ดนตรีไทย สามารถ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ อย่างไร

ดนตรีในชีวิตประจำวัน

การดำรงชีวิตในปัจจุบันมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆ  มากมายที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน  ส่งผลให้มนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในสังคมเกิดการปรับตัวเพื่อที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข  เช่น  การเข้าแถวเพื่อซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคต่างๆ  เพื่อให้มีระเบียบไม่แย่งชิงกัน  เป็นต้น

จากการปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ  ในสังคม  ส่งผลต่อความบันเทิง  ความสนุกสนานของคนในสังคมเช่นเดียวกัน  สังเกตได้ว่าในอดีตเราสามารถชมการแสดงดนตรีได้ในเฉพาะโรงละครหรือโรงมหรสพเท่านั้น  แต่ในปัจจุบันด้วยการดำเนินชีวิตที่รีบเร่ง  ส่งผลให้มนุษย์แสวงหาความบันเทิงได้น้อยลง  การแสดงดนตรีส่วนใหญ่จึงถูกจัดขึ้นในสวนสาธารณะ  ร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้าแทน  เพื่อให้มนุษย์หาความรื่นรมย์ได้สะดวกกว่าในอดีต

ในชีวิตประจำวันของเรามีการนำดนตรีเข้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตเป็นอย่างมาก  ทั้งนี้อาจเกิดจากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร  การคมนาคมที่เจริญก้าวหน้าและพัฒนามากยิ่งขึ้น  เราสามารถพบเห็นการนำดนตรีไปใช้ในชีวิตประจำวันได้  ดังนี้

  • การบรรเลงดนตรีในการเปิดและปิดงานที่เป็นพิธีการต่างๆ สามารถทำให้ผู้ร่วมงานทราบได้ว่าขณะนี้เป็นการบรรเลงดนตรีเพื่อเปิดงาน  ซึ่งอาจจะใช้การรัวกลองเพื่อบ่งบอกสัญญาณ
  • การบรรเลงดนตรีในขณะขับร้องบทกลอน หรือทำนองเสนาะในโอกาสสำคัญต่างๆ  เช่น การขับเสภาในวันแม่แห่งชาติ  เป็นต้น
  • การบรรเลงดนตรีในขบวนแห่ต่างๆ เช่น  งานอุปสมบท  การแห่ขันหมาก  งานรื่นเริงต่างๆ  โดยส่วนใหญ่นิยมใช้วงแตรวงในการบรรเลง  เนื่องจากเป็นวงดนตรีที่บรรเลงเพลงที่สนุกสนานครึกครื้น  เหมาะสมกับประเภทของงานต่างๆ
  • การบรรเลงดนตรีประกอบการแสดงละคร การบรรเลงดนตรีนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของละครและบทละคร  เช่น  ละครกำลังดำเนินเรื่องในฉากของการสู้รบ  ดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงควรมีความตื่นเต้น  เร้าใจ  ซึ่งอาจจะใช้วงปี่พาทย์เครื่องคู่เพื่อเพิ่มเสียงดนตรีให้ฮึกเหิมมากขึ้น
  • การบรรเลงดนตรีในพิธีหลวงและพิธีราษฎร์มีความแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของงานนั้น เช่น  การแห่พระบรมศพจะบรรเลงดนตรีด้วยวงปี่ไฉน-กลองชนะ  ส่วนพิธีศพของราษฎร์จะบรรเลงดนตรีด้วยวงปี่พาทย์นางหงส์  เป็นต้น

ดนตรีเป็นของคู่กับวัฒนธรรมประเพณี  เราจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเราจะมีประเพณีอะไรสักอย่าง  สิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้นั่นก็คือ  ดนตรีประกอบพิธี  เช่น  ประเพณีโกนจุก  เราก็ต้องใช้ดนตรีประกอบพิธีการโกนจุกด้วย  แต่ถ้าหากไม่ใช้ก็ไม่ผิดอะไร  แต่เราจะรู้สึกเหมือนว่ามันขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง  แม้กระทั่งประเพณีการเผาศพเราก็ยังต้องมีดนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง

ดนตรีมีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน มีคุณค่าต่อชีวิตไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้า เหงาและรัก 
  มาสเตอร์ประเสริฐศักดิ์   ขำศิริ

ดนตรีนั้นเป็นสื่อภาษาสากลที่ชนทุกชาติทุกภาษาสามารถเข้าใจได้ดี แม้ว่าอาจจะพูดกันไม่รู้เรื่อง แต่สามารถร่วมกันเล่นดนตรีได้ เสียงดนตรีเป็นสิ่งที่กล่อมหัวใจของคนให้อ่อนโยน เยือกเย็นดับทุกข์ได้ชั่วขณะการรู้จักฟังดนตรีด้วยความนิยมและรู้สึกซาบซึ้งในรสของเพลงนั้น มีประโยชน์สำหรับชีวิตอย่างมาก คือ ในชีวิตประจำวัน ดนตรีมีประโยชน์ในการผ่อนคลายอารมณ์ ในเวลาที่รู้สึกเคร่งเครียดหรือเร่าร้อนด้วยโทสะ ดนตรีก็ช่วยชโลมใจให้เย็นลง เป็นเพื่อนในเวลาเหงา กระตุ้นให้รู้สึกคึกคักกล้าหาญในเวลาที่หวาดกลัวภัย อาหารมีประโยชน์ทางกายฉันใด ดนตรีก็มีประโยชน์ทางใจฉันนั้น เพราะเมื่อเราได้ฟังเพลงที่ไพเราะ เรารู้สึกซาบซึ้งและรู้สึกกระหยิ่มอิ่มอกอิ่มใจ เช่นเดียวกับเมื่อเราเห็นสิ่งที่สวยงามทำให้ชีวิตมีความสดชื่นน่าภิรมย์ยิ่งนัก ดนตรีเป็นภาษานานาชาติ เข้าใจกันได้ไม่เลือกเชื้อชาติ  เป็นสื่อกลางสำหรับความสัมพันธ์ ความเข้าใจอันดีต่อกันของมวลมนุษย์ทั่วโลก ไม่แบ่งอายุ ไม่แบ่งชั้นวรรณะ และเชื้อชาติ ดังจะเห็นได้จากการบรรเลงดนตรี ร่วมวงกันระหว่างนานาชาติซึ่งพูดกันคนละภาษา แต่ภาษาดนตรีนั้นทุกคนเข้าใจ ดนตรีแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และที่สำคัญยิ่งคือในโลกของดนตรีนั้นเป็นโลกแห่งความสันติ ศิลปะการดนตรีเป็นส่วนสำคัญยิ่งส่วนหนึ่งแห่งความเป็นอยู่ของ อารยชนในด้านความรู้และความบันเทิงอันสูงค่า เป็นขนบธรรมเนียมที่สร้างขึ้น เป็นการวางรากฐานแห่งความเจริญ และเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรม อันเป็นสมจินตนาการบวกกับดนตรี  เช่น ท่อน intro ขึ้นด้วยกีตาร์โปร่งกรีดสายใสๆ บรรเลงแบบอะคูสติกจะเป็นบรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลายท่ามกลางทะเลหรือขุนเขา ลมพัดเบาๆในยามค่ำ ส่วนเรื่องอารมณ์สื่อถึงอารมณ์รักใส ๆ แอบเศร้า แต่ถ้าเป็นจังหวะ rock หรือ metal หนัก ๆ จะเกิดความฮึกเหิม เปลี่ยนความโกรธความแค้น ให้มาเป็นพลัง เกิดความมุ่งมั่นมีความมั่นใจ

เสียงดนตรีเป็นภาษาสากลที่ให้สื่อสารกันทั่วโลก สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของมนุษย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน มนุษย์มีความคุ้นเคยกับดนตรี ทั้งในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การแสดงออก การแสดงความสามารถชั้นสูงที่บุคคลพึงกระทำได้ กิจกรรมดนตรีช่วยระบายอารมณ์ เป็นการผ่อนคลายความเครียดขณะทำงาน หรือเวลาว่าง กล่าวโดยสรุป ดนตรีเป็นกิจกรรมนันทนาการที่ต้องมีควบคู่กับสังคม และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่มีบทบาทต่อบุคคล ชุมชนและประเทศชาติ   สามารถเสริมสร้างให้บุคคลมีรสนิยม มีเสน่ห์ มีคุณวุฒิและสามารถทำให้การทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายเกิดความพร้อม เพราะในขณะที่ฟังเสียงดนตรีนั้น สมองจะหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดความสุขออกมา

แหล่งที่มา : http://www.sahavicha.com/?name=article&file=readarticle&id=168

เราสามารถประยุกต์ใช้ดนตรีในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง

ในศาสนา และพิธีกรรมตามความเชื่อของ แต่ล่ะบุคคล ดนตรีได้ถูกนำมาใช้ เช่น ใช้ในบทสวด หรืออธิษฐานขอพร การบวงสรวง บูชา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ใช้ทำสมาธิ และใช้เป็นส่วนประกอบของพิธีการต่างๆ เช่น การเปิดงาน ปิดงาน

การนำดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอื่น ๆ มีประโยชน์อย่างไร

ดนตรีบำบัดรักษา คือ การนำดนตรีไปประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นการปรับสภาพสิ่งที่ผิดปกติให้เกิดความสมดุลและกลับมาสู่สภาพปกติ เช่น อาการกล้ามเนื้อ เกร็งตัว ก็นดนตรีมาช่วยกระตุ้นให้คลายตัว หรือเกิดความวิตกกังวล ก็นำดนตรีมาช่วยลดความตึงเครียด และความกังวลลงได้

ดนตรีมีอิทธิพลต่อชีวิตเราอย่างไร

เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อร่างกาย เมื่อร่างกายสัมผัสต่อเสียงดนตรี จังหวะดนตรีมีอิทธิพลทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวขยับตามจังหวะ เสียงดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจ ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความเป็นปัจจุบัน ทำให้นึกถึงอดีต และทำให้นึกถึงอนาคต ดนตรีทำให้อารมณ์เปลี่ยนไปตามมิติของของกาล อาจจะเป็นอารมณ์ที่หวนรำลึกถึงอดีต อาจจะเป็นการสร้างอารมณ์ ...

เสียงดนตรีมีประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างไร

เสียงเพลงจะช่วยให้เด็กๆรู้สึกผ่อนคลายและกระตุ้นการทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ 2 ช่วยพัฒนาภาษา อีกวิธีการหนึ่งในรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับเด็กที่นิยมอย่างมากก็คือการสอนภาษาด้วยดนตรี เพราะการสอนเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้เด็กไม่เพลิดเพลินมากนัก การใช้เพลงเข้ามาช่วยจึงทำให้เด็กสนุกและอยากจะเรียนรู้เรื่อยๆ