สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอดขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา 1.วิเคราะห์โจทย์เพื่อหาว่า โจทย์กำหนดอะไรมาให้ และให้หาอะไร 2.กำหนดตัวแปรแทนสิ่งที่โจทย์ให้หาหรือแทนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โจทย์ให้หา 3. พิจารณาเงื่อนไขที่แสดงการเท่ากันในโจทย์ แล้วนำมาเขียนเป็นสมการ 4. แก้สมการเพื่อหาคำตอบที่โจทย์ต้องการ 5.ตรวจสอบคำตอบที่ได้กับเงื่อนไขในโจทย์ ตัวอย่างโจทย์ เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ครูมีอายุ 22 ปี ปัจจุบันครูมีอายุเท่าใด (ครูมีอายุ 35 ปี) แบบรูปของจำนวนเป็นความสัมพันธ์ร่วมกันของจำนวนแต่ละจำนวนในชุดจำนวนนั้น สามารถเขียนในรูปทั่วไป ซึ่งอยู่ในรูปสมการที่เป็นประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนและตัวแปร หรือความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนกับจำนวน คำตอบของสมการ คือ จำนวนใด ๆ ที่แทนค่าตัวแปรในสมการ แล้วทำให้สมการเป็นจริง การแก้สมการจะใช้สมบัติของการเท่ากัน คือ สมบัติสมมาตร สมบัติถ่ายทอด สมบัติการบวก และสมบัติการคูณ สมการที่เขียนในรูป ax + b = 0 เมื่อ x เป็นตัวแปร a , b เป็นค่าคงตัว และ เรียก สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งจะมีคำตอบเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวจะใช้สมบัติของการเท่ากันในการแก้สมการรวมถึงสถานการณ์และโจทย์ปัญหาต่างๆ ทั่วไปด้วย ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ตัวชี้วัด มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วยแก้ปัญหาที่กำหนดให้ ม.1/1 เข้าใจและใช้สมบัติของการเท่ากันและสมบัติของจำนวน เพื่อวิเคราะห์ และแก้ปัญหา โดยใช้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวอย่างง่ายได้ การวัดผลและประเมินผล1. วิธีการ 1.1 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 1.2 ตรวจใบงาน 2. เครื่องมือ 2.1 แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน 2.2 แบบบันทึกการตรวจใบงาน 3. เกณฑ์ 3.1 สังเกตพฤติกรรมผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ขึ้นไป 3.2 ตรวจใบงานผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ขึ้นไป จุดประสงค์ที่ 1 นักเรียนสามารถระบุประโยคที่เป็นสมการ และระบุประโยคที่เป็นสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวได้ จุดประสงค์ที่ 3 นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวได้
จุดประสงคี่ 5 นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวและตระหนักถึงความสมเหตุสมผล |