ดนตรีกับชีวิตในยามมีความสุข

ดนตรี คือหนึ่งการเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตที่ Nirvana Beyond ให้ความสำคัญ เพราะเป็นศิลปะที่ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการฟังเพลงที่ชอบ หรือดนตรีแนวที่ใช่ ช่วยให้มีความสุขและอารมณ์ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะรักโมสาร์ท เมทัลลิก้า หรือบรูโน มาร์ส เพลงโปรดต่างกระตุ้นผลลัพธ์แบบบวกๆ ให้กับเรา และทราบมั้ยคะว่า ดนตรียังมีผลกระทบทางบวกต่อสมองคนเราอีกหลายๆ อย่างเลยทีเดียว ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ วันนี้ Nirvana Beyond จึงนำบทความเกี่ยวกับดนตรีมาฝากกัน

ดนตรีกับชีวิตในยามมีความสุข
ดนตรีกับชีวิตในยามมีความสุข

ดนตรีบำบัด คือ อะไร? 

ดนตรีบำบัด คือ ศาสตร์ทางการแพทย์แขนงหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนาน โดยมีหลักการ คือ นำเสียงดนตรีมาเป็นตัวช่วยในการบำบัดพัฒนาจิตใจ ร่างกาย และสติปัญญา ซึ่งแน่นอนว่าวัตถุประสงค์หลักคือการเป็นตัวช่วยผ่อนคลายทางอารมณ์ ยกระดับจิตใจ และมีส่วนช่วยกระตุ้นฮอร์โมนบางชนิดที่ทำให้ลดความเครียด คลายความกังวล กระตุ้นการรับรู้ และยังเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขได้เป็นอย่างดี โดยดนตรีบำบัดยังไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะสามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ หากเอ่ยถึงดนตรีบำบัด หลายคนอาจนึกถึงแนวเพลงช้า ๆ ชิล ๆ แต่แท้จริงแล้วแนวเพลงสำหรับการทำดนตรีบำบัดยังไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะเพลงบรรเลงหรือเพลงช้าเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิปฮอป เพลงแจ๊ส หรือแนวเพลงไหน ๆ ก็ช่วยเยียวยาจิตใจได้เช่นกัน ขอเพียงแค่เป็นเพลงที่มอบความสุข สร้างความเพลิดเพลิน และส่งมอบแรงบันดาลใจดี ๆ แก่คนฟังเท่านั้น

รวม 5 ประโยชน์จากดนตรีที่มีคุณค่าดี ๆ ต่อตัวเรา

  1. 1. ดนตรีเครื่องมือจัดการอารมณ์ 

 เคล็ดไม่ลับในการผ่อนคลายอารมณ์จากงาน ด้วยเครื่องอาบน้ำอโรมาและเพลง และดนตรีดี ๆ ที่คุณชื่นชอบ มีนักวิจัยมากมายได้พยายามยืนยันผลลัพธ์ที่เหล่าคนรักดนตรีต่างทราบกันดีอยู่แล้ว เกี่ยวกับ ความสุขเมื่อได้ฟังเพลง และได้หลักฐานตรงกันว่า ดนตรี ช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองหรือฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยทำให้รู้สึกจิตใจสงบ ลดความเครียด ไม่ใช่แค่ความสุข แต่ดนตรียังปรับอารมณ์บูด ๆ ให้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ดนตรียังช่วยสร้างความหวังและความมั่นใจแม้ในวันที่เกิดเรื่องแย่ ๆ โดยมีการทดลองหนึ่งได้ให้คอมเมนต์งานกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมโครงการวิจัยว่าผลงานที่ทำออกไม่ดี โดยกลุ่มที่ได้ฟังเพลงหลังจากได้รับคำวิจารณ์ด้านลบนั้น ได้แสดงออกถึงการมีความมั่นใจกลับคืนมา และมีความหวังในอนาคตสูงกว่ากลุ่มที่ถูกปล่อยให้อยู่เงียบ ๆ

  1. 2. ดนตรีช่วยกระตุ้นพลังทำงานและความคิดสร้างสรรค์ 

หลายงานวิจัยยืนยันว่าเมื่อเรามีความสุข สมองจะทำงานได้ดีขึ้น ผลงานเราจะดีขึ้นตาม โดยภาวะที่เพอร์เฟคท์ที่สุดในการทำงานของสมอง คือ ตรงกลางระหว่างความรู้สึกผ่อนคลายและความรู้สึกตื่นเต้น ภาวะนี้เองเป็นภาวะที่สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และดนตรีบำบัดยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยสร้างภาวะเช่นนี้

 3. ดนตรีช่วยทบทวนความจำได้ดี 

นอกจากนี้ ยังพบว่าการฟังเพลงและดนตรียังอาจช่วยให้เกิดการระลึกความจำตามลำดับ (Serial Recall) ซึ่งสำคัญต่อการเรียนรู้ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลความทรงจำเก่าๆ เห็นได้แม้ในกลุ่มผู้ป่วยเกี่ยวกับสมองเช่น ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่เสียการรับรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยมีข้อพิสูจน์ผ่านผลในการแสกนสมองระหว่างเปิดเพลงในช่วงที่ผู้ป่วยอยู่ในวัยยี่สิบกลางๆ

แม้การเปิดเพลงคลอระหว่างทำงานจะช่วยให้ความคิดไหลลื่น แต่หากคุณอยู่ระหว่างการทำงานที่ต้องการความแม่นยำ หรืองานที่ต้องจดจ่อกับเครื่องมือซับซ้อน การฟังเพลงไปด้วยอาจทำให้เสียสมาธิได้

 4. ดนตรีบรรเทาความเจ็บปวดและเมื่อยล้าทางกาย

ดนตรีกับชีวิตในยามมีความสุข

 การฟังเพลงหรือดนตรีระหว่างออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้กระฉับกระเฉงไปตามทำนองแล้ว ยังดึงความสนใจเราออกจากความเหนื่อยล้า ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น ดนตรี แม้ไม่ได้ช่วยรักษาโรคภัย แต่เป็นเครื่องมือบำบัดที่น่าทึ่ง การบำบัดด้วยดนตรีนั้น ใช้กันมานานแสนนานทั่วทุกมุมโลกในรูปแบบของพิธีกรรมต่างๆ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้พิสูจน์ว่า ดนตรี สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้จริง โดยคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัดจะมีความต้องการยาแก้ปวดน้อยกว่า โดยเฉพาะเมื่อได้ฟังเพลงในแนวที่ชื่นชอบยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทดสอบกับผู้ที่เผชิญกับอาการปวดเรื้อรัง พบว่ามีความรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อฟังเพลง สมองจะผลิตสารเคมีที่ชื่อว่า โอปิออยด์ ที่เป็นเสมือนยาระงับปวดในร่างกาย หรืออาจจะเพราะดนตรีช่วยดึงความสนใจของเราออกจากความเจ็บปวดก็เป็นได้ ไม่ว่าจะสาเหตุไหนก็ตาม การใช้ดนตรีบรรเทาอาการเจ็บปวด หากทำให้เราลดการใช้ยาระงับปวดไปได้บ้าง ก็ย่อมลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงได้ นอกจากนี้ การดึงความสนใจจากอาการเจ็บปวดทางกาย ยังช่วยให้ดนตรีเป็นเสมือนยาชูกำลังในการออกกำลังกายได้อย่างยอดเยี่ยม

  5. ฟังดนตรีแนวไหนดีที่สุด

ดนตรีกับชีวิตในยามมีความสุข

เพลงแต่ละเพลง ดนตรีแต่ละแนว ย่อมส่งผลทางอารมณ์ให้กับแต่ละคนแตกต่างกัน เพลงที่โดนใจย่อมให้ผลลัพธ์เชิงบวกมากที่สุด หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวบทความเกี่ยวกับเพลง Mozart Effect ซึ่งมีหลายวิจัยพยายามพิสูจน์ และพบว่า

“ดนตรีที่ดีที่สุดและส่งผลบวกๆ ให้แก่เรามากที่สุดคือ แนวดนตรีที่เราชอบนั่นเอง”

คุณอาจคิดงานได้ดีขึ้นด้วย Blur Effect หากคุณเป็นคอเพลงบริทป๊อป เหมือนกลุ่มผู้เข้าทดลองกลุ่มหนึ่งก็เป็นได้ จากการทดสอบความแตกต่างของสมองในระหว่างฟังเพลงยังพบว่าเพลงที่ส่งผลต่อการเชื่อมโยงเส้นประสาทในสมองนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ไม่ใช่แนวเพลงใดแนวเพลงหนึ่ง จากการทดสอบกลุ่มคนที่ฟังเพลงในขณะทำงาน พบว่าผู้ที่เลือกเพลงในระหว่างการทำงานได้เองนั้น ทำงานได้เยอะขึ้นและดีกว่ากลุ่มคนที่ไม่สามารถเลือกเพลงเองได้

Nirvana Beyond เข้าใจถึงดนตรีเป็นหนึ่งในรายละเอียดในการใช้ชีวิตที่มีความสุข บ้านของเราจึงมาพร้อมเครื่องเสียงและอุปกรณ์ควบคุมเพลงในแต่ละห้อง เพื่อตอบรับทุกอารมณ์ของทุกคนในครอบครัว เพราะเราเชื่อว่า Life is full of details.