แผนการ สอน การพูดโน้มน้าวใจ ม. 5

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓๐ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน ๖ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒ ช่วั โมง หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ เร่ือง การพดู ในทปี่ ระชมุ ชน แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑ เรือ่ ง การพูดอภปิ ราย ผสู้ อน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึก ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ๒.ตัวชว้ี ดั ท ๓.๑ ม. ๓/๔ พดู ในโอกาสต่างๆได้ตามวัตถุประสงค์ ๓. สาระสาคญั การอภปิ ราย คือ การที่บคุ คลต้งั แต่ ๒ คนข้นึ ไปพดู แสดงความรคู้ วามคดิ เหน็ ในเร่อื งใดเรื่องหนึง่ โดยมี วตั ถปุ ระสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความร้แู ละความคดิ เหน็ กันหรืออาจเพื่อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปญั หาและ การดาเนินการในเรอ่ื งใดเร่ืองหนงึ่ การอภิปรายจึงมีความสาคัญ คือช่วยใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ กว้างขวางข้ึน และสามารถตัดสนิ ใจแก้ปัญหาและดาเนนิ การเร่ืองตา่ ง ๆ ไดด้ ี ๔. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวชวี้ ดั ๑. นกั เรยี นบอกหลกั การพดู อภิปรายเบอื้ งต้นได้ถูกตอ้ ง (K) ๒. นกั เรยี นพดู อภิปรายเบอื้ งต้นได้ (P) ๓. นักเรยี นใฝเ่ รยี นร้มู งุ่ มั่นในการทางาน (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ๑. หลกั การพดู อภิปรายเบ้ืองต้น ๒. วิธเี ตรยี มการดาเนนิ การอภิปราย ๓. พดู อภิปรายเบอ้ื งตน้ ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๑ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน (ชวั่ โมงท่ี ๑) ๑. นักเรยี นและครรู ่วมกันสนทนาประเดน็ ต่อไปนี้ “ นักเรยี นมีความคิดเห็นอย่างไรกบั ปัญหาเดก็ ไทย ตัง้ ครรภก์ อ่ นวัยเรยี น” ๒. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ ักเรยี นทราบ

ข้นั ที่ ๒ ขั้นสอน ๑. นักเรียนศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง การพดู อภปิ รายเบ้อื งต้น และในหนงั สือววิ ิธภาษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ในหนว่ ยย่อยเรือ่ ง ลว้ นบญุ คุณอุ้มชีวิตคิดทดแทน หนา้ ๑๙๓ พรอ้ มครูอธบิ ายเพิ่มเติมมหี ัวขอ้ ดังนี้ • ความหมายการอภิปราย • องค์ประกอบของการอภปิ ราย • คณุ สมบตั แิ ละหนา้ ท่ีของคณะผอู้ ภิปราย • ขน้ั สอนการดาเนินการอภปิ ราย • ประเภทของการอภิปราย • การจัดสถานที่อภปิ ราย ๒. ครเู ปดิ วิดโี อตัวอยา่ ง เรือ่ ง การพดู อภปิ รายให้นกั เรยี นดู และอธบิ ายประกอบ ๓. นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ที่ ๒๗ เรอ่ื ง หลักการพูดอภิปรายเบือ้ งตน้ ๔. นักเรียนแบง่ กลุ่มเป็น ๓ กลมุ่ และแจกใบงาน เร่ือง การพูดอภปิ รายเบื้องต้น โดยให้นกั เรียนใน กล่มุ ช่วยกนั ลงมติหาเร่ืองทเ่ี ป็นปญั หาในสงั คมไทยมา ๑ เรอ่ื งเพ่ือทาการอภปิ รายพร้อมบอกเหตผุ ลที่เลือก และแบ่งหน้าท่ขี องคนในกล่มุ ว่าคนไหนทาหนา้ ที่อะไรใหช้ ัดเจน แล้วนาส่งครู ข้นั ท่ี ๓ ขั้นสรุป ๑. ครูช้แี จง้ การเตรียมตวั การเก่ยี วกบั การอภปิ รายในคาบต่อไป - รายงานหัวขอ้ ที่จะอภิปราย - สอื่ ท่ีใชใ้ นการอภปิ ราย ขนั้ ที่ ๑ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น (ชวั่ โมงท่ี ๒) ๑. นกั เรยี นทบทวนความรเู้ ร่ือง หลกั การพดู อภิปรายเบอื้ งต้น ๒. ครใู ห้นกั เรยี นสง่ รายงานเกี่ยวกบั หน้าท่ี และขอ้ มลู ท่ีจะนาเสนอในหวั ขอ้ ที่จะอภิปราย ขนั้ ที่ ๒ ข้ันสอน ๑. นกั เรยี นแตก่ ลุ่มออกมาทาการอภปิ รายกลมุ่ โดยแนะนาหวั ขอ้ และหน้าท่ีของแต่ละคน แล้วจงึ เรมิ่ อภิปราย ใช้เวลา ๑๕ นาที เม่อื อภิปรายเสรจ็ ให้เพ่อื นอีกกลุ่มถามคาถาม ๒ ข้อ ๒. ครถู ามคาถามนักเรียนแต่ละกลมุ่ เกีย่ วกับเรื่องท่ีอภปิ รายจากนน้ั ช้ีแจงและแนะนาเพ่ิมเติมสาหรับ การอภปิ รายทัง้ ๒ กลุ่ม เพื่อเปน็ แนวทางในการแก้ไขปรบั ปรุงตอ่ ไป ขน้ั ท่ี ๓ ขนั้ สรุป ๑. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุป การอภิปรายเบ้ืองตน้ โดยครใู ช้คาถาม ดงั นี้ - การอภิปรายหมายถึง - องคป์ ระกอบของการอภิปรายมีอะไรบ้าง

- คณะผอู้ ภปิ รายมีใครบา้ ง ๒. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดซ้ ักถามขอ้ สงสยั ๗. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. วิดที ศั น์การพดู อภปิ ราย ๒. ส่ือ Power Point เรื่อง การพูดอภปิ ราย ๓. ใบความรเู้ รื่อง หลกั การพูดอภปิ รายเบอื้ งต้น ๔. แบบฝึกหัดท่ี ๒๗ เร่อื ง หลกั การพดู อภปิ รายเบื้องตน้ ๕. รายงานการอภิปราย และสอ่ื ท่ีใชใ้ นการนาเสนอ

๘. การวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน ตรวจแบบฝกึ หดั ๑.นักเรยี นบอกหลกั การพูด แบบประเมนิ การตรวจ ทาคะแนนผา่ นต้งั แต่ ๓ อภิปรายเบอื้ งต้น (K) แบบฝึกหดั ระดับขึ้นไปถือว่าผ่าน ๒.นกั เรยี นสามารถพดู ประเมนิ การอภิปราย แบบประเมนิ การ ทาคะแนนผ่านตง้ั แต่ ๓ อภิปรายเบ้อื งต้นได้ (P) อภปิ ราย ระดบั ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน ๓.นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้มุ่งมัน่ ใน การสังเกต แบบสังเกต ทาคะแนนผ่านตง้ั แต่ ๓ การทางาน (A) ระดับขึน้ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์การประเมนิ ผล (รูบริกส์) ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดบั คุณภาพ (๑) ปรับปรงุ ๑.นกั เรยี นบอก แสดงเหตผุ ลในการ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ หลกั การพูดอภิปราย ตอบคาถาม แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน เบื้องต้น (K) ตอบคาถามได้อยา่ ง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถาม ต่อเนือ่ งครบถว้ น และแสดงเหตผุ ลใน ถูกต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถามได้ และแสดงเหตผุ ล สัมพนั ธก์ ับหวั ข้อที่ ชัดเจน ในการตอบ กาหนด ตอบคาถามได้อย่าง คาถามได้ ต่อเนื่องครบถว้ น ๒.นกั เรยี นสามารถพดู นักเรียนสามารถพดู นักเรยี นสามารถพดู นักเรยี นสามารถ นกั เรยี นไม่สามารถ พูดอภปิ รายเบ้ืองตน้ อภปิ รายเบือ้ งต้นได้ (P) อภปิ รายเบ้ืองต้นและ อภิปรายเบอ้ื งต้นและ พดู อภปิ ราย และแบง่ หนา้ ที่ได้ ถกู ต้องตามหลักและ แบง่ หน้าที่ได้ถกู ตอ้ ง แบง่ หนา้ ทไี่ ดถ้ กู ต้อง เบอ้ื งต้นและแบง่ ไม่มีความรใู้ นเน้ือหา ทีจ่ ะพูด ตามหลกั และมี ตามหลัก หน้าท่ไี ดถ้ ูกต้อง ความรใู้ นเน้ือหาท่ี ตามหลกั เพียง อภิปรายเป็นอย่างดี บางสว่ นเท่านน้ั ๓.นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้ นกั เรียนต้ังใจและ นกั เรยี นตัง้ ใจและ นักเรยี นหาข้อมูล นกั เรยี นไมต่ ั้งใจและ ม่งุ ม่นั ในการทางาน (A) ทมุ่ เทในการรวม ทุม่ เทในการรวม ที่จะทาการ ทมุ่ เทในการรวม ขอ้ มลู ในการพูด อภปิ รายได้ ข้อมลู ในการพูด ข้อมูลในการพูด อภิปราย อภปิ ราย และรบั ฟงั อภปิ ราย และรับฟัง ขอ้ เสนอแนะของครู ขอ้ เสนอแนะของครู อย่างต้ังใจ อยา่ งตงั้ ใจ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓๑ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๖ ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ เวลา ๒ ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ เร่ือง การพดู ในท่ีประชุมชน แผนการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง การพดู สุนทรพจน์ ผู้สอน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู ึก ในโอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๒.ตัวชว้ี ัด ท ๓.๑ ม. ๓/๔ พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตามวัตถปุ ระสงค์ ๓. สาระสาคัญ การพูดสุนทรพจน์จัดเปน็ การพูดอยา่ งเปน็ ทางการ ผพู้ ดู จงึ ต้องเตรยี มเนื้อเรื่องให้เหมาะสมกับโอกาส หรือสถานการณ์ท่ีได้รบั เชญิ ในบางโอกาสก็ใชก้ ารอ่านจากต้นฉบบั เพ่ือให้ผู้ฟงั ไดร้ บั สารท่ีจรรโลงใจและ สมั ผัสถ้อยคาภาษาทมี่ ีความไพเราะสละสลวย ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ส่ตู วั ชีว้ ดั ๑. นกั เรยี นบอกหลักการพูดสุนทรพจน์ได้ถกู ต้อง (K) ๒. นักเรยี นพูดสนุ ทรพจน์ได้ (P) ๓. นกั เรียนใฝ่เรียนรู้มุ่งมน่ั ในการทางาน (A) ๕. สาระการเรยี นรู้ ๑. หลักการพูดสนุ ทรพจน์ ๒. วิธีเตรยี มการดาเนนิ การพูดสนุ ทรพจน์ ๓. พูดสุนทรพจน์ ๖. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๑ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น (ช่ัวโมงท่ี ๑) ๑. นักเรยี นและครูรว่ มสนทนากัน ครูถามนักเรียนว่า นกั เรียนเคยไปรว่ มฟังการพดสุนทรพจนบ์ ้าง หรอื ไม่ นกั เรียนมคี วามรูส้ ึกอย่างไรเมื่อได้ฟงั ๒. ครชู แ้ี จงวัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ และเชอื่ มโยงเขา้ ส่บู ทเรียน

ขัน้ ที่ ๒ ขัน้ สอน ๑. นักเรยี นตอบคาถามครู “ นักพูดสนุ ทรพจนท์ ี่ดี ตามความคดิ ของนักเรยี น ควรมีลักษณะ อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผูส้ อน) ๒. นกั เรียนศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง หลักการพูดสนุ ทรพจน์ ทคี่ รแู จกใหพ้ ร้อมกับศกึ ษาในหนงั สอื เรยี น ววิ ิธภาษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หน้า ๑๙๓ พรอ้ มครูอธบิ ายให้นกั เรียนเขา้ ใจ - ลักษณะการพูดสุนทรพจน์ - โครงสร้างของสนุ ทรพจน์ - ขนั้ ตอนการพดู สุนทรพจน์ ๓. นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั ท่ี ๒๘ เรอื่ ง หลกั การพดู สุนทรพจน์ ๔. นักเรียนแบ่งกลุม่ กล่มุ ละ ๓ คน ใหต้ วั แทนกลุ่มออกมาจบั สลาก ว่ากลุม่ ตวั เองจะได้พดู สนุ ทร พจน์เกี่ยวกับหัวข้ออะไร ๕. นกั เรียนชว่ ยกนั วางแผนในการค้นคว้าขอ้ มูลเกยี่ วกับเรอ่ื งทจ่ี ะพูด กาหนดแนวทางในการหา ขอ้ มูลมาประกอบการพูดสนุ ทรพจน์ และกาหนดหน้าที่ของสมาชิกแต่ละคน แลว้ นาส่งครู ขั้นที่ ๓ ข้นั สรปุ ๑. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรเู้ รื่อง หลักการโตว้ าที - โครงสรา้ งในการเขยี นบทสุนทรพจนม์ ลี ักษณะอย่างไร - ข้ันตอนในการพูดต้ังแตเ่ รม่ิ จนจบตอ้ งทาอยา่ งไร ๒. ตกลงการเตรยี มความพรอ้ มในการจัดสถานท่ีการพูดสนุ พจน์ และเปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้ ซกั ถามข้อสงสยั ข้ันท่ี ๑ ขั้นนาเข้าส่บู ทเรียน (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. นักเรยี นและครูรว่ มสนทนากนั เพ่อื ทบทวนความรูเ้ ร่ือง การพูดสุนทรพจน์ ๒. นักเรยี นดวู ดิ ที ัศน์การพูดสุนทรพจน์เพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นพิจารณากลวธิ กี ารพดู ๓. ครชู ้แี จงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ขน้ั ที่ ๒ ขัน้ สอน ๑. นกั เรยี นนาขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้ามารวบเรยี ง เป็นบทพดู สนุ ทรพจน์ ๒. นกั เรยี นจับสลากลาดับการพดู สนุ พจน์ และสง่ บทสุนทรพจนใ์ ห้ครู ๓. นกั เรยี นกลุ่มแรกเริม่ พูดสนุ พจน์ ไปจนถึงกลุ่มสดุ ทา้ ย โดยใช้เวลากลมุ่ ละ ๕-๗ นาที ๔. ครูให้คาแนะนา และกล่าวคาชมเชยนักเรยี นท่ีออกมาพดู สนุ ทรพจน์ ขัน้ ที่ ๓ ขน้ั สรปุ ๑. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรูเ้ รอื่ ง การพดู สุนทรพจน์ - การพูดสุนทรพจนท์ ่ดี ีควรมีลกั ษณะอยา่ งไร - กลวธิ ีในการพูดของเพ่ือนแต่ละกลมุ่

๒. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นได้ซักถามข้อสงสัย ๗. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. วิดีทศั นก์ ารพดู สุนทรพจน์ ๒. สือ่ Power Point เรื่อง หลักการพูดสนุ ทรพจน์ ๓. ใบความร้เู ร่อื ง หลักการพูดสุนทรพจน์ ๔. แบบฝกึ หัดท่ี ๒๘ เรอื่ ง หลกั การพูดสนุ ทรพจน์ ๕. ตวั อย่างการเขยี นบทสุนทรพจน์ ๖. หนงั สือววิ ธิ ภาษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓

๘. การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวดั เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การประเมิน ตรวจแบบฝึกหัด ๑. นกั เรียนบอกหลักการพูด แบบประเมินการตรวจ ทาคะแนนผา่ นตั้งแต่ ๓ สนุ ทรพจน์ได้ถกู ต้อง (K) แบบฝึกหดั ระดบั ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น ๒. นกั เรียนพูดสนุ ทรพจน์ได้ ประเมิน แบบประเมินการพูด ทาคะแนนผา่ นตั้งแต่ ๓ (P) การพูดสุนทรพจน์ สุนทรพจน์ ระดับขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น ๓.นกั เรยี นใฝ่เรยี นรู้มุ่งม่นั ใน สงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ แบบสงั เกตการใฝเ่ รยี นรู้ ทาคะแนนผ่านตัง้ แต่ ๓ การทางาน (A) ระดับขน้ึ ไปถือว่าผ่าน

เกณฑ์การประเมินผล (รูบริกส์) ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดับคุณภาพ (๑) ปรับปรุง ๑. นักเรียนบอก แสดงเหตุผลในการ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ หลักการพดู สุนทรพจน์ ตอบคาถาม แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน ได้ถูกตอ้ ง (K) ตอบคาถามได้อย่าง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถาม ตอ่ เนือ่ งครบถว้ น และแสดงเหตผุ ลใน ถกู ต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถามได้ และแสดงเหตุผล สมั พันธก์ บั หัวข้อที่ ชัดเจน ในการตอบ กาหนด ตอบคาถามไดอ้ ย่าง คาถามได้ ตอ่ เนื่องครบถ้วน ๒. นักเรยี นพดู สนุ ทร นกั เรียนพูดสุนทร นักเรียนพดู สนุ ทร นกั เรียนพดู สนุ ทร นักเรยี นพูดสนุ ทร พจน์ได้ (P) พจน์ได้ดี มวี าทศิลป์ พจนไ์ ด้ ออกเสยี ง ชวนฟัง ออกเสยี ง อักขระถูกต้อง มี พจนไ์ ด้ มีเหตผุ ล พจนไ์ ด้ เหตุผลไม่ อกั ขระถูกต้อง มี เหตผุ ลนา่ เช่อื ถอื เหตุผลนา่ เช่ือถอื สอดคลอ้ งกบั เรื่องที่ นา่ เชอ่ื ถอื สอดคลอ้ งกับเรื่องที่ สอดคลอ้ งกบั เรื่องที่ พดู พดู และมบี คุ ลกิ ภาพ สอดคล้องกบั เรื่อง พดู ในการพูดที่ดี ทพี่ ูด ๓.นกั เรียนใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี นตงั้ ใจและ นกั เรียนตัง้ ใจและ นกั เรยี นหาข้อมูล นักเรยี นไม่ต้ังใจและ มงุ่ ม่ันในการทางาน (A) ทมุ่ เทในการรวม ทมุ่ เทในการรวม ท่จี ะทาการพูด ทุ่มเทในการรวม ขอ้ มลู ในการพดู สนุ ทรพจน์ได้ ข้อมูลในการพดู ขอ้ มูลในการพดู สนุ ทรพจน์ สุนทรพจน์ และรบั สนุ ทรพจน์ และรับ ฟังข้อเสนอแนะของ ฟังข้อเสนอแนะของ ครอู ย่างต้ังใจ ครูอยา่ งตั้งใจ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๓๒ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๖ ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๒ ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง การพูดในท่ปี ระชุมชน แผนการเรียนรู้ท่ี ๓ เรือ่ ง การโต้วาที ผู้สอน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอย่างมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึก ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๒.ตวั ชีว้ ัด ท ๓.๑ ม. ๓/๔ พูดในโอกาสตา่ งๆไดต้ ามวัตถุประสงค์ ม. ๓/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๓. สาระสาคญั การโตว้ าที เปน็ การอภิปรายอย่างหนงึ่ โดยผูอ้ ภิปรายใชว้ าทศิลป์ของตน โนม้ น้าวใจผ้ฟู ังคลอ้ ยตาม และใชเ้ หตผุ ลหกั ลา้ งเอาชนะฝา่ ยตรงข้าม ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ วั ชี้วดั ๑. นักเรยี นบอกหลกั การพูดโต้วาทีได้ถูกต้อง (K) ๒. นกั เรียนพดู โตว้ าทีได้ (P) ๓. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ๑. หลกั การพูดโตว้ าที ๒. วธิ ีเตรยี มการพูดโตว้ าที ๖. กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ ๑ ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น (ช่วั โมงท่ี ๑) ๑. เช็คชื่อนกั เรียนแบบสร้างสรรค์ ในหวั ข้อ นกั เรยี นจะมีส่วนร่วมอย่างไรที่ทาใหโ้ รงเรยี นเป็น โรงเรียนสขี าว ๒. ครสู นทนากบั นักเรียนเร่ือง การโตว้ าที แล้วให้นกั เรียนร่วมกนั ใหค้ วามหมายของการโตว้ าที ๓. ครชู ีแ้ จงวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นักเรยี นทราบ ขนั้ ท่ี ๒ ขนั้ สอน ๑. ครูเปิดซดี ีการโตว้ าที โดยเลือกให้นักเรยี นดูบางตอนตามความเหมาะสม

๒. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ นกั โตว้ าทีทดี่ ตี ามความคิดของนกั เรยี น ควรมีลกั ษณะ อย่างไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ๓. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๕ -๖ คน จากน้ันครูใหส้ มาชกิ ในกลุม่ ร่วมกันศึกษาและสืบค้นความรู้ ตามประเดน็ ที่ครูกาหนด พร้อมทาแบบฝึกหัดที่ ๒๙ เร่ือง หลักการโตว้ าที ดงั นี้ - องค์ประกอบของการโต้วาที - หน้าทข่ี องผรู้ ่วมโต้วาที - มารยาทในการโต้วาที ๔. นกั เรยี นรวมกล่มุ ให้เหลือ ๒ กลมุ่ แบ่งฝ่ายเสนอ และฝ่ายคา้ นตามความสมัครใจของนักเรยี น เพ่ือทาการโตว้ าที ๕. ครสู นทนากับนักเรียนเกีย่ วกับการเตรียมการโตว้ าทีวา่ นกั เรยี นจะต้องทาอยา่ งไร จะคน้ ควา้ ขอ้ มูลทจ่ี ะนามาใชใ้ นการโตว้ าทอี ยา่ งไร ๖. นกั เรยี นช่วยกันวางแผนในการค้นควา้ ขอ้ มลู กาหนดแนวทางในการหาข้อมูลมาประกอบการ พดู และกาหนดหน้าที่ของสมาชกิ แตล่ ะคน และกาหนดญัตติการโตว้ าทตี ามความสนใจของกลุ่ม ๗. สมาชิกในกลมุ่ ท้ังฝา่ ยเสนอ และฝ่ายค้าน ไปคน้ ควา้ ข้อมลู เพื่อนามาใชใ้ นการโต้วาที โดย แสวงหาคาตอบจากแหลง่ ความร้ดู ว้ ยวธิ ีต่างๆ เช่น การสมั ภาษณ์จากวทิ ยากรผมู้ ีความรใู้ นเรื่องที่ กลุ่ม กาหนดใหเ้ ปน็ ญตั ตใิ นการโตว้ าทีของกลุ่ม คน้ คว้าจากห้องสมุด ค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลสารสนเทศตามแผนที่ กลุม่ วางใจ ขัน้ ท่ี ๓ ข้ันสรุป ๑. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้เรอ่ื ง หลักการโต้วาที ดังน้ี - การโต้วาทีทด่ี ีควรมลี ักษณะอยา่ งไร - องคป์ ระกอบในการโต้วาทีมีอะไรบ้าง ๒. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นไดซ้ กั ถามข้อสงสยั ขั้นท่ี ๑ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. นกั กเรียนและครูรว่ มสนทนากนั เพ่อื ทบทวนความรเู้ ร่อื ง การโตว้ าที จากน้ันใหน้ กั เรียนดู วดิ ที ศั น์การโต้วาที เพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรยี นพจิ ารณากลวิธกี ารพดู การโนม้ นา้ วใหเ้ กิดความเชอื่ ถือ การใหข้ ้อมลู และการใช้เหตุผล ๒. ครชู ี้แจงจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ ขัน้ ที่ ๒ ขน้ั สอน ๑. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ นักเรียนคิดว่า สอ่ื ประเภทใดใช้คน้ คว้าข้อมูลเพอ่ื นามาใช้ประกอบการโตว้ าทไี ด้ดที ีส่ ดุ เพราะเหตใุ ด ๒. นกั เรยี นนาความร้ทู ค่ี ้นควา้ มารวบรวม เรียบเรียง เปน็ บทพูดโต้วาที ๓. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มจดั การโตว้ าที (ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที) ๔. นักเรียนท่ีกลมุ่ แตง่ ตัง้ ให้เป็นคณะกรรมการตัดสนิ การโต้วาทรี ่วมกันประเมนิ ผลการโต้วาที ๕. ครูใหค้ าแนะนาในการพัฒนาปรบั ปรงุ การโต้วาที

๖. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั พจิ ารณาข้อมูลสาระความรู้ท่ที ุกคนช่วยกันคน้ ควา้ มาพูดโต้วาที สรปุ บนั ทึกไว้เปน็ แนวทางในการพูดครง้ั ต่อไป  ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นจัดโตว้ าทีหรือยอวาทีในชนั้ เรยี นตามญตั ตทิ ส่ี นใจรว่ มกัน โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทีก่ าหนด ดังนี้ ๑) การพดู โตว้ าทีได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ ๒) องคป์ ระกอบของการโตว้ าที ๓) การทาหนา้ ที่ของผูโ้ ตว้ าที ๔) มารยาทในการโต้วาที ขัน้ ท่ี ๓ ข้นั สรปุ ๑. ให้นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรเู้ รอ่ื ง การพดู โต้วาที ๒. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัย ๗. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. วิดีทศั นต์ ัวอยา่ งการโต้วาที ๒. สือ่ Power Point เรื่อง หลักการโตว้ าที ๓. ใบความรเู้ ร่ือง หลกั การโตว้ าที ๔. แบบฝึกหดั ท่ี ๒๙ เรือ่ ง หลกั การโต้วาที ๘. การวัดผลและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี ารวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน ตรวจแบบฝึกหดั ๑. นกั เรียนบอกหลกั การพูด แบบประเมินการตรวจ ทาคะแนนผ่านตง้ั แต่ ๓ โตว้ าทไี ดถ้ กู ต้อง (K) แบบฝกึ หัด ระดับขน้ึ ไปถือว่าผ่าน ๒.นกั เรยี นพดู โตว้ าทีได้ (P) ประเมินการโต้วาที แบบประเมนิ การโตว้ าที ทาคะแนนผา่ นต้งั แต่ ๓ ระดับขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น ๓. มมี ารยาทในการฟงั การ สังเกตการมมี ารยาทใน แบบสงั เกตการมี ทาคะแนนผ่านตัง้ แต่ ๓ ดู และการพูด (A) การเขียน มารยาทในการเขียน ระดบั ขึ้นไปถือวา่ ผา่ น

เกณฑ์การประเมินผล (รบู รกิ ส)์ ประเด็นการประเมนิ (๔) ดีมาก ระดับคุณภาพ (๑) ปรับปรุง ๑. นกั เรียนบอก แสดงเหตุผลในการ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ หลกั การพูดโตว้ าทีได้ ตอบคาถาม แตไ่ ม่แสดงเหตผุ ลใน ถูกต้อง (K) ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถาม ตอ่ เนือ่ งครบถ้วน และแสดงเหตุผลใน ถูกต้อง ตอบคาถามได้ การตอบคาถามได้ และแสดงเหตุผล สัมพนั ธ์กบั หวั ข้อที่ ชดั เจน ในการตอบ กาหนด ตอบคาถามไดอ้ ย่าง คาถามได้ ต่อเนอื่ งครบถว้ น ๒.นักเรียนพูดโต้วาทไี ด้ นักเรยี นสามารถพดู นักเรียนสามารถพดู นกั เรียนสามารถ นักเรียนไม่สามารถ (P) โตว้ าทีไดถ้ กู ตอ้ งตาม โต้วาทไี ดถ้ กู ตอ้ งตาม พูดโตว้ าทีได้ และ พูดโตว้ าทใี หถ้ ูกตอ้ ง หลักการโตว้ าที หลักการโตว้ าที และ แบง่ หนา้ ทีไ่ ด้ ตามหลักการโต้วาที แบง่ หน้าทไี่ ดถ้ ูกตอ้ ง แบ่งหนา้ ทไี่ ดถ้ ูกตอ้ ง ถูกต้องตามหลัก แบง่ หน้าทีไ่ ดถ้ กู ต้อง ตามหลักและมี ตามหลกั เพียงบางสว่ น ตามหลกั และไม่มี ความรใู้ นเนื้อเร่ืองท่ี เท่าน้นั ความรู้ในเนอ้ื หาที่จะ พูดเป็นอย่างดี พดู ๓. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู (A)