์ท แคปรัน ถ้าไปซื้อเองอยู่ระหว่าง 150-400 บาท ถ้าไปซื้อเอง ข้อควรระวังคือ ค่าต่างๆ ต้องเท่ากับหรือใกล้เคียง แต่ไม่น้อยกว่าของเก่า หากไม่มีความรู้ ให้เรียกช่างแอร์มาเปลี่ยนจะปลอดภัยกว่า (เพราะถ้าค่าต่างกันมาก มันจะระเบิดได้นั้นเอง เข้าสุภาษิตว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย) ค่าอะไหล่แอร์ ค่าความรู้ช่าง ค่าแรง ค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา รวมๆ แล้วมีตั้งแต่ 800-1800 บาท เลือกแบบไหน ตามสะดวกเลยครับ

เปิดแอร์ไปซักพักแล้วแอร์ไม่ค่อยเย็น (ระดับยาก ต้องมีความรู้ถ้าต้องการแก้ไข)

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น เปิดแอร์ตอนแรกเย็น แต่พอเปิดแอร์ไปได้สักพักแอร์ไม่เย็น นั่นก็อาจเป็นเพราะว่าเมื่อคอมพ์แอร์ตัดแล้ว แต่พออุณหภูมิร้อนขึ้น คอมเพรสเซอร์กลับไม่ยอมเริ่มทำงานใหม่อีกครั้ง

น้ำยาแอร์รั่ว แอร์ซึม (เช็ดง่าย ระดับยาก ต้องมีความรู้ถ้าต้องการแก้ไข)

เรื่องของน้ำยาแอร์รั่ว หรือแอร์ซึม เคยเขียนไว้แล้วเช่นกัน สามารถติดตามอ่านได้ที่ คำถามโลกแตก น้ำยาแอร์รั่ว? เติมน้ำยาแอร์ทั้งปีทั้งชาติ? ซึ่งปัญหาน้ำยาแอร์รั่วก็เป็นสาเหตุให้แอร์ไม่เย็น มีแต่ลมได้เหมือนกัน ผู้ใช้งานแอร์ทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ คือให้ดูที่หัวท่อทองแดงตัวที่อยู่นอกบ้าน ถ้าเป็นเกร็ดน้ำแข็งเกาะก็ใช่ สำคัญคือ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าแอร์รั่ว ต้องหาจุดรั่วให้พบและเชื่อมปิดรอยรั่ว แม้กระทั่งการรั่วซึมที่เดือยก็ต้องลองหมุนให้เข้าที่ หรือไม่ก็เปลี่ยนเดือย >> แวคคั่ม >> เติมน้ำยาใหม่เท่านั้น ถ้าไม่ทำการปิดรอยรั่ว หรือแค่เติมน้ำยาแอร์เพียงอย่างเดียว แค่เพียง 1-2 วัน น้ำยาแอร์ก็จะรั่วออกไปหมด และแอร์ไม่เย็นเหมือนเดิม

**ระวังถ้าช่างแอร์บอกให้แค่เติมน้ำยาแอร์อย่างเดียวพอล่ะก็ เปลี่ยนช่างได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ

หากตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ยังไม่พบความผิดปกติ อาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น ระบบตัน น้ำมันคอมเพรสเซอร์ไม่กลับเข้าคอมพ์ ลิ้นคอมเพรสเซอร์เสื่อม ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ควรหาช่างแอร์ตรวจสอบจะดีกว่า หรือไม่ก็ต้องพิจารณาสาเหตุของแอร์ไม่เย็น ไปตามแต่ละเคส และควรตรวจสอบช่างให้ดี จะได้ไม่โดนหลอก

บทความโดย ช่างเค ประสบการณ์ต้นหญ้า
ลิขสิทธิ์บทความ http://www.บ้านแอร์.com
ข้อความจากผู้เขียน
ยินดีแบ่งปันโดยการใช้ปุ่มแชร์ได้ครับ
แต่ไม่อนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่ใหม่
รวมถึงการใส่ link กลับมาก็ไม่ได้ครับ
ขอบคุณครับ