บทที่45ถอดคำประพันธ์ได้ว่า นกยูงทองย่องเยื้ออย่างแล้วรำแพนหางเชิดหน้าขึ้นเห็นปากงอนอ่อนช้อยแสดงอาการรำเล่นด้วยการยกปีกขึ้นป้องตามเพลง Show ���ͷ���ͧ��� ��Ѻ�ͧ������� �͡�������µ� ������Ҵ����ҹ�� ��������ٹ�� ������Ф�áѺ�Ҥ� ����š�����»� ����������¹������� �Ժ��������ó������ ����ѧ�ء����� ����´�ҧ��ѧ� ����ͪԴ��Ѻ��Ѻ��ѹ ��ͧ�ͧ�ͺ������ ����Թ���§�ӴѺ�ѹ �٧�˭������Ӥѭ �����硵�����¸����� ����������֡ �ٺ����֡������ ��ǧ���ǡ������ �ҡ���㹽����� �����Թ�Ҵ� �ѧ�Ҵ������й���� ����觢ͧ��駤�� ���Դ��觪еҵ� ��������������ͧ ����¤������Ф� �áѹ�մ��¡� �Թ��ź�з���� ����˭�٪Ѵ�� ��մ��ҧ����ش���� �������ҡ��Ш�� �Ң��ҧ�Ѵ�ҢѴ�� �ѧ����ա�����Ժ ��Ҵ�������ش� ������㨨����� ŧ�Դ���������͵�� ʹ����������觹ѡ ����¹�觨֧������� �ǧ�����ҡ��� �ǧ���Ե�������� ���Ǫ���ª����� ���ͺ�ŧ����繢ͧ�� ������������� ����ê���ҷء��� ����ͷ���ͧ��� �����ҡ�����鹺ѭ�� ��й����ԭ�ҳ� �Ӫ��Ե�ԪԵ��� #���������˹��¹Ф� การเที่ยวเล่นในครั้งนี้ช่างมีความสุข สนุกสนานเหลือเกิน เดินอย่างรวดเร็วเข้าไปในป่า หัวเราะกระซิกกันอย่างสดชื่นรื่นเริง โดยการชี้ชวนให้ชมธรรมชาติต่าง ๆ กระจงกระจิดเตี้ย วิ่งเรี่ยเรี่ยน่าเอ็นดู เหมือนกวางอย่างตาหู มีเขี้ยวน้อยสร้อยแนมสอง กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู เดินร่อยเรี่ยงามตรู กระจ้อย เหมือนกวางอย่างตาหู ตีนกีบ มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย แนบข้างเคียงสอง
ฝูงลิงใหญ่น้อยกระจุ้ย ชะนีอุ่ยอุ้ยร้องหา งูเขียวรัดตุ๊กแก ตุ๊กแกแก่คางแข็งขยัน
ยูงทองย่องเยื้องย่าง รำรางชางช่างฟ่ายหาง ปากหงอนอ่อนสำอาง ช่างรำเล่นเต้นตามกัน ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม ดูหนูสู่รูงู งูสุดสู้หนูสู้งู หนูงูสู้ดูอยู่ รูปงูทู่หนูมูทู นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกา ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กระจายสยายซร้องนาง ผ้าสไบบางนางสีดา หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา ถอดคำประพันธ์กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ขั้นตอนการทำเกมบันไดงู 1.ให้นักเรียนศึกษาบทกลอนการเดินทางจากกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงข้างต้น 2.ให้นักเรียนเขียนชื่อสถานที่ที่พบหรือสัตว์ต่างๆที่อ่านเจอ เป็นข้อๆ 3.จากนั้นให้นักเรียนวาดบันไดงูที่ตนเองสนใจ แล้ววาดภาพสัตว์ต่างๆหรือสถานที่ใส่ในกระดาษร้อยปอนด์ ขนาด A3 ตามข้อที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเกมบันไดงู เรื่อง กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ผู้แต่ง : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ ไชยเชษฐสุริยวงศ์ หรือขานพระนามกันทั่วไปว่า “เจ้าฟ้ากุ้ง” ประสูติเมื่อ พ.ศ.๒๒๔๘ เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ กับกรมหลวงอภัยนุชิตพระมเหสีใหญ่ (สมเด็จพระพันวัสสาใหญ่) ทรงมีพระอนุชาต่างพระมารดา ๒ พระองค์คือ พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าเอกทัศน์ (พระเจ้าเอกทัศน์) และพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ามะเดื่อ (ขุนหลวงหาวัด) เมื่อพระราชบิดาได้เสวยราชย์แล้วโปรดให้สถาปนาเป็นเจ้าธรรมธิเบศร์ กรมขุนเสนาพิทักษ์ เมื่อ พ.ศ.๒๒๗๖ ต่อมาใน พ.ศ.๒๒๘๔ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) อภิเษกสมรสกับเจ้าฟ้าหญิงอินทสุดาวดี พระองค์เป็นกองการปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีสรรเพชญ์และวัดอื่นๆ มากมาย พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะด้านวรรณกรรม พระองค์ทรงเป็นกวีที่ยิ่งใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยา สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.๒๒๙๘ โดยสาเหตุลอบเป็นชู้กับเจ้าฟ้านิ่มหรือเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งเป็นพระสนมของพระราชบิดาจึงต้องพระราชอาญาถูกโบยจนสิ้นพระชนม์พร้อมด้วยเจ้าฟ้าสังวาลย์ แล้วนำศพไปฝังวัดไชยวัฒนาราม ผลงานที่ทรงพระนิพนธ์ คือ เพลงยาวบางบท บทเห่เรื่องกากี ๓ ตอน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง พระมาลัยคำหลวง กาพย์โคลงนิราศธารโศก บทเห่สังวาสและบทเห่ครวญอย่างละบท กาพย์เห่เรือ และนันโทปนันทสูตรคำหลวง ลักษณะการแต่ง กาพย์ห่อโคลง ประกอบด้วยกาพย์ยานี ๑๐๘ บท และโคลงสี่สุภาพ ๑๑๓ บท ปิดท้ายด้วยโคลงสี่สุภาพ ๒ บท ลักษณะกาพย์ห่อโคลงขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑ บท ตามด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ใจความเหมือนกัน เนื้อความนิยมแต่งล้อตามกัน คำต้นบทของโคลงตรงกับคำต้นบทของกาพย์ “ดังไม้ไผ่หรืออ้อยที่มีกาบห่อนั้น” จุดมุ่งหมายในการแต่ง เพื่อความเพลิดเพลินในการชมธรรมชาติระหว่างการเดินทางไปพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี สาระสำคัญของเรื่อง ตอนต้นกล่าวถึงกระบวนเสด็จ พรรณนาสัตว์ป่าตามสภาพของมัน พรรณนาพวกนก พรรณนาพันธุ์ไม้ พรรณนาลำธารและปลา และพรรณนาความสนุกรื่นรมย์ที่ธารทองแดง คุณค่าที่ได้รับจากเรื่อง ๑.ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสัตว์นานาชนิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งธรรมชาติของพรรณไม้ดอกไม้ผลในสมัยกรุงศรีอยุธยา ๒.ให้คุณค่าด้านวรรณศิลป์และด้านสังคมที่ดี กวีใช้คำง่ายๆ ให้อรรถรส สื่อความหมายชัดเจน เล่นคำ เล่นเสียง ๓.คุณค่าในด้านธรรมชาติวิทยา ๕.คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ๑.ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ทุกคนควรช่วยกันรักษาไว้เพื่อให้สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศดีขึ้น ๒.กวีสร้างสรรค์งานโดยอาศัยการสังเกตจากธรรมชาติ ๓.ข้อมูลจากวรรณคดีในแต่ละสมัยสะท้อนให้เห็นสภาพสังคมในสมัยนั้น เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์อีกวิธีหนึ่ง ๔.คำประพันธ์ทำให้มีจิตใจที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น กาพย์ห่อโคลง กาพย์ห่อโคลง เป็นชื่อบทประพันธ์ที่แต่งขึ้นโดยใช้กาพย์ยานี ๑๑ แต่งสลับกับโคลงสี่สุภาพอย่างละ ๑ บท โดยขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี ๑๑ และตามด้วยโคลงสี่สุภาพที่มีเนื้อความอย่างเดียวกันคือให้วรรคที่หนึ่งของกาพย์ยานี ๑๑ กับบาทที่หนึ่งของโคลงสี่สุภาพบรรยายข้อความอย่างเดียวกันหรือให้คำต้นวรรคของกาพย์กับคำต้นวรรคของโคลงสี่สุภาพบรรยายข้อความอย่างเดียวกันหรือให้คำต้นวรรคของกาพย์กับคำต้นวรรคของโคลงเป็นคำเหมือนกัน ไม่ต้องส่งสัมผัสระหว่างบท ตัวอย่าง นกแก้วแจ้วเสียงใส คลอไคล้คู่หมู่สาลิกานกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรีนกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา ใกล้คู่หมู่สาลิกา แวดเคล้า นกตั้วผัวเมียมา สมสู่ สัตวาฝ่าแขกเต้า พวกพ้องโนรี กาพย์ยานี ๑๑กาพย์ยานี ๑๑ เป็นกาพย์ที่มีฉันทลักษณ์ตามแผนผังดังนี้ ตัวอย่าง กาพย์ยานีลำนำ สิบเอ็ดคำจำอย่าคลาย วรรคหน้าห้าคำหมาย วรรคหลังหกยกแสดง ครุลหุนั้น ไม่สำคัญอย่าระแวง สัมผัสต้องจัดแจง ให้ถูกต้องตามวิธี (หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ) ๑.คณะ กาพย์ยานี ๑๑ ๑ บท มี ๒ บาท บาทที่ ๑ เรียกว่า บาทเอก บาทที่ ๒ เรียกว่า บาทโท ๑ บาท แบ่งออกเป็น ๒ วรรค ดังนั้น ๑ บท จึงมี ๔ วรรค ๒.พยางค์ พยางค์หรือคำในวรรคหน้ามี ๕ คำ วรรคหลังมี ๖ คำ เหมือนกันทั้งบาทเอกและบาทโท ต้องแต่งอย่างน้อย ๑ บท (๔ วรรค) เสมอ จะแต่งน้อยกว่านั้นไม่ได้ ในวรรคหนึ่งๆ อาจจะใช้คำเกินกว่ากำหนดบ้างก็ได้ แต่ต้องเป็นคำที่ประกอบด้วยสระเสียงสั้น พยางค์หรือคำในระหว่างวรรคจะใช้ยติภังค์ก็ได้ แต่จะใช้ยติภังค์ในระหว่างบาทหรือบทไม่ได้ ๓.สัมผัส คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคที่ ๒ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคแรกในบาทโท ถ้าจะแต่งบทต่อไปต้องให้คำสุดท้ายของบทแรกสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคหลังในบาทเอกของบทต่อไป (สัมผัสระหว่างบท) วิธีอ่านกาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ยานี ๑๑ มีจังหวะในการอ่าน ดังนี้ ๒/๓ ๓/๓ ------------บาทเอก ๒/๓ ๓/๓ ------------บาทโท ตัวอย่าง ยูงทอง/ย่องเยื้องย่าง รำรางชาง/ช่างฟ่ายหาง ปากหงอน/อ่อนสำอาง ช่างรำเล่น/เต้นตามกัน โคลงสี่สุภาพมีฉันทลักษณ์ตามแผนผัง ดังนี้ ตัวอย่าง แคคางคุยข่อยขึ้น เคียงคาน คูนแฮ กาเหว่ากาหลงกา กู่ร้อง กะเต็นไต่เต็งตา ตามเหยื่อ ยวนแฮ่ แหนหนั่นหนองมองจ้อง จึ่งแจ้งใจจริง (หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ) ๑.คณะ โคลงสี่สุภาพ ๑ บท มี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๒ วรรค วรรคแรกมี ๕ คำ วรรคหลังมี ๒ คำ ยกเว้นบาทที่ ๔ วรรคแรกมี ๕ คำ ส่วนวรรคหลังมี ๔ คำ รวมจำนวนคำ ๑ บท มี ๓๐ คำ ท้ายบาทที่ ๑ และ ๓ อาจมีคำสร้อยบาทละ ๒ คำ เพื่อให้ได้ความที่สมบูรณ์ขึ้น ๒.สัมผัส สัมผัสนอกตามเส้นโยงไว้ในแผนผัง สัมผัสในนิยมใช้สัมผัสอักษรระหว่างวรรคคือให้คำสุดท้ายของวรรคหน้าสัมผัสกับคำหน้าของวรรคหลัง เช่น ขึ้น-เคียง,กา-กู่, ตา-ตาม เป็นต้น แต่ไม่ใช่ลักษณะบังคับในการแต่ง ๓.วรรณยุกต์ โคลงสี่สุภาพบังคับคำเอก ๗ แห่ง คำโท ๔ แห่ง โดยในตำแหน่งคำเอกและคำโทในบาทที่ ๑ สลับที่กันได้ คือ เอาคำเอกไปไว้ในคำที่ ๕ และเอาคำโทมาไว้ในคำที่ ๔ แทนก็ได้ ส่วนในตำแหน่งคำเอกสามารถใช้คำตายหรือคำเอกโทษแทนได้ เช่น หน้า-น่า สิ้น-ซิ่น เป็นต้น ส่นตำแหน่งคำโทสามารถใช้คำโทษแทนได้ เช่น เล่น-เหล้น เป็นต้น
โคลงสี่สุภาพมีจังหวะในการอ่าน ดังนี้ ๓/๒ ๒/(๒) ------ บาทที่หนึ่ง ๓/๒ ๒/ ------ บาทที่สอง ๓/๒ ๒/(๒) ------ บาทที่สาม ๓/๒ ๒/๒ ------ บาทที่สี่ ตัวอย่าง แคคางคุย / ข่อยขึ้น เคียงคาน / คูนแฮ กาเหว่ากา / หลงกา กู่ร้อง กะเต็นไต่ / เต็งตา ตามเหยื่อ / ยวนแฮ่ แหนหนั่นหนอง / มองจ้อง จึ่งแจ้ง / ใจจริง (หลักภาษาไทย ของกำชัย ทองหล่อ) วิธีอ่านทำนองเสนาะโคลงสี่สุภาพ การอ่านทำนองเสนาโลงสี่สุภาพมีวิธีการอ่านดังนี้ ๑.บาทที่ ๑,๒ และ ๔ ให้อ่านเสียงขึ้น-ลง สูง-ต่ำ ตามเสียงวรรณยุกต์ แต่บาทที่ ๓ วรรคหน้า อ่านมีเสียงวรรณยุกต์จัตวาปนอยู่ด้วย เมื่อถึงคำที่ ๕ ให้ทอดเสียงเอื้อนยาวและดังก้องนอกนั้นอ่านตามเครื่องหมาย ๒.ถ้าคำที่ ๕ ของบาที่ ๒ และบาทที่ ๓ เป็นคำตาย เวลาทอดเสียงหรือเอื้อนให้ปิดปากแล้วเอื้อนให้เสียงยาวออกทางจมูกจึงจะได้เสียงเอื้อนที่ไพเราะ คำประพันธ์จากกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีใจความเกี่ยวกับอะไร จงอธิบายเนื้อหาของกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นการบรรยายและพรรณนากระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ขบวนช้าง เครื่องสูง สนมนางในผู้ตามเสด็จ กวีบรรยายภาพสัตว์ป่าประเภทต่างๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกัน มีสัตว์สี่เท้า เช่น ช้าง กระบือ โค กวาง ทราย หมูป่า สุนัขจิ้งจอก กระทิง หมี เสือโคร่ง เสือเหลือง เสือดาว โคแดง ละมั่ง อ้น กระแต กระรอก ฯลฯ
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีลักษณะเด่นอย่างไรกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง มีลักษณะทางฉันทลักษณ์ดังนี้ ขึ้นต้นด้วยกาพย์ยานี 1 บท แล้วตามด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บทใจความเหมือนกัน กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นั้นมีกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพรวม 108 คู่ และโคลงปิดท้ายมี 2 บท จุดประสงค์ในการแต่ง คือ เป็นบทชมธรรมชาติ เพื่อความเพลิดเพลินในการเดินทาง เพื่อพรรณนากระบวนเสด็จทาง ...
คำประพันธ์ที่ใช้ในการแต่งกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงคืออะไรกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงเป็นวรรณคดีที่แต่งขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ผู้ทรงพระนิพนธ์คือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์(เจ้าฟ้ากุ้ง) แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกาพย์ห่อโคลง ในโอกาสที่พระองค์ขบวนเสด็จทางสถลมารคของ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไปนมัสการพระพุทธบาทที่สระบุรีธารทองแดงเป็นลำธารที่เกิดจาก ...
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงสรุปสาระสำคัญได้ว่าอย่างไรสาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นวรรณคดีเกี่ยวกับบันทึกการเดินทางที่พรรณนาถึงความ สนุกสนาน รื่นรมย์ที่ได้รับจากธรรมชาติ โดยเฉพาะการพรรณนาให้เห็นเป็นภาพสัตว์บกและสัตว์น้ำที่เปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่ปรากฏในธรรมชาติระหว่างการเดินทาง ตั้งแต่ท่าเจ้าสนุกไปถึงพระพุทธบาท
|