ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง

บทที่45ถอดคำประพันธ์ได้ว่า นกยูงทองย่องเยื้ออย่างแล้วรำแพนหางเชิดหน้าขึ้นเห็นปากงอนอ่อนช้อยแสดงอาการรำเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง

Posted by กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง on Friday, September 15, 2017

 ���ͷ���ͧ���    ��Ѻ�ͧ�������

�͡�������µ�     ������Ҵ����ҹ��

��������ٹ��     ������Ф�áѺ�Ҥ�

����š�����»�       ����������¹�������

�Ժ��������ó������      ��͹��ѧ�ء�����

����´�ҧ��ѧ�      ����ͪԴ��Ѻ��Ѻ��ѹ

��ͧ�ͧ�ͺ������     ����Թ���§�ӴѺ�ѹ

�٧�˭������Ӥѭ     �����硵�����¸�����

����������֡    �ٺ����֡��͹����

��ǧ���ǡ������    �ҡ���㹽�����

�����Թ�Ҵ�    �ѧ�Ҵ������й����

����觢ͧ��駤��    ���Դ��觪еҵ�  

��������������ͧ    ����¤������Ф�

�áѹ�մ��¡�    �Թ��ź�з����

����˭�٪Ѵ��   ��մ��ҧ����ش����

�������ҡ��Ш��    �Ң��ҧ�Ѵ�ҢѴ��

�ѧ����ա�����Ժ   ��Ҵ�������ش�

������㨨�����   ŧ�Դ���������͵��

ʹ����������觹ѡ   ����¹�觨֧�������

�ǧ�����ҡ���   �ǧ���Ե��������

���Ǫ���ª�����   ���ͺ�ŧ����繢ͧ��

�����͹��������   ����ê���ҷء���

����ͷ���ͧ���    �����ҡ�����鹺ѭ��

��й����ԭ�ҳ�   �Ӫ��Ե�ԪԵ���  #���������˹��¹Ф�

การเที่ยวเล่นในครั้งนี้ช่างมีความสุข สนุกสนานเหลือเกิน เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่า  หัวเราะกระซิกกันอย่างสดชื่นรื่นเริง  โดยการชี้ชวนให้ชมธรรมชาติต่าง ๆ



                       
                       เลียงผาอยู่ภูเขา                               หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย
                        รูปร่างอย่างแพะหมาย                        ขนเหม็นสาบหยาบเหมือนกัน
                        เลียงผาอยู่พ่างพื้น                             ภูเขา
                        หนวดพู่ดูเพราเขา                             ไปล่ท้าย
                        รูปร่างอย่างแพะเอา                           มาเปรียบ
                        ขนเหม็นสาบหยาบร้าย                       กลิ่นกล้าเหมือนกัน  

ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            เลียงผาอยู่บนภูเขา มีรูปร่างคล้ายแพะ มีหนวดงาม ปลายเขาโค้งไปข้างหลัง ขนหยาบและมีกลิ่นเหม็นสาบ เช่นเดียวกับแพะ



                        กระจงกระจิดเตี้ย                              วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู

                        เหมือนกวางอย่างตาหู                       มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง

                        กระจงกระจิดหน้า                             เอ็นดู

                        เดินร่อยเรี่ยงามตรู                             กระจ้อย

                        เหมือนกวางอย่างตาหู                        ตีนกีบ

                        มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย                           แนบข้างเคียงสอง    


 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            กระจงเป็นสัตว์ที่มีตัวขนาดเล็ก มองดูน่ารักน่าเอ็นดู มีตาหูและตีนกีบเหมือนกวาง มีเขี้ยวน้อยสีขาว 2 เขี้ยว แต่ไม่มีเขา





                        ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย                          ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา
                        ฝูงค่างหว่างพฤกษา                            ค่างโจนไล่ไขว่ปลายยาง
                        ฝูงลิงยวบยาบต้น                               พวาหนา
                        ฝูงชะนีมี่กู่หา                                    เปล่าข้าง
                        ฝูงค่างหว่างพฤกษา                            มาสู่
                        ครอกแครกไล่ไขว่คว้าง                        โลดเลี้ยวโจนปลิว

 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            ฝูงลิงขย่มต้นมะม่วงอยู่ยวบยาบ  ฝูงชะนีร้องกู่หาคู่ของมัน  ฝูงค่างกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้  ฝูงลิงต่างพากันร้องขู่ตะคอก พร้อมทั้งกระโดดไล่ไขว่คว้ากัน
     


                        งูเขียวรัดตุ๊กแก                                 ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน
                        กัดงูงูยิ่งพัน                                     อ้าปากง่วงล้วงตับกิน
                        งูเขียวแลเหลื้อมพ่น                           พิษพลัน
                        ตุ๊กแกคางแข็งขยัน                            คาบไว้
                        กัดงูงูเร่งพัน                                     ขนดเครียด
                        ปากอ้างูจึงได้                                   ลากล้วงตับกิน


ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 งูเขียวตัวเป็นเงามันแต่ไม่มีพิษ ถูกตุ๊กแกคาบไว้ ในขณะเดียวกันงูเขียวก็รัดตุ๊กแกจนต้องอ้าปาก และเข้าไปล้วงตับตุ๊กแกกินเป็นอาหาร

                        ยูงทองย่องเยื้องย่าง                            รำรางชางช่างฟ่ายหาง

                        ปากหงอนอ่อนสำอาง                           ช่างรำเล่นเต้นตามกัน
                        ยูงทองย่องย่างเยื้อง                            รำฉวาง
                        รายร่ายฟ่ายเฟื่องหาง                            เฉิดหน้า
                        ปากหงอนอ่อนสำอาง                            ลายเลิศ
                        รำเล่นเต้นงามหง้า                                ปีกป้องเป็นเพลง
 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 นกยูงทองย่องเยื้องย่าง  แล้วรำแพนหางเชิดหน้าขึ้น  เห็นปากงอนอ่อนช้อย แสดงอาการรำเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง


                        ไก่ฟ้าอ้าสดแสง                                  หัวสุกแดงแทงเดือยแนม
                        ปีกหางต่างสีแกม                                สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน
                        ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า                                 ปากแหลม
                        หัวแดงเดือยแนม                                 เนื่องแข้ง
                        ปีกหางต่างสีแกม                                 ลายลวด
                        ตัวด่างอย่างคนแกล้ง                            แต่งแต้มขีดเขียน

 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 ไก่ฟ้าหน้าสุกใสมีปากแหลม หัวมีสีแดง กำลังแทงเดือยขึ้นมา ปีกหางและลำตัวมีลวดลายงามเหมือนอย่างคนแกล้งแต่งสีให้มัน
     



                         ดูหนูสู่รูงู                                          งูสุดสู้หนูสู้งู

                        หนูงูสู้ดูอยู่                                         รูปงูทู่หนูมูทู
                        ดูงูขู่ฝูดฝู้                                           พรูพรู
                        หนูสู่รูงูงู                                            สุดสู้
                        งูสู้หนูหนูสู้                                         งูอยู่
                        หนูรู้งูงูรู้                                            รูปถู้มูทู

ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 งูขู่หนูฟู่ ๆ เพราะหนูจะเข้าไปในรูงู งูจึงสู้กับหนู หนูก็สู้กับงู สัตว์ทั้งสองต่างก็รู้เชิงซึ่งกันและกัน โดยทำเป็นมู่ทู่ใส่กัน


                        นกแก้วแจ้วเสียงใส                                คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา
                        นกตั้วผัวเมียคลา                                   ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี
                        นกแก้วแจ้วรี่ร้อง                                    เร่หา
                        ใกล้คู่หมู่สาลิกา                                    แวดเคล้า
                        นกตั้วผัวเมียมา                                     สมสู่
                        สัตวาฝ่าแขกเต้า                                    พวกพ้องโนรี


 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 นกแก้วร้องแจ้ว ๆ  เร่หาคู่ โดยเข้าไปใกล้หมู่นกสาลิกา ส่วนนกกระตั้ว 2 ตัวผัวเมียกำลังสมสู่กันอยู่ ในขณะที่นกสัตวาจะต้องฝ่านกแขกเต้าเข้าไปหานกโนรี ซึ่งเป็นพวกพ้องของมัน


                        กระจายสยายซร้องนาง                            ผ้าสไบบางนางสีดา
                        ห่อห้อยย้อยลงมา                                  แต่ค่าไม้ใหญ่สูงงาม
                        กระจายสยายคลี่ซร้อง                             นงพงา
                        สไบบางนางสีดา                                    ห่อห้อย
                        ยื่นเลื้อยเฟื้อยลงมา                                โบยโบก
                        แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย                                  แกว่งเยื้องไปมา

 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 ต้นซ้องนางคลี่ และสไบนางสีดา ต่างก็ยื่นเลื้อยห้อยลงมา แต่ค่าคบไม้น้อยใหญ่ เมื่อยามลมพัดจะแกว่งไปมาดูสวยงามนัก


                        หัวลิงหมากลางลิง                                ต้นลางลิงแลหูลิง
                        ลิงไต่กระไดลิง                                    ลิงโลดคว้าประสาลิง
                        หัวลิงหมากเรียกไม้                               ลางลิง
                        ลางลิงหูลิงลิง                                     หลอกขู้
                        ลิงไต่กระไดลิง                                    ลิงห่ม
                        ลิงโลดฉวยชมผู้                                   ฉีกคว้าประสาลิง

 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 เถาหัวลิง ต้นหมากลิง และลิงบางตัวก็ขั้นต้นหูลิงทำหน้าหลอกคู่ของมัน บ้างก็ขึ้นไต่กระไดลิงขย่มเล่น บ้างก็ตะโกนฉวยชมพู่คว้ามาฉีกเล่นตามภาษาลิง
     


                        ธารไหลใสสะอาด                                  มัจฉาชาติดาษนานา
                        หวั่นว่ายกินไคลคลา                               ตามกันมาให้เห็นตัว
                        ธารไหลใสสะอาดน้ำ                               รินมา
                        มัจฉาชาตินานา                                     หวั่นหว้าย
                        จอกสร่ายกินไคลคลา                              เชยหมู่
                        ตามคู่มาคล้ายคล้าย                                ผุดให้เห็นตัว

 ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
            

ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง
 น้ำในลำธารใสสะอาดไหลรินมา  หมู่ปลานานาชนิด  ต่างหากันว่ายไปมา  กินจอกและสาหร่าย  โดยว่ายตามกันมาเป็นคู่ ๆ  และผุดให้เห็นตัวด้วย


ขั้นตอนการทำเกมบันไดงู


1.ให้นักเรียนศึกษาบทกลอนการเดินทางจากกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงข้างต้น

2.ให้นักเรียนเขียนชื่อสถานที่ที่พบหรือสัตว์ต่างๆที่อ่านเจอ เป็นข้อๆ 

3.จากนั้นให้นักเรียนวาดบันไดงูที่ตนเองสนใจ แล้ววาดภาพสัตว์ต่างๆหรือสถานที่ใส่ในกระดาษร้อยปอนด์ ขนาด A3 ตามข้อที่กำหนดไว้
4.ให้เขียนชื่อกำกับว่าสิ่งนี้คืออะไร สถานที่ไหน สัตว์อะไร
5.กำหนดช่องตัวเลขได้ตามต้องการ
ุ6.ระบายสีใหสวยงามตามความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนามารถออกแบบแผนที่ของตนเองได้ตามใจชอบไม่มีขอบเขต อาจจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกมที่นักเรียนประดิษฐ์ขึ้นได้ เช่นลูกเต๋า ใช้ในการเดินเกม หรือตัวการ์ตูน
7,ในเกมของแต่ละคนต้องมีกติการในการเล่นและมีวิธีการเล่นที่หลากหลาย เช่น การกระโดดข้ามช่องเมื่อตอบคำถามถูกต้อง แต่หากตอบคำถามผิดต้องเดินถอยหลัง เป็นต้น



ตัวอย่างเกมบันไดงู



ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง


ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง






                                                    เรื่อง กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

ผู้แต่ง : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์ หรือขานพระนามกันทั่วไปว่า “เจ้าฟ้ากุ้ง” ประสูติเมื่อ พ.ศ.๒๒๔๘ เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ กับกรมหลวงอภัยนุชิตพระมเหสีใหญ่ (สมเด็จพระพันวัสสาใหญ่) ทรงมีพระอนุชาต่างพระมารดา ๒ พระองค์คือ พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าเอกทัศน์ (พระเจ้าเอกทัศน์) และพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ามะเดื่อ (ขุนหลวงหาวัด) เมื่อพระราชบิดาได้เสวยราชย์แล้วโปรดให้สถาปนาเป็นเจ้าธรรมธิเบศร์ กรมขุนเสนาพิทักษ์ เมื่อ พ.ศ.๒๒๗๖ ต่อมาใน พ.ศ.๒๒๘๔ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) อภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าหญิงอินทสุดาวดี พระองค์เป็นกองการปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีสรรเพชญ์และวัดอื่นๆ มากมาย พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะด้านวรรณกรรม พระองค์ทรงเป็นกวีที่ยิ่งใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยา สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.๒๒๙๘ โดยสาเหตุลอบเป็นชู้กับเจ้าฟ้านิ่มหรือเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งเป็นพระสนมของพระราชบิดาจึงต้องพระราชอาญาถูกโบยจนสิ้นพระชนม์พร้อมด้วยเจ้าฟ้าสังวาลย์ แล้วนำศพไปฝังวัดไชยวัฒนาราม

ผลงานที่ทรงพระนิพนธ์ คือ เพลงยาวบางบท บทเห่เรื่องกากี ๓ ตอน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง พระมาลัยคำหลวง กาพย์โคลงนิราศธารโศก บทเห่สังวาสและบทเห่ครวญอย่างละบท กาพย์เห่เรือ และนันโทปนันทสูตรคำหลวง


ลักษณะการแต่ง กาพย์ห่อโคลง ประกอบด้วยกาพย์ยานี ๑๐๘ บท และโคลงสี่สุภาพ ๑๑๓ บท ปิดท้ายด้วยโคลงสี่สุภาพ ๒ บท ลักษณะกาพย์ห่อโคลงขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑ บท ตามด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ใจความเหมือนกัน เนื้อความนิยมแต่งล้อตามกัน คำต้นบทของโคลงตรงกับคำต้นบทของกาพย์ “ดังไม้ไผ่หรืออ้อยที่มีกาบห่อนั้น”

จุดมุ่งหมายในการแต่ง

                เพื่อความเพลิดเพลินในการชมธรรมชาติระหว่างการเดินทางไปพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี

สาระสำคัญของเรื่อง

                ตอนต้นกล่าวถึงกระบวนเสด็จ  พรรณนาสัตว์ป่าตามสภาพของมัน  พรรณนาพวกนก  พรรณนาพันธุ์ไม้ พรรณนาลำธารและปลา   และพรรณนาความสนุกรื่นรมย์ที่ธารทองแดง

คุณค่าที่ได้รับจากเรื่อง

๑.ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์นานาชนิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งธรรมชาติของพรรณไม้ดอกไม้ผลในสมัยกรุงศรีอยุธยา

๒.ให้คุณค่าด้านวรรณศิลป์และด้านสังคมที่ดี กวีใช้คำง่ายๆ ให้อรรถรส สื่อความหมายชัดเจน เล่นคำ เล่นเสียง

๓.คุณค่าในด้านธรรมชาติวิทยา
๔.คุณค่าในด้านวัฒนธรรม

๕.คุณค่าด้านวรรณศิลป์


ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง

๑.ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ทุกคนควรช่วยกันรักษาไว้เพื่อให้สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศดีขึ้น

๒.กวีสร้างสรรค์งานโดยอาศัยการสังเกตจากธรรมชาติ

๓.ข้อมูลจากวรรณคดีในแต่ละสมัยสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมในสมัยนั้น เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์อีกวิธีหนึ่ง

๔.คำประพันธ์ทำให้มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น


กาพย์ห่อโคลง

กาพย์ห่อโคลง เป็นชื่อบทประพันธ์ที่แต่งขึ้นโดยใช้กาพย์ยานี ๑๑ แต่งสลับกับโคลงสี่สุภาพอย่างละ

๑ บท โดยขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑๑ และตามด้วยโคลงสี่สุภาพที่มีเนื้อความอย่างเดียวกันคือให้วรรคที่หนึ่งของกาพย์ยานี ๑๑ กับบาทที่หนึ่งของโคลงสี่สุภาพบรรยายข้อความอย่างเดียวกันหรือให้คำต้นวรรคของกาพย์กับคำต้นวรรคของโคลงสี่สุภาพบรรยายข้อความอย่างเดียวกันหรือให้คำต้นวรรคของกาพย์กับคำต้นวรรคของโคลงเป็นคำเหมือนกัน ไม่ต้องส่งสัมผัสระหว่างบท

ตัวอย่าง

นกแก้วแจ้วเสียงใส                       คลอไคล้คู่หมู่สาลิกานกตั้วผัวเมียคลา                                    ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรีนกแก้วแจ้วรี่ร้อง                          เร่หา           ใกล้คู่หมู่สาลิกา                                     แวดเคล้า           นกตั้วผัวเมียมา                                     สมสู่           สัตวาฝ่าแขกเต้า                                    พวกพ้องโนรี                                                   กาพย์ยานี ๑๑

                                     กาพย์ยานี ๑๑ เป็นกาพย์ที่มีฉันทลักษณ์ตามแผนผังดังนี้





ถอดความ กาพย์ห่อโคลง ประพาส ธารทองแดง





ตัวอย่าง

กาพย์ยานีลำนำ           สิบเอ็ดคำจำอย่าคลาย

วรรคหน้าห้าคำหมาย               วรรคหลังหกยกแสดง

ครุลหุนั้น                   ไม่สำคัญอย่าระแวง

สัมผัสต้องจัดแจง                    ให้ถูกต้องตามวิธี

(หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ)


ลักษณะบังคับของกาพย์ยานี ๑๑

๑.คณะ กาพย์ยานี ๑๑ ๑ บท มี ๒ บาท บาทที่ ๑ เรียกว่า บาทเอก บาทที่ ๒ เรียกว่า บาทโท ๑ บาท แบ่งออกเป็น ๒ วรรค ดังนั้น ๑ บท จึงมี ๔ วรรค

๒.พยางค์ พยางค์หรือคำในวรรคหน้ามี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ เหมือนกันทั้งบาทเอกและบาทโท ต้องแต่งอย่างน้อย ๑ บท (๔ วรรค) เสมอ จะแต่งน้อยกว่านั้นไม่ได้ ในวรรคหนึ่งๆ อาจจะใช้คำเกินกว่ากำหนดบ้างก็ได้ แต่ต้องเป็นคำที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้น พยางค์หรือคำในระหว่างวรรคจะใช้ยติภังค์ก็ได้ แต่จะใช้ยติภังค์ในระหว่างบาทหรือบทไม่ได้

๓.สัมผัส คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคที่ ๒ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคแรกในบาทโท ถ้าจะแต่งบทต่อไปต้องให้คำสุดท้ายของบทแรกสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคหลังในบาทเอกของบทต่อไป (สัมผัสระหว่างบท)

 วิธีอ่านกาพย์ยานี ๑๑

กาพย์ยานี ๑๑ มีจังหวะในการอ่าน ดังนี้

๒/๓               ๓/๓ ------------บาทเอก

๒/๓               ๓/๓ ------------บาทโท

ตัวอย่าง

ยูงทอง/ย่องเยื้องย่าง                รำรางชาง/ช่างฟ่ายหาง

ปากหงอน/อ่อนสำอาง                        ช่างรำเล่น/เต้นตามกัน




โคลงสี่สุภาพ

โคลงสี่สุภาพมีฉันทลักษณ์ตามแผนผัง ดังนี้

ตัวอย่าง

แคคางคุยข่อยขึ้น          เคียงคาน คูนแฮ

กาเหว่ากาหลงกา                             กู่ร้อง

กะเต็นไต่เต็งตา                      ตามเหยื่อ ยวนแฮ่

แหนหนั่นหนองมองจ้อง             จึ่งแจ้งใจจริง

(หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ)


ลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพ

๑.คณะ โคลงสี่สุภาพ ๑ บท มี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๒ วรรค วรรคแรกมี ๕ คำ วรรคหลังมี ๒ คำ ยกเว้นบาทที่ ๔ วรรคแรกมี ๕ คำ ส่วนวรรคหลังมี ๔ คำ รวมจำนวนคำ ๑ บท มี ๓๐ คำ ท้ายบาทที่ ๑ และ ๓ อาจมีคำสร้อยบาทละ ๒ คำ เพื่อให้ได้ความที่สมบูรณ์ขึ้น

๒.สัมผัส สัมผัสนอกตามเส้นโยงไว้ในแผนผัง สัมผัสในนิยมใช้สัมผัสอักษรระหว่างวรรคคือให้คำสุดท้ายของวรรคหน้าสัมผัสกับคำหน้าของวรรคหลัง เช่น ขึ้น-เคียง,กา-กู่, ตา-ตาม เป็นต้น แต่ไม่ใช่ลักษณะบังคับในการแต่ง

          ๓.วรรณยุกต์ โคลงสี่สุภาพบังคับคำเอก ๗ แห่ง คำโท ๔ แห่ง โดยในตำแหน่งคำเอกและคำโทในบาทที่ ๑ สลับที่กันได้ คือ เอาคำเอกไปไว้ในคำที่ ๕ และเอาคำโทมาไว้ในคำที่ ๔ แทนก็ได้ ส่วนในตำแหน่งคำเอกสามารถใช้คำตายหรือคำเอกโทษแทนได้ เช่น หน้า-น่า สิ้น-ซิ่น เป็นต้น ส่นตำแหน่งคำโทสามารถใช้คำโทษแทนได้ เช่น เล่น-เหล้น เป็นต้น


วิธีอ่านโคลงสี่สุภาพ

โคลงสี่สุภาพมีจังหวะในการอ่าน ดังนี้

๓/๒                        ๒/(๒)   ------ บาทที่หนึ่ง

๓/๒                                  ๒/       ------ บาทที่สอง

๓/๒                                  ๒/(๒)   ------ บาทที่สาม

๓/๒                                  ๒/๒     ------ บาทที่สี่

ตัวอย่าง

แคคางคุย / ข่อยขึ้น                เคียงคาน / คูนแฮ

กาเหว่ากา / หลงกา                          กู่ร้อง

กะเต็นไต่ / เต็งตา                            ตามเหยื่อ / ยวนแฮ่

แหนหนั่นหนอง / มองจ้อง                   จึ่งแจ้ง / ใจจริง

(หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ)


วิธีอ่านทำนองเสนาะโคลงสี่สุภาพ

การอ่านทำนองเสนาโลงสี่สุภาพมีวิธีการอ่านดังนี้

๑.บาทที่ ๑,๒ และ ๔ ให้อ่านเสียงขึ้น-ลง สูง-ต่ำ ตามเสียงวรรณยุกต์ แต่บาทที่ ๓ วรรคหน้า อ่านมีเสียงวรรณยุกต์จัตวาปนอยู่ด้วย เมื่อถึงคำที่ ๕ ให้ทอดเสียงเอื้อนยาวและดังก้องนอกนั้นอ่านตามเครื่องหมาย

๒.ถ้าคำที่ ๕ ของบาที่ ๒ และบาทที่ ๓ เป็นคำตาย เวลาทอดเสียงหรือเอื้อนให้ปิดปากแล้วเอื้อนให้เสียงยาวออกทางจมูกจึงจะได้เสียงเอื้อนที่ไพเราะ

คำประพันธ์จากกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีใจความเกี่ยวกับอะไร จงอธิบาย

เนื้อหาของกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นการบรรยายและพรรณนากระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ขบวนช้าง เครื่องสูง สนมนางในผู้ตามเสด็จ กวีบรรยายภาพสัตว์ป่าประเภทต่างๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกัน มีสัตว์สี่เท้า เช่น ช้าง กระบือ โค กวาง ทราย หมูป่า สุนัขจิ้งจอก กระทิง หมี เสือโคร่ง เสือเหลือง เสือดาว โคแดง ละมั่ง อ้น กระแต กระรอก ฯลฯ

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีลักษณะเด่นอย่างไร

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง มีลักษณะทางฉันทลักษณ์ดังนี้ ขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี 1 บท แล้วตามด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บทใจความเหมือนกัน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นั้นมีกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพรวม 108 คู่ และโคลงปิดท้ายมี 2 บท จุดประสงค์ในการแต่ง คือ เป็นบทชมธรรมชาติ เพื่อความเพลิดเพลินในการเดินทาง เพื่อพรรณนากระบวนเสด็จทาง ...

คำประพันธ์ที่ใช้ในการแต่งกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงคืออะไร

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงเป็นวรรณคดีที่แต่งขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้ทรงพระนิพนธ์คือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์(เจ้าฟ้ากุ้ง) แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกาพย์ห่อโคลง ในโอกาสที่พระองค์ขบวนเสด็จทางสถลมารคของ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไปนมัสการพระพุทธบาทที่สระบุรีธารทองแดงเป็นลำธารที่เกิดจาก ...

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงสรุปสาระสำคัญได้ว่าอย่างไร

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นวรรณคดีเกี่ยวกับบันทึกการเดินทางที่พรรณนาถึงความ สนุกสนาน รื่นรมย์ที่ได้รับจากธรรมชาติ โดยเฉพาะการพรรณนาให้เห็นเป็นภาพสัตว์บกและสัตว์น้ำที่เปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่ปรากฏในธรรมชาติระหว่างการเดินทาง ตั้งแต่ท่าเจ้าสนุกไปถึงพระพุทธบาท