การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

           การรักษาดุลยภาพของร่างกายมนุษย์ ประกอบด้วย

1. การรักษาดุลยภพของน้ำและแร่ธาตุ อาศัยการทำงานของไตที่มีหน่วยไตทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดและดูดกลับสารที่มีประโยชน์ ซึ่งการควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ต่าง ๆ ในเลือด จะถูกควบคุมด้วยสมองส่วนไฮโพทาลามัสที่มีผลกระตุ้นหรือยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแอนติไดยูเรติกจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง

2. การรักษาดุลยภาพของดกรด-เบสในร่างกาย อาศัยการทำงานของปอด โดยการกำจัด CO2 จากการหายใจออก เพื่อลดปริมาณ H+ ในเลือด รวมทั้งการขับ/ดูดกลับสารและไอออนต่าง ๆ ที่หน่วยไต ซึ่งมีผลต่อความเป็นกรด-เบสของเลือด

3.  การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกาย อาศัยการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือด ผิวหนัง และกล้ามเนื้อโครงร่าง ซึ่งมีศูนย์ควบคุมอยู่ที่สมองส่วนไฮโพทาลามัสที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปกระตุ้นหรือยับยั้งกระบวนการเมแทบอลิซึมต่าง ๆ

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แบ่งออกเป็น 2 ระบบ ได้แก่

1. ระบบภูมิคุ้มกันแบบไม่จำเพาะมีความสามารถในการป้องกัน ทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้เพียงระดับหนึ่เท่ากัน ซึ่งแบ่งกลไกการทำงานออกเป็น 3 ระบบ ได้แก่ การป้องการทางกายภาพ เช่น ผิวหนัง เยื่อบุผิว การป้องกันโดยสารเคมี เช่น สารเคมีในต่อมน้ำตา ต่อมน้ำลาย กระเพาะอาหาร และต่อมเหงื่อ และการกลืนกินของเซลล์โดยการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดฟาโกไซต์

2. ระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเป็นกลไกป้องกัน ทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่มีความจำเพาะต่อแอนติเจนแต่ละชนิด อาศัยการทำงานของเซลล์เม้ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ 2 ชนิด ได้แก่ เซลล์บีและเซลล์ที ซึ่งเซลล์ทีจะพัฒนาเป็นเซลล์พลาสมาเพื่อสร้างแอนติเจนเข้าทำลายสิ่งแปลกปลอม ส่วนเซลล์ทีทำหน้าที่จดจำและระบุชนิดของเชื้อโรค

หากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ จะก่อให้เกิดภาวะพร่องภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ และก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลูปัส โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

กลไกการรักษาดุลยภาพของเซลล์
          การรักษาดุลยภาพของร่างกาย (homeostasis)
เป็นการปรับตัวของระบบและกลไกต่าง ๆ ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อระบบในร่างกาย
          สิ่งมีชีวิตต้องอาศัยการทำงานประสานกันของเซลล์จำนวนมาก เซลล์หลาย ๆ เซลล์รวมกลุ่มกันเป็น เนื้อเยื่อ (tissue) เพื่อทำหน้าที่เฉพาะอย่าง เนื้อเยื่อหลาย ๆ ชนิดรวมกันเป็น อวัยวะ (organ) อวัยวะหลาย ๆ อวัยวะทำหน้าที่ประสานกันและรวมกลุ่มกันเป็น ระบบอวัยวะ (organ system) ระบบอวัยวะทุกระบบจะทำงานประสานกันเป็นร่างกาย ซึ่งแต่ละอวัยวะจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ต้องมีการปรับตัวเพื่อรักษาดุลยภาพในร่างกายเพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุลอยู่เสมอ

ตอนที่ 2 รักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
สาระสำคัญ
          1. เมื่อพืชได้รับน้ำมากเกินความต้องการ พืชจะคายน้ำออกทางปากใบ และเมื่อพืชสูญเสียน้ำมาก ปากใบจะปิดเพื่อลดการคายน้ำควบคู่กับการดูดซับน้ำของรากเพื่อลำเลียงน้ำไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช
          2. หน่วยไตของคนทำหน้าที่ในการกรองของเสียในเลือดตรงบริเวณที่เรียกว่า โบว์แมนแคปซูล
          3. สารที่เป็นประโยชน์บางส่วนที่ถูกกรองผ่านโบว์แมนแคปซูลจะถูกดูดเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้งที่ท่อหน่วยไต
          4. ไตจะทำงานร่วมกับสมองส่วนไฮโพทาลามัสเพื่อรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
          5. ร่างกายหายใจออกเพื่อกำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำให้ค่าความเป็นกรด-เบสในร่างกายสมดุล
          6. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น พารามีเซียมมีโครงสร้างภายในเซลล์ที่เรียกว่า คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล ซึ่งทำหน้า ที่กำจัดน้ำและของเสียต่าง ๆ ออกนอกเซลล์เพื่อรักษาสมดุลของสารภายในเซลล์
          7. ปัสสาวะของปลาน้ำจืดจะเจือจางมากเนื่องจากได้รับน้ำจากสภาพแวดล้อมในปริมาณมาก ส่วนการลำเลียงแร่ธาตุเข้าร่างกายต้องใช้การลำเลียงแบบใช้พลังงานเพราะสภาพแวดล้อมมีปริมาณแร่ธาตุน้อย
          8. ปัสสาวะของปลาทะเลจะเข้มข้นมากเนื่องจากต้องรักษาน้ำในร่างกายไม่ให้แพร่ออกสู่สภาพแวดล้อมส่วนการลำเลียงแร่ธาตุออกนอกร่างกายต้องใช้การลำเลียงแบบใช้พลังงานเพื่อกำจัดแร่ธาตุที่มีปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย
          9. นกทะเลใช้ต่อมเกลือในการกำจัดเกลือและแร่ธาตุที่มีปริมาณเกินความต้องการของร่างกาย
          10. สมองส่วนไฮโพทาลามัสจะควบคุมดุลยภาพของน้ำและสารต่าง ๆ ในร่างกาย โดยการสั่งต่อมใต้สมองให้กระตุ้นหรือยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน ADH เพื่อควบคุมปริมาณน้ำและสารต่าง ๆ ให้อยู่ในภาวะสมดุล
          11. สัตว์เลือดอุ่นสามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้ร่างกายสามารถ ดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ
          12. สัตว์เลือดเย็นเป็นสัตว์ที่มีอุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมได้ตลอดเวลา จึงทำ
ให้การทำงานของร่างกายไม่คงที่

Key word
          โบว์แมนแคปซูล : กระเปาะที่อยู่บริเวณปลายของท่อหน่วยไต
          โกลเมอรูลัส : กลุ่มของหลอดเลือดฝอยที่อยู่ภายในโบว์แมนแคปซูล
          เมแทบอลิซึม : กระบวนการที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ ประกอบด้วยกระบวนการสังเคราะห์พลังงานจากอาหาร และกระบวนการสลายเพื่อให้ได้พลังงาน
          ADH : ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนท้าย
          การจำศีล : ภาวะหยุดนิ่งเพื่อถนอมพลังงานไว้

การรักษาดุลยภาพของน้ำในพืช
          พืชจะมีการคายน้ำออกทางปากใบ (stoma) โดยใช้ เซลล์คุม (guard cell) เป็นเซลล์ที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 เซลล์ประกบกัน ทำหน้าที่ควบคุมการเปิด–ปิดของปากใบ เพื่อรักษาดุลภาพภายในเซลล์ไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

การรักษาดุลยภาพของน้ำและสารต่าง ๆ ในร่างกาย
          ร่างกายจำเป็นต้องรักษาสมดุลของน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำและสารต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ คือ ไต (kidney) ต่อจากไตทั้ง 2 ข้างมีท่อไต (ureter) ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำปัสสาวะจากไตไปเก็บไว้ชั่วคราวที่กระเพาะปัสสาวะ (urinary bladder) ก่อนขับออกนอกร่างกายทางท่อปัสสาวะ (urethra)
          เมื่อผ่าไตตามยาว จะพบ กรวยไต (pelvis) ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำปัสสาวะต่อไปยังท่อไต ภายในเนื้อเยื่อของไตประกอบด้วยหน่วยเล็ก ๆ เรียกว่า หน่วยไต (nephron) ซึ่งมีประมาณข้างละ 1 ล้านหน่วย แต่ละหน่วยมีลักษณะเป็นท่อ ปลายข้างหนึ่งเป็นกระเปาะเรียกว่า โบว์แมนแคปซูล (Bowman’s capsule) ภายในกระเปาะมีกลุ่มหลอดเลือดฝอยเรียกว่า โกลเมอรูลัส (glomerulus) ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งเชื่อมต่อกับส่วนของท่อไต

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          เมื่อน้ำเลือดไหลเข้าสู่ไต โกลเมอรูลัสซึ่งมีสมบัติเป็นเยื่อเลือกซึมผ่านจะทำหน้าที่กรองสารบางอย่างที่มีโมเลกุลขนาดเล็กออกจากน้ำเลือด จากนั้นสารที่กรองได้จะไหลจากหลอดเลือดเข้าสู่ท่อหน่วยไต โดยสารที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ น้ำ กลูโคส และกรดแอมิโนต่าง ๆ จะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้งหนึ่งที่บริเวณท่อหน่วยไตเพื่อนำไปใช้ต่อ ส่วนสารที่เป็นของเสีย ได้แก่ ยูเรีย กรดยูริก และสารพิษอื่น ๆ รวมทั้งน้ำบางส่วน จะถูกขับผ่านท่อหน่วยไตไปยังท่อปัสสาวะ และกำจัดออกในรูปของน้ำปัสสาวะ

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          ไตสามารถกรองสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกลับเข้าสู่กระแสเลือด และขับของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น โซเดียมไอออน และคลอไรด์ไอออนที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึม (metabolism) ออกนอกร่างกาย กลไกควบคุมสมดุลของน้ำในเลือดของร่างกายจะทำงานร่วมกับสมองส่วนไฮโพทาลามัส (hypothalamus) เมื่อปริมาณน้ำในเลือดน้อย เลือดมีความเข้มข้นสูง ความดันเลือดจะลดต่ำลง ทำให้สมองส่วนไฮโพทาลามัสส่งกระแสประสาทไปกระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนท้ายให้หลั่งฮอร์โมนวาโซเปรสซิน (vasopressin) หรือ ADH (antidiuretic hormone) เพื่อกระตุ้นท่อหน่วยไตให้ดูดน้ำกลับเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ปริมาณน้ำในเลือดสูงขึ้น และเมื่อปริมาณน้ำในเลือดสูงขึ้น เลือดจะเจือจางลง ความดันเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น สมองส่วนไฮโพทาลามัสจะไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมน ADH ให้หลั่งออกมาน้อยลง หน่วยไตจึงดูดน้ำกลับได้น้อยลง ปริมาณน้ำในร่างกายจึงอยู่ในภาวะสมดุล

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

การรักษาดุลยภาพของกรด–เบสในร่างกาย
          เอนไซม์เป็นตัวควบคุมปฏิกิริยาต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งอัตราการทำงานของเอนไซม์ขึ้นอยู่กับระดับความเป็นกรด-เบส หรือค่า pH ที่เหมาะสมกับชนิดของเอนไซม์นั้น ๆ เช่น การควบคุมความเป็นกรด-เบสที่อยู่ในเลือดเป็นกระบวนการนำออกซิเจนไปสลายสารอาหารแล้วให้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO

2) ซึ่งถูกกำจัดออกนอกเซลล์โดยส่งเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อรวมตัวกับน้ำ (H2O) ในเลือดจะเกิดกรดคาร์บอนิก (H2CO3) จากนั้นจะแตกตัวให้ไฮโดรเจนไอออน (H+) กับไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน (HCO3)

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          เลือดที่มีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูง จะมีการสร้าง H+ ปริมาณมาก ค่าความเป็นกรดในเลือดจึงสูง ร่างกายจะปรับสมดุลโดยการส่งสัญญาณเพื่อกระตุ้นสมองส่วนเมดัลลาออบลองกาตา (medullaoblongata) ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อกะบังลมและซี่โครงให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้มีการหายใจออกเพื่อกำจัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดต่ำลง ค่าความเป็นกรดในเลือดจึงลดลง เมื่อปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดต่ำลง สมองส่วนเมดัลลาออบลองกาตาจะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกะบังลมและซี่โครงให้ทำงานลดลง เพื่อทำให้ปริมาณแก๊สออกซิเจนในเลือดสูงขึ้น ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายจึงอยู่ในภาวะสมดุล
กลไกทางเคมีอื่น ๆ ของร่างกายที่ช่วยในการปรับสมดุลของกรด–เบสในร่างกาย เช่น เฮโมโกลบินสามารถรวมตัวกับไฮโดรเจนไอออนเพื่อป้องกันการลดลงของ pH ในกระแสเลือดได้

การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุในสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
          สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ในน้ำ
                    อะมีบาและพารามีเซียมมีการปรับสมดุลของน้ำและแร่ธาตุภายในเซลล์ โดยใช้โครงสร้างภายในเซลล์ที่เรียกว่า คอนแทร็กไทล์แวคิวโอล (contractile vacuole) ซึ่งทำหน้าที่กำจัดน้ำและของเสียต่าง ๆ ออกจากเซลล์ และป้องกันการเต่งของเซลล์จนอาจทำให้เซลล์แตกได้เมื่อน้ำแพร่เข้าสู่เซลล์
          ปลาน้ำจืด
                    มีวิธีการรักษาดุลยภาพของน้ำในร่างกาย โดยน้ำจะเข้าสู่ร่างกายโดยกระบวนการออสโมซิส เนื่องจากแหล่งน้ำมีความเข้มข้นของสารละลายต่ำกว่าในเซลล์ของปลาน้ำจืด น้ำจึงแพร่เข้าสู่เซลล์ของปลาตลอดเวลา จึงมีน้ำในร่างกายมากเกินความต้องการ ปลาจึงมีการควบคุมน้ำในร่างกาย โดยน้ำจะเข้าสู่ตัวปลาผ่านทางปาก ส่วนแร่ธาตุที่เข้าไปพร้อมกับน้ำจะผ่านไปยังบริเวณเหงือก และน้ำจะถูกขับออกเป็นปัสสาวะ

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          ปลาทะเล
                    น้ำทะเลมีความเข้มข้นของสารละลายสูงกว่าน้ำจืด ปลาน้ำเค็มจึงมีการแพร่และการสูญเสียน้ำออกจากร่างกาย ปลาทะเลจึงต้องควบคุมระดับน้ำในร่างกายเพื่อไม่ให้สูญเสียน้ำ โดยบริเวณผิวหนังและเกล็ดทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำและแร่ธาตุซึมผ่านเข้าหรือออกจากร่างกาย และที่บริเวณเหงือกจะมีกลุ่มเซลล์ที่ทำหน้าที่ขับแร่ธาตุที่มากเกินความต้องการออกจากร่างกายโดยการลำเลียงแบบใช้พลังงาน นอกจากนี้อาหารที่มีแร่ธาตุ จะไม่มีการดูดเข้าสู่เซลล์ และถูกกำจัดออกทางทวารหนัก ส่วนน้ำถูกขับออกที่บริเวณไตในรูปปัสสาวะซึ่งมีความเข้มข้นสูง

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          นกทะเล
                    นกจะใช้อวัยวะพิเศษที่อยู่บริเวณส่วนหัวที่เรียกว่า ต่อมเกลือ (salt gland) ทำหน้าที่ขับเกลือและแร่ธาตุต่าง ๆ ออกมาในรูปน้ำเกลือผ่านทางจมูก

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกาย
          อุณหภูมิจะส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย โดยอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติจะทำลายเอนไซม์ได้ และอุณหภูมิที่ต่ำเอนไซม์ก็จะทำงานได้ช้าลง ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ร่างกายจะปรับดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกาย โดยการกระตุ้นสมองส่วนไฮโพทาลามัสให้ลดอัตราการเผาผลาญอาหารภายในเซลล์เพื่อลดอุณหภูมิของเลือด หลอดเลือดบริเวณผิวหนังจะขยายตัว ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อให้ระบายออกสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น กล้ามเนื้อยึดเส้นขนบริเวณผิวหนังจะคลายตัว เส้นขนที่ผิวหนังจะเอนราบ ช่วยให้สามารถถ่ายเทความร้อนในร่างกายออกสู่สิ่งแวดล้อมภายนอกได้มากขึ้น แต่หากร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ ร่างกายจะปรับสมดุลของอุณหภูมิในร่างกายโดยกระตุ้นให้สมองส่วนไฮโพทาลามัสเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในเซลล์ หลอดเลือดบริเวณผิวหนังจะหดตัว ต่อมเหงื่อหยุดการสร้างเหงื่อ กล้ามเนื้อยึดเส้นขนบริเวณผิวหนังหดตัว ดึงเส้นขนบริเวณผิวหนังให้ตั้งขึ้น เรียกว่า ขนลุก อากาศจะไม่ผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกาย ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนในร่างกายออกสู่สิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

          การรักษาอุณหภูมิของร่างกายในสัตว์เลือดอุ่น
                    สัตว์เลือดอุ่น (homoeothermic animal) เช่น สัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม รวมทั้งมนุษย์ เป็นสัตว์ที่สามารถควบคุมและรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่ ในสภาพแวดล้อมบางแห่งที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงค่อนข้างสูง สัตว์ที่อาศัยบริเวณนั้นจึงต้องมีการปรับพฤติกรรมเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ในลักษณะที่แตกต่างกันตามโครงสร้างของร่างกายของสัตว์แต่ละชนิด เช่น เมื่ออากาศร้อนจัด สุนัขจะหอบและหลั่งน้ำลายเพื่อระบายความร้อน เป็นต้น
          การรักษาอุณหภูมิของร่างกายในสัตว์เลือดเย็น
                    สัตว์เลือดเย็น (poikilothermic animal) เช่น สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์น้ำจำพวกปลา เป็นสัตว์ที่อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมได้ตลอดเวลา ดังนั้นในช่วงฤดูหนาว ปลาบางชนิดจะมีการย้ายถิ่นฐานไปในบริเวณมหาสมุทรที่มีกระแสน้ำอุ่น หรือกบและงูจะหยุดการกินอาหารและไม่เคลื่อนไหวเพื่อถนอมพลังงาน และซ่อนตัวอยู่ในรูใต้ดินเพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกาย อัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจก็จะลดลงเช่นกัน เรียกสภาพดังกล่าวนี้ว่า

การจำศีล (estivation)

การรักษาสมดุลของร่างกาย มีอะไรบ้าง

ที่มา สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช

www.wpp.co.th

homeostasis.ppt

การรักษาดุลยภาพของร่างกายมนุษย์ คืออะไร

ภาวะธำรงดุล (Homeostasis) หมายถึง ความพยายามที่จะทำให้เกิดความสมดุลของสิ่งต่างๆในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จะต้องอาศัยกลไกต่างๆในร่างกายควบคุม โดยศูนย์กลางการควบคุม homeostasis อยู่ในสมองส่วนhypothalamus.

การรักษาดุลยภาพของร่างกายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

มนุษย์จะดำ รงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติจะต้องรักษาดุลยภาพในร่างกาย การรักษาดุลยภาพของร่างกาย ได้แก่ การรักษาดุลยภาพของน้ำ และสารในเลือดโดยการทำ งานของไต การรักษาดุลยภาพของกรด-เบส ของเลือดโดยการทำ งานของไตและปอด การรักษาดุลยภาพของอุณหภูมิในร่างกายโดยการทำ งานร่วม

ร่างกายต้องรักษาสมดุลอะไรเพื่อให้เลือดเป็นปกติ

ในร่างกายจะมีการรักษาดุลยภาพกรด-เบส (ค่า pH) ในเลือด และในของเหลวต่างๆ ให้อยู่ในสภาพสมดุล ไม่ให้สูงหรือต่ำจนเกินไป ในสภาวะเป็นกลางจะมีค่า pH=7 โดยมีสารที่ให้หรือรับ H+ และ OH- ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่ากรด-เบสในร่างกาย โดยหากในร่างกายมี H+ มากขึ้น หรือ OH- น้อยลง ของเหลวในร่างกายจะเพิ่มความเป็นกรด ในทางตรงกันข้าม ...

ข้อใดเกี่ยวข้องกับการรักษาดุลยภาพของน้ำในร่างกาย

ไตมีหน้าที่ปรับสมดุลของน้ำ และแร่ธาตุในร่างกายคน โดยไตจะทำหน้าที่กรองของเสีย และสารแปลกปลอมออกจากกระแสเลือด แล้วขับออกทิ้งในรูปของน้ำปัสสาวะ ในขณะเดียวกันไตจะควบคุมน้ำและเกลือแร่ต่างๆ ในร่างกายให้คงที่ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ไตยังทำหน้าที่ขับของเสียที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมของสารอาหาร รวมทั้งขับสารแปลกปลอมที่รับเข้า ...